สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 25 กรรมตามสนอง

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 25 กรรมตามสนอง

“ท่านแม่ ท่านว่ามาได้” รองเจ้ากรมต้วนทำท่าทางเหมือนรอรับฟังเต็มที่

เฉียวซื่อสีหน้าอึ้งไป มองไปทางนายหญิงผู้เฒ่า

สายตานายหญิงผู้เฒ่ามองไปยังสองสามีภรรยาคู่นี้ ในใจถอนหายใจเฮือกยาว เหตุใดจึงมาถึงขั้นนี้ได้

นายหญิงผู้เฒ่าเก็บงำอาการไม่พอใจและรังเกียจเฉียวซื่อเอาไว้ ก่อนจะดึงมือซินโย่วมาอย่างรักใคร่ “ก่อนหน้านี้ยายเคยบอกว่า เจ้ากับพี่ใหญ่ล้วนเป็นเด็กดี หากได้เชื่อมสัมพันธ์เครือญาติแน่นแฟ้น วันหน้าข้าได้พบกับแม่ของเจ้าก็จะได้วางใจได้ ตอนนี้มาเกิดเรื่องเช่นนี้ ยายรู้ว่าเจ้าโมโห แต่ยังอยากขอถามสักคำ เจ้ายังยินดีแต่งงานกับพี่ใหญ่เจ้าหรือไม่”

ซินโย่วได้ยินก็นิ่งอึ้งไปทันที

ไม่เอ่ยถึงเหตุอื่นใด ยามนี้นางรู้สึกว่าตนเองหน้าบางกว่าพวกจวนรองเจ้ากรม

นายหญิงผู้เฒ่าเห็นนางเงียบ กลับคิดว่ามีหวัง จึงกล่อมน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “รอพวกเจ้าแต่งงานกันแล้ว เรื่องในจวนก็มอบให้เจ้าจัดการ แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะดูแลไม่ได้ มีอันใดไม่เข้าใจก็มาถามยายได้ ส่วนเฉียวซื่อ วันหน้าให้นางอยู่แต่ในเรือนหย่าซินย่วน คัดลอกพระคัมภีร์หรืออย่างไร ก็แล้วแต่เจ้าต้องการ”

“นายหญิงผู้เฒ่า!” เฉียวซื่อสีหน้าซีดเผือดจ้องซินโย่วเขม็ง

ส่วนซินโย่วเกือบปรบมือชมวาจาเกลี้ยกล่อมของนายหญิงผู้เฒ่า

ความนัยในวาจาของนางก่อนหน้านี้ก็คือกังวลว่าอีกไม่กี่ปี เฉียวซื่อพลิกสถานการณ์กลับคืนมาได้ นายหญิงผู้เฒ่าเอ่ยว่าให้โค่วชิงชิงแต่งกับต้วนอวิ๋นเฉิน และให้โค่วชิงชิงดูแลบ้าน ก็เท่ากับตัดความคิดกังวลเหล่านี้ทิ้งไป

หากนางเป็นโค่วชิงชิงที่ได้แต่งงานกับชายในดวงใจ และยังได้ควบคุมเฉียวซื่อไว้ และยังไม่ต้องขัดกับท่านยาย เกรงว่าก็คงยากจะปฏิเสธข้อเสนอนี้

เพียงแต่น่าเสียดาย นางคือซินโย่ว

ซินโย่วค่อยๆ ชักมือออกจากมือนายหญิงผู้เฒ่า ส่ายหน้าเอ่ยว่า “แจ้งทางการดีกว่าเจ้าค่ะ”

“ชิงชิง!” คำปฏิเสธของซินโย่วทำให้นายหญิงผู้เฒ่าคาดไม่ถึง

ซินโย่วกระตุกมุมปาก “ท่านยาย แม้ชิงชิงยังเด็ก แต่ก็เข้าใจ การได้ผูกสัมพันธ์กับผู้ใดล้วนควรเป็นคู่บุญคู่วาสนา ไม่ใช่คู่เวรคู่กรรม ระหว่างข้ากับนายหญิงใหญ่เป็นเช่นนี้ ยังจะแต่งกับพี่ใหญ่เป็นคู่สามีภรรยาที่ร่วมใจกันได้อีกหรือ”

นายหญิงผู้เฒ่าขยับริมฝีปากแต่ถูกคำถามนางทำชะงักงัน

คุณหนูน้อยผู้หนึ่งได้แต่งงานกับคนที่พึงใจ ยังได้คุมอำนาจปกครองตระกูล ควรดีใจจนแทบไม่อาจระงับ ไหนเลยจะสนใจเรื่องอื่นใดอีก แต่กลับคิดถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่มีวันสนิทใจกับสามีได้ หญิงสาวเยาว์วัยนิสัยเอาชนะมักคิดว่าขอเพียงมีเวลา ช้าเร็วก็จะคว้าดวงใจสามีมาครองได้

แต่ยามนี้นายหญิงผู้เฒ่ามองสาวน้อยท่าทีเย็นชา พร้อมกับน้ำเสียงเย็นเยียบเมื่อครู่นี้ก็เข้าใจแล้วว่า วิธีการที่ใช้กับคุณหนูน้อยทั่วไปนั้นใช้กับนางไม่ได้

ไม่ถูกความรักทำให้หวั่นไหว ไม่ถูกผลประโยชน์ล่อลวง หลานสาวนางถึงกับเป็นคนเช่นนี้

พริบตา นายหญิงผู้เฒ่าก็รู้สึกสับสนในใจขึ้นมา

“ชิงชิง นอกจากแจ้งทางการ?”

ได้ฟังคำเจรจารอมชอมของนายหญิงผู้เฒ่า ซินโย่วก็ย่อกาย “เช่นนั้นท่านยายคิดว่า จัดการนายหญิงใหญ่ที่บงการฆ่าคนเช่นไรจึงจะยุติธรรมหรือเจ้าคะ”

นายหญิงผู้เฒ่าจ้องมองหลานสาวที่ส่งเผือกร้อนออกมาให้นางเป็นนาน ในที่สุดก็ถอนสายตากลับคืนมองไปทางบุตรชาย ถอนหายใจ “เฉียวซื่อคุณธรรมบกพร่อง ไม่กตัญญูบิดามารดา ไม่ควรเป็นสะใภ้ตระกูล ต้วน เหวินซง เจ้าเขียนหนังสือหย่าให้นางกลับตระกูลเฉียว”

วาจานี้ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางกระหม่อมเฉียวซื่อ

ให้นางดำรงชีวิตโดดเดี่ยวในศาสนา นางยังทำใจยอมรับไม่ได้ ไม่คิดว่านายหญิงผู้เฒ่ายังให้บุตรชายนางแต่งกับโค่วชิงชิง และยิ่งคิดไม่ถึงว่านายหญิงผู้เฒ่าจะให้สามีเขียนหนังสือหย่านาง!

เฉียวซื่อนิ่งอึ้งไปทันทีพริบตาต่อมน้ำตาก็ราวกับทำนบแตก “นายหญิงผู้เฒ่า สะใภ้แต่งเข้าตระกูลต้วนมาหลายปี ให้ความเคารพผู้ใหญ่ อบรมบุตรชายหญิง ระมัดระวังกิริยา มิกล้าปล่อยปละละเลยแม้สักนิด แม้ไม่มีความดีก็ควรมีความชอบ ท่านแม่ให้ท่านพี่เขียนหนังสือหย่าข้าได้อย่างไร!”

นางยิ่งพูดก็ยิ่งปวดใจและยิ่งโมโห จ้องมองรองเจ้ากรมต้วนเขม็ง “นายท่าน หากท่านทำเช่นนี้ คิดถึงเฉินเอ๋อร์บ้างหรือไม่ มีมารดาที่ถูกทอดทิ้ง เขาจะดำรงตนอยู่ได้อย่างไร!”

รองเจ้ากรมต้วนไม่ได้เตรียมใจมาหย่าภรรยา ยามนี้สีหน้าย่ำแย่มองไปทางนายหญิงผู้เฒ่า “ท่านแม่…”

“อวี้จู พาคุณหนูใหญ่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” นายหญิงผู้เฒ่าออกคำสั่งเสร็จ ก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องด้านในไปทันที “เหวินซง เจ้าเข้ามากับแม่”

บ่าวชื่ออวี้จูประคองต้วนอวิ๋นหว่านร่างกายเปียกโชกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ต้วนอวิ๋นหลิงฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ ลอบมองไปยังแม่ใหญ่สภาพน่าอนาถ แล้วก็มองท่านพ่อที่เดินตามท่านย่าเข้าไปด้านใน

เทียบกับผู้คนแออัดในห้องโถงกลางแล้ว ห้องด้านในเหลือเพียงสองแม่ลูก หรี่เสียงคุยกันไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนได้ยิน รองเจ้ากรมต้วนพูดจาตามสบายขึ้นมาก “ท่านแม่ การกักบริเวณเฉียวซื่อไว้ในจวนเป็นหนทางที่ส่งผลกระทบต่อจวนรองเจ้ากรมเราน้อยที่สุด”

นายหญิงผู้เฒ่ากดขมับ “ข้ารู้ว่าอย่างนี้ดีที่สุด แต่ชิงชิงไม่ยินยอม”

“นางเป็นเพียงสาวน้อย…” ในใจรองเจ้ากรมต้วนแอบรู้สึกโชคดี

นายหญิงผู้เฒ่าแค่นยิ้ม “สาวน้อยจึงไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินอย่างไรเล่า หากชิงชิงดึงดันไปแจ้งทางการ เจ้าจะทำอย่างไรได้ หรือว่าจะทำเหมือนนังหญิงโฉดเฉียวซื่อสังหารคนปิดปาก”

“ลูกจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร” รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าแปรเปลี่ยน

ที่เขาคิดถึงไม่เพียงแต่หลังหลานสาวแจ้งทางการแล้วจะก่อให้เกิดข่าวลือสะพัดเช่นไร แต่ยังมีเจิ้นฝูสื่อกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินหนุ่มในชุดแดงนั่นอีก

ขณะนี้อากาศกำลังร้อน แม้ในห้องนายหญิงผู้เฒ่าจะมีกะละมังน้ำแข็งวางไว้ เม็ดเหงื่อก็ยังผุดลงมาจากขมับ

รองเจ้ากรมต้วนยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อ ยังคงตัดสินใจเขียนหนังสือหย่าภรรยาไม่ได้ “หากเขียนหนังสือหย่าเฉียวซื่อ จะส่งผลกระทบต่อลูกๆ ไม่น้อย โดยเฉพาะเฉินเอ๋อร์ เขาจะต้องเดินไปบนเส้นทางขุนนาง หากทนรับความกระทบกระเทือนเรื่องมารดาถูกหย่าไม่ไหว จะทำเช่นไร”

ถึงตอนนี้นายหญิงผู้เฒ่ากลับสงบนิ่งกว่ามาก “เหวินซง เจ้ายังมองไม่ออกอีกหรือ ไม่เขียนหนังสือหย่าเฉียวซื่อ ก็ต้องให้เฉียวซื่อตายชดใช้ความผิด ไม่เช่นนั้นชิงชิงไม่มีทางเลิกรา”

“นังเด็กนี่…” รองเจ้ากรมต้วนกัดฟันกรอดเอ่ยออกมา พริบตานั้นก็เกิดความคิดสังหารขึ้นมาแวบหนึ่ง

แต่เขารู้ดีกว่าไม่อาจทำเช่นนี้ได้

นังเด็กนั่นไม่มีอันใดต้องเสียย่อมไม่เกรงกลัวสิ่งใด วันนี้ไม่มีคำตอบให้นาง ก็อาจจะรีบไปแจ้งทางการ ไม่มีเวลาให้เขาค่อยๆ วางแผน นอกจากเขายอมสละทิ้งหน้าตาหมดสิ้น ตัดสินใจลงมือโหดเหี้ยมต่อหน้าท่านแม่และบุตรสาวสองคน

เขายังไม่ได้เสียสติถึงขั้นนั้น ยิ่งอย่าว่าแต่ทุกคนในเมืองหลวงตอนนี้ยังแพร่ข่าวลือจวนรองเจ้ากรมยังเป็นที่จับตามองของเฮ่อชิงเซียว

“เดิมเฉียวซื่อ ‘ป่วยตาย’ ก็คงสร้างแรงกระเพื่อมน้อยกว่าถูกหย่า แต่ก็เหมือนที่เจ้าว่า เฉินเอ๋อร์ยังต้องสอบขุนนาง ทันทีที่เฉียวซื่อจากไป เฉินเอ๋อร์ก็ต้องกลับมาไว้ทุกข์อยู่กับบ้านหลายปี ทำให้เสียเวลาสอบไปอีก”

รองเจ้ากรมต้วนในใจสว่างวาบ ค่อยๆ พยักหน้า “ท่านแม่กล่าวได้ถูกต้อง แต่ทันทีที่เฉียวซื่อถูกหย่า ก็จะไม่อาจเลี่ยงข่าวลือที่จะสะพัดออกไปได้”

นายหญิงผู้เฒ่าถอนหายใจ “ในเมื่อร้ายแรงทั้งสองทาง เลือกที่เบาที่สุดก็แล้วกัน หากผู้คนคาดเดาว่าเฉียวซื่อไม่ดีต่อชิงชิง ไม่ใช่แสดงให้เห็นว่าตระกูลเราทรงคุณธรรมหรือ ยินยอมถูกวิพากษ์วิจารณ์แต่ไม่ปกป้องหญิงโฉดชั่ว”

เอ่ยถึงตรงนี้ นายหญิงผู้เฒ่าก็จ้องมองบุตรชายแน่วแน่

คิดว่านางหูหนวกหรือ ไม่ได้ยินข่าวลือข้างนอกหรือ ก็แค่ไม่คิดนำมาเป็นเรื่องก็เท่านั้น

เพียงแต่นางคิดไม่ถึงอยู่สองเรื่อง หนึ่ง เฉียวซื่อบงการบ่าวให้สังหารหลานสาวคนโต สอง ท่าทีหลานสาวนอกของนางแข็งกร้าวเช่นนั้น

ยามนี้นายหญิงผู้เฒ่ารู้สึกเหนื่อยจากก้นบึ้งของหัวใจ บางทีนางคงแก่แล้วจริงๆ

“เช่นนั้นก็ทำตามที่ท่านแม่ว่า” ในที่สุดรองเจ้ากรมต้วนก็ตัดสินใจ

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท