สืบแค้นคุณหนูสวมรอย – ตอนที่ 68 คนดี

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

ตอนที่ 68 คนดี

เหตุใดจึงไม่เหมือน

ก่อนหน้านี้นางเห็นภาพเฮ่อชิงเซียวถูกกระถางดอกไม้ร่วงใส่ศีรษะเลือดอาบ เห็นเฮ่อชิงเซียวถูกนักโทษใช้มีดสั้นแทงใส่ท้อง

นางตั้งใจเตือนเพื่อตอบแทนความช่วยเหลือของเฮ่อชิงเซียว เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแม้สักครั้ง แต่นางไม่ได้พูดอันใด

เดี๋ยวนะ…

ซินโย่วชะงัก แสงวาบขึ้นในห้วงความคิด มีความเป็นไปได้หนึ่ง บางทีการที่เฮ่อชิงเซียวหลบภัยจากภาพที่เห็นได้ อาจไม่เกี่ยวข้องกับนาง!

ไม่มีนางเอ่ยเตือน เขาก็หลบกระถางดอกไม้ร่วงใส่ศีรษะพ้น ไม่มีนางเอ่ยเตือน เขาก็หลบมีดสั้นที่แทงใส่เขาได้ ไม่มีนางเอ่ยเตือน เขาก็หลบพิษในน้ำชาร้อนได้…

ตั้งแต่ต้นมา คำเตือนของนางก็ไม่ได้ส่งผลดีอันใดให้เขา

สมองของซินโย่วมีความคิดนี้แวบขึ้นมา สีหน้าซีดเผือดเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นโดยบังเอิญ คนงานที่ยกน้ำชาขึ้นไปชั้นสอง ระหว่างทางวางน้ำชาไว้บนแท่นยกสูงนั้นเจ้าค่ะ”

พอเอ่ยเช่นนี้ สายตาทุกคนก็มองไปที่คนงานร้าน

“ว่ามา แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่!” ทหารองครักษ์จิ่นหลินนายหนึ่งคว้าตัวคนงานขึ้นมา

คนงานพูดจาวกวน “ข้าน้อยคิดก่อน คิดได้แล้ว! ข้าน้อยยกน้ำชาออกจากโถงด้านหลังมา พอดีมีลูกค้าคนหนึ่งบอกว่าน้ำชาหก จึงได้วางน้ำชาที่จะนำไปส่งไปบนแท่นยกสูงนั่น แล้วก็ไปเช็ดโต๊ะ”

“โต๊ะไหน”

คนงานขยับแววตามองไปทางโต๊ะตัวหนึ่ง

โต๊ะตัวนั้นใกล้กับแท่นยกสูงมาก ห่างเพียงแค่สองก้าว

คนโต๊ะนั้นตกใจสีหน้าซีด รีบเอ่ยว่า “พวกข้าไม่ได้ทำน้ำชาหก!”

คนงานมองอย่างละเอียด ก็ลังเลเอ่ยว่า “ลูกค้าที่นั่งตรงนี้ แต่ไม่ใช่พวกเขาขอรับ พวกเขาอาจจะเป็นลูกค้าที่มาทีหลัง ข้าน้อยรับหน้าที่ดูแลชั้นบน ไม่ค่อยแน่ใจ…”

คนงานอีกคนที่ทำงานโถงด้านล่างรีบเอ่ยว่า “ข้าน้อยพอจำได้รางๆ โต๊ะนั้นก่อนหน้านี้มีลูกค้าสองคน ลูกค้าในตอนนี้ก็คือเพิ่งมาหลังลูกค้าสองท่านนั้นไปแล้ว”

คนงานก่อนหน้านี้รีบสำทับว่า “ตอนข้าน้อยไปเช็ดโต๊ะมีลูกค้านั่งอยู่เพียงผู้เดียวขอรับ”

“เขานั่งอยู่ตำแหน่งใด” เฮ่อชิงเซียวถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“นั่งเก้าอี้ตัวนั้นขอรับ” คนงานชี้ไปที่ตรงข้ามกับแท่น

ก็หมายความว่า คนที่นั่งที่นี่พอดีมองเห็นบนแท่นชัดเจน

เฮ่อชิงเซียวนิ่งเงียบไปเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางซินโย่ว “ตอนคุณหนูโค่วเห็นคนงานวางน้ำชาเช็ดโต๊ะ ได้ทันสังเกตหรือไม่ว่าที่แท่นยกสูงนั่นมีคนผ่านไปหรือไม่”

“เห็นชายผู้หนึ่งไปทางนั้นเจจ้าค่ะ” ซินโย่วชี้ไป

ในเมื่อเฮ่อชิงเซียวไม่ได้ตายไปดังภาพที่เห็น เช่นนั้นนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง บางทีหาคนวางยาพิษได้อาจได้เรื่องอันเป็นประโยชน์ใหม่

นับประสาอันใดกับก็ไม่แน่ว่าคนในห้องโถงที่สังเกตเห็นคนผู้นี้มีเพียงนางผู้เดียว

เป็นดังที่ซินโย่วคาด ในห้องโถงมีคนสองคนสังเกตเห็นชายที่เดินผ่านแท่นยกสูง คนหนึ่งบังเอิญสังเกตเห็น อีกคนได้พบตอนเดินกลับจากห้องทำธุระส่วนตัว

น่าเสียดายทุกคนรวมทั้งผู้ดูแลร้านและคนงานร้านน้ำชาต่างบอกกล่าวถึงสถานะแขกผู้นั้นไม่ได้

เฮ่อชิงเซียวสั่งการลูกน้อง “จดชื่อทุกคนที่นี่เอาไว้ก่อนปล่อยพวกเขากลับไป”

ลูกน้องสองคนสบตากัน ใต้เท้าช่างเมตตาจริง หากเป็นใต้เท้าท่านอื่น คนเหล่านี้ก็คงถูกจับเข้าคุกก่อนค่อยว่ากัน

ตอนกองกำลังองครักษ์จิ่นหลินสอบถามถึงรองเจ้ากรมต้วน เฮ่อชิงเซียวก็โบกมือให้ไปถามคนอื่นต่อ

“รบกวนใต้เท้าต้วนแล้ว”

ยามเผชิญหน้ากับความสุภาพเกรงใจของเฮ่อชิงเซียว รองเจ้ากรมต้วนกลับไม่กล้าได้คืบเอาศอก รีบเอ่ยว่า “ใต้เท้าเฮ่อไม่เป็นอันใดก็ดี”

“ต้องขอบคุณคุณหนูโค่วที่ให้ข้อมูล” เฮ่อชิงเซียวมองไปทางซินโย่ว

ในที่สุดซินโย่วก็สงบสติอารมณ์ลงได้ เผยรอยยิ้มเอ่ยว่า “ใต้เท้าเฮ่อเกรงใจไปแล้ว หวังว่าท่านจะตามหาตัวคนวางยาพิษได้โดยเร็ว”

“ที่นี่วุ่นวาย คุณหนูโค่วรีบตามลุงท่านกลับเถอะ”

มุมปากรองเจ้ากรมต้วนกระตุก

ชายหญิงหนุ่มสาว มิใช่ญาติสนิท คุยกันสนิทสนมต่อหน้าผู้อาวุโสเช่นเขา ช่างไร้ธรรมเนียมเสียจริง

แต่พอคิดถึงสถานะของเฮ่อชิงเซียวก็ได้แต่เก็บคำพูดไว้ในใจเช่นนี้ แม้แต่สีหน้ายังไม่กล้าเผยออกมาให้เห็น รองเจ้ากรมต้วนกล่าววาจาตามมารยาท แทบจะรีบพาซินโย่วออกจากร้านน้ำชาในทันที

นอกร้านน้ำชาคนไปมาขวักไขว่ ร้านอาหารเยวี่ยไหลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมีกลิ่นสุราลอยมา

รองเจ้ากรมต้วนผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ เรียกรถม้าให้ส่งซินโย่วกลับร้านหนังสือชิงซง

ตอนรถม้าเคลื่อน มือหนึ่งก็เลิกม่านหน้าต่างขึ้น เผยให้เห็นใบหน้านิ่งสงบของสาวน้อย

“ท่านลุง อย่าลืมบอกท่านยายนะเจ้าคะ”

ไม่ทันรอให้รองเจ้ากรมต้วนรับคำ ม่านก็ลดลงปิดดังเดิม รถม้าแล่นทะยานต่อไป

รองเจ้ากรมต้วนสีหน้าราวกับมีสีดำทาบทับ ก้าวไปกรมพระราชยานหลวงทันที

ซินโย่วกลับถึงเรือนตะวันออกก็เข้าไปนั่งที่เตียงตนเองจมจ่อมอยู่กับความคิด

ในเมื่อเฮ่อชิงเซียวหลบเภทภัยได้พ้น สถานการณ์ในภาพที่เห็นก็จะไม่เกิดขึ้น เช่นนั้นเหตุใดนางจึงมองเห็นภาพเช่นนั้นได้

นี่มิใช่ว่าขัดแย้งกันเองหรือ

เป็นครั้งแรกที่ซินโย่วสงสัยในความสามารถพิเศษของตนเอง

เสียงเสี่ยวเหลียนดังขึ้นนอกประตู “คุณหนูจะรับน้ำชาไหมเจ้าคะ”

ได้ยินคำว่า ‘ดื่มน้ำชา’ ซินโย่วก็หัวเราะตนเอง

ดังคาด นางไม่มีโชคในการใช้เส้นทางลัด ชีวิตเฮ่อชิงเซียวต้องอาศัยนางจัดการด้วยตนเอง

ตอนนั่งรอคนชั้นสองพิษกำเริบยังอดสับสนขัดแย้งในตัวเองไม่ได้ ยามนี้กลายเป็นเรื่องน่าขันหมดสิ้น ทำให้ซินโย่วสงบนิ่งลง

“ยกเข้ามา”

เสี่ยวเหลียนยกถาดเดินเข้ามา ส่งน้ำชาให้ซินโย่วแก้วหนึ่ง

ซินโย่วรับมาจิบไปคำหนึ่ง

“คุณหนู”

“ทำไมหรือ”

เสี่ยวเหลียนไม่อาจเก็บซ่อนความกังวลในแววตา “หากมีอันใดที่บ่าวทำได้ เชิญคุณหนูสั่งการเถิดเจ้าค่ะ”

ซินโย่วยิ้มเล็กน้อย “ได้”

“บ่าวพูดจริงนะเจ้าคะ! แม้บ่าวไร้ความสามารถ แต่ขอเพียงคุณหนูสั่งการ จะต้องพยายามทำอย่างสุดความสามารถ”

ซินโย่ววางแก้วชาลง “เช่นนั้นสองสามวันมานี้เจ้าก็สังเกตข่าวข้างนอกหน่อยก็แล้วกัน ดูว่ามีข่าวเกี่ยวกับใต้เท้าเฮ่อหรือไม่”

“ใต้เท้าเฮ่อ?”

“อืม วันนี้ใต้เท้าเฮ่อถูกคนวางยาพิษที่ร้านน้ำชา ตอนนี้กำลังตามสืบตัวคนร้าย…”

“ใต้เท้าเฮ่อไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” เสี่ยวเหลียนอุดปากตกใจ

ซินโย่วมองความเป็นห่วงของเสี่ยวเหลียนออก ในใจซินโย่วเองก็สับสน “เขาไม่เป็นอันใด ตอนนั้นข้าเองก็อยู่ในร้านน้ำชานั้น ดังนั้นค่อนข้างอยากรู้เรื่องต่อจากนี้ เจ้าอย่าได้ถามอย่างเปิดเผย จะได้ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างไม่จำเป็นตามมา”

“บ่าวเข้าใจเจ้าค่ะ”

นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ซินโย่วถามขึ้นว่า “เสี่ยวเหลียน เจ้าว่าใต้เท้าเฮ่อเป็นคนเช่นไร”

“ใต้เท้าเฮ่อเป็นคนดีนะเจ้าคะ” เสี่ยวเหลียนตอบอย่างไม่ลังเล

ซินโย่วยิ้ม “แน่ใจเพียงนี้?”

“คนเช่นใต้เท้าเฮ่อที่ไม่ต้องการการตอบแทนจากการช่วยคนแปลกหน้า น่าจะไม่ใช่คนชั่วกระมัง”

“ใช่ ไม่ใช่คนชั่ว” ซินโย่วพึมพำ

แค่คนดีอย่างไรก็ต้องรับคำสั่งจากนาย ติดค้างหนี้โลหิต

หลายวันถัดมาซินโย่วไม่ได้ออกจากบ้าน เสี่ยวเหลียนออกไปสังเกตการณ์ แต่นางไม่ได้ยินเรื่องของเฮ่อชิงเซียว คล้ายว่าเหตุวางยาพิษในร้านน้ำชาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จนกระทั่งวันนี้เฮ่อชิงเซียวเข้ามาในร้านหนังสือชิงซง เห็นซินโย่วกำลังอยู่ในมุมในสุดของชั้นหนังสืออ่านหนังสืออยู่

เป็นยามเย็นพอดี เฮ่อชิงเซียวจำนางได้ทันทีที่เห็น ที่นางอ่านอยู่ก็คือบันทึกการเดินทางที่เขาอ่านก่อนหน้านี้

เฮ่อชิงเซียวหลุบสายตาลง รีบเดินเข้าไป

ซินโย่วมองมา

เฮ่อชิงเซียวยืนนิ่งข้างกายนาง “แสงไม่พอ คุณหนูโค่วระวังสายตาเสีย”

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

สืบแค้นคุณหนูสวมรอย

Status: Ongoing
เมื่อมารดาถูกสังหาร ซินโย่วจึงมายังเมืองหลวงเพื่อสืบหาตัวฆาตกร แต่เมื่อสืบลึกลงไปก็กลับต้องพบกับความจริงอันน่าตกใจภายในนั้น…รายละเอียด นิยายรัก-สืบสวน ครบรสจากนักเขียนมากฝีมือ ‘ตงเทียนเตอะหลิ่วเยี่ย’ขณะที่ ซินโย่ว กำลังเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อสืบหาเบาะแสสำคัญของฆาตกรสังหารมารดาก็ได้บังเอิญจับพลัดจับผลูตกหน้าผาแล้วเข้าสวมรอยฐานะของ โค่วชิงชิง คุณหนูหลานนอกของจวนรองเจ้ากรมพระราชยานหลวงเข้าเพราะทรัพย์สินมากมายโค่วชิงชิงจึงถูกญาติที่มาหวังพึ่งพิงผลักตกหน้าผาจนถึงแก่ความตาย นั่นทำให้นางได้เข้ามาสวมฐานะของอีกฝ่ายซินโย่วนั้นมีดวงตาที่พิเศษกว่าคนทั่วๆ ไป นางสามารถมองเห็น ‘เรื่องร้าย’ ที่จะเกิดขึ้นกับคนผู้หนึ่งได้โดยไม่เลือกว่าจะเป็นผู้ใด เวลาไหนประกอบกับไหวพริบอันชาญฉลาดทำให้นางสามารถอยู่ในสถานะนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพื่อสืบเรื่องฆาตกรสังหารมารดาซินโย่วจำต้องใช้ฐานะใหม่ที่มีสืบหาเบาะแสจาก ‘บันทึกโบตั๋น’ เปื้อนเลือดที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุยิ่งสืบลงลึกเรื่องราวก็เหมือนจะซับซ้อนยิ่งกว่านั้นเรื่องราวในอดีตเบาะแสที่โยงใยสืบเนื่องกันมา ได้เวลาเผยโฉมแล้ว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท