น้ำเสียงของอ๋าวเจียงฟังดูอวดดีอย่างมาก เขาหยิบดาบยาวของตัวเองขึ้นแล้วรีบนำทัพใหญ่ปิดกั้นเขตเมืองตะวันออก และขวางรถม้าทุกคันที่เข้ามาบริเวณย่านการค้าเอาไว้!
”กบฎที่เจ้าว่า คือคนพวกนี้หรือ” อ๋าวเจียงมองพวกต้าสยงที่กำลังเปิดทางอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าดูถูก ”พวกมันกล้าคิดที่จะก่อกบฏด้วยคนแค่นี้ได้อย่างไร ช่างไร้หัวคิดเสียไม่มี!”
อ๋าวเจียงพูด พร้อมกับยกมือขึ้นข้างหนึ่ง จากนั้นพลธนูจำนวนนับไม่ถ้วนก็ง้างธนูขึ้นตามเขา!
จิตสังหารอันเข้มข้นของเขาถูกกระตุ้นในทันใด!
ตอนแรกอ๋าวเจียงคิดว่ากบฏพวกนี้มีแค่ไม่กี่คน ลูกธนูของพลธนูย่อมสามารถกำจัดพวกเขาได้อย่างง่ายดาย!
แต่เขาคาดไม่ถึงว่าก่อนที่พลธนูเหล่านั้นจะทันได้ลงมือ…
จะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเสียก่อน!
พลธนูทุกนายพร้อมธนูในมือถูกระเบิดปลิวขึ้นฟ้า
คู่ต่อสู้ของเขาทั้งรวดเร็วและว่องไว คนพวกนั้นมีอาวุธที่เขาไม่รู้จักอยู่ในมือ จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังปังราวกับฟ้าร้องตามมา!
ฝุ่นควันและเถ้าถ่านกระจายไปทั่วทุกแห่งอย่างน่าสะพรึงกลัว คนเหล่านั้นทำราวกับว่าพวกเขากำลังเดินเข้าสู่ดินแดนที่ไร้มนุษย์ ทุกครั้งที่พวกเขายกมือขึ้น ทุกสิ่งที่อยู่ในสายตาของพวกเขาก็พลันถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น
อ๋าวเจียงที่คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะลุกลี้ลุกลนขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเขาเห็นร่างในชุดสีดำที่กำลังใกล้เข้ามานั้น เขาก็เผลอคว้าตัวทหารนายหนึ่งเข้ามายืนขวางหน้าตัวเอง
แต่ทหารนายนั้นก็ถูกยิงตายคาที่ในวินาทีต่อมา
เลือดสดๆ กระเด็นเปื้อนใบหน้าของเขาในทันใด!
”พวกมันถืออะไรอยู่ในมือกันแน่!” อ๋าวเจียงตะโกนลั่น!
เวลานี้ ใต้เท้าเว่ยที่เคยผ่านประสบการณ์การผลัดเปลี่ยนราชสำนักมาหลายสมัยมีสีหน้าราวกับเห็นผี ใบหน้าของเขาซีดจนไร้สีขณะที่เอ่ยพึมพำกับตัวเองว่า ”นั่นมันปืนมิใช่หรือ ปืนพวกนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของกองกำลังลับกองกำลังเดียวเท่านั้น ทำไมกองกำลังลับถึงมาอยู่ที่นี่ได้ กองกำลังลับไม่มีทางปรากฏตัวขึ้นตามใจตัวเองเช่นนี้แน่ นอกเสียจากว่า… นอกเสียจากว่าเจ้านายของพวกเขาจะอยู่ที่นี่เหมือนกัน! เฮ่อเหลียนเวยเวย เฮ่อเหลียนเวยเวยอยู่ที่นี่! ไม่ ไม่จริง!” ใต้เท้าเว่ยมองทหารม้าชุดดำที่ปรากฏขึ้นทีละน้อยตรงหน้าเขา ริมฝีปากของเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรงตอนที่เอ่ยว่า ”ไม่ใช่แค่เฮ่อเหลียนเวยเวย องค์ องค์ชายสาม! องค์ชายสามกลับมาแล้ว!”
คำพูดของใต้เท้าเว่ยทำให้ใบหน้าของอ๋าวเจียงซีดลงเช่นกัน!
แต่เขาก็ยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ”เขาไม่มีทางรอดชีวิตกลับมาได้แน่ จะต้องมีใครแสร้งเล่นละครเพื่อสร้างสถานการณ์แน่ๆ! ท่านราชครู ท่านราชครูขอรับ!”
แม้ภายนอกอ๋าวเจียงจะดูเหมือนยังไม่เชื่อ แต่ในใจของเขากลับเริ่มรู้สึกกระวนกระวายอย่างสุดแสน เขาลากราชครูเข้ามาทันที ”ท่านราชครูขอรับ! รีบ รีบร่ายอาคมเพื่อหยุดพวกเขาเร็วเข้าขอรับ!”
ราชครูไม่เคยเห็นด้านนี้ของอ๋าวเจียงมาก่อน
เขาได้พบกับแม่ทัพอ๋าวเจียงผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรคนนี้ตอนที่เขาอยู่ในมณฑลยูนนาน
อ๋าวเจียงมีนิสัยกล้าหาญไม่เกรงกลัวผู้ใดมาแต่ไหนแต่ไร ไม่กลัวแม้กระทั่งการเผชิญหน้ากับอดีตฮ่องเต้ตอนอยู่ในวังหลวง
องค์ชายสามผู้นี้แข็งแกร่งถึงเพียงใด ถึงสามารถทำให้อ๋าวเจียงหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้
ช่างเถอะ ไม่ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด สำหรับเขาแล้ว อีกฝ่ายก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น
ราชครูไม่สนใจไป๋หลี่เจียเจวี๋ยเลยแม้แต่นิดเดียว แววตาของเขาเปลี่ยนไปทันที จากนั้นฝุ่นในมือของเขาก็เริ่มสั่นน้อยๆ ขณะที่เขาใช้อาคมกับอากาศ
แม้จะเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่อากาศรอบตัวพวกเขากลับดูเหมือนจะหนาแน่นขึ้น และในทันใดนั้น อุณหภูมิอากาศก็พลันลดฮวบลงหลายสิบองศา!
ดูเหมือนจะมีตัวอะไรบางอย่างลอยอยู่ที่ทางเข้าตลาด
ต้าสยงที่กำลังสนุกกับการฆ่าฟันชะงักไปเมื่อเขาสังเกตเห็นใบหน้าเปื้อนเลือดของตัวอะไรสักอย่างที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เมื่อเขาพยายามมองมันใกล้ๆ เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที ”เฮ้ย ตัวอะไรวะ!”
คนอื่นๆ รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นยะเยือกอันน่าอึดอัดนั้นเช่นกัน พวกเขามองหน้ากัน พวกเขาต่างสัมผัสได้ว่ามีอะไรสักอย่างอยู่รอบตัว
อ๋าวเจียงสับสนเมื่อเห็นคู่ต่อสู้หยุดเคลื่อนไหว จากนั้นเขาก็หันกลับไปมองราชครูด้วยสายตาประหลาดใจ ”ท่านราชครูยังฝีมือล้ำเลิศเหมือนเคย!”
”เรื่องเล็กน้อย” ราชครูร่ายอาคมเพิ่ม
อากาศเริ่มจับตัวกลายเป็นหมอกสีดำ เงามืดที่มองไม่เห็นนั้นราวกับจะลอยอยู่ในหมอกที่ว่า
น้อยคนนักที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากมัน ยิ่งเมื่อหมอกสีดำกลุ่มนั้นขยายออก ต้าสยงก็รู้สึกได้ว่าตรงหน้าเขามีใบหน้ามากมายปรากฏขึ้นก่อนจะหายไป
ใบหน้าเหล่านั้นมีหน้าตาแตกต่างกันไป แต่ทุกหน้ากลับซีดเผือดราวกับซากศพ!
ตู้ม!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดเมื่อใครบางคนเริ่มทนไม่ไหว
แต่กระสุนนัดนั้นกลับไม่โดนสิ่งนั้น มันกลับทะลุไปโดนสหายร่วมทัพของพวกเขาแทน!
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อยู่ในการคาดการณ์ของราชครู ท่ามกลางความมืดมิดอันว่างเปล่านั้น เขากลับยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยดวงตาเป็นประกาย
ในไม่ช้า พวกเขาก็จะทนพลังของวิญญาณร้ายไม่ไหว และจะเริ่มลงมือฆ่ากันเอง!
องค์ชายสามที่อยู่ในรถม้าคันนั้นก็จะต้องพบชะตากรรมเดียวกัน!
ราชครูคิดอย่างยินดี แต่ในขณะที่เขากำลังจะเริ่มโจมตีเป็นครั้งที่สามนั่นเอง เขาก็ถูกพลังที่มองไม่เห็นกระแทกกลับมาจนทรุดล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง!
”อั๊ก!”
เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากลำคอของเขาราวกับน้ำพุ!
ทันใดนั้น อวัยวะภายในของเขาก็เจ็บปวดอย่างสุดแสน!
บัดซบ!
ราชครูเงยหน้าขึ้นแล้วดูดพลังจากวิญญาณร้ายที่อยู่รอบตัวกลับเข้าร่าง จากนั้นจึงมองไปทางถนนสายหลักนั้น
เป็นไปได้หรือเปล่าว่าจะมีใครบางคนในนี้ที่สามารถต้านทานพลังของวิญญาณร้ายได้
ไม่ เป็นไปไม่ได้!
”ท่านราชครู!” อ๋าวเจียงยื่นมือออกไปช่วยพยุงราชครู สีหน้าของเขาดูเป็นกังวล ”มีอะไรเกิดขึ้นหรือขอรับ มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่”
แท้จริงแล้วราชครูผู้นี้วิวัฒนาการมาจากปีศาจร้าย ดังนั้นเขาจึงสามารถฟื้นพลังของตัวเองได้ในทันทีที่ดูดพลังจากวิญญาณร้ายเข้ามาในร่าง ”ไม่มีอะไร ก็แค่เจอปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น”
ดวงตาของราชครูเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาจ้องมองเข้าไปในกลุ่มคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างเกรี้ยวกราดและพยายามระบุตำแหน่งของพลังปริศนานั้น
แต่ทันใดนั้น จู่ๆ รถม้าที่อยู่ห่างออกไปหลายฉื่อก็มาปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขาอย่างกะทันหัน
โครม!
รถม้าระเบิดจากภายใน ส่งให้ขี้เลื่อยลอยขึ้นสู่อากาศราวกับถูกใครบางคนควบคุม ขี้เลื่อยเหล่านั้นทับถมกันหลายต่อหลายชั้นกลางอากาศ ดูเหมือนภาพที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนไม่มีผิด
เป็นเฮ่อเหลียนเวยเวยนั่นเอง นางอยู่ท่ามกลางเศษขี้เลื่อยที่ปลิวว่อน และเหนือรถม้าที่พังเป็นชิ้นๆ ริมฝีปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย เสื้อกันลมสีแดงเพลิงร่ายรำอยู่ในกระแสลมราวกับปีกอันแสนสวยของผีเสื้อยักษ์ที่บินอยู่ในยามรัตติกาลกำลังกระพืออยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง ใบหน้างดงามของนางแดงระเรื่อแต่ก็แฝงไปด้วยความลึกลับ นางส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยนั่งอย่างไม่สนใจและใช้มือซ้ายโอบนางไว้ แม้จะอยู่ต่อหน้าสายตาผู้คน แต่เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยมือจากนางแต่อย่างใด แม้จะอยู่ในควันโขมง แต่เขาก็ยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากสายลมและฝุ่นเหล่านั้นแม้แต่น้อย บนไหล่ของเขามีเสื้อคลุมพาดอยู่เหมือนกับฮ่องเต้ที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายอยู่ในมือ บรรยากาศที่เขาแผ่ออกมาน่าเกรงขามอย่างมาก!
วิญญาณร้ายในหมอกสีดำที่อยู่รอบตัวเขาเริ่มตัวสั่น พวกมันไม่ได้เพียงแค่กลัว แต่บางตัวยังพยายามหันหลังวิ่งหนีอีกด้วย!
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่เปิดโอกาสให้พวกมันได้ทำเช่นนั้น รูม่านตาสีดำของเขาหรี่ลงเล็กน้อย
ปีศาจและสัตว์อสูรหลายสิบตัวปรากฏขึ้นเหนือรถม้า พวกมันม้วนตัวเข้ากับก้อนเมฆ แม้พวกมันจะดูนิ่งสงบ แต่แน่นอนว่าพวกมันย่อมไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถหาเรื่องได้!
เพียงเสี้ยววินาที วิญญาณร้ายก็ถูกปีศาจฝูงนั้นกวาดหายไปราวกับสายลม โดยไม่ยอมเหลือแม้แต่เงาทิ้งไว้เบื้องหลังด้วยซ้ำ!