The Demon Prince goes to the Academy
ตอนที่ 32
คนเดียวที่ตื่นขึ้นโดยธรรมชาติคือหมายเลข B-3, ลีอันนา เดอ แกรนตซ์ นอกนั้นผู้ใช้พลังเหนือธรรมชาติที่เหลือตื่นขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจหลังจากประสบกับเหตุบางอย่าง
การตื่นตามธรรมชาตินั้นหายากมากและไม่ควรถือเป็นบรรทัดฐาน ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการปลุกพลังตามธรรมชาติ
จากนั้น ดูเหมือนว่าไม่มีทางอื่นนอกจากต้องผ่านสถานการณ์กดดันทางจิตใจเพื่อปลุกความสามารถของฉัน….
ฉันเคยมีประสบการณ์แบบนั้นในขณะที่ฉันหนีออกจากปราสาทของราชาปีศาจและฉันไม่อยากตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นอีก
ประสบการณ์นั้นไม่สามารถนับเป็นการชำระเงินล่วงหน้าที่กระทบกระเทือนจิตใจและปลุกพลังฉันให้ตื่นได้เหรอ?
แน่นอน มันทำไม่ได้ ฉันคิดว่าฉันสามารถปลุกตัวเองด้วยคะแนนความสำเร็จได้ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
ให้ตายเถอะ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถใช้มันได้ทันทีเพราะมันยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่แม้แต่ถูกเปิดให้ใช้งาน
พลังเหนือธรรมชาติจะนี้มีประโยชน์อะไรถ้าฉันยังใช้มันไม่ได้?
เอาล่ะ ขอคิดถึงอนาคตก่อน
ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะปลดล็อคพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว ฉันต้องคิดหาวิธีที่จะปลุกความสามารถเหนือธรรมชาติของฉันและหาพรสวรรค์ที่ฉันควรจะได้รับเป็นลำดับต่อไปด้วย ฉันหวังว่าฉันจะมีพรสวรรค์ที่สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที
เมื่อฉันยืนยันความสามารถของลุดวิกในวันนี้ ฉันรู้สึกเหลือเชื่อเลยล่ะ
[ทักษะดาบ – 2,000 คะแนน]
[ยิงธนู – 2,000 คะแนน]
.
.
.
ราคาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นั่นคือสิ่งที่ฉันคาดไว้ ฉันคิดว่ามันอาจจะคูณด้วย 10 ทำให้ความหวังของฉันพังทลาย แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าที่คาดไว้ มั้งนะ?
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฉันมีคะแนนความสำเร็จ 0 คะแนน ฉันได้ลงทุนทั้งหมดเพื่อซื้อพลังเหนือธรรมชาติที่ไม่ได้ใช้งานนี้ ในอัตรานี้ไม่มีใครสามารถตรวจจับได้ว่าฉันมีความสามารถเหนือธรรมชาติ
หากมีใครทำได้ จักรวรรดิคงจะกวาดล้างพวกเขาทั้งหมดแล้วล่ะ
มีสองสิ่งที่ฉันต้องทำต่อจากนี้ไป
หนึ่ง ฉันต้องกดดันตัวเองอย่างหนักเพื่อปลุกความสามารถเหนือธรรมชาติของฉัน
สอง ฉันต้องได้รับคะแนนความสำเร็จเพื่อซื้อความสามารถพิเศษเพิ่ม
ถ้าฉันได้รับคะแนนความสำเร็จ 2,000 คะแนนจากกิจกรรมและการท้าทายที่มักจะให้คะแนนฉันประมาณ 100 คะแนน ฉันจะสามารถได้รับความสามารถพิเศษชิ้นที่สองได้เว้นแต่ราคาจะเปลี่ยนแปลง
ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไร ดังนั้นสิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนี้คือความท้าทาย
อย่างไรก็ตาม มีเพียงการทำอะไรแปลกๆ การก่ออาชญากรรม และสิ่งที่เยาวชนไม่ควรทำ อยู่ในรายการท้าท้ายเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม
[เขียนจดหมายรักถึงเพื่อนร่วมชั้นแล้วโดนปฏิเสธ- 200 คะแนน]
“…….”
มันง่ายมากที่จะสำเร็จ ดูเหมือนว่าความท้าทายนี้ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฉัน
หมายความว่าฉันต้องสารภาพรักกับเด็กม.ปลายแล้วโดนปฏิเสธงั้นเหรอ?
แต่ทำไมเจ้านี่ถึงให้คะแนนฉันสองเท่าในขณะที่ความท้าทายอื่น ๆ ให้ฉันเพียง 100
อา
ต้องเป็นงั้นแน่เลย….
พวกเขาต้องการให้ฉันทำตัวเองขายหน้างั้นสินะ?
200 คะแนน
สองเท่าของปกติ
ถ้าฉันทนทุกข์เพียงเล็กน้อย ฉันจะได้รับ 200 คะแนน
เห็นได้ชัดว่า ไอ้สารเลวคนนั้นชื่อไรน์ฮาร์ด รังแกเพื่อนและทุบตีเพื่อนร่วมชั้นในวันแรก จู่ๆ ก็เขียนจดหมายรักถึงใครบางคน?
ถ้าข่าวลือแบบนั้นแพร่ออกไปเกี่ยวกับตัวฉัน ภาพลักษณ์ของฉันที่เป็นคนบ้าๆ บอๆ นิสัยแย่ๆ ทำอะไรวิปริตก็จะฝังแน่นอยู่ในใจของทุกคน ความเสี่ยงนั้นมากเกินไป คนเหล่านี้คือเพื่อนร่วมชั้นของฉันที่ฉันต้องอยู่ด้วยไปอีก 6 ปี
มีแม้กระทั่งข้อจำกัดที่ว่า “เพื่อนร่วมชั้น” ถ้าฉันส่งไปผิดคน ทุกอย่างก็จะไร้ความหมาย เพื่อนร่วมชั้นมีคลาส B หรือเฉพาะคลาส A หรือไม่
ไม่
เดี๋ยวนะ
มาลองดูกันเถอะ
ลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แตกต่างออกไป
ลองมอวจากมุมที่แตกต่างกัน
แต่ฉันได้ค้นพบวิธีที่ดีกว่ามาก
[รับคำสารภาพรักจากเพื่อนร่วมชั้น – 1,000 คะแนน]
ฉันคิดว่านี่อาจเป็นไปได้?
* * *
แน่นอนว่าวิหารซึ่งเป็นศูนย์การศึกษาขนาดใหญ่ไม่ได้มีแค่โรงเรียนเท่านั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่มีย่านการค้าที่ลูกหลานของครอบครัวที่ร่ำรวยรวมตัวกันอย่างไม่รู้จบ
ไม่ได้มีแค่ร้านอาหารหรูเท่านั้น แต่ยังมีร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า และสถานบันเทิงอีกด้วย
เด็กๆ ที่ชอบเล่นจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปเดินเล่นที่ถนนหลัก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่นักเรียนมารวมมากที่สุด
“นี่มันยอดไปเลยนี่?”
“อ่า ใช่”
“นี่คือที่ที่ฉันไปมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และรสชาติดีเกือบทุกอย่าง ฉันรับรองได้เลย”
“ฉันรู้ ฉันเคยมาที่นี่สองสามครั้งแล้ว”
อีริชพยักหน้าให้ โคโน ลินต์ เอะอะโวยวายเคเยอร์กอดอกและไม่แม้แต่จะสัมผัสของหวานที่อยู่ตรงหน้าเขา
บนโต๊ะที่ทั้งสามนั่ง มีเค้ก เพรทเซล และของหวานอื่นๆ กระจายอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาเพิ่งซื้อฮอทดอก โคโน ลินต์ ได้แนะนำที่ร้านอาหารใกล้เคียงและมาที่นี่เพื่อทานของหวาน
“เฮ้ แค่กินและผ่อนคลายซักหน่อย”
“ฉันไม่หิว”
“แค่กัด มันหวานดีนะ รู้มั้ย”
โคโน ลินต์ยิ้มและผลักจานไปทางเคเยอร์ ทุกคนยกเว้นอีริชเป็นสามัญชน แต่อีริชเข้ากับพวกเขาได้ไม่ยาก เพราะตระกูลลาฟาเอรีเป็นขุนนางในชนบท
เดิมทีทั้งสามคนไม่ได้เข้ากันได้เร็วนัก อย่างไรก็ตาม พวกเขารวมตัวกันในวันแรกด้วยเหตุผลเดียว
“เราต้องจับตาดูไอ้บ้านั่นเอาไว้”
มันคือเลขที่ A-11 ไรน์ฮาร์ด
เขาไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรแต่นิสัยเสียจนไอ้บ้านั่นออกหมัดและทะเลาะตั้งแต่เปิดเทอมวันแรก
เนื่องจากไรน์ฮาร์ดกลายเป็นศัตรูร่วมกัน พวกเขาทั้งสามจึงสนิทกันในวันแรก เคเยอร์โดนชายผู้ไม่มีพรสวรรค์เล่นงาน และโดนอาจารย์ทำโทษทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายผิดเอง
“ว่าแต่ทำไมนายถึงโดนอาจารย์ดุ”
โคโน ลินต์ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ
“ใช่ มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ขอไม่ออกความเห็น ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้สารเลวนั่นหมายความว่าอย่างไรกับสิ่งที่เขาพูด อย่างไรก็ตามมีบางอย่างเกี่ยวกับการดูถูกวิหารของฉัน”
น่าเสียดายที่เคเยอร์ไม่สามารถจำทุกคำที่ไรน์ฮาร์ดพูดออกมาได้ แต่พอคุณเอพินฮาวเซอร์ได้ยินคำพูดของไรน์ฮาร์ดเขาตำหนิเคเยอร์ด้วยสีหน้าจริงจัง
“นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ดูถูกวิหาร?”
“ฉันไม่รู้ ไอ้สารเลวนั้น ฝากไว้ก่อนเถอะ ครั้งหน้าฉันจะฆ่ามันแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของอีริช เคเยอร์ก็หันมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าหงุดหงิด ทุกกลุ่มจำเป็นต้องมีศัตรูร่วมกันเพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ทั้งสามคนนี้ได้ให้ไรน์ฮาร์ดเป็นศัตรูร่วมกัน
“แต่ผู้หญิงทุกคนในชั้นเรียนของเราสวยจริงๆ งั้นเหรอ?”
ทันใดนั้น โคโน ลินต์ก็ลดเสียงลง อีริชพยักหน้า
“นั่นเป็นเรื่องจริง ถึงอย่างนั้นฉันจะไม่บอกพวกเขาต่อหน้า เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นในวิหาร แต่พวกเขาจะไม่แม้แต่จะเหลือบมองฉันหากเราอยู่ข้างนอก”
“แต่เดี๋ยวก่อน ไม่ใช้ว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันแล้วเหรอ?”
“ในหมู่พวกเขาไม่ได้มีแต่คนนิสัยดีอย่างเจ้าชาย นายจะต้องระมัดระวัง ไม่ต้องพูดถึงเจ้าหญิงอิมพีเรียล ยังมีเจ้าหญิงแห่งราชรัฐแซงต์-โอวัน และดยุคแห่งแกรนตซ์ก็ถือเป็นขุนนางระดับสูงเช่นกัน พวกเขาถือศักดิ์ศรียิ่งกว่าจักรพรรดิอีก”
อีริชกำลังบรรยายอย่างชัดเจน พวกเขาอยู่ด้วยกันในวิหาร แต่ภายนอก พวกเขาเป็นคนที่มีฐานะต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าพวกเขาจะยังเด็กแค่ไหน พวกเขาไม่ใช่คนประเภทที่เขาแตะต้องได้แม้แต่เส้นผมเส้นเดียว
“แต่ตอนนี้ล่ะ? นายจะคุยกับพวกเขาก็ไม่ได้เหรอ?”
โคโน ลินต์แหย่พวกเขาราวกับว่าเขาสนใจหัวข้อนี้จริงๆ
“พวกนายคิดว่าใครสวยที่สุด? ฮึ?”
“ฉันเหรอ?”
“อ่า โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าเป็นเจ้าหญิงอิมพีเรียล”
เมื่อโคโน ลินต์พูดเช่นนั้นอีริชก็ขมวดคิ้วราวกับว่าเขาไม่เต็มใจที่จะแบ่งปัน อีริชและ เคเยอร์ปฏิเสธที่จะพูด แต่หลังจากการพยายามตื้ออย่างต่อเนื่องของโคโน ลินต์ พวกเขาก็สารภาพในที่สุด
“ฉันคิดว่า…. เลขที่ 2”
เมื่อได้ยินคำพูดของอีริช โคโน ลินต์ก็เอียงศีรษะ
“เธอ? อะไรนะ….? ฉันหมายความว่า แน่นอนเธอสวย แต่เธอไม่น่ากลัวไปหน่อยเหรอ? ฉันพูดไม่ออกเลยล่ะ”
“ก็นายถามฉันว่าใครที่ฉันคิดว่าดูดีที่สุดนี่”
“อืม.. แล้วนายล่ะ?”
“ถ้าให้ฉันต้องพูดก็คงเป็น….”
เคเยอร์คิดเกี่ยวกับมันแล้วในที่สุดก็พูดออกมา
“ลูกสาวของดยุคแกรนตซ์….”
“อือ ฉันคิดว่าฉันเห็นด้วยแฮะ”
นี่คือสิ่งที่เด็กและผู้ใหญ่ชอบพูดถึงเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน เมื่อพวกเขากำลังพูดถึงความงาม
“เอิ่ม…. ขอโทษนะ คือว่า….”
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งหมดหันศีรษะไปและได้ยินเสียงของหญิงสาวที่ดังมาจากที่ใดที่หนึ่ง
“ขะ ขอเวลาฉันสักครู่ได้มั้ยคะ…. คุยกันสักหน่อยได้มั้ย”
ที่นั่น สาวสวยกำลังคุยกับโคโน ลินต์อย่างเขินอาย เขาเกือบจะสงสัยในสายตาของเขา
“อ่ะนี่ค่ะ”
โคโน ลินต์ที่ถูกลากออกจากร้านขนมราวกับถูกผีเข้าสิง เกือบหัวจะระเบิดที่หญิงสาวนิรนามยื่นซองให้เขาอย่างอายๆ
“นี่.. เอิ่ม…. อะไร… นี่อาจจะเป็น?”
เขาเริ่มพูดอย่างเป็นทางการโดยไม่รู้ตัว
“โปรดอ่านมันด้วยค่ะ….”
ใบหน้าของหญิงสาวแดงก่ำ เธอบิดตัวไปมา พยายามไม่สบตา เมื่อเขาเปิดซองจดหมายราวกับว่ามีอะไรบางอย่างเข้าสิง มีประโยคหนึ่งเขียนอยู่บนแผ่นกระดาษ
[ฉันตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น ได้คบกับฉันนะคะ]
“นี่ นี่…. นี่คือ….”
เด็กหนุ่มอายุ 17 ปี
เขาเพิ่งประสบกับปาฏิหาริย์ที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนในชีวิต
“เอิ่ม…. คุณคิดว่ายังไงคะ…?”
กับคำถามที่เงียบงันของหญิงสาว
“ฉันก็ตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกพบเช่นกัน!”
โคโน ลินต์เกือบจะสะดุดกับคำพูดของเขา
แต่สิ่งที่เด็กชายไม่เห็นคือมุมปากของหญิงสาวค่อยๆ ยกขึ้น
* * *
ฉันขายจิตวิญญาณของฉันเพื่อคะแนน
[คะแนนความสำเร็จ: 1,000 คะแนน]
“…….”
ฉันคิดเกี่ยวกับมัน แต่เมื่อฉันทำจริง ๆ ฉันรู้สึกใจสลาย
ฉันแกล้งทำเป็นว่ายุ่งและวิ่งหนีไป
จากนั้นฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าในตรอกมืดเพื่อไม่ให้ใครพบเจอ เปลี่ยนกลับเป็นไรน์ฮาร์ดและกลับไปที่หอพัก
มันไม่ได้บอกว่าฉันต้อง ‘รับคำสารภาพในรูปแบบของไรน์ฮาร์ด’ ในข้อมูลการท้าทาย
ฉันสังเกตเห็นจุดบอดนั้นและใช้ประโยชน์จากมันทันที และมันก็ได้ผล ดูเหมือนเป็นความคิดที่ดีในหัวของฉัน แต่เมื่อฉันทำจริง ฉันรู้สึกเหมือนตายทุกวินาที
ฉันรักษาศักดิ์ศรีของฉันในฐานะไรน์ฮาร์ดได้ แต่ฉันทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของฉันเสื่อมเสียอย่างจริงจังและเล่นกับจิตใจของเด็กหนุ่มวัย 17 ปีผู้ไร้เดียงสา ไม่ว่าฉันจะตั้งค่าให้เขาเป็นเพลย์บอยมากแค่ไหนก็ตาม
โคโน ลินต์ แม้จะไม่ค่อยได้เรื่อง แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเลว
และที่นี่ฉันได้เหยียบย่ำหัวใจของเขาไปซะแล้ว
ฉันรู้สึกว่าฉันได้กลายเป็นสิ่งที่ต่ำกว่ามนุษย์ไปแล้ว….
[รายการท้าทายได้รับการปรับปรุง]
ข้อความปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน ส่วนที่เหลือยังคงเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
[จากนี้ไป เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เงื่อนไขที่การท้าทายทั้งหมดจะต้องทำให้สำเร็จในฐานะ ‘ไรน์ฮาร์ด’ ได้ถูกเพิ่มเข้าไป]
[ได้รับคำสารภาพรักจากเพื่อนร่วมชั้น – 1,000 คะแนน](เคลียร์)
[เขียนจดหมายรักถึงเพื่อนร่วมชั้นแล้วโดนปฏิเสธ – 200 คะแนน]
[โดนครูลงโทษ – 100 คะแนน]
[ทิ้งกราฟฟิตีไว้บนถนนสายหลักของวิหารหลังเคอร์ฟิว – 100 คะแนน]
ดูไอ้เวรนี่สิ
คุณไม่คาดคิดล่ะสิว่าฉันจะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้? คุณเพิ่มเงื่อนไขนั้นทันทีหลังจากที่ฉันท้าทายเสร็จใช่มั้ย?
น่ารำคาญจริง แก้ด่วนเลยเชียวนะ
ความท้าทายมีไว้เพื่อเอาชนะฉันเท่านั้น คุณไม่ได้คาดหวังให้ฉันใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ แต่ฉันทำ คุณจึงเพิ่มเงื่อนไขนั้นเข้าไป
อยากให้ฉันเขียนจดหมายรักแล้วโดนปฏิเสธมากเลยสินะเนี่ย
แล้ว,
เพิ่มความท้าทายที่ไม่คาดคิด
[เดทกับโคโน ลินต์ขณะเป็นสาวสวย (เจ้างี่เง่า) – 1,000 คะแนน]
อา
อา
อา!
คนคนนั้นกำลังเฝ้าดูฉันแบบเรียลไทม์! ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาทำได้อย่างไร แต่ฉันพนันได้เลยว่าเขาหัวเราะลั่นในขณะที่ดูฉันพูด!
ความปรารถนาของฉันที่จะหายตัวไปจากโลกนี้แข็งแกร่งขึ้นสิบเท่า
แม้ว่าโลกจะแตกสลาย ฉันก็จะไม่มีทางทำเด็ดขาด
* * *
ฉันขายวิญญาณของฉันเพื่อ 1,000 คะแนน
ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะได้มากขนาดนั้นในวันเดียว ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันเชื่อว่านี่ไม่ใช่ทิศทางที่ไอ้พวกชอบแอบดูต้องการให้เป็นไป
ถ้าฉันเก็บคะแนนได้อีก 1,000 คะแนน ฉันจะสามารถซื้อความสามารถพิเศษอื่นได้ ฉันไม่ได้คิดที่จะไปเดทกับโคโนะ ลินต์ด้วยซ้ำ
ฉันกลับมาที่หอพักและคิดว่าจะเก็บ 1,000 คะแนนที่เหลือได้อย่างไร แน่นอน ฉันโยนเสื้อสเวตเชิ้ตที่ฉันสวมตอนที่พบกับโคโน ลินต์ข้างนอกร้านออกไปและกลับมาในชุดอื่น ฉันไม่ได้วางแผนที่จะทิ้งร่องรอยไว้
ตอนเย็น
-ฮิฮิ…. ฮิฮิฮิ….
สายตาที่โคโน ลินต์และอีกสองคนกำลังเขี่ยอาหารมองมาที่เขาด้วยสายตาอิจฉาทำให้ฉันปวดท้อง
ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะโยนอาหารทิ้งเพราะความรู้สึกผิด ความอับอาย และความอัปยศอดสูที่ซับซ้อนนี้
ฉันรู้สึกคลื่นไส้มากจนไม่สามารถทานอาหารเย็นได้ สุดท้ายก็กินได้ไม่ถึงครึ่งของเมนูที่เตรียมไว้ ฉันรู้สึกได้เลยว่าเชฟมีฝีมือจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดจะชื่นชมทักษะเหล่านั้นในวันนี้
โคโน ลินต์ดูเหมือนจะใช้ชีวิตอยู่ในภาพลวงตาที่มีความสุขอยู่พักหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากอาการนั้นจางลง?
เขาจะรู้สึกหดหู่ใจมั้ย?
ไม่
ไม่ต้องไปสนใจเขาเลย
ทันทีที่ฉันเริ่มใส่ใจ ฉันจะสูญเสีย
ทั้งที่ความสามารถเหนือธรรมชาติของฉันยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ
ฉันออกจากร้านอาหาร
อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นความกดดันทางจิตใจที่รุนแรงในแบบของมันเอง
แต่ว่ามันไม่มีผล
* * *
ฉันจะบอกว่าฉันทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับวันแรกของฉัน แม้ว่ามันจะยังใช้งานไม่ได้ แต่ฉันก็สามารถได้รับความสามารถเหนือธรรมชาติที่ฉันตั้งเป้าไว้และได้รับคะแนนความสำเร็จจำนวนมาก
ถ้าฉันได้คะแนนเพิ่มอีก 1,000 คะแนน ฉันจะสามารถได้รับพรสวรรค์ที่สองของฉัน หรือฉันสามารถใช้มันเพื่อจุดประสงค์อื่นได้
ดูเหมือนว่าฉันจะทำได้ ไม่เพียงแต่ซื้อความสามารถเท่านั้น แต่ยังสุ่มเพิ่มค่าสถานะของฉันด้วย แต่ฉันยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ ค่าสถานะของฉันเพิ่มขึ้นจากการฝึกฝนตามปกติ ถ้าฉันได้รับการฝึกฝนร่างกายแบบเดียวกับที่ฉันได้รับในวันนี้ ค่าสถานะของฉันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เว้นแต่เป็นกรณีพิเศษเช่นค่าพลังเวทย์
และมีบางอย่างที่ฉันกังวลเกี่ยวกับ
ถ้าใครเห็นผลกำไรเพียงครั้งเดียว คน ๆ หนึ่งก็จะอยากได้อีก ฉันได้รับ 1,000 คะแนน แต่ฉันก็ยังอยากได้มากกว่านี้
คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความท้าทายเหล่านั้นจะหายไปเมื่อใด ฉันไม่รู้ว่าไอ้ลึกลับนั่นเปลี่ยนใจเมื่อไหร่?
ความท้าทายที่อัปเดตใหม่อาจจะไม่มีจุดอ่อนอีกต่อไป และดูเหมือนว่าเนื้อหาของพวกเขาจะยากหรือน่าขายหน้ามากกว่าเดิม
รวมถึงการโดดเรียนจะนำไปสู่การลงโทษทางวินัย ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก แต่เอพินฮาวเซอร์ดูเหมือนจะจับตาดูฉันอยู่แล้วเนื่องจากการต่อสู้ และถ้าฉันสร้างปัญหาอีก แน่นอนว่าฉันจะรอดแน่
[เขียนจดหมายรักถึงเพื่อนร่วมชั้นแล้วโดนปฏิเสธ – 200 คะแนน]
ดูเหมือนจะอยากให้ฉันเขียนจดหมายรัก ก่อนหน้านี้ฉันเขียนจดหมายรักแต่ไม่ถูกปฏิเสธ ฉันจึงยังไม่ได้เคลียร์มัน
เงื่อนไขคือการถูกปฏิเสธในที่สุด
มันค่อนข้างน่าเศร้าที่รู้ว่าการทำตามเงื่อนไขนั้นง่ายเกินไป ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันของฉัน ความน่าจะเป็นของการถูกปฏิเสธคือ 100%..
ถ้าฉันอดทนต่อความอัปยศอดสูนั้นสักหน่อย ฉันจะได้มา 200 คะแนน แต่ฉันก็ยังต้องได้เพิ่มอีก 800 คะแนน
จริงๆ แล้ว ถ้าความคิดเรื่องการใช้แหวนเดรดฟีนเพื่อสารภาพไม่ได้อยู่ในความคิดของฉัน ฉันก็อยากจะลองทำอย่างอื่นดูบ้าง ปัญหาของทั้งหมดนี้คือฉันอาจถูกรังแกหลังจากมีข่าวลือออกมา แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่ฉันส่งจดหมายให้กลับไม่นินทาเรื่องนี้? พวกเขาจะแค่ปฏิบัติกับฉันเหมือนคนแปลกๆ
ดังนั้นมันต้องเป็นคนที่ไม่นินทาฉันและจะไม่สนใจฉันมากขนาดนั้นหลังจากการสารภาพ
เอลเลน อาร์โทเรียส
“…….”
มันจะดีเหรอ
ฉันควรหรือไม่ควรนะ
อา
ก่อนอื่นฉันขายจิตวิญญาณของฉันเพื่อคะแนน
คราวนี้ฉันจะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฉันเพื่อคะแนนอีกงั้นเหรอ?
* * *
ไม่จำเป็นต้องคิดกันนาน
ห้องออกกำลังกายของหอพักคลาสเอ
เห็นได้ชัดว่าฉันจะไปหาเธอได้ที่ไหน ดังนั้นฉันจึงไปที่โรงยิมหลังจากที่ทุกคนไปแล้ว
เอลเลน อาร์โทเรียสที่ได้รับจดหมายของฉันซึ่งระบุความปรารถนาของฉันที่จะเดทกับเธอ มองข้อความธรรมดา จากนั้นมองมาที่ฉันและพูดสั้นๆ
“ขอปฏิเสธ”
“อ๊ะ อ๊ะ…. โอเค”
ฉันรู้ว่าเธอจะตอบแบบนั้น
[ท้าทาย ‘เขียนจดหมายรักถึงเพื่อนร่วมชั้นแล้วโดนปฏิเสธ’](เคลียร์)
[คุณได้รับ 200 คะแนนความสำเร็จ]
…ฉันอยากจะร้องไห้
การรู้ว่าคุณจะถูกปฏิเสธและการถูกปฏิเสธนั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทิ้งเอลเลนที่ยังคงแกว่งดาบฝึกหัดต่อไปโดยไม่สนใจฉันอีกต่อไป ฉันออกจากโรงยิมไป