ในจังหวะนั้นเอง ก็มีเสียงลึกลับดังก้องกังวาลขึ้น
『ย้อนเวลา』「時間を巻き戻します」
“…. อาเระ?”
ลิซที่คิดว่า……..ร่างกายของตัวเองนั้นขาดครึ่งไปแล้ว
กลับไม่มีสิ่งผิดปกติอะไรเกิดขึ้น แถมผู้หญิงเมื่อสักครู่นี้ก็ยังมาไม่ถึงจุดที่พวกเขายืนอยู่
『..เวลาย้อนกลับ… ไม่นึกเลยว่าจะใช้เวทย์ย้อนเวลาได้ด้วย』
เธอดูไม่แปลกใจและเข้าใจในสถานการณ์ในทันที
พร้อมกับที่รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ฟุริโอ้หรี่ตามองไปด้านหน้า และพึมพัมบางอย่างขณะกำลังเดินไปหาเธอคนนั้น
『เห็นแก่ที่เจ้ารอดจากการโจมตีของข้าได้หนึ่งหน ข้าจักบอกอะไรให้
ข้าฮิยะ มารผู้ปกครองแสงสว่างและความมืด
มารผู้ที่ใช้เวทมนตร์แห่งแสงและความมืดได้ทุกชนิดบนโลก
เพราะเหตุนั้น เวทมนตร์งี่เง่าของแกน่ะ ทำอะไรข้าไม่ได้…』
หลังจากที่ฮิยะเอ่ยคำยาว ๆ ออกมาได้สักพัก ร่างของเธอก็ลอยละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ฟุริโอ้ได้ก้าวเข้าไปอัพเปอร์คัทเข้าที่ขากรรไกรของเธออย่างจัง จนเธอปลิวขึ้นไปบนฟ้าตามความแรงที่ถูกกระทำ
ฮิยะลอยสูงขึ้นจนถึง 10เมตร และกลิ้งกระเด็นลงบนพื้น
『ก-…แก..ค-..คิด..ว่าข้า.. มารผู้ครอบครองแสงสว่างและความมืดผู้นี้จะ…』
(貴様-kisama จะว่า มึง ก็หยาบไป แก ก็พอแล้ว)
ในตอนนั้น ฟุริโอ้ได้เดินไปหาเธอที่กำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้น อย่างแน่วแน่
พร้อมกับยกขาขึ้นเตะอย่างแรง เข้าไปเต็มหน้าของเธอ ด้วยขาขวา ฮิยะก็ได้ลอยขึ้นไปบนฟ้าอีกรอบ..
จากนั้น ขณะที่ฮิยะกำลังจะตกลงมา ฟุริโอ้ก็เหยียบลงไปกลางเบ้าหน้าอีกรอบ
ด้วยที่เหยียบแบบเต็มแรง ส่งผลให้หน้าของฮิยะยุบลงไปตามพื้นถนนจมอยู่แบบนั้น
『ข้า.. ผู้ปกครองแสงและความมืด…ไม่มีทางที่จะ…』
ฟุริโอ้จับผมของฮิยะขึ้นมาและบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ทุบลงและเอาหัวโขกเธอไป(เฮดบัตต์)
『ข้า.. แสง..』
.”หุบปากได้แล้วอีเวร” (ตรงนี้ขอหยาบนิดนึงครับ)
ขณะที่เธอโดนจับผมที่ขาดรุ่งริ่งขึ้นมา ฟุริโอ้ก็เอาหน้าของเขาเข้าไปใกล้หน้าเธอ
ใบหน้านั่น เพราะว่าโดนเฮดบัตต์ไป เธอก็เริ่มรู้สึกว่าโดนกดดันพร้อมกับที่เลือดสีเขียวไหลนองออกมา
ฮิยะน่ะ เป็นมารผู้ครอบครองเวทมนตร์แสงสว่างและความมืด
เป็นมารที่เข้าใจศาสตร์เวทมนตร์แสงสว่างและความมืด นั่นก็จริง
เพราะเหตุนั้น เธอผู้ไม่เคยถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์ เธอผู้มีเวทย์ป้องกันตัวอันแข็งแกร่งดั่งเหล็กผา
แน่นอน ว่าตัวเธอเองก็มีทั้งเวทย์ ทั้งเทคนิคป้องกันการโจมตีทางกายภาพ และตอนนี้เองก็ใช้อยู่ตลอดเช่นกัน
แต่ว่า เมื่อเทียบกับค่าสถานะของฟุริโอ้แล้ว ค่าสถานะของเขาคือ
『∞ -พัฒนาการอันไร้ขีดจำกัดและไม่มีผลจำกัด-』 จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ฮิยะจะป้องกันการโจมตีที่ไร้ขีดจำกัดของเขาได้ การป้องกันของเธอจึงถูกทำลายลงอย่างไร้การต่อต้านและส่งผลต่อร่างกายโดยตรง
“แกน่ะ บังอาจมาใช้มือทำร้ายภรรยาของผม”
(พระเอกมันเรียกฮิยะว่า お前-omae เลยใช้คำว่า แก แล้วมันใช้คำแทนตัวเองว่า 僕-boku เลยใช้คำว่า ผม อยากจะแปลหยาบ ๆ แต่ไมมางี้ฟะ)
ขณะที่พูดแบบนั้นไป ฟุริโอ้ก็ใช้เข่ากระแทกเข้าไปที่ท้องน้อยของเธออย่างเยือกเย็น
“ไม่คิดจะใช้เวทมนตร์หรอก เพราะถ้าไม่ได้ต่อยตรง ๆ ด้วยตัวเองแล้ว คงสงบใจลงไม่ได้”
ขณะที่พูดแบบนั้น ก็ยิ้มแล้วหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกับมองไปที่เธอ
ตั้งแต่ที่เกิดมาในรูปร่างของหมอกควันเช่นนี้ ฮิยะ เพิ่งเคยรู้สึกถึงความกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต 「น้ำตา」 ก็ได้ปรากฏขึ้นบนในหน้าของเธอ ทั้งจิตใจและร่างกายของเธอที่ขาวซีดเพราะเสียเลือดก็เริ่มสั่นสะท้านไปหมด
◇◇ต่อมาไม่นาน ・ที่บ้านของฟุริโอ้
“นะ-นายหญิง…น-นี่มันอะไรกันคะ…”
วาลิซซ่ามองฮิยะที่สภาพเหมือนเศษซากขยะถูกลงโยนเข้ามาในบ้าน ขณะที่เธอมองไปที่ฮิยะด้วยสายตาที่น่าเวทนา เธอก็เริ่มรู้สึกเสียวสันหลัง
อัศวินหญิงวาลิซซ่าน่ะ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอเริ่มลนลาน จึงมองไปที่ฮิยะและฟุริโอ้สลับกัน หลายต่อหลายครั้ง
“นี่มันยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ เพราะผมยังคิดที่จะรักษาให้เธอทีหลังอยู่”
หลังจากที่พูดไปแบบนั้น ฟุริโอ้ก็นั่งลงบนเก้าอี้
ที่ใกล้ ๆ นั้นมีลิซที่ใบหน้าสีแดงเผือดและเริ่มเกิดอาการหายใจหอบอยู่
เพราะฟุริโอ้โกรธเพื่อเธอที่เป็นภรรยาถึงขนาดนี้ เธอกุมมือขวาขึ้น เริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ จนอารมณ์ที่เก็บไว้ของเธอระเบิดออก และไม่อาจจะเก็บไว้ได้อีกต่อไป
“อาาา ท่านสามี เพื่อฉันคนนี้ ฉันมีความสุขมากเลยค่ะ…..ลิซคนนี้ ช่างเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ ค่ะ!”
พอพูดจาเช่นนั้นเสร็จก็เข้าไปใกล้ ๆ แล้วลิซก็เริ่มถอดชุดที่สวมออก
“โอ้ยโอ้ย ตรงนี้น่ะ ไม่ได้นะ วาลิซซ่าก็อยู่ด้วย”
หลังจากพูดแบบนั้น ฟุริโอ้ก็เข้าไปกอดลิซ แล้วก็แลกจูบกัน จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอน
เหลือทิ้งไว้แค่คนสองคนอยู่ในห้อง
ฮิยะที่เละอย่างกับพรมเช็ดเท้านอนสลบอยู่ ส่วนวาลิซซ่าก็ยืนหน้าแดงอยู่อย่างนั้น
ทั้งสองคนนี้ เป็นพยานที่เห็นคนพรอดรักอยู่ต่อหน้าตัวเอง..
และ ผู้ที่ส่งเสียง ฟุนซึฟุนซึ อยู่ข้างหลังฮิยะ, ซาแบร์ ทำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ออกมาเพราะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง..
◇◇◇◇◇◇◇◇
◇◇ขณะเดียวกัน ・ปราสาทของอาณาจักรเวทมนตร์ไคน์โรจน์
“….แล้ว นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”
เจ้าหญิงลำดับที่หนึ่ง รู้สึกตกใจที่จู่ ๆ ปลอกคอแห่งความตายก็หายไป
ปลอกคอแห่งความตาย คือ สิ่งที่เป็นบ่งบอกว่า คน ๆ นั้นคือสิ่งแลกเปลี่ยนของความปรารถนาที่เกิดจากการทำสัญญากับมารแห่งแสงสว่างและความมืด เมื่อใดที่ความปรารถนานั้นสำเร็จ ผู้ที่สวมปลอกคอนี้อยู่ก็จะถูกพรากชีวิตไปทันที
แต่ไม่ว่ายังไงตอนนี้ เธอก็รอดแล้ว จึงไม่อยากคิดหาเหตุผลว่าทำไมปลอกคอแห่งความตายถึงได้หายไป ไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องคิด
“ค-..ใครก็ได้…มีใครรู้หรือไม่ ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น?”
เจ้าหญิงลำดับที่หนึ่งถามอัศวินกับนักเวทย์ที่อยู่ใกล้กับเธอ แต่ทุกคนก็ได้แต่ทำสีหน้างงงวยเพราะจู่ ๆ ปลอกคอก็หายไป และต่างก็ทำสีหน้าสับสนเหมือนเจ้าหญิงลำดับที่หนึ่ง
เพราะแบบนั้น เลยไม่มีใครตอบคำถามของเธอเลยแม้แต่คนเดียว
“…อย่าบอกนะว่า..มารทำความปรารถนาไม่สำเร็จ…เรื่องบ้า ๆ แบบนั้นมัน..”
นักเวทย์คนหนึ่งส่ายหัว แล้วบอกกับตัวเองว่าความคิดของเขานั้นมันเป็นไปไม่ได้
◇◇◇◇◇◇◇◇
◇◇บ้านของฟุริโอ้
หลังจากนั้นไม่นาน
ลิซออกมาจากห้องด้วยความร่าเริง
“ทุกคน~ วันนี้มีงานเลี้ยงน้าา~♪”
พร้อมกับรอยยิ้มบานใบหน้า เธอฮัมเพลงแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัวอย่างเริงร่า
หลังจากนั้นฟุริโอ้ก็ออกมาจากห้อง ดูเหมือนว่าจะสงบจิตสงบใจได้แล้ว
เขาก็ไปยังห้องนั่งเล่น แล้วใช้เวทย์รักษาระดับสูงสุด รักษาให้ฮิยะที่เละเหมือนพรมเช็ดเท้า
…ที่นี่ ที่ไหน?
ฮิยะที่สติเพิ่งฟื้นขึ้นมา หันมองไปรอบ ๆ แล้วไปสบตาเข้ากับฟุริโอ้
…อะ ฮี๊!?
เธอเริ่มตัวสั่นและเหงื่อเริ่มไหล ก็รีบหนีไปหลบหลังวาลิซซ่าที่อยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับตัวสั่นเหมือนครั้งแรก
ฟุริโอ้ยิ้มบอกบุญไม่รับ ขณะจ้องมองไปที่เธอ
“ผมอาจจะทำเกินไปหน่อยก็ได้ แต่ผมก็รักษาให้แล้ว คงยกโทษให้นะ?”
พูดแบบนั้น ฟุริโอ้ก็ยื่นมือขวาไปหาเธอ
ฮิยะตกใจที่จู่ ๆ ก็มีมือยื่นมาหา แล้วมือนั่นก็ยังค้างอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน แต่เธอก็ยังหลบอยู่หลังวาลิซซ่า พร้อมกับพยักหน้าอีกครั้ง และอีกครั้งอย่างแรง
……น- แน่นอนค่ะ แน่นอนอยู่แล้ว ช่วยยกโทษให้ฉันด้วยนะคะ…
จากนั้นน้ำตาก็เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเธอ