ต่อจากนั้นไม่นานยูอิจิกับฟุจิเสะได้ออกจากร้านขายของไป
จนถึงท้ายที่สุดดูเหมือนจะไม่มีวี่เเววที่ส่อว่าโทโจวอินซังจะเข้ามาขัดขวางเเม้เเต่น้อย
ผมกับเซย์จังเดินตามหลังทั้งคู่ไป ระหว่างนั้นผมเรียบเรียงความคิดในหัวอยู่ตลอด
ทําไม โทโจวอิน คาโอริ ถึงไม่เข้ามาขัดขวางล่ะ?
หรือว่าบางทีผมจะจําผิดงั้นเหรอ? เวลาที่เธอเข้ามาขัดขวางอาจไม่ใช่ตอนที่ทั้งสองอยู่ในร้านก็ได้?
ไม่สิ ฉากเมื่อกี้ที่ทั้งคู่สวมเครื่องประดับลายหมีเเละถ่ายรูปด้วยกันนั่น ผมซึ่งอ่านเนื้อหาต้นฉบับมาเเล้ว จดจํามันได้อย่างชัดเจน
เพราะฉะนั้นจุดที่โทโจวอินซังควรจะเข้ามาขัดขวางต้องเป็น ณ ร้านนั่นไม่ผิดเเน่
ทั้งอย่างนั้นเธอกลับไม่เข้ามายุ่ง
กล่าวอีกนัยหนึ่งความเคลื่อนไหวของโทโจวอินซังในเดทที่สวนสนุกวันนี้จะต้องเเปรเปลี่ยนจากต้นฉบับไปด้วยเเน่นอน
ไหงทุกอย่างถึงกลายเป็นเเบบนี้ล่ะเนี่ย…?
หากลองตั้งสมมติฐานดู คงเป็นเพราะผมกลายมาเป็น ฮิซามูระ สึคาสะ ของโลกใบนี้เเละไปเเก้ไขอะไรบางอย่างที่ส่งผลให้โทโจวอินซังไม่เข้าไปหยุดยั้งพวกเขาที่นั่นล่ะมั้ง
จําเป็นต้องวิเคราะห์เดี๋ยวนี้เลยว่าจนถึงตอนนี้มีอะไรที่ต่างจากต้นฉบับไปบ้าง
เริ่มเเรก ฮิซามูระ สึคาสะ ไม่ได้สารภาพรักกับ ชิมาดะ เซย์ ในเนื้อหาต้นฉบับเเน่ๆ
อีกอย่างในต้นฉบับผมกับเซย์จังก็ไม่ได้ตามพวกเขาสองคนมาเดทเพื่อเฝ้าระวังเเบบนี้ด้วย
ถึงอย่างนั้นมันไม่น่าจะกระทบกับโทโจวอินซังตรงไหนนี่ สําหรับเรื่องนั้นมองว่าไม่ค่อยเกี่ยวอะไรกันคงจะเหมาะกว่า
ถ้าอย่างนั้นมีอะไรอีก… จริงด้วย! เวลาที่โทโจวอินซังทราบเกี่ยวกับเรื่องเดทไม่ใช่วันนี้ เเต่เป็นวันศุกร์ต่างหาก
นั่นคงเป็นส่วนที่เบี่ยงเบนไปจากต้นฉบับสินะ
เเต่หากมีเเค่นั้นจริงๆ กลับกันเวลาที่เธอคิดจะเข้ามาขัดขวางจะไวยิ่งกว่าเดิมก็คงมิใช่เรื่องเเปลก
นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกนะ… งั้นคงเป็นเรื่องเมื่อวันเสาร์ตอนที่ยูอิจิมาค้างบ้านผมเพื่อปกปิดไม่ให้โทโจวอินซังรู้ล่ะมั้ง
เพียงเเต่พอยูอิจิมาถึงหน้าบ้านความก็เเตกไปถึงหูโทโจวอินซังซะเเล้ว
…หรือว่าจะเป็นตอนนั้นเหรอ?
ประโยคที่ยูอิจิพูดออกไปในตอนที่โทโจวอินซังมาเยือนบ้านผม
[มันก็ดึกเเล้วด้วย! ป่านนี้ครอบครัวคงจะเป็นห่วงเเล้วใช่ไหมล่ะ!]
เมื่อได้ยินประโยคนั้นท่าทีของโทโจวอินซังก็ดูเเปลกไป จากนั้นเธอเเทบจะรีบกลับในทันที
คําพูดเหล่านั้นที่ยูอิจิเอ่ยออกมาไม่ได้มีความคิดมุ่งร้ายเธอเลยสักนิด กลับกันมันเป็นถ้อยคําเเห่งความเป็นห่วงด้วยซํ้า อย่างไรสําหรับเธอมันต่างกัน
ตั้งเเต่เเม่ของเธอจากไป โทโจวอินซังคิดมาตลอดว่าบุคคลผู้เป็นพ่อเพียงหนึ่งเดียวไม่มีความสนใจในตัวเธอ
มีความเป็นไปได้สูงที่คําพูดนั่นสําหรับเธอจะเป็นถ้อยคําบาดใจอันเจ็บปวดรวดร้าวจนมิอาจทนฟังได้
เพราะอย่างนั้น… โทโจวอิน คาโอริ ถึงไม่เข้ามาขัดขวางงั้นเหรอ?
ทุกสิ่งที่ผมคิดล้วนเป็นเเค่การคาดการณ์เพียงอย่างเดียว เเต่มันอาจจะเป็นเเบบนั้นจริงๆก็ได้
ไม่สิ ถึงจะไม่ตรงตามที่คิด เเต่เรื่องที่โทโจวอินซังไม่เข้ามาขัดขวางตามเเบบต้นฉบับก็เป็นความจริงอยู่วันยังคํ่า
“รู้สึกดวงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้าเเล้วนะ”
“หืม? อะ.. อา นั่นสินะ”
ความคิดของผมถูกขัดจังหวะโดยเซย์จังซึ่งเปิดบทสนทนาขึ้นมา
ดูเหมือนรอบๆจะเริ่มมืดขึ้นมาเเล้ว หลอดไฟที่ติดตามบริเวณสวนสนุกจึงเปิดขึ้นมาทีล่ะดวง
ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าขณะที่เดทกับเซย์จังสองต่อสอง สมองผมจะคิดเรื่องที่ต่างกันสุดขั้วเเบบนั้นได้
“…อีกเดี๋ยวสองคนนั้น น่าจะกําลังมุ่งหน้าไปที่นั่นเเล้วล่ะ”
“เอ๊ะ? ที่นั่น?”
“ไม่รู้จักหรอกเหรอ? สวนสนุกเเห่งนี้น่ะนะพอตกดึกเมื่อไหร่จะมีจุดที่ไฟสาดส่องอย่างสวยงามด้วยล่ะ ระ.. รู้สึกจะมีข่าวลือบอกด้วยนะว่าคนที่ตัดสินใจคบกันที่นั่น… จะถูกผูกมัดด้วยด้ายเเดงตลอดไปน่ะ”
“อ๊ะ… ถ้าจําไม่ผิด เหมือนเคยได้ยินอยู่บ้าง”
หากไม่คลาดเคลื่อนอะไร คิดว่าเเม้เเต่ในต้นฉบับก็บรรยายอะไรเเบบนั้นไว้เหมือนกันว่าคนที่สารภาพรักสําเร็จที่นั่นจะถูกผูกมัดกับบุคคลอันเป็นที่รักไปตลอดกาล
เเน่นอน เนื่องจากในต้นฉบับมีโทโจวอินซังเข้ามาขัดขวาง ทั้งสามคน ยูอิจิ ฟุจิเสะ เเละ โทโจวอินซัง จึงไปที่นั่นด้วยกันพร้อมหน้า
พวกเขาเอ่ยอะไรอย่าง [งดงามจังเลย] ก่อนที่จะจบลงเพียงเท่านั้น
ฉากมันไม่ค่อยสร้างความประทับใจให้ผมเท่าไหร่เลยจําได้ไม่เเม่นยํานัก
อย่างไรก็ตาม… ขืนเป็นเเบบนี้ต่อไปล่ะก็ ทั้งคู่จะสารภาพรักเเละคบกันที่นั่น
ข่าวลือภายในเรื่องราวเเบบนี้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นจริงตามนั้นเสมอ
หมายความว่า… ถ้าสองคนนั้นตัดสินใจคบหากันที่นั่น พวกเขาจะผูกพันกันด้วยด้ายเเดงไปตลอดชีวิตยังไงล่ะ
“อ๊ะ… ดูเหมือนทั้งคู่จะเดินไปทางจุดนั้นเเล้วนะ”
ตามที่เซย์จังบอกเป๊ะๆ ทั้งสองเริ่มเดินไปยังเส้นทางที่เต็มไปด้วยเเสงไฟ
หากยังดําเนินเเบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยูอิจิกับฟุจิเสะคงได้คบกันสมหวังเเหงๆ
โทโจวอินซัง คุณไม่คิดจะเข้ามาขัดขวางจริงๆเหรอครับ?
ทําไมกันล่ะ… หรือว่าในโลกที่ผมหลุดเข้ามานี้ เธอไม่ได้ชอบยูอิจิรึไงกัน?
ไม่สิ ไม่น่าใช่เเบบนั้นหรอก คืนวันก่อนเธอถึงขั้นมาส่งยูอิจิยันหน้าบ้านเลยนะ เเถมยังพูดว่าจะยกภาพเปลือยของตัวเองให้เขาอีกต่างหาก
เเล้วทําไมล่ะ…!
ขณะที่ในหัวคิดเรื่องนั้น ผมก็หันไปมองรอบๆเพื่อตรวจสอบว่าโทโจวอินซังจะเข้ามาขัดขวางไหมด้วย… เเต่อยู่ดีๆก็สังเกตถึงบุคคลท่านนึงที่ดึงดูดสายตาของผม
เขาผู้นั้นคือชายชราสูงวัยในชุดพ่อบ้าน
เเม้จะเข้าสู่วัยสูงอายุเเล้ว ส่วนสูงของเขาก็ยังสูงกว่าตัวผมเป็นอย่างมาก บนใบหน้าของเขามีหนวดเคราสีเงินประดับอยู่ ทั้งอย่างนั้นมันกลับรู้สึกสง่างามอย่างเเปลกประหลาด
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูไม่เหมือนคนธรรมดาเลยสักนิด ถึงขนาดทําเอาคิดเลยด้วยซํ้าว่าเขาเป็นเจ้าของสวนสนุกเเห่งนี้รึเปล่า
อย่างไรก็ตามผมรู้จักบุคคลท่านนี้เป็นอย่างดี
ชายชราในชุดพ่อบ้านท่านนี้คือคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของโทโจวอินซัง
ถ้าสมองผมจําถูกเขาคือพ่อบ้านที่โทโจวอินซังชอบเรียกว่า [ปู่] อยู่บ่อยๆ
เขามักจะคอยตามนํ้าคําขอเอาเเต่ใจของโทโจวอินซังอยู่เสมอ เเม้ภายนอกจะดูเหมือนชายชราธรรมดาๆ เเต่เนื้อในเขาเท่เอาการเลยล่ะ
หากเขาคนนั้นอยู่ที่นี่โทโจวอินซังก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วยเเน่นอน
เเต่ถ้าเป็นเเบบนั้นทําไมถึงไม่เข้ามาขัดขวางสักทีล่ะ?
…อย่าบอกนะว่า เธอยังคาใจกับประโยคนั่นที่ยูอิจิพูดไว้อยู่?
สําหรับโทโจวอินซังเเล้วหัวข้อเกี่ยวกับครอบครัวคงเป็นสิ่งที่น่าหนักใจมากพอตัวเลยทีเดียว
ในอนาคตอันใกล้ตามต้นฉบับเรื่องนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดเเละปัญหาของเธอก็ได้รับการเเก้ไขในท้ายที่สุด… เเต่สําหรับตอนนี้มันเป็นหัวข้อที่ไม่ควรเข้าไปเเตะเเม้เเต่นิดเดียว
การที่ยูอิจิบุคคลอันเป็นที่รักของเธอหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด น่าจะเป็นสาเหตุที่ทําให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมากที่สุด
งั้นหากเป็นเเบบนี้ต่อไป… จนถึงท้ายที่สุดโทโจวอินซังก็จะไม่เข้ามาขัดขวางสินะ?
ถ้าอย่างนั้นเธอต้อง… ดําเนินชีวิตต่อไปทั้งๆที่ปัญหาเรื่องพ่อยังไม่ถูกเเก้ไขเอานะ?
ต่อจากนี้ในต้นฉบับจะเป็นเรื่องราวที่ยูอิจิต้องเข้าไปช่วยเหลือเธอ
ถ้าเขาคบกับฟุจิเสะเอาตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเรื่องพรรค์นั้นจะไม่เกิดขึ้นเหรอ?
หลังจากนั้นเธอจะต้อง…
ผมมองไปในทิศทางที่มีร่างของยูอิจิกับฟุจิเสะอยู่
บรรยากาศสนุกสนานที่เเผ่ออกมาจากพวกเขาสองคนตั้งเเต่เมื่อกี้เริ่มหายไปเล็กน้อย ในขณะเดียวกันกับที่ทั้งคู่เริ่มเผยความประหม่าให้เห็น
บางทีพวกเขาคงกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องการสารภาพรักไว้ในหัว ระหว่างที่มุ่งหน้าไปยังจุดที่มีเเสงไฟนั่นก็เป็นได้
ดูเหมือนเดทวันนี้พวกเขาทั้งสองจะใกล้ชิดกันยิ่งกว่าในเนื้อเรื่องต้นฉบับซะอีก
เเม้คิดจะหยุดทั้งคู่เอาป่านนี้อาจจะยากเกินไปเเล้วก็ได้
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ…
“ฮะ.. ฮิซามูระ พวกเราเองก็ไปตรงจุดที่มีไฟนั่นด้วยดีไหม? ฉะ.. ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายที่นั่น…”
“เซย์จัง”
“มะ.. มีอะไรเหรอ?”
“โทษที พอดีชั้นมีธุระด่วนเข้ามาน่ะ”
“…หา?”
ผมเริ่มวิ่งทะยานโดยไม่ฟังเเม้กระทั่งคําตอบของเซย์จังด้วยซํ้า
ขอโทษนะ เซย์จัง
เซย์จังคงคิดถึงฟุจิเสะเลยพยายามขวางทางโทโจวอินซังสินะ
ถึงขนาดอุตส่าห์เก็บเป็นความลับเพื่อไม่ให้ฟุจิเสะรู้เข้าจนต้องกังวลด้วย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมน่ะ… ยังไม่อยากให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันตั้งเเต่ตอนนี้
คิดว่าคงมีสักวันที่ยูอิจิต้องเลือกอย่างเเน่นอนว่าระหว่างทั้งสอง ฟุจิเสะ หรือ โทโจวอินซัง เขาจะเลือกใคร
เเต่ขืนเป็นเเบบนี้ต่อไป ยูอิจิจะเลือกฟุจิเสะโดยที่ไม่เเม้กระทั่งจะเหลียวมองโทโจวอินซังเลยด้วยซํ้า
เส้นทางนั้นจะต้องไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกเเน่
เเล้วก็อีกอย่าง… ถึงจะพูดต่อหน้าฟุจิเสะหรือเซย์จังไม่ได้ก็เถอะ
ภายใน [โอโจ้วจามะ] เเห่งนี้ ตัวละครที่ผมชอบเป็นอันดับสองคือ โทโจวอิน คาโอริ นี่เเหละ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ผมจึงรีบวิ่งให้รวดเร็วขึ้นไปอีก ก่อนจะเข้าไปคุยกับชายชราในชุดพ่อบ้าน
“คือว่า! ขอเวลาหน่อยได้ไหมครับ!”
“…มีอะไรกับกระผมรึเปล่าครับ”
คุณปู่ชุดพ่อบ้านเหลียวเเลมาทางผมพร้อมเอ่ยถามมาเเบบนั้นอย่างเงียบเชียบ
ผมได้ยินเสียงของคุณปู่เขาเป็นครั้งเเรก ช่างเป็นเสียงอันเเข็งขันเเละเท่อะไรเยี่ยงนี้
“ช่วยพาผมไปหาโทโจวอินซังด้วยครับ”
“…คุณเป็นอะไรกับคุณหนูหรือครับ?”
เขากล่าวออกมาเช่นนั้นด้วยท่าทางระเเวงเล็กน้อยจากนั้นจึงช้อนสายตาลงมาที่ผม
ผมกับโทโจวอินซังจะเรียกว่าเป็นเพื่อนกันก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก
ถ้างั้นสถานะของผม… คงเป็นเเบบนี้ล่ะมั้ง
“ผมเป็นเพื่อนซี้ของเจ้าคนที่ โทโจวอิน คาโอริ ชอบน่ะครับ”
ติดตามเพจผู้เเปลได้ที่ Ao2Sides