รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 846 มิมีผู้ใดกล้าลงมือตรง ๆ ต่างสืบเสาะเลียบ ๆ เคียง ๆ กันทั้งสิ้น!

บทที่ 846 มิมีผู้ใดกล้าลงมือตรง ๆ ต่างสืบเสาะเลียบ ๆ เคียง ๆ กันทั้งสิ้น!

บทที่ 846 มิมีผู้ใดกล้าลงมือตรง ๆ ต่างสืบเสาะเลียบ ๆ เคียง ๆ กันทั้งสิ้น!

โลงโลหิตสั่นไหว สิ่งมีชีวิตในที่นั้นตกตะลึงเช่นกัน ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่น ลำพังภาพวาดทั้งสองในมือสือเฟิงก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง น่าทึ่งเหลือแสน

“บุ่มบ่ามมิได้จริง ๆ!”

มันเอ่ยเสียงขึงขัง รำพันไปว่าที่มันกับมารกระดูกมิได้ตรงไปหาหลี่จิ่วเต้าเลยนับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องยิ่ง

เพราะดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ หลี่จิ่วเต้าน่าพรั่นพรึงและทรงพลังกว่าที่พวกมันคิดมาก!

“รีบจับกุมพวกเขาเอาไว้!”

มันบอกกับมารกระดูก

หลี่จิ่วเต้ายกสองภาพวาดระดับนี้ให้สือเฟิงได้ง่าย ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงต่อการด้วยยากสุด ๆ พวกเขาจำต้องหารือกันอีกยาว ไม่ควรผลีผลามทำการใด

“ได้!”

มารกระดูกพยักหน้า ขณะที่รู้สึกตื่นเต้นยังมิลืมความน่าพรั่นพรึงของหลี่จิ่วเต้าที่สะท้อนให้เห็นจากการนี้

พวกมันจำต้องหารือกันอีกยาวจริง ๆ!

เสียงดังตู้ม มันลงมือโดยยื่นกรงเล็บกระดูกข้างหนึ่งออกไปจับตัวสือเฟิง หมายจะเปิดกะโหลกของสือเฟิง แล้วขุดสมองเขาออกมา

พวกมันจะได้คำตอบที่พวกมันต้องการจากสมองของสือเฟิง

“ฆ่า!”

สือเฟิงบุกออกไป แม้นรู้ดีว่ามันมิใช่คู่มือของมารกระดูก ทว่าเขามิอาจอยู่รอความตายเฉย ๆ!

ภาพวาดหยินหยางส่องประกาย แต่กลับถูกกรงเล็บกระดูกของมารกระดูกกำราบลง หม่นหมองสิ้นประกายในพริบตา

“เอาสมองของเจ้ามาเสีย!”

มารกระดูกหัวเราะเสียงเย็น กรงเล็บกระดูกข้างนั้นทลายขีดจำกัด ปรี่มาอยู่เหนือศีรษะสือเฟิงในเสี้ยวลมหายใจ สือเฟิงก็รู้สึกถึงกรงเล็บกระดูกที่กดทับบนหัวของตนเช่นกัน!

ไอเย็นพุ่งพรวดขึ้นจากฝ่าเท้าของสือเฟิง สือเฟิงรู้สึกว่าเขานั้นจบสิ้นแล้ว ต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว

ทว่าเวลานั้นเอง แหวนเพชรบนมือสือเฟิงเปล่งแสงเจิดจ้าออกมาฉับพลัน กฎระเบียบอันน่าครั่นคร้ามโลดแล่นไม่หยุด กรงเล็บกระดูกของมารกระดูกถูกบดขยี้จนแหลกลาญอย่างสิ้นเชิง!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป มารกระดูกไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ

และหลังมันตั้งสติได้แล้วก็มีสีหน้าเหลือเชื่อ

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”

มันมิอาจเชื่อได้ลง แหวนเพชรวงเล็ก ๆ นี่ไยจึงน่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนี้ มีพลังสยดสยองมากมายปานนี้

สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตก็ตะลึงเช่นกัน คิดไม่ถึงเลยสักนิด หลี่จิ่วเต้ามีของวิเศษมากขนาดไหนกัน ถึงได้ยกสมบัติให้สือเฟิงตั้งหลายชิ้นเยี่ยงนี้

“จริงสิ นี่คือของขวัญแต่งงานที่คุณชายมอบให้พวกเรา!”

ดวงตาของฉินซินวาวโรจน์ขณะเอ่ยกับสือเฟิง “ท่านพี่ ข้าจะช่วยท่านเอง!”

นางบุกไปหามารกระดูกด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม นางไม่เพียงแต่มีแหวนเพชรเท่านั้น คุณชายยังมอบเครื่องประดับเพชรให้นางครบชุดอีกด้วย!

นางที่เป็นเช่นนี้ ทรงพลังยิ่งกว่าสือเฟิงเสียอีก!

“ฆ่า!”

สือเฟิงหัวเราะร่วน หัวใจเบิกบานเปี่ยมล้น ความกังวลก่อนหน้ามลายสิ้น

นอกจากนี้ มันเองก็สะท้อนใจอย่างยิ่งยวด คุณชายก็คือคุณชาย คราใดได้ลงมือล้วนไม่ธรรมดา ของขวัญแต่งงานที่มอบให้พวกเขาแกร่งกล้าน่าทึ่งเป็นที่สุด!

“บังอาจนัก!”

มารกระดูกเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “อาหารก็คืออาหาร มียอดศาสตราในครอบครองแล้วอย่างไร ลงท้ายก็ต้องถูกสังหารอยู่ดี!”

มันสำแดงฝีมืออันทรงพลัง หมอกไอมุ่งร้ายแผ่ซ่านออกไป ภาพในปฐพีนี้สับเปลี่ยนเป็นสมรภูมิโบราณ ซากศพเปื้อนเลือดและโครงกระดูกมหาศาลตะเกียกตะกายออกมา บุกไปหาสือเฟิงและฉินซิน!

แหวนเพชรในมือสือเฟิงส่องประกาย ลำแสงน่าสะพรึงพวยพุ่ง ปรากฏการณ์ประหลาดอย่างสมรภูมิโบราณแหลกลาญ ซากศพเปื้อนเลือดและโครงกระดูกเหล่านั้นสลายกลายเป็นจุณกันหมด สลายไปอย่างสิ้นเชิง!

โครม!

โครงกระดูกสั่นไหว สิ่งมีชีวิตในนั้นเคลื่อนไหว อสนีบาตสีเลือดพาดผ่านนภา หนามดินนับคณาพุ่งขึ้นจากธรณี ประกบสังหารสือเฟิงและฉินซินจากทั้งสองด้าน

“ท่านพี่จัดการโครงกะโหลกนั่น ข้าจะจัดการโลงศพนี้เอง”

ฉินซินเอ่ย ส่องแสงไปทั่วร่าง แหวนเพชรและเครื่องประดับของนางต่างต้องประกาย พลังอันยิ่งใหญ่ไหลเวียน พริบตาเดียวก็ลบล้างอสนีบาตสีเลือดและหนามดินได้หมด!

“ได้!”

สือเฟิงเล็งเป้าไปที่มารกระดูก สร้างการเชื่อมต่อพิเศษบางอย่างกับแหวนเพชร เขาสามารถต่อสู้โดยควบคุมพลังในแหวนเพชร!

เสียงดังฟึ่บ เขาดึงทวนยาวเล่มหนึ่งซึ่งหลอมรวมจากพลังแหวนเพชรออกมาจากแหวน ควงทวนบุกไปหามารกระดูก

อีกด้าน ฉินซินก็สร้างการเชื่อมต่อพิเศษบางอย่างกับแหวนเพชร นางตั้งจิต พลังของแหวนเพชรและเครื่องประดับไหลเวียน กลายเป็นเกราะที่ห่อหุ้มตัวนางไว้

จากนั้น หญิงสาวแบมือ กระบี่วิเชียรเล่มหนึ่งพลันปรากฏอยู่ในมือนาง

มือตวัดกระบี่ด้วยท่วงท่าสง่าอาจหาญ บุกไปหาโลงโลหิตด้วยความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นเหลือคณา

มารกระดูกคำรามเสียงยาว กระดูกทุกท่อนในตัวต่างมีอักขระลึกล้ำประหลาดปรากฏขึ้นมาเพื่อเสริมกำลัง ช่วยให้กระดูกของมันยากจะแตกดับ

มันดึงกระดูกช่วงอกออกมาหนึ่งท่อน เข้าต่อสู้ดุเดือดกับสือเฟิง

โลงโลหิตนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า สายเลือดแดงฉานไหลรินลงจากโลงศพ ชวนผวาอย่างยิ่งยวด สั่นเพียงเบา ๆ ก็มีพลังมหาศาลทะลักออกมา สะเทือนถึงผืนฟ้า!

ฉินซินตวัดกระบี่วิเชียรในมือ ทลายพลังที่โจมตีออกจากโลงโลหิตได้ในทันใด มิหนำซ้ำแสงกระบี่ยังถล่มลงบนโลงโลหิต ทิ้งรอยลึกเอาไว้ โลงโลหิตยังเกือบถูกผ่าออก!

“ไอ้ระยำ!”

สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตคำรามเสียงต่ำ มิเคยคาดคิดเลยว่ามันจะถูกบีบคั้นถึงขั้นนี้ เจ้าตัวกระจอกเยี่ยงนี้กลับไล่ต้อนมันจนอยู่ในสถานการณ์เกือบจนตรอก!

เสียงดังตึง ฝาโลงเปิดออก เด็กอ้วนตนหนึ่งพุ่งออกมา มันจักสำแดงพลังพิฆาต ร่างจริงบุกออกมาแล้ว!

นี่คือเด็กอ้วนตัวขาวนวลอมชมพู ตุ้ยนุ้ยน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง ทว่าพริบตาที่ลงมือกลับสยดสยองน่าครั่นคร้ามเหลือแสน!

มืออ้วน ๆ สองข้างของมันโบกสะบัดอย่างรวดเร็ว พลังกฎระเบียบพิเศษบางอย่างถักทอออกมา หลอมรวมเป็นภูเขาลูกใหญ่ ถล่มออกไปด้านหน้า!

การโจมตีนี้น่าสะพรึงสุด ๆ หากปะทุในเทวโลก ทั่วทั้งเทวโลกย่อมต้องย่อยยับไม่เหลือซาก!

ทว่าฉินซินมิได้เกรงกลัว กระบี่วิเชียรในมือฟาดฟันออกไปอย่างรวดเร็ว แสงกระบี่ลำแล้วลำเล่าปรี่เข้าไป บดขยี้ภูเขาลูกใหญ่ซึ่งหลอมขึ้นด้วยพลังกฎระเบียบบางอย่างนี้จนแหลกลาญ

เด็กอ้วนคำราม ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผิวทั้งตัวกลายเป็นสีดำคล้ำซ้ำยังแห้งเหี่ยว ดูมิมีความอมน้ำแม้แต่น้อย

มิหนำซ้ำมันยังมีหางงอกออกมา รวมถึงเขาเดี่ยวและปีกสีดำ ตาสองข้างแดงก่ำเหลือแสน!

“ไล่ต้อนข้าจนต้องอยู่ในสภาวะนี้ก่อนกำหนด เจ้าไม่มีทางรอดแน่!”

จิตสังหารของสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตพวยพุ่ง โกรธแค้นอย่างยิ่งยวด

มันต้องใช้กายภาพทรงพลังที่สุดอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฝึกฝนในภายหน้าของมันมหาศาล

เสียงดังตู้ม โลงโลหิตระเบิด เศษโลงศพปลิวเข้ามาบนตัวหมอน หลอมรวมกับเลือดเนื้อของมันกลายเป็นเกราะ

มันบุกออกไปข้างหน้า กล้าแกร่งขึ้นกว่าเดิมจริง ๆ ถึงกับหยุดยั้งแสงกระบี่ที่กระบี่วิเชียรฟาดฟันเข้ามาได้!

เสียงดังฟิ้ว ปีกสีดำบนแผ่นหลังของมันสยาย พริบตาเดียวก็ปรี่มาอยู่ตรงหน้าฉินซิน ไวเสียจนตั้งตัวมิทัน!

เขาเดี่ยวบนศีรษะของมันกระแทกไปหาฉินซินอย่างแรง พลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงไหลเวียน ท่าทางไร้เทียมทาน!

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ฉินซินตั้งตัวไม่ทันเลย และหลังนางตั้งสติได้แล้ว เขาเดี่ยวบนศีรษะสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตก็โหม่งเข้ามาแล้ว

นางทำอันใดไม่ทัน เขาเดี่ยวของสิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตกระแทกกับตัวนาง!

เสียงดังตึง เสียงแตกกระจายดังออกมา ทว่ามิใช่ร่างของฉินซินที่ระเบิด หากแต่เป็นเขาเดี่ยวซึ่งกระแทกกับร่างของฉินซินที่แหลกลาญกลายเป็นผุยผง!

“อะไรกัน!”

สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตตกตะลึง ทั้งยังปวดใจเหลือคณา

นี่มิใช่เขาเดี่ยวธรรมดา หากแต่เป็นจุดที่ขุมปราณชีวิตทั้งตัวของมันหลอมรวมอยู่ หลังแตกสลายแล้วยากจะก่อกำเนิดใหม่ขึ้นอีก สร้างความเสียหายต่อมันตั้งไม่รู้เท่าไหร่!

ตึง! ตึง! ตึง!

อีกด้าน สือเฟิงผู้มีทวนวิเชียรในมือเกรียงไกรน่าครั่นคร้ามไม่แพ้กัน

มารกระดูกสำแดงวิชาลับบางอย่างเพื่อเสริมกำลังให้ตนเอง เปลี่ยนกระดูกของมันให้แข็งกล้าไร้เทียมทาน ทว่า เมื่ออยู่ใต้ทวนวิเชียรเล่มนี้ กระดูกของมันเรียกว่าทนทานมิได้เลย!

สู้กันได้ไม่เท่าไร โครงกระดูกของมันก็พังทลาย ท่อนกระดูกถูกทำลายไปมากมาย!

ผลกระทบต่อมันจากความเสียหายนี้มหาศาลเช่นกัน กระดูกเหล่านี้ล้วนเป็น ‘กระดูกจริง’ ของมัน หลังถูกทำลายไปขนาดนี้ ยากจะงอกเงยขึ้นใหม่อีก

“ไป!”

มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เจ็บใจเป็นที่สุด ต้องมาถูกอาหารในสายตามันทำร้ายถึงปานนี้ มันโมโหจนอกแทบระเบิด

กระนั้นมันก็มิมีหนทาง ไม่ไปไม่ได้ ขืนอยู่ห้ำหั่นกับสือเฟิงที่นี่ต่อ เป็นไปได้ว่าชีวิตของมันอาจต้องจบสิ้นลงที่นี่ด้วย!

จากนั้น มันกัดฟันต้านการโจมตี แล้วสำแดงวิชาลับบางอย่างเพื่อหนีจากที่นี่

สิ่งมีชีวิตในโลงโลหิตนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลังเขาเดี่ยวบนหัวมันแหลกลาญ มันก็ไม่เหลือความคิดอยากต่อสู้อีก เผ่นไปในทันที!

ทว่าการหลบหนีเช่นนี้หาได้ง่ายดาย มันต้องยอมจ่ายด้วยราคาสูง ร่างกายถูกฟันขาดไปครึ่งท่อนถึงหนีจากที่นั่นมาได้!

“ตัวบ้าอะไร บังอาจหมายหัวคุณชาย!”

สือเฟิงเอ่ยด้วยดวงตาวาวโรจน์ “หากได้พบกันอีก ข้าจะต้องกำจัดให้หมด!”

ขณะเดียวกัน ว่านเซวียนมาถึงสำนักไท่หัว ซึ่งตั้งอยู่ในแดนบูรพาทิศแห่งเหยียนโจว

นางเองก็มิกล้าบุกไปหาหลี่จิ่วเต้าโดยตรง คิดจะรู้เรื่องหลี่จิ่วเต้าให้มากกว่านี้ก่อน

และนางหมายหัวเซี่ยเหยียนไว้

เซี่ยเหยียนสนิทชิดเชื้อกับหลี่จิ่วเต้าที่สุด เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ หากนางกำราบเซี่ยเหยียนได้ ย่อมได้รู้เรื่องราวของหลี่จิ่วเต้าจากเซี่ยเหยียนอีกมาก

“เซี่ยเหยียนยังไม่กลับมาอีกหรือ ไม่เป็นไร ข้าจะรอนางกลับมาอยู่ที่นี่”

สีหน้าของนางราบเรียบ พริบตาเดียวก็ปราบทั้งสำนักไท่หัวลง ก้าวเดินอยู่ในสำนักไท่หัวได้อย่างไร้อุปสรรค มิมีผู้ใดสามารถหยุดยั้ง

ระหว่างนั้น ภาพวาดภาพหนึ่งในสำนักไท่หัวส่องแสง เปล่งประกายออกมาสังหารว่านเซวียน แต่กลับถูกซ่านเซวียนลบล้างไปได้ง่ายดาย

นั่นคือภาพวาดเขาไท่หัว เป็นภาพที่หลี่จิ่วเต้ามอบให้บรรพจารย์แห่งสำนักไท่หัว เวิงอู๋โยว ต่อมา เวิงอู๋โยวนำมาแขวนไว้ในสำนัก

“ภาพนี้น่าสนใจยิ่ง…หลี่จิ่วเต้าเอ๋ยหลี่จิ่วเต้า เจ้าเป็นใครกันแน่ แล้วมีไพ่ตายในมืออีกกี่ใบเชียว”

นางไพล่มือสองข้างไว้ด้านหลัง พึมพำเสียงเบากับตนอยู่หน้าภาพวาดไท่หัวขณะจ้องมองมัน

อีกด้าน ในแดนบูรพาทิศแห่งเหยียนโจวเช่นกัน เซียนปีศาจเก้าหางก็มาที่นี่ด้วย

นางสังเกตเห็นจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงที่หลี่จิ่วเต้าอุ้มไว้ในอ้อมอก จึงหมายหัวจิ้งจอกน้อย คิดจะสืบเสาะเรื่องราวของเขาจากมัน

ร่องรอยทุกอย่างบ่งบอกว่าหลี่จิ่วเต้ามิอาจจัดการได้ง่าย ๆ นางเองก็รอบคอบมากเช่นกัน มิได้บุกเข้าไปยังเมืองชิงซาน

“ที่นั่นเป็นฐานทัพใหญ่ของเขา หากไม่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่ควรเข้าไปง่าย ๆ”

นางรู้ว่าหลี่จิ่วเต้าพำนักอยู่ในเมืองชิงซาน ทว่ามิกล้าตรงเข้าไป

บุรุษผู้เล่นกับไฟคนนี้น่าชิงชังยิ่งนัก กระนั้นก็มิอาจดูแคลน

ตั้งจิตเพียงครั้งเดียว นางก็จับพิกัดของเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ได้ นี่คือเผ่าของจิ้งจอกน้อย ขอบเขตของนางสูงจนมิต้องพยากรณ์หรือจับสัมผัสอันใด ก็รับรู้ความเชื่อมโยงทางสายเลือดระหว่างเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์กับจิ้งจอกน้อยได้

ลมหายใจต่อมา นางมาถึงเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ สยบนารีจิ้งจอกสวรรค์ลงทั้งหมด

“ส่งข้อความไปหาจิ้งจอกน้อยของพวกเจ้า ให้นางกลับมาที่นี่”

นางเอ่ยกับหัวหน้าเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ด้วยสีหน้าราบเรียบ

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท