รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 851 จี้รูปหัวใจ เจ้าคือผู้ที่หลี่จิ่วเต้าชอบหรือ?

บทที่ 851 จี้รูปหัวใจ เจ้าคือผู้ที่หลี่จิ่วเต้าชอบหรือ?

บทที่ 851 จี้รูปหัวใจ เจ้าคือผู้ที่หลี่จิ่วเต้าชอบหรือ?

“มาแล้ว ร่างเดิมคือตัวอะไร? แมวน้อยสีขาวตัวหนึ่งที่วิวัฒนาการไม่หยุดหรือ…”

เซียนปีศาจเก้าหางแหงนสายตามอง ไม่ธรรมดาจริง ๆ มองปราดเดียวก็เห็นถึงแก่นกำเนิดของลั่วสุ่ยเลยหรือ

ลั่วสุ่ยมิใช่แมวน้อยสีขาวอย่างเคยแล้ว สายเลือดเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้งหลายครา จากแมวขาวกลายเป็นเสือขาว แล้ววิวัฒนาการจากเสือขาวไปอีก

ร่างอสูรของลั่วสุ่ยในยามนี้อัศจรรย์อย่างแท้จริง เหนือกว่าอสูรทั้งปวง

ลั่วสุ่ยไม่รู้สึกแปลกใจ นางเคยประจักษ์ถึงฝีมือของเซียนปีศาจเก้าหางมาแล้ว นี่คือกุหลาบมีหนามที่ตำมืออย่างยิ่ง ยากจะต่อกรด้วย

“เจ้ากลับมาพร้อมกับจิ้งจอกสองตัวนี้หรือ คงเป็นเขาที่ส่งเจ้ามาใช่หรือไม่ น่าสนใจดีนี่ หลี่จิ่วเต้าคงมิได้คิดว่าเจ้าจะจัดการข้าได้กระมัง”

เซียนปีศาจเก้าหางหันมองลั่วสุ่ยอีกครั้งอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งเกียจคร้านทั้งเย้ายวน สมเป็นนางกุหลาบจริง ๆ พราวเสน่ห์ยิ่งนัก

นางสั่งให้หัวหน้าเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ส่งข่าวให้จิ้งจอกน้อยและจิ้งจอกขาวกลับมา ลั่วสุ่ยกลับตามมาด้วย นางรู้สึกว่าเป็นเพราะหลี่จิ่วเต้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่แล้ว ถึงได้ส่งอีกฝ่ายมาพร้อมจิ้งจอกทั้งสองตัวนี้ด้วย

“มิใช่กระมัง เจ้าคงมิได้คิดว่าข้าไม่สามารถจัดการเจ้าได้ใช่หรือไม่”

ลั่วสุ่ยยอกย้อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เซียนปีศาจเก้าหางเป็นกุหลาบมีหนามแล้วอย่างไร ทำร้ายนางมิได้เสียหน่อย นางสังหารเซียนปีศาจเก้าหางได้ง่ายดาย

แม้ว่าสีหน้าของนางจะราบเรียบ แต่วาจานั้นกลับเปี่ยมไปด้วยความท้าทาย มิได้เกรงใจเซียนปีศาจเก้าหางสักนิด!

เกรงใจได้อย่างไรกันเล่า!

เซียนปีศาจเก้าหางเห็นคุณชายเป็นสัตว์เลี้ยง แล้วยังจะให้คุณชายกลายเป็น…ทาสใต้กระโปรงอีก!

นางทนได้ที่ไหน จิตใจเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะ

“ฮ่า ๆ ช่างมั่นใจเหลือเกิน เป็นแค่สัตว์เลี้ยงในมือผู้อื่นแล้วยังมั่นใจเพียงนี้ได้อยู่อีกหรือ”

เซียนปีศาจเก้าหางหัวเราะ วาจานั้นเต็มไปด้วยความดูแคลนลั่วสุ่ย

นางกล่าวต่อ “กลับไปเสีย บอกให้เจ้านายของเจ้ามา เดิมข้าอยากรออีกหน่อยค่อยไปกำราบเขา ในเมื่อเขารู้ตัวแล้ว ก็ขอกำราบเสียตอนนี้เลยแล้วกัน”

ต้องยอมรับว่านางมีความมั่นใจสูง แม้จะยำเกรงในตัวหลี่จิ่วเต้าอยู่บ้าง แต่ก็มิได้มากมาย กล้าต่อสู้กับหลี่จิ่วเต้าเสียตอนนี้

“เจ้าช่างปากกล้ายิ่ง มิกลัวลิ้นเคล็ดบ้างหรือ!”

ลั่วสุ่ยเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “บารมีของคุณชายเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้! ริอ่านกระโดดโลดเต้นอยู่ที่นี่ สิ่งที่รอเจ้าอยู่มีเพียงความตายเท่านั้น!”

“เจ้ากำลังขู่ข้าหรือ”

เซียนปีศาจเก้าหางหัวเราะอีกครั้ง นางถูกสิ่งมีชีวิตหน้าฉากข่มขู่หรือนี่ ซ้ำยังมิใช่หลี่จิ่วเต้าอีกด้วย หากแต่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งข้างกายหลี่จิ่วเต้าเท่านั้น!

คิดแล้ว แม้แต่ในโลกหลังฉากยังมิมีสิ่งมีชีวิตตนใดกล้าขู่นางสักตน!

นางกลับถูกลั่วสุ่ยข่มขู่เอาเสียนี่ ไม่อยากขำยังยาก

“เหตุใดต้องเดือดดาลปานนั้นด้วยเล่า เป็นเพราะเมื่อครู่เจ้าได้ยินข้าเอ่ยว่าจะกำราบเจ้านายของเจ้ามาเป็นทาสใต้กระโปรง ถึงได้หัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่เช่นนี้หรือ”

เซียนปีศาจเก้าหางหันมองลั่วสุ่ย เอ่ยด้วยท่าทางเย้ายวนไร้ใดเปรียบ “หยุดก่อเรื่องเถิด บุรุษใดในใต้หล้านี้ไม่ต้องการเป็นทาสใต้กระโปรงข้าบ้าง เจ้านายของเจ้าย่อมมิใช่ข้อยกเว้น! หากว่าเจ้านายของเจ้ารู้ว่าเจ้าขัดขวางมิให้เขากลายมาเป็นทาสใต้กระโปรงของข้า น่ากลัวว่าเจ้านายของเจ้าคงโกรธจนต้องฟาดก้นเจ้ากระมัง!”

ชื่อเสียงด้านหว่านเสน่ห์ของนางแซ่ซ้องแม้กระทั่งในโลกหลังฉาก ยอดฝีมือระดับเดียวกันที่หลงเสน่ห์นางก็มีไม่น้อย

และหากนางเอ่ยปากเองว่าอยากรับทาสใต้กระโปรง ไม่รู้ว่าจะมีบุรุษสักเพียงใดที่แย่งกันเข้ามา

“มีกระจกหรือไม่ รบกวนส่องดูตัวเองหน่อยเถอะ!”

สีหน้าลั่วสุ่ยเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น

คุณชายไฉนเลยจะเป็นเฉกเช่นบุรุษอื่น

เซียนปีศาจเก้าหางยกตนเกินไปแล้ว

เซียนปีศาจเก้าหางนั้นงดงามและพราวเสน่ห์เหลือล้นจริง ๆ กระนั้นคิดจะทำให้คุณชายติดบ่วงเสน่ห์ยังห่างชั้นอีกมาก ไม่มีทางเป็นจริงได้เลย

ทว่าการกระทำต่อมาของเซียนปีศาจเก้าหางกลับเป็นผลให้ลั่วสุ่ยอิดหนาระอาใจอย่างที่สุด

เซียนปีศาจเก้าหางหลอมกระจกออกมาบานหนึ่งเพื่อส่องตนเอง

“งดงามมาก มีปัญหาอันใดหรือ”

หลังเซียนปีศาจเก้าหางส่องกระจกแล้ว ก็หันมาบอกกับลั่วสุ่ยเช่นนี้

“!!!”

จิ้งจอกน้อยยังหมดคำพูด เซียนปีศาจเก้าหางผู้นี้มั่นใจในตนเองเกินไปจริง ๆ!

จิ้งจอกขาวเย็นชาผู้รักษาความสุขุมไว้ตลอดยังกลั้นไม่อยู่ในตอนนี้ นางมิเคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน! ไม่สิ จิ้งจอก!

“หยุดลูกไม้ของเจ้าเสีย มันไม่มีผลกับข้า”

เวลานั้นเอง จู่ ๆ ลั่วสุ่ยก็เอ่ยกับเซียนปีศาจเก้าหาง

เซียนปีศาจเก้าหางนั้นไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง บทสนทนาก่อนหน้านี้เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ลับหลังกลับลอบใช้วิชามารยาเพื่อควบคุมจิตใจของนาง!

เมื่อครู่นี้นางเกือบเสียท่าแล้ว ดีที่จี้เพชรถ่ายทอดพลังบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย ทลายพลังมารยาที่รุกรานเข้ามาในวิญญาณของนางโดยไม่รู้ตัว นางถึงได้สติ!

ลั่วสุ่ยนึกกลัวไม่น้อย สิ่งมีชีวิตหลังฉากไม่ธรรมดากันเลยจริง ๆ

หากมิได้จี้เพชรที่คุณชายมอบให้นาง นางคงตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

น่ากลัวเหลือเกิน ก่อนหน้านี้ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด พลังมารยาของเซียนปีศาจเก้าหางเข้ามายังส่วนลึกของวิญญาณนางโดยไมรู้ตัวได้ง่ายดาย อีกเพียงนิดเดียวก็สามารถควบคุมวิญญาณของนางได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว!

ลั่วสุ่ยระมัดระวังตัวขึ้นมาทันที เร่งพลังอาวุธลับทั้งหมดที่นำมาด้วย มิยอมเปิดโอกาสเช่นนี้ให้เซียนปีศาจเก้าหางอีก

“ที่นี่น่าสนใจจริง ๆ!”

เซียนปีศาจเก้าหางหรี่ตาลงกึ่งหนึ่ง สายตาทอประกายประหลาดใจ

พลังมารยาที่ทะลวงเข้าไปยังส่วนลึกของวิญญาณลั่วสุ่ยถูกทำลายลง นางย่อมรู้ได้ในบัดดล

นับว่าเหนือความคาดหมายไปมากจนนางมิอาจทำใจเชื่อได้ลง

ขอบเขตลั่วสุ่ยต่ำต้อยปานใด นางไฉนเลยจะล้มเหลว ทว่าผลสุดท้ายคือนางล้มเหลวจริง ๆ!

“มิน่า หลี่จิ่วเต้าถึงส่งเจ้ามา! ก่อนมา เขาคงประทานของวิเศษให้เจ้าจำนวนหนึ่งแล้วใช่หรือไม่”

นางหันมองลั่วสุ่ย มีหรือจะยังไม่เข้าใจอีก

ลำพังพลังจากตัวลั่วสุ่ยเอง ไม่มีทางทลายพลังมารยาของนางได้เลย และไม่มีทางรับรู้ถึงพลังมารยาของนางที่รุกรานเข้าไปด้วย

เห็นได้ชัดว่าลั่วสุ่ยมียอดสมบัติในตัว และเป็นพลังยอดสมบัติเหล่านั้นที่ทลายพลังมารยาของนาง

“นี่หรือคือความมั่นใจของเจ้า ท้ายสุดแล้วก็ไม่ไหวอยู่ดี!”

เซียนปีศาจเก้าหางพึมพำกับตัวเองเสียงเบา ไม่เหลือเค้าพราวเสน่ห์ ฝ่ามือขาวผ่องดุจหยกยื่นออกไป อักขระโบราณเปล่งแสงเจิดจ้าขณะถล่มไปหาลั่วสุ่ย!

หากหวังพึ่งเพียงเสน่ห์มารยา ไม่มีทางมีที่ยืนในโลกหลังฉาก อย่าว่าแต่เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตผู้ฝึกตนอื่น ๆ มาเป็นของเล่นในมือเลย ตัวนางเองต่างหากที่จะกลายเป็นของเล่นให้สิ่งมีชีวิตผู้ฝึกตนอื่น ๆ

นางมีกำลังรบกล้าแกร่ง มิอาจสบประมาทได้เลย สามารถต่อสู้อย่างทัดเทียมกับว่านเซวียน เหยียบผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกันไว้ใต้เท้า!

เสียงดังฟึ่บ ลำแสงพาดผ่านตัวลั่วสุ่ย ระงับอักขระโบราณที่ถล่มเข้ามา

นางกระโจนตัวขึ้นให้ห่างจากดินแดนเผ่านารีจิ้งจอกสวรรค์ มายังอวกาศนอกอาณาจักร เตรียมต่อสู้กับเซียนปีศาจเก้าหางที่นี่

แววตาเซียนปีศาจเก้าหางทอประกายประหลาด การโจมตีของนางถูกหยุดยั้งไหวอย่างนั้นหรือ เรื่องนี้ออกจะเกิดความคาดหมายของนางไปหน่อย

ทว่านางมิมีทางยอมถอดใจง่าย ๆ อาภรณ์สีแดงพลิ้วไหว เพริศพริ้งระคนวาบหวาม บุกไปยังอวกาศนอกอาณาจักรพร้อมด้วยม่านแสงสีแดง

ทว่าทันทีที่นางออกมาถึงอวกาศก็ถูกถล่ม ดาราดารดาษเข้าบดขยี้เป็นจำนวนนับไม่ถ้วน!

ลั่วสุ่ยหยิบพู่กันออกมาวาดภาพ พริบตาเดียวก็ร่างภาพวาดเอกภพเสร็จ สถานที่ที่เซียนปีศาจเก้าหางเข้าไปก็คือภาพวาดเอกภพนี้

“ลูกไม้ตื้น ๆ!”

หมอกแดงรายล้อมรอบตัวเซียนปีศาจเก้าหาง กำลังรบล้นฟ้า พริบตาเดียวนางก็ฝ่าออกมาจากภาพวาดเอกภพ ไม่มีทางพันธนาการนางไว้ได้เลย

ลั่วสุ่ยถอนหายใจ ความห่างชั้นของขอบเขตมากเกินไปจริง ๆ วิชาของนางยากจะเกิดผลกับเซียนปีศาจเก้าหาง

“นี่หรือคือของวิเศษในตัวเจ้า ทรงพลังมากจริง ๆ แต่ว่า…เจ้าไม่อาจสำแดงพลังของมันออกมาได้”

เซียนปีศาจเก้าหางมองพู่กันในมือลั่วสุ่ยด้วยความประหลาดใจ

นี่หรือคือรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก

นางรับรู้ได้ว่าพู่กันด้ามนี้วิเศษวิโสเพียงใด เป็นยอดศาสตราในยอดศาสตรา

ทว่าเป็นเช่นที่นางว่า นี่มิใช่ของวิเศษเพียงหนึ่งเดียวในตัวลั่วสุ่ยแน่ ลั่วสุ่ยต้องมีของวิเศษชิ้นอื่นอีก

“เจ้าคือผู้ที่หลับเคียงหมอนกับเขาหรือ หืม ไม่สิ แมวที่หลับเคียงหมอนเขาหรือ เขาถึงดีกับเจ้าเพียงนี้ ประทานของวิเศษให้เจ้านานัปการ”

เซียนปีศาจเก้าหางเอ่ยยิ้ม ๆ

“บัดซบ!”

ลั่วสุ่ยเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เซียนปีศาจเก้าหางผู้นี้ใช้ถ้อยคำได้ระคายหูยิ่ง

“เช่นนี้ดูแล้ว เจ้าคงสำคัญต่อเขามาก และคงรู้จักเขาเป็นอย่างดี! ประเสริฐ หลังจับตัวเจ้าได้แล้ว ข้าขอดูหน่อยเถิดว่าบุรุษผู้เล่นกับไฟคนนี้เป็นเช่นไรกันแน่!”

เซียนปีศาจเก้าหางหัวเราะร่วน ตระหง่านอยู่เหนืออวกาศ มั่นใจเต็มเปี่ยม

‘อยากอัดนางให้ยับจริง ๆ!’

ลั่วสุ่ยเห็นท่าทางหัวเราะด้วยความผยองของเซียนปีศาจเก้าหางแล้วโกรธจนขบกรามแน่น นึกอยากลากคอเซียนปีศาจเก้าหางมาสั่งสอนให้รู้ดำรู้ดีสักครา!

‘หากขอบเขตของนางพอ ๆ กับข้าก็คงดี เช่นนั้น ข้าคงเล่นงานนางให้ยับได้!’

นางคิดในใจ

เวลานั้นเอง เสียงดังฟึ่บ จี้เพชรบนคอนางส่องแสงเจิดจรัส

นี่คือจี้รูปหัวใจที่ประดิษฐ์ด้วยความพิถีพิถันไร้ที่ติ วาววามทอประกาย

เทียบกับแหวนเพชรบนมือของสือเฟิงและฉินซิน รวมถึงชุดเครื่องประดับเพชรของฉินซิน ล้วนมิอาจสู้จี้เพชรที่ลั่วสุ่ยสวมใส่อยู่นี้

จี้เพชรชิ้นนี้ใช้วัสดุดีกว่า และงดงามกว่า!

“นี่หรือคือของวิเศษชิ้นนั้น”

ดวงตาของเซียนปีศาจเก้าหางวาวโรจน์ สัมผัสได้ถึงความมหัศจรรย์ของจี้เพชรรูปหัวใจ พลังที่เจืออยู่ในนั้นน่าทึ่งยิ่งนัก!

นางแน่ใจได้ทันทีว่าจี้นี้คือของวิเศษที่ทลายพลังมารยาของนางเมื่อก่อนหน้า

“จี้รูปหัวใจ ดูท่าหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นมองเจ้าเป็นคนสำคัญจริง ๆ!”

นางปริปาก ยื่นฝ่ามือขาวผ่องข้างหนึ่งออกไป

จากนั้นร่มกระดาษมันสีแดงคันใหญ่ก็ปรากฏอยู่ในฝ่ามือของนาง

นางจริงจังอย่างยิ่งยวด รับรู้ถึงความน่ากลัวของจี้รูปหัวใจ มิกล้าประมาทแม้แต่น้อย เรียกอาวุธชิ้นที่ทรงพลังที่สุดของนางออกมา

ร่มกระดาษมันสีแดงคันนี้ได้ทั้งรุกทั้งรับ วัสดุสูงส่งไม่ธรรมดา แม้แต่ในโลกหลังฉากก็ติดอันดับได้แน่นอน เป็นที่เกรงขามของยอดฝีมือหลังฉากจำนวนมาก

“เขาชอบเจ้าหรือ ถึงได้มอบจี้รูปหัวใจให้เจ้า ฮ่า ๆ หากจับตัวเจ้าได้ เขาคงปวดใจมากเลยใช่หรือไม่”

เซียนปีศาจเก้าหางเอ่ยยิ้ม ๆ คงท่าทีมั่นใจเหลือล้น “เช่นนั้นหลังจับเจ้าได้แล้ว มิเท่ากับบงการหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นได้ตามใจชอบเลยหรือ”

ชอบ?

หลังได้ยินคำนี้ หัวใจของลั่วสุ่ยพลันกระตุกอย่างแรง

เป็นเช่นนั้นจริงหรือ

ครานั้นคุณชายมิได้เอ่ยคำนี้ เพียงแต่เอ่ยว่าสตรีวัยละอ่อนล้วนชื่นชอบลายหัวใจ จึงตีจี้ห้อยรูปหัวใจให้นาง

“มาเถิด ขอข้าดูหน่อยว่าหลี่จิ่วเต้าผู้นี้มีตื้นลึกหนาบางอย่างไร ถึงได้กล้าส่งคนที่ตนชอบมานี่!”

มือข้างหนึ่งของเซียนปีศาจเก้าหางค้ำร่มกระดาษมัน เยื้องย่างไปหาลั่วสุ่ยอย่างแช่มช้า

ภาพนี้ช่างเฉิดฉันงามงด ดวงหน้าและบุคลิกของเซียนปีศาจเก้าหางมิอาจจาบจ้วง ชวนให้ใจเต้นและคิดไปไกล

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!”

ลั่วสุ่ยมีสีหน้าเย็นชา แม้มิรู้ว่าจี้รูปหัวใจมีพลังเช่นไร

กระนั้นนางเชื่อในตัวคุณชาย

เซียนปีศาจเก้าหางต้องถูกนางเล่นงานได้แน่!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท