Chapter 5 : คนรัก…….?
“ส่วนอันนี้ก็–“
เช้านี้ผมก็ยังให้ชิโนโนเมะช่วยสอนเหมือนเดิม เพียงแต่ สีหน้าของเธอดูจะแข็งทื่อกว่าปกติ
ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่าเมื่อวานดันไปทำเธอโกรธน่ะ ผมควร…..จะขอโทษดีไหม? ไม่สิ การเอาแต่ขอโทษซ้ำๆมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดเพิ่มเท่านั้น
แย่ชัดมัด ผมมีเพื่อนน้อยเกินกว่าจะรู้ว่าต้องทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้
“……เป็นอะไรไปคะ?”
บางทีชิโนโนเมะอาจจะสังเกตเห็นผมก่อนที่เธอจะมองหน้าผม เธอยังน่ารักเหมือนเดิมเลย
“มะ ไม่ ไม่มีอะไร”
ผมส่ายหัวให้เธอก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก
บางอย่างที่ผมตั้งใจจะถามแต่ก็ไม่ได้ทำจนในท้ายที่สุด ผมก็ลืมถามไปซะสนิท
“จะว่าไปชิโนโนมะ ตอนขากลับเนี่ยเธอไม่เป็นไรหรอ? ถ้าไม่รังเกียจฉันไปส่งได้นะ”
“ได้หรอคะ!?”
ชิโนโนเมะเหมือนจะกระตือรือร้นกับพูดของผม หรือถ้าจะให้ชัดเจนกว่านั้น…
“จะ ใจเย็นก่อน ใกล้ไปแล้ว”
เธอขยับมาใกล้จนหน้าของเราเราอยู่ห่างกันไม่มาก ….แถมหน้าอกของเธอก็กำลังโดนแขนผมอยู่ด้วย
มันเป็นความรู้สึกนุ่มนิ่มกว่าทุกอย่างที่เคยสัมผัสมาเลย เล่นเอาหัวใจของผมส่งเสียงแปลกๆออกมาด้วย
“อ๋า ขะ ขอโทษค่ะ”
โชคดีที่ชิโนโนเมะสังเกตเห็นและขยับร่างของเธอออกไปทันที แต่ถึงเธอจะขยับออกไปแล้วคนบนรถไฟก็มีเยอะอยู่ดี เพราะงั้นระยะห่างก็เพียงแค่ไหล่ของเราแทบไม่ชนกันเท่านั้น
“…… ไม่เป็นไรหรอก กลับเข้าเรื่อกันดีกว่า ฉันคิดมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าเธอก็นั่งรถไฟกลับบ้านเหมือนกันใช่ไหม? แล้วจนถึงตอนนี้ ทุกๆอย่างโอเคดีรึเปล่า?”
ชิโนโนเมะตัวสั่นเมื่อถูกผมถามแบบนั้น
“……มะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ฉันมักจะได้อยู่ในขบวนที่มีผู้หญิงเยอะน่ะค่ะ”
“โชคดีที่เจอขบวนแบบนั้นนะ”
“ค่ะ ฉันรู้ว่าสักวันก็คงจะดวงกุดแน่ๆ”
“…..บางครั้งเธอก็เงอะงะสุดๆเลยนะเนี่ย”
มันค่อนข้างแตกต่างจากภาพลักษณ์แรกของเธอที่ผมเห็นมาก ……แต่ก็นะ มันเป็นช่องว่างความต่างเหมือนมนุษย์ทั่วไป ผมแค่อดคิดว่ามันน่าเอ็นดูไม่ได้เท่านั้นเอง
“ฮึ่ม……ก็ปฎิเสธไม่ได้หรอกค่ะ”
“บอกไว้ก่อนล่ะว่าไม่ได้หมายความไปในทางไม่ดี”
ผมบอกเธอแล้วยิ้มแหยๆขณะที่เธอพองแก้มออก …..ยังไงก็ตาม ผมดีใจที่เธอกลับมาแสดงสีหน้าแบบปกติแล้ว
“แต่ก็นะ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะขึ้นรถไฟมาตอนไหนหรอก ช่วยบอกหน่อยได้ไหม?”
“อ่า ค่ะ ปกติฉันจะขึ้นรถไฟเวลารอบ4โมงครึ่งพอดี”
“เข้าใจล่ะ งั้นฉันจะขึ้นรอบนั้นด้วยก็แล้วกัน”
พอพูดอย่างนั้น ชิโนโนเมะก็มองมาที่ผมและก้มหัวลงเล็กน้อย
“…..ขอบคุณมากค่ะ”
“อย่าห่วงเลย ยังไงหลังเลิกเรียนฉันก็ว่างอยู่แล้ว”
เอาจริงๆ ช่วงนี้ผมมีเวลาว่างเหลือเฟือ มีแค่บางครั้งเท่านั้นที่ออกไปเที่ยวกับเออิจิหรือคนอื่นๆ ส่วนเวลาว่างนอกเหนือจากนั้นก็จะเอาไปลงกับงานอดิเรกหรือพวกการเรียน
แล้วผมก็อาศัยอยู่คนเดียว เพราะงั้นเลยไม่ต้องกังวลเรื่องกลับบ้านดึกด้วย
“นี่ จะถึงแล้วนะ”
“อ๊ะ จริงด้วย ไว้เจอกันตอนขากลับนะคะ”
“อื้อ ไว้เจอกันนะ”
ชิโนโนเมะโบกมือเบาๆให้ส่วนผมก็โบกมือตอบกลับไป
…..อย่างที่คิดเลย ดูเหมือนเธอจะไม่โกรธแล้วแฮะ
ผมลูบหน้าอกตัวเองเบาๆแล้วมุ่งหน้าไปโรงเรียน
◆◆◆
“นี่ ขอร้องล่ะ ช่วยฉันทีเถอะ!”
“นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ เป็นอะไรของแกอีกเนี่ย? …..มันแย่ขนาดนั้นเลยรึไง?”
เช้านี้เออิจิดูจะเหนื่อยกว่าที่ผ่านมา ผมเลยถามออกไปเพราะกังวลที่เจ้าเออิจิเอาแต่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะ หลังจากนั้นหมอนั่นก็ลุกขึ้นนั่ง
“มันแย่ซะยื่งกว่าแย่อีก ขืนเป็นแบบนี้มีหวังฉันได้ติดตัวแดงอีกคนแหงเลย”
“…….นั่นแย่แล้วหรอ”
แต่คิดๆดู ผมก็ยังติดหนี้เออิจิเรื่องเสื้อผ้าและอื่นๆอีกนี่นะ
…แล้วไม่ลองเอาไปปรึกษาคุณพี่สาวล่ะฟะ ไม่สิ จากที่ดูแล้วผมก็พอเดาได้ว่าเจ้านี่คงจะกลัวนางน่าดู
“วันหยุดนี้ ไม่วันเสาร์ก็อาทิตย์ฉันติดธุระ แต่ถ้าเป็นอีกวันฉันว่าน่าจะพอไปติวให้นายไหวล่ะนะ”
“จริงนะ!?”
“ใกล้ไปแล้วเห้ย”
ผมผลักเออิจิออกไปขณะที่เขาพยายามเอาหน้าเข้ามาใกล้ผม
“ก็นะ ……อย่างที่บอกไป ฉันไม่รู้หรอกว่าจะว่างวันเสาร์หรืออาทิตย์น่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงนายก็จะช่วยมาติวให้นี่นา! นายคือผู้ช่วยชีวิตเลย! จริงๆนะ!”
“อะ อ่า……ก็ดีแล้วเนอะ?”
เพราะแบบนั้น วันหยุดทั้งสองวันของผมก็เลยยุ่งผิดปกติ เอาไว้ค่อยถามเรื่องวันกับชิโนโนเมะก็แล้วกัน
“ที่ฉันจะบอกก็คือ สัปดาห์หน้าก็จะสอบแล้ว เราเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ”
“อืม…..ฉันคงบอกได้แค่ว่าโชคดีเท่านั้นแหละ ไว้มาดูแล้วกันว่าพอถึงวันนั้นฉันจะติวให้นายได้มากแค่ไหน”
“โอ้ ฝากด้วยนะ!”
ดันถูกคาดหวังไว้ซะเยอะเลย แต่ก็……จะพยายามให้สุดความสามารถก็แล้วกัน มันจะดีมากเลยถ้าชิโนโนเมะสามารถมาช่วยติวให้เจ้านี่ได้
พวกเราคุยกันต่อ …แต่อยู่ๆ เออิจิก็เริ่มนิ่งไป
“เป็นอะไรไป? อยากเข้าห้องน้ำรึไง?”
“มะ ไม่มีอะไร ฉันแค่นึกอะไรบางอย่างออกแค่นั้นเอง….ฉันไม่บอกนายหรอก ไม่บอกแน่นอน ขืนนายรู้ล่ะก็ได้เป็นซึมเศร้าแบบ100%แน่ๆ”
พอผมถามว่าเป็นอะไร เขาก็สายหัวไปมาอยู่ท่าเดียว….ถ้าแกพูดแบบนั้นฉันก็ยิ่งไม่สบายใจสิเห้ย
“ฉะ ฉันผิดเองแหละ ช่วยลืมๆไปเถอะนะ”
“ถ้าพูดถึงขั้นนั้นฉันก็จะไม่โกรธนายหรอก ดีไม่ดีฉันอาจจะไปรู้ทีหลังก็ได้ แต่ยังไงฉันก็อยากให้นายเป็นคนบอกนะ”
พอผมพูดดีๆ……เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วมองหน้าผม
“…..มีข่าวลือว่าองค์หญิงน้ำแข็งจากโรงเรียนข้างๆมีแฟนแล้วน่ะสิ”
คำพูดนั้นทำให้ใจผมสั่น
ยังไงก็ตาม คำถามก็ผุดขึ้นในใจผมทันที ถ้าเป็นเธอจริงล่ะก็ ผมมั่นใจว่าถ้าเธอมีแฟนแล้วเธอจะต้องบอกผมแน่ๆ ….แล้วถ้าเธอมีแฟนเธอก็ไม่คงต้องการให้ผมช่วยหรอก
บางทีนั่นอาจจะเป็น…
“ช่วยบอกทีได้ไหมว่าทำไมอยู่ๆถึงเกิดข่าวลือขึ้นมา?”
ผมมีความรู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้เอาซะเลย แต่ก็ยังถามเออิจิก่อนที่เจ้าตัวจะเล่าต่อ
“ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม เมื่อวานมีคนเห็นองค์หญิงน้ำแข็งอยู่แถวหน้าสถานีน่ะสิ ยิ่งกว่านั้น ฉันได้ยินมาว่าเธออยู่กับผู้ชายล่ะแถมยังเป็นเด็กโรงเรียนเราอีกต่างหาก”
“……นายไม่รู้ใช่ไหมว่าหมอนั่นเป็นใคร?”
“ฉันไม่รู้ถึงขนาดนั้นหรอก มีข่าวลือว่าเจ้านั่นเป็นเด็กปี1น่ะ เพราะแถวนั้นมีแต่พวกรุ่นพี่ แต่ฉันก็ไม่มั่นใจหรอกนะ”
“งะ งั้นหรอ”
นั่น ต้องเป็นผมแน่ๆ ตั้งแต่เขาเล่าว่าเห็นที่หน้าสถานีเมื่อวานแล้ว ไม่ต้องคิดให้มากความเลย เป็นผมแหงๆ
“หืม? …..อะไรเนี่ย นายก็ไม่ได้ดูตกใจขนาดนั้นนี่หว่า?”
“มะ ไม่หรอก……ก็นะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกนายไปแล้วจำได้ไหม? เรื่องพวกไอดอลไม่ก็ดาราในทีวีน่ะ”
“โอ๊ะ ใช่ๆ งั้นก็หมายความว่านายไม่ได้คิดมากเรื่องนี้งั้นสินะ”
“ใช่ ฉันไม่เป็นไรหรอก”
ผมดีใจจริงๆที่เขาไม่รู้ รู้สึกโล่งใจชะมัดที่ได้ยินแบบนั้น
……แต่รู้สึกไม่สบายใจเลยเฮะ ผมกำลังคิดว่าชิโนโนเมะจะถูกล้อเรื่องเดียวกันอยู่หรือเปล่านะ
◆◇◆
“ชิโนโนเมะจัง จริงรึเปล่าที่เมื่อวานนี้เธออยู่กับแฟนอ่ะ?”
ที่โรงเรียน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันถูกถามเรื่องที่่คาดไม่ถึง
คนที่กำลังพูดกับฉันอยู่ – คุณฮายามะ คุณฮายามะ ฮิคารุ
นักเรียนสาวผมบลอนด์ที่หาได้ยากในโรงเรียนแห่งนี้….. โรงเรียนของเราอนุญาตให้ย้อมสีผมได้ก็จริง แต่ก็มีไม่กี่คนที่ทำแบบนั้นจริงๆ
คุณฮายามะเป็นคนร่าเริงและเข้ากับทุกคนได้ดี ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเธอตรงกันข้ามกับฉันโดยสิ้นเชิง
การที่อยู่ๆมีคนมาพูดแบบนั้นกับฉันทำให้ฉันค่อนข้างตกใจ คุณฮายามะประสานมือเข้าด้วยกันแล้วทำท่าขอโทษ
“อ๊ะ ขอโทษที่อยู่ๆฉันก็ถามอะไรแปลกๆนะ” เธอพูดแบบนั้น “แต่คือฉันได้ยินเรื่องของเธอมาจากเพื่อนน่ะ แล้วฉันก็สงสัยจริงๆ”
“……ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องขอโทษก็ได้”
พอโดนถามแบบนี้ ฉันเลยกำลังคิดว่าจะตอบยังไงดี ไม่สิ ไม่จำเป็นต้องคิดก็ได้
“คนเมื่อวานคือเพื่อนของฉันค่ะ ไม่มีมากหรือน้อยไปกว่านั้น”
“เอ๋? แต่ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอสนิทกันมากเลยนี่นา หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือ เธอแสดงสีหน้าที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยล่ะ”
ด้วยคำพูดเหล่านั้น ทำเอาฉันอดไม่ได้ที่จะเงียบไป
คุณฮายามะที่เห็นฉันแบบนั้นก็ส่งเสียงออกมา
“ขอโทษนะ ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจเข้าไปก้าวก่ายเรื่องความสัมพันธ์ของเธอหรืออะไรแบบนั้นนะ วางใจได้”
“….ค่ะ แต่เขากับฉันเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆค่ะ”
“โอเค งั้นถ้าคนอื่นมาถาม ให้ฉันปฎิเสธไปแบบนั้นเลยไหม?”
ฉันใช้เวลาคิดอีกเล็กน้อย คุณฮายามะเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างมากในโรงเรียน ถ้าเธอพูดแบบนั้นคำพูดของเธอก็จะกระจายไปได้อย่างรวดเร็ว
“รบกวนด้วยค่ะ”
“โอเค โอเค งั้นไว้เจอกันนะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินใครนอกจากเขาพูดคำว่า ‘แล้วเจอกันใหม่’
….ฉันรู้สึก มีความสุขนิดหน่อย
“อ๊ะ ใช่ๆ ชิโนโนเมะจัง”
“คะ ค่ะ ว่ายังไงคะ?”
พอฉันคิดว่าเรื่องทุกอย่างจบแล้ว อยู่ๆ เธอก็เรียกชื่อฉันฉันก็ตกใจมาก คุณฮายามะยิ้มให้ฉันแล้วพูดว่า……
“ระหว่างเรียน บางครั้งฉันสงสัยว่าเธอกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่หรือเปล่า ก็เพราะใบหน้าของเธอดูผ่อนคลายลงน่ะสิ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ โอเคไหม?”
“หวะ……”
“แต่ส่วนตัวฉันชอบแบบนั้นมากกว่านะ ลาล่ะ”
คุณฮายามะพูดแบบนั้นแล้วจากไป ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของฉันมันร้อนขึ้นแล้วก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆเลย…….
ในท้ายที่สุด พอคาบต่อไปเริ่มขึ้น ความรู้สึกแสบร้อนบนใบหน้าของฉันไม่ได้หายไปไหน….
◆◇◆
— พรุ่งนี้งดหนึ่งวันนะครับ พอดีผมมีธุระนิดหน่อย ;-;