หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ – ตอนที่ 8 องค์หญิงน้ำแข็งตัวน้อย

หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ

Chapter 8 : องค์หญิงน้ำแข็งตัวน้อย

“เอาอันไหนดีอ่ะ? มิโนริคุงจะกินอันไหนหรอ?”

ได้เห็นชิโนโนเมะที่ตื่นเต้นราวกับเด็กน้อยแบบนี้ จิตใจของผมก็รู้สึกสงบลง…..รวมถึงเริ่มรู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้สาเหตุ

จากนั้นพวกเราก็เลือกเมนูกัน

“อืม แล้วตอนนี้ชิโนโนเมะอยากกินอันไหนล่ะ?”

“ก็ ฮึ่มม อันนี้ สเต็กแฮมเบอร์เกอร์ตุ๋นหรือคาโบนาร่าก็น่าอร่อยนะ!”

”…งั้นหรอ ถ้าเธอยังไม่แน่ใจก็สั่งมาทั้งสองอย่างก็ได้”

“มะ ไม่หรอก ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก”

“ถ้างั้น ทำไมเราไม่สั่งมาสองอย่างแล้วแบ่งกันล่ะ?”

พอผมพูดจบเธอก็พยักหน้า

  

“ฉันเข้าใจนะ ……แต่นี่ยังเช้าอยู่เลย เธอกินข้าวเช้ามารึยัง?”

“ยังเลยค่ะ”

“งั้นขอถามอีกอย่างนะ สเต็กแฮมเบิร์กหรือคาโบนาร่า คิดว่าตอนเช้าจะกินไหวรึเปล่า?”

“……ทั้งหมดนั่นคงจะยากไปหน่อย”

“งั้นก็เลือกมาอย่างนึง แล้วเอามาแบ่งกันอย่างละครึ่งแล้วกัน”

ดวงตาของชิโนโนเมะเป็นประกาย เธอมองมาที่ผมราวกับจะพูดว่า ‘จะดีหรอคะ!?’ ผมเลยพยักหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะเปิดดูเมนูอีกครั้ง

ดูจะเป็นมื้อเช้าที่หนักไปหน่อย แต่เอาเถอะ ผมเป็นพวกที่กินข้าวเช้าเยอะอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่น่ามีปัญหาหรอก

“ครับๆ แล้วเครื่องดื่มล่ะ?”

“อา…..ไหนๆ เอาเป็นน้ำส้มก็ได้ค่ะ”

“โอเค ส่วนฉันเอาโค้กแล้วกัน”

จากนั้น ผมเราก็ตัดสินใจเรื่องออเดอร์ได้ก่อนจะสั่นกระดิ่ง

ทันใดนั้นชายสูงอายุในเสื้อคลุมพ่อครัว– ผมคิดว่าเขาน่าจะเป็นผู้จัดการ ก็ปรากฏตัวขึ้น

“รับอะไรดีครับ?”

“อ๋อ ครับ อยากได้เป็นสเต็กแฮมเบิร์กตุ๋น เครื่องดื่มเป็นน้ำส้มกับโค้กอย่างละ 1 แก้ว โอ๊ะ แล้วก็ ขอจานใบนึง ไม่สิ ขอสองเลยครับ”

ผมพูดก่อนที่พนักงานสูงอายุคนนั้นจะมองมาที่ผมสลับกับชิโนโนเมะ

“ถ้าพวกคุณไม่รังเกียจ ผมสามารถเสิร์ฟแฮมเบิร์กได้สองจานนะครับ”

“จะ จะดีหรอครับ?”

“ครับ ……ต้องขออภัยด้วย ถ้าพูดให้ถูกคือสามารถแยกข้าวกับสเต็กแฮมเบิร์กได้ เนื่องจากสเต็กแฮมเบอร์เกอร์จะเย็นลงได้ง่ายหลังจากหั่นแล้ว ผมจึงแนะนำให้หั่นหลังจากเสิร์ฟแล้วครับ”

“รบกวนด้วยครับ”

“เข้าใจแล้วครับ ขอทวนออเดอร์อีกครั้งนะครับ”

หลังจากยืนยันการออเดอร์แล้ว คุณผู้จัดการก็ยิ้มออกมา

“ถ้างั้น ขอให้มีช่วงเวลาดีๆนะครับ”

ยอดเลย ทุกท่วงท่าของคุณผู้จัดการช่างดูสุภาพและงดงามในเวลาเดียวกัน

ราวกับภาพของสุภาพบุรุษในจินตนาการได้ออกมาโลดแล่นในชีวิตจริงเลย จะว่าแบบนั้นก็ได้?

พอโตไปผมก็อยากเป็นแบบนั้นจังเลยน้า

ระหว่างที่ผมคิดเรื่อยเปื่อยอยู่ก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงที่แขนเสื้อ

 “……? ว่าไง?”

ผมมองไปที่ชิโนโนเมะ ที่ในตอนนี้เธอก้มหน้ามองพื้นพร้อมกับหน้าแดง

“อะ เอ่อ….ฉันแสดงภาพลักษณ์ที่ไม่น่าดูออกไปก่อนหน้านี ต้องขอโทษด้วยนะคะ”

“หืม? ….โอ้”

พอมาคิดถึงเรื่องเมื่อกี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนยิ้มออกมา

“ฉันว่ามันก็ดีอยู่นะ? ……ดูน่ารักดี”

“อาาา…..อย่าแกล้งกันสิคะ”

ก็มันเรื่องจริงนี่นา ชิโนโนเมะเอามือปิดหน้าและยักไหล่ด้วยความเขินอาย

“ถะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าคุณจะลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปให้หมดเลยนะคะ”

“อื้อ รับทราบ”

ถึงผมจะรู้สึกว่ามันน่าเสียดายนิดหน่อย แต่ถ้าชิโนโนเมะต้องการแบบนั้นก็ช่วยไม่ได้

  

“งั้นตอนนี้ ช่วยสอนฉันจนกว่าอาหารจะมาเสิร์ฟได้รึเปล่า?”

“คะ ค่ะ แน่นอนค่ะ”

ชิโนโนะเมะพยักหน้าตอบผมขณะที่หน้าของเธอกำลังแดงอยู่

จะกนั้น การติวก็เริ่มขึ้น

 

◆◆◆

 

“……น่ากินมากเลยครับ”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับ ถ้าพวกคุณต้องการอะไรหรืออยากสั่งออเดอร์เพิ่ม กรุณาเรียกผมได้เลยครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ”

เมื่ออาหารมาถึง ดวงตาของชิโนโนเมะก็เป็นประกายเหมือนเด็กน้อยอีกครั้ง เธอกระแอมในลำคอทันที

“….มะ มันดูน่าอร่อยมากเลยค่ะ ฉันขอตัดมันได้ไหมคะ?”

“อื้อ เอาเลย ขอบคุณนะ”

ชิโนโนเมะถือมีดและส้อมด้วยท่าทางที่คุ้นเคย

ใช่ว่าผมจะเข้าใจว่าชิโนโนเมะพยายามจะตัดให้ออกมาเป็นแบบไหน…..แต่ ผมก็อยากจะพูดล่ะนะ

ชิโนโนเมะแสร้งทำเป็นสงบแล้วจ่อมีดเข้าไป ผมรู้สึกได้เลยว่าเธอกลืนน้ำลายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว …..เธอเข้าใจง่ายมาก

พอเห็นแบบนี้ หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกเธอเหมือนกัน …..มันดู เป็นแฮมเบิร์กที่น่าอร่อยมาก

“นี่ค่ะ มิโนริคุง ฉันแบ่งให้นะคะ”

ชิโนโนเมะแบ่งมันออกเป็นจาน เธอตักซอสหลายครั้งด้วยช้อนแล้วเทราดไปด้านบน

น้ำที่หยดลงมาจากสเต็กแฮมเบิร์ก….เป็นสเต็กแฮมเบิร์กที่ดูอร่อยมาก

“……มันดู น่าอร่อยสุดๆเลยนะเนี่ย”

“ใช่ค่ะ!”

คำตอบของชิโนโนเมะทำให้แก้มของผมคลายออกอีกครั้ง ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าแก้มของผมจะคลายอีกสักกี่ครั้งกัน

จากนั้น พวกเราสองคนก็ปรบมือพร้อมกัน

[ [จะกินแล้วนะครับ / ค่ะ] ]

พวกเราเริ่มกินสเต็กแฮมเบิร์กกัน

พูดตรงๆนะ สเต็กแฮมเบิร์กตุ๋นนี้เป็นสเต็กแฮมเบิร์กที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาเลย

แต่ก็ ผมไม่ค่อยได้กินสเต็กแฮมเบิร์กมากนัก เลยตกใจพอได้รับรู้รสชาติของมัน

ผมเห็นว่าชิโนโนเมะก็รู้สึกเหมือนกัน….ไม่สิ เธอดูจะอร่อยกว่าผมด้วยซ้ำ

ด้วยปากเล็กๆที่น่ารักของเธอ ดวงตาของเธอเปล่งประกายทุกครั้งที่กัดลงไป ผมอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปากขึ้น จากนั้นเธอก็หายใจออกดัง [ฟิ้ว…] อย่างพึงพอใจ

ขณะที่ผมกำลังมองไปยิ้มไป อยู่ๆ เราก็สบตากัน

แย่ล่ะสิ ผมมีงานอดิเรกแย่ๆซะแล้ว ไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบตอนที่ถูกมองระหว่างกินข้าวหรอก

ยังไงก็ตาม ชิโนโนเมะก็มองมาที่ผมแล้วยิ้มออกมา

“โธ่~ มิโนริคุง ปากเปื้อนไปหมดแล้วนะคะ เห็นมั้ย?”

“อะ อา ตรงนี้หรอ?”

ผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโง่ๆออกมา ขณะที่ผมพยายามแตะแก้มตัวเอง เห็นๆกันอยู่ว่าผมแตะผิดที่ก่อนที่ชิโนโนเมะจะหัวเราะเบาๆ

“ไม่ใช่ค่ะ …….ฟุฟุ ตรงนี้ต่างหาก”

พูดจบ ชิโนโนเมะก็หยิบผ้าเช็ดปากมาลูบแก้มผมเบาๆ

เธอวางผ้าเช็ดปากลงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมรู้สึกได่เลยว่าแก้มของผมกำลังร้อนขึ้น

“….มิโนริคุงไม่ได้ทำอะไรไม่ดีหรอกนะคะ นี่น่ะ คือการแก้แค้นต่างหากค่ะ”

ชิโนโนเมะหัวเราะแบาๆแล้วพูดแบบนั้น….แต่ ปากของเธอยังคงกระตุกอยู่ ก่อนที่เจ้าตัวจะอั้นไม่ไหวแล้วหัวเราะออกมา

“ฟ ฟุฟุ…..ขอโทษนะคะ แต่มิโนริคุงดูน่าเอ็นดูเหมือนเด็กเล็กๆเลย”

ผมคิดว่านั่นคงเป็นหน้าที่ของผมล่ะนะ ชิโนโนเมะดูมีความสุขผมเลยหัวเราะออกมาด้วย

แต่ว่า ถ้าขืนเรายังอยู่กันแบบนี้ล่ะก็ สเต็กแฮมเบิร์กได้เย็นหมดแน่

“นี่ ถ้าเธอไม่กินมันจะเย็นเอานะ แบบนั้นเสียของแย่เลย ให้ฉันกินแทนได้รึเปล่า?”

“มะ ไม่ให้หรอกค่ะ!”

ชิโนโนเมะมีสีหน้าตกใจและรีบดึงจานที่มีแฮมเบอร์เกอร์มาทางเธอ

ท่าทางนั่น ราวกับเด็กตัวน้อยๆเลย…..จากนั้นผมก็หัวเราะออกมา

เมื่อชิโนโนเมะรู้ตัว เธอก็พองแก้มออกมา

“ธะ โธ่….มิโนริคุง วันนี้ใจร้ายจังเลยนะคะ”

“ขอโทษๆ วันนี้ฉันเห็นสีหน้าเธอหลายแบบเลยล่ะชิโนโนเมะ เอาเป็นว่า รีบกินให้เสร็จดีกว่านะ”

ในตอนนี้ ชิโนโนเมะคงจะอารมณ์ไม่ดีแน่ๆ

แต่นั่นก็แค่ความกังวลที่ไม่มีมูลของผม เธอยังคงกินแฮมเบิร์กอย่างเอร็ดอร่อย

 

◆◆◆

 

ผมว่า เราได้เติมความอิ่มให้กับวิญญาณของตัวเองแล้ว จากนั้น พวกเราก็เรียนต่อ

……แต่

“เป็นอะไรไป? ชิโนโนเมะ เธอดูกระสับกระส่ายมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”

“มะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ!”

ชิโนโนเมะส่ายหัวตอบ ผมจึงมองไปที่หนังสือเรียนแทน

ก่อนหน้านี้ พฤติกรรมของชิโนโนเมะดูแปลกๆไป โดยปกติแล้วเธอจะมุ่งความสนใจไปที่การสอนผม แต่ดูเหมือนตอนนี้เธอจะค่อนข้างไม่กระตือรือร้นเลย

เพราะเธอรู้สึกไม่สบายหรอ? หรือเพราะสถานการณ์ปัจจุบันมันดูน่าเบื่อไป?

แต่ความกังวลของผมก็ถูกปัดหายไปในพริบตา

“นย๊าาา”

ด้วยเสียงที่น่ารักนั่น ไหล่ของชิโนโนเมะกระตุก เธอก้มมองลงไปใต้โต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆ……จากนั้นดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น

“นย๊าาาาา”

ผมก้มลงไปมองเหมือนกัน

ปรากฎเป็นแมวดำตัวหนึ่งที่มีขนสวยงามและสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน

พอมาคิดๆดู จำได้ว่าคาเฟ่ที่นี่ดังเรื่องแมวดำพอสมควรเลยนี่นะ? ผมได้ยินมาว่ามันทั้งเป็นมิตรและฉลาดเลย

ถ้าจำไม่ผิด ชื่อของเธอก็คือ…

“ชื่อของเธอคือลุนครับ”

ผมสังเกตเห็นว่ามีพนักงานเสิร์ฟชายเดินเข้ามาใกล้ๆ ในมือของเขาถือจานอยู่

“เธอฉลาดพอที่จะจำชื่อของตัวเองได้ หากพวกคุณอยากลองเรียกก็สามารถเรียกชื่อของเธอได้ครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ชิโนโนเมะกลืนน้ำลายของเธอก่อนจะ…..มองดูเจ้าแมวดำ— ลุน อย่างหวาดกลัว

 

 

หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ

หลังจากช่วย [องค์หญิงน้ำแข็ง] จากโรงเรียนอื่น เราก็เริ่มต้นด้วยการเป็นเพื่อนกันล่ะครับ

Status: Ongoing
‘มิโนริ โซตะ’ คือเด็กมัธยมปลายธรรมดาทั่วไปและวันนี้เขาก็ใช้ชีวิตตามปกติ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เขากลับมีความสุขทุกครั้งที่ไปโรงเรียน นั่นเพราะรถไฟที่เขานั่งนั้นมีสาวงามคนหนึ่งโดยสารมาด้วยเช่นกัน เธอมีผมสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีฟ้า ใบหน้าละม้ายคล้ายชาวตะวันตกแต่กลับดูบอบบางและน่ารัก เธอมีสไตล์ที่โดดเด่นและงดงามมากจนเรียกได้ว่าสามารถเป็นไอดอลหรือนักแสดงได้เลยทีเดียว [องค์หญิงน้ำแข็ง] นั่นคือฉายาที่เธอได้รับจากโรงเรียนม.ปลายข้างๆ ทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟ โซตะก็มองไปที่เธออยู่ตลอด สาวเจ้ามักจะปฎิเสธนักเรียนม.ปลายทุกคนที่พยายามเข้ามาคุยกับเธออยู่เสมอ จนในตอนนี้บนรถไฟขบวนนี้ก็เหลือนักเรียนม.ปลายอยู่เพียงสองคนคือเขากับเธอ เขาไม่มีความปรารถนาที่จะใกล้ชิดเธอเลยแม้แต่น้อย แต่คิดก็ไม่เคย เจ้าตัวเพียงคิดแค่ว่าจะใช้ชีวิตประวันตามปกติต่อไปเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องขึ้น โซตะเห็นว่าเธอกำลังถูกลวนลามอยู่… ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ เพราะงั้นเขาจึงรวบรวมความกล้าและเข้าไปช่วยเธอ วันถัดมาโซตะคิดว่าเขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แต่เด็กสาวคนนั้นกลับมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าเขา “เอ่อ……คุณช่วยฉันไว้เมื่อวันก่อน ฉันเลยอยากขอบคุณน่ะค่ะ” ‘ชิโนโนมิ นากิ’ [องค์หญิงน้ำแข็ง] หรือก็คือเด็กสาวที่ถูกช่วยเอาไว้เมื่อวาน… โซตะค่อนข้างุนงงเพราะตรงหน้าเขาคือเด็กสาวที่ปกติจะเพียงเหลือบมองจากระยะไกลเท่านั้น ยังไงก็ตาม เขาตอบรับคำขอบคุณของเธอแต่ไม่นานเขาก็เว้นระยะห่างออกมาอีกครั้ง แน่นอน เพราะว่าเขาไม่ได้เกลียดการทำกิจวัตรประจำวันตามปกติไงล่ะ ตอนนั้นเองที่… “คือว่า มีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อยน่ะค่ะ…” โซตะทนฟังน้ำเสียงเศร้าๆของเธอต่อไม่ไหวจึงตัดสินใจฟังคำขอของเธอ “ในตอนที่ฉันอยู่บนรถไฟ ฉันอยากให้คุณช่วย……อยู่ข้างๆฉันได้ไหมคะ?” ด้วยคำพูดของเธอ โซตะไม่สามารถปฎิเสธคำขอได้และตอบตกลง ในตอนนั้นโซตะไม่รู้เลยว่า เขาจะถูกเธอแกล้งครั้งแล้วครั้งเล่า…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท