การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า – ตอนที่ 72 องค์ที่ 3 บดขยี้ – เจ้าหญิงแวมไพร์และข้อเท็จจริงที่น่าตกตะลึง

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ…”

“ไม่เป็นไร จากที่ดู สติเจ้าคงกลับมาเป็นปกติแล้วอย่างนั้นสินะ”

 

พอฉันตื่นขึ้นมาอีกที ฉันก็อยู่ในห้องประชุมแล้ว

ฉันพยายามค้นความทรงจำที่ตกค้างอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้ และจากพฤติกรรมที่เกินไปของฉัน ฉันเลยทำสไลด์โดเกสะเพื่อขอโทษท่านจอมมารอย่างสุดซึ้งในตอนนี้

 

TN: ส่วนถ้าใครงงว่าสไลด์โดเกสะคืออะไร มันก็คือแบบนี้นั่นเองครับ

 

…พอเห็นโยมิในชุดที่น่ารักแบบนั้น น็อตบางตัวในหัวฉันก็หลุดออกไปเลย

ตอนนี้ ขนาดโยมิอยู่ในชุดปกติแล้ว ฉันยังแทบจะประคองสติไว้ไม่อยู่เลย

 

“ลีน นี่เจ้า… เอาจริงเรอะเนี่ย…”

“อะไรเหรอคะ คุณอารอน? หมายความว่ายังไงเหรอคะ? ถ้าคุณจะเอาล่ะก็ ฉันก็ไม่ลังเลนะคะ”

“เจ้า ตั้งแต่เจ้าแข็งแกร่งขึ้นเนี่ย เจ้าก็ไม่เกรงข้าแล้วงั้นเหรอ!?”

 

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คุณอารอนแสดงให้ฉันเห็นชัดเลยว่าเขาน่ะไม่มีความละเอียดอ่อนซักนิด ฉันคิดว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ฉันสามารถประมาทได้มากที่สุดในหมู่ผู้บริหารด้วยซ้ำ

 

“ให้ตาย… เอาเถิด นั่งลงเสีย แล้วมาเริ่มการประชุมกันได้แล้ว”

“ค- ค่ะ… ได้ค่ะ…”

“ลีน ไม่เป็นไรนะ? เจ็บตรงไหนมั้ย?”

 

อา… มีนางฟ้าอยู่ข้างฉันเลยค่า!

เป็นห่วงฉันที่ทำนู่นนี่ไปหลายอย่างเลย!

 

“โยมิ เจ้าไม่ต้องไปโอ๋ลีน บางครั้งบางครา เราก็จำเป็นต้องตักเตือนอย่างเหมาะสมเสียบ้าง มิอย่างนั้น ในภายภาคหน้า นางอาจเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ความก็เป็นได้”

“เอ๋!? ทำเหมือนฉันเป็นเด็กเลยนะคะ!?”

 

“…ฉะนั้นแล้ว มาเริ่มกันเลย”

 

สมาชิกที่เรามารวมตัวกันในตอนนี้ มีขุนพลจตุเทวอสุรา คือฉันกับโยมิ

และมีเหล่าผู้บริหาร คือคุณวีเนล, คุณรูส, คุณอารอน, คุณนัตสึเมะ และคุณกาเลออน

ทุกคนที่เหลือนั้นกำลังสู้อยู่ในสนามรบ เอาเถอะ ยังไงเดี๋ยวฉันก็ไปลงในภาคสนามเหมือนกัน

 

“เรื่องจากเมื่อ 1 วันก่อนหน้านี้ เราได้รับการติดต่อจากเทียน่าและเซดที่กำลังโจมตีราชรัฐเมซุตอยู่… ทั้งสองได้เล่าถึงการพบเข้ากับ 12 อัครสาวกแปลกๆ คนหนึ่ง”

 

12 อัครสาวกแปลกๆ…?

 

“เรามั่นใจว่าลีนเคยพบเจ้านั่นมาแล้วครั้งหนึ่ง นางคนนั้นคือมีอา เจ้าของฉายา ‘สตรีสวรรค์’ อย่างไรเล่า”

 

อ๊า เจ้านั่นนี่เอง

 

“มีอา…?”

“โยมิ? เกิดอะไรขึ้น?”

“เอ๊ะ? อ- อือ ไม่มีอะไรหรอก”

 

โยมิส่ายหัวไปมาระหว่างที่พูดออกมาแบบนั้น …ให้ไม่เป็นห่วงน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ฉันต้องตั้งสมาธิกับเรื่องของท่านจอมมารก่อน

 

“มีอาเป็นผู้ที่สืบทอดตำแหน่งถัดจากอัซบาร์กับทรัซท์ที่พวกเราได้กำจัดทิ้งไปเมื่อ 5 ปีก่อน… แม้นว่าจะเป็นเพียงพวกลำดับต่ำๆ แต่ก็ยังคงเป็นศัตรูที่น่ารำคาญอยู่ดี เพราะเวทมนตร์ที่นางคนนั้นคล่องมือนัก… คือเวทจิตใจ ในบรรดาเวทเหล่านั้น {ชาร์ม [size=10pt](มนต์เสน่ห์)[/size]} ของนางถือว่าโดดเด่นกว่ามนุษย์ทั่วไปเลยทีเดียว ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้ทหารบางส่วนของกองทัพจอมมารได้ถูกทำให้ตกอยู่ในสถานะใกล้เคียงกับการถูกล้างสมองไป”

 

จะว่าไป ฉันก็เคยโดนมาด้วยนี่นา

ถึงฉันจะต้านทานผลของมันได้ก็เถอะ แต่พวกทหารระดับกลางหรือต่ำกว่าน่ะ… ต้องลำบากแน่ๆ ที่พวกเขาจะต้านทานผลของเวทนั่นได้

 

“ด้วยการที่ทหารของพวกเราได้ตกอยู่ภายใต้ผลของเวทมนตร์ในระดับสูงเลยทีเดียว การจะปลดสถานะถูกล้างสมองออกได้คงเป็นการยากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น เราจึงไม่มีทางเลือกใดอื่น นอกเสียจากการต้องกำจัดมีอาโดยตรงเท่านั้น”

“แต่มันยากอยู่นะคะ… ถึงยังไง เจ้านั่นก็หว่านเสน่ห์ใส่พวกเผ่ามารรอบๆ ตัว ในกรณีฉุกเฉิน ผู้หญิงนั่นก็คงจับเอาทหารของพวกเราที่ถูกล้างสมองมาใช้เป็นโล่หรือตัวประกันแน่ๆ… แถมยิ่งกว่านั้น… จากคำพูดของเทียน่ากับเซด จังหวะที่ทั้งคู่เห็นผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะเกิดความลังเลที่จะโจมตีด้วยเหตุผลบางอย่าง อาจจะเป็นพลังซ่อนเร้นบางอย่างก็ได้”

 

อีด**เวรนั่น

 

…อ่าโธ่ แล้วทำไมหน้าของยัยนั่นมันค้างอยู่ในหัวของฉันจังเลยนะ

อ่า ฉันยอมรับแหละว่ายัยนั่นก็ดูสวยจริงๆ ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน

…แต่ว่า มันไม่มีเหตุผลเลยที่ฉันลังเลจะโจมตีในตอนนั้น มันต้องมีปัจจัยอื่นอะไรซักอย่างสิ

 

“เพราะเรื่องดังกล่าวนี้ ทหารที่ยังไม่บาดเจ็บใดๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากการถอยทัพ… หากว่าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ เรื่องคงไม่สู้ดีนัก ถ้าหากทหารของกองทัพที่ถูกล้างสมองไปนั้นถูกนำไปเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ผู้กล้าคนใหม่ ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว อีกทั้งนี่ยังไม่ได้นับรวมถึงเรื่องข้อมูลของโยมิที่อาจรั่วไหลไปอีกต่างหาก เราจะต้องสังหารมีอาลงเสียที่นี่ และจับตัวทหารของพวกเรากลับมาให้จงได้”

 

แต่ว่า จะทำยังไงเหรอคะ?

ทหารของกองทัพจอมมารที่ถูกมนต์เสน่ห์นั่น… ตัดสินเอาจากพลังเวทที่ฉันรู้สึกได้จากตัวของยัยนั่น ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล่ะมั้ง ไม่มีวิธีอื่นนอกจากจัดการยัยนั่น ระหว่างที่คอยหลบมนต์นั่นไปด้วย …น่ารำคาญเป็นบ้า

ต้องเสน่ห์น่ะเป็นหนึ่งในสถานะผิดปกติที่แย่ที่สุดในโลกนี้เลย เพราะว่า ถ้าเกิดเป้าหมายต้องเสน่ห์ลงไปลึกถึงแก่นกระดูกล่ะก็ ในท้ายที่่สุด ถ้าเกิดถูกสั่งให้ตาย เป้าหมายก็จะฆ่าตัวตายทันทีอย่างไม่ลังเลเลย

เอาเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้มีมาตรการรับมือหรอกนะ…

 

แต่ว่า ยังไม่มีแผนดีๆ ที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย

มันไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าเป็นพวก 12 อัครสาวกสายต่อสู้แบบนักรบ ถ้าเป็นขุนพลจตุเทวอสุราหรือคุณเรนไปลุยล่ะก็ พวกนั้นก็จะถูกยำเละได้เลยถ้าเกิดไม่ใช่พวกระดับสูงล่ะนะ

แต่ก็นะ พวกสายพิเศษน่ะน่ารำคาญกว่ากันเยอะ เพราะพลังพิเศษนั่น มาตรการตอบโต้จะลำบากถ้าเกิดแผนหนึ่งผิดพลาดไป

การประชุมลากมายาวนานมากแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่มีไอเดียดีๆ เลย

 

“โยมิ มีอะไรหรือเปล่า… โยมิ?”

“…เอ๊ะ? …อ่า ขอโทษนะ มีอะไรเหรอ?”

 

…? หายากนะเนี่ยที่โยมิจะเหม่อ

ต้องมีอะไรแน่ๆ เลย?

 

“โยมิ เธอส่ายหัวไปมา แถมส่งเสียงครวญครางนิดๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

“ม- ไม่… คือ…”

“อะไรงั้นหรือ โยมิ? มีบางอย่างเข้ามาในหัวอย่างนั้นเหรอ?”

“โห แบบนั้นก็อยากฟังอยู่นะ”

“อะ ไม่ใช่หยั่งนั้นค่ะ… คือ ชื่อมีอานี่… รู้สึกเหมือนเคยได้ยินที่ไหน…”

“ก็ได้ยินมาเมื่อกี้นี้เองนี่?”

“ไม่ค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น… เราเคยได้ยินมัน เมื่อนานมาแล้ว…”

 

โยมิเมื่อก่อนเหรอ?

…อาจจะตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารก็ได้ …หรือถ้าจะระบุให้ชัดกว่านั้น ก็ต้องตั้งแต่ก่อนที่โยมิจะเป็นผู้กล้าเลยสิ

 

โยมิมีความทรงจำตอนก่อนอายุ 5 ขวบเลือนรางมากๅ เพราะสิ่งที่เธอถูกกระทำมาในช่วงที่เธอเป็นผู้กล้าน่ะ เธอเลยจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อเดิมของเธอเองด้วยซ้ำ

 

“อืม… ที่ไหนนะ… มีอา… มีอา… รู้สึกเหมือน เราเคยพูดชื่อนั่นมาแล้วหลายครั้งมาก่อนเลย…”

“อึม ถ้าเกิดเจ้าได้เห็นหน้าล่ะก็ เจ้าอาจจำอะไรขึ้นมาได้ก็ได้ รอสักครู่นะ เดี๋ยวเราเอาภาพขึ้นจอก่อน”

 

ท่านจอมมารพูดแบบนั้น ก่อนจะวาดแขนในอากาศ แล้วภาพหน้าของมีอาก็ฉายขึ้นอย่างกับอยู่ในโรงหนังเลย

…บ้าเอ๊ย ทำไมฉันถึงยังคิดว่าหน้าของยัยนี่ถึงสวยขึ้นมาล่ะเนี่ย

อาเระ? แต่… พอมาดูอีกทีแล้ว หน้ายัยนี่… ทำไม รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่อื่นมาก่อน…

 

“หน้านั่น… แน่ๆ… เมื่อก่อนนี้… อึ๊ก!… อ๊า มัน เจ็บ…!?”

“โยมิ!?”

“โยมิจัง!?”

“นี่ โยมิ! เป็นอะไรน่ะ แข็งใจไว้ก่อนนะ!”

 

ทันทีที่ภาพวิดีโอถูกฉายขึ้นมา โยมิก็คุกเข่าลง เอามือกุมหัวตรงนั้นเลย

เอ๊ะ ฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย!? โยมิ!?

 

“ม- ไม่ เป็นไร…! ก็แค่ เจ็บที่หัว เท่านั้น…! ยิ่งกว่า นั้น… จำ บางอย่าง ขึ้นมา…!”

“ไม่ต้องพยายามนึกแล้ว! ตั้งสติให้ดีก่อนสิ!?”

“อื้อ…! อ๊า…! ……จ- จริงสิ… หน้าแบบนั้น… มองที่ฉันด้วยสายตาเย็นชามาตลอด… หน้า แบบนั้น…”

 

สายตา… เย็นชา?

มีอาน่ะนะ?

 

“นังนั่น… เด่นดัง ในหมู่คน… เราน่ะ… ไอ้ ตัวปัญหา… เธอน่ะสวยเสมอ สวยมาตลอด… เราถูกบอกมาตลอด ว่าด้อยกว่า…”

 

ไอ้ตาถั่วพวกนั้นมันใคร!?

ดูยังไง โยมิก็น่ารักกว่านังนั่นชัดๆ…

 

“มีอา… มีอา… พี่ สาว…”

 

ฉันจะเป็นคนฟาดค้อนพิพากษาใส่……เอง?

เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ? พี่สาวงั้นเหรอ?

 

“พ-…พี่สาว? นางคนนั้นเป็นพี่สาวของเจ้าอย่างนั้นฤ!?”

“ค- ค่ะ… ไม่ ผิด แน่”

 

…อ๊าาา!?

แน่นอนสินะ… ผมสีเดียวกัน บางส่วนของหน้าก็เหมือนกันด้วย…

อ้อ! เข้าใจแล้ว เหตุผลที่ฉันเกิดลังเลที่จะโจมตีนังนั่น ก็เพราะเธอมีบางส่วนดูคล้ายโยมินี่เอง!

ที่คุณเทียน่ากับคุณเซดเกิดลังเลขึ้นมา ก็คงเพราะเหตุผลเดียวกันแน่นอน…!

 

‘ใช่ค่ะ ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนเลยค่ะ ฝ่าบาท’

‘งั้นเหรอ ทำได้ดีมาก มีอา’

‘อุฮุฮุ แน่นอนเลยค่ะท่าน ต่างจากน้องสาวโง่เง่าไร้ความสามารถของดิฉันอย่างสิ้นเชิงอยู่แล้วค่ะ’

‘…นั้นสินะ สอบปากคำต่อได้เลย’

‘เข้าใจแล้วค่ะ’

“อุฮุฮุฮุ… ถ้างั้น ดิฉันจะถามอะไรกับพวกเผ่ามารน่าสมเพชอย่างพวกแกซักหน่อยนะ… ตัวตนของขุนพลจตุเทวอสุรา… โดยเฉพาะ ตำแหน่งที่ 1 นี่ ขอรายละเอียดเยอะซักหน่อย …นะ?”

 

TN: บอกเลย ใครทันสังเกตจุดที่ซ่อนไว้ตั้งแต่ตอนที่ 61] เลยเดาไว้ในใจแล้วเนี่ย คุณเก่งมากครับ

และสำหรับใครที่จำไม่ได้ว่ามีอาทำอะไรไว้บ้าง ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 20 ได้เลยนะครับ จะได้ยิ่งเกลียดนางได้มากขึ้นอีก

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Status: Ongoing
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน … แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว…ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท