“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ…”
“ไม่เป็นไร จากที่ดู สติเจ้าคงกลับมาเป็นปกติแล้วอย่างนั้นสินะ”
พอฉันตื่นขึ้นมาอีกที ฉันก็อยู่ในห้องประชุมแล้ว
ฉันพยายามค้นความทรงจำที่ตกค้างอยู่ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่ได้ และจากพฤติกรรมที่เกินไปของฉัน ฉันเลยทำสไลด์โดเกสะเพื่อขอโทษท่านจอมมารอย่างสุดซึ้งในตอนนี้
TN: ส่วนถ้าใครงงว่าสไลด์โดเกสะคืออะไร มันก็คือแบบนี้นั่นเองครับ
…พอเห็นโยมิในชุดที่น่ารักแบบนั้น น็อตบางตัวในหัวฉันก็หลุดออกไปเลย
ตอนนี้ ขนาดโยมิอยู่ในชุดปกติแล้ว ฉันยังแทบจะประคองสติไว้ไม่อยู่เลย
“ลีน นี่เจ้า… เอาจริงเรอะเนี่ย…”
“อะไรเหรอคะ คุณอารอน? หมายความว่ายังไงเหรอคะ? ถ้าคุณจะเอาล่ะก็ ฉันก็ไม่ลังเลนะคะ”
“เจ้า ตั้งแต่เจ้าแข็งแกร่งขึ้นเนี่ย เจ้าก็ไม่เกรงข้าแล้วงั้นเหรอ!?”
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา คุณอารอนแสดงให้ฉันเห็นชัดเลยว่าเขาน่ะไม่มีความละเอียดอ่อนซักนิด ฉันคิดว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ฉันสามารถประมาทได้มากที่สุดในหมู่ผู้บริหารด้วยซ้ำ
“ให้ตาย… เอาเถิด นั่งลงเสีย แล้วมาเริ่มการประชุมกันได้แล้ว”
“ค- ค่ะ… ได้ค่ะ…”
“ลีน ไม่เป็นไรนะ? เจ็บตรงไหนมั้ย?”
อา… มีนางฟ้าอยู่ข้างฉันเลยค่า!
เป็นห่วงฉันที่ทำนู่นนี่ไปหลายอย่างเลย!
“โยมิ เจ้าไม่ต้องไปโอ๋ลีน บางครั้งบางครา เราก็จำเป็นต้องตักเตือนอย่างเหมาะสมเสียบ้าง มิอย่างนั้น ในภายภาคหน้า นางอาจเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้ความก็เป็นได้”
“เอ๋!? ทำเหมือนฉันเป็นเด็กเลยนะคะ!?”
“…ฉะนั้นแล้ว มาเริ่มกันเลย”
สมาชิกที่เรามารวมตัวกันในตอนนี้ มีขุนพลจตุเทวอสุรา คือฉันกับโยมิ
และมีเหล่าผู้บริหาร คือคุณวีเนล, คุณรูส, คุณอารอน, คุณนัตสึเมะ และคุณกาเลออน
ทุกคนที่เหลือนั้นกำลังสู้อยู่ในสนามรบ เอาเถอะ ยังไงเดี๋ยวฉันก็ไปลงในภาคสนามเหมือนกัน
“เรื่องจากเมื่อ 1 วันก่อนหน้านี้ เราได้รับการติดต่อจากเทียน่าและเซดที่กำลังโจมตีราชรัฐเมซุตอยู่… ทั้งสองได้เล่าถึงการพบเข้ากับ 12 อัครสาวกแปลกๆ คนหนึ่ง”
12 อัครสาวกแปลกๆ…?
“เรามั่นใจว่าลีนเคยพบเจ้านั่นมาแล้วครั้งหนึ่ง นางคนนั้นคือมีอา เจ้าของฉายา ‘สตรีสวรรค์’ อย่างไรเล่า”
อ๊า เจ้านั่นนี่เอง
“มีอา…?”
“โยมิ? เกิดอะไรขึ้น?”
“เอ๊ะ? อ- อือ ไม่มีอะไรหรอก”
โยมิส่ายหัวไปมาระหว่างที่พูดออกมาแบบนั้น …ให้ไม่เป็นห่วงน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้ฉันต้องตั้งสมาธิกับเรื่องของท่านจอมมารก่อน
“มีอาเป็นผู้ที่สืบทอดตำแหน่งถัดจากอัซบาร์กับทรัซท์ที่พวกเราได้กำจัดทิ้งไปเมื่อ 5 ปีก่อน… แม้นว่าจะเป็นเพียงพวกลำดับต่ำๆ แต่ก็ยังคงเป็นศัตรูที่น่ารำคาญอยู่ดี เพราะเวทมนตร์ที่นางคนนั้นคล่องมือนัก… คือเวทจิตใจ ในบรรดาเวทเหล่านั้น {ชาร์ม [size=10pt](มนต์เสน่ห์)[/size]} ของนางถือว่าโดดเด่นกว่ามนุษย์ทั่วไปเลยทีเดียว ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้ทหารบางส่วนของกองทัพจอมมารได้ถูกทำให้ตกอยู่ในสถานะใกล้เคียงกับการถูกล้างสมองไป”
จะว่าไป ฉันก็เคยโดนมาด้วยนี่นา
ถึงฉันจะต้านทานผลของมันได้ก็เถอะ แต่พวกทหารระดับกลางหรือต่ำกว่าน่ะ… ต้องลำบากแน่ๆ ที่พวกเขาจะต้านทานผลของเวทนั่นได้
“ด้วยการที่ทหารของพวกเราได้ตกอยู่ภายใต้ผลของเวทมนตร์ในระดับสูงเลยทีเดียว การจะปลดสถานะถูกล้างสมองออกได้คงเป็นการยากเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น เราจึงไม่มีทางเลือกใดอื่น นอกเสียจากการต้องกำจัดมีอาโดยตรงเท่านั้น”
“แต่มันยากอยู่นะคะ… ถึงยังไง เจ้านั่นก็หว่านเสน่ห์ใส่พวกเผ่ามารรอบๆ ตัว ในกรณีฉุกเฉิน ผู้หญิงนั่นก็คงจับเอาทหารของพวกเราที่ถูกล้างสมองมาใช้เป็นโล่หรือตัวประกันแน่ๆ… แถมยิ่งกว่านั้น… จากคำพูดของเทียน่ากับเซด จังหวะที่ทั้งคู่เห็นผู้หญิงคนนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะเกิดความลังเลที่จะโจมตีด้วยเหตุผลบางอย่าง อาจจะเป็นพลังซ่อนเร้นบางอย่างก็ได้”
อีด**เวรนั่น
…อ่าโธ่ แล้วทำไมหน้าของยัยนั่นมันค้างอยู่ในหัวของฉันจังเลยนะ
อ่า ฉันยอมรับแหละว่ายัยนั่นก็ดูสวยจริงๆ ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
…แต่ว่า มันไม่มีเหตุผลเลยที่ฉันลังเลจะโจมตีในตอนนั้น มันต้องมีปัจจัยอื่นอะไรซักอย่างสิ
“เพราะเรื่องดังกล่าวนี้ ทหารที่ยังไม่บาดเจ็บใดๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากการถอยทัพ… หากว่าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ เรื่องคงไม่สู้ดีนัก ถ้าหากทหารของกองทัพที่ถูกล้างสมองไปนั้นถูกนำไปเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ผู้กล้าคนใหม่ ก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว อีกทั้งนี่ยังไม่ได้นับรวมถึงเรื่องข้อมูลของโยมิที่อาจรั่วไหลไปอีกต่างหาก เราจะต้องสังหารมีอาลงเสียที่นี่ และจับตัวทหารของพวกเรากลับมาให้จงได้”
แต่ว่า จะทำยังไงเหรอคะ?
ทหารของกองทัพจอมมารที่ถูกมนต์เสน่ห์นั่น… ตัดสินเอาจากพลังเวทที่ฉันรู้สึกได้จากตัวของยัยนั่น ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 200-300 ล่ะมั้ง ไม่มีวิธีอื่นนอกจากจัดการยัยนั่น ระหว่างที่คอยหลบมนต์นั่นไปด้วย …น่ารำคาญเป็นบ้า
ต้องเสน่ห์น่ะเป็นหนึ่งในสถานะผิดปกติที่แย่ที่สุดในโลกนี้เลย เพราะว่า ถ้าเกิดเป้าหมายต้องเสน่ห์ลงไปลึกถึงแก่นกระดูกล่ะก็ ในท้ายที่่สุด ถ้าเกิดถูกสั่งให้ตาย เป้าหมายก็จะฆ่าตัวตายทันทีอย่างไม่ลังเลเลย
เอาเถอะ ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้มีมาตรการรับมือหรอกนะ…
แต่ว่า ยังไม่มีแผนดีๆ ที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
มันไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าเป็นพวก 12 อัครสาวกสายต่อสู้แบบนักรบ ถ้าเป็นขุนพลจตุเทวอสุราหรือคุณเรนไปลุยล่ะก็ พวกนั้นก็จะถูกยำเละได้เลยถ้าเกิดไม่ใช่พวกระดับสูงล่ะนะ
แต่ก็นะ พวกสายพิเศษน่ะน่ารำคาญกว่ากันเยอะ เพราะพลังพิเศษนั่น มาตรการตอบโต้จะลำบากถ้าเกิดแผนหนึ่งผิดพลาดไป
การประชุมลากมายาวนานมากแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่มีไอเดียดีๆ เลย
“โยมิ มีอะไรหรือเปล่า… โยมิ?”
“…เอ๊ะ? …อ่า ขอโทษนะ มีอะไรเหรอ?”
…? หายากนะเนี่ยที่โยมิจะเหม่อ
ต้องมีอะไรแน่ๆ เลย?
“โยมิ เธอส่ายหัวไปมา แถมส่งเสียงครวญครางนิดๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”
“ม- ไม่… คือ…”
“อะไรงั้นหรือ โยมิ? มีบางอย่างเข้ามาในหัวอย่างนั้นเหรอ?”
“โห แบบนั้นก็อยากฟังอยู่นะ”
“อะ ไม่ใช่หยั่งนั้นค่ะ… คือ ชื่อมีอานี่… รู้สึกเหมือนเคยได้ยินที่ไหน…”
“ก็ได้ยินมาเมื่อกี้นี้เองนี่?”
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่แบบนั้น… เราเคยได้ยินมัน เมื่อนานมาแล้ว…”
โยมิเมื่อก่อนเหรอ?
…อาจจะตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารก็ได้ …หรือถ้าจะระบุให้ชัดกว่านั้น ก็ต้องตั้งแต่ก่อนที่โยมิจะเป็นผู้กล้าเลยสิ
โยมิมีความทรงจำตอนก่อนอายุ 5 ขวบเลือนรางมากๅ เพราะสิ่งที่เธอถูกกระทำมาในช่วงที่เธอเป็นผู้กล้าน่ะ เธอเลยจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อเดิมของเธอเองด้วยซ้ำ
“อืม… ที่ไหนนะ… มีอา… มีอา… รู้สึกเหมือน เราเคยพูดชื่อนั่นมาแล้วหลายครั้งมาก่อนเลย…”
“อึม ถ้าเกิดเจ้าได้เห็นหน้าล่ะก็ เจ้าอาจจำอะไรขึ้นมาได้ก็ได้ รอสักครู่นะ เดี๋ยวเราเอาภาพขึ้นจอก่อน”
ท่านจอมมารพูดแบบนั้น ก่อนจะวาดแขนในอากาศ แล้วภาพหน้าของมีอาก็ฉายขึ้นอย่างกับอยู่ในโรงหนังเลย
…บ้าเอ๊ย ทำไมฉันถึงยังคิดว่าหน้าของยัยนี่ถึงสวยขึ้นมาล่ะเนี่ย
อาเระ? แต่… พอมาดูอีกทีแล้ว หน้ายัยนี่… ทำไม รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่อื่นมาก่อน…
“หน้านั่น… แน่ๆ… เมื่อก่อนนี้… อึ๊ก!… อ๊า มัน เจ็บ…!?”
“โยมิ!?”
“โยมิจัง!?”
“นี่ โยมิ! เป็นอะไรน่ะ แข็งใจไว้ก่อนนะ!”
ทันทีที่ภาพวิดีโอถูกฉายขึ้นมา โยมิก็คุกเข่าลง เอามือกุมหัวตรงนั้นเลย
เอ๊ะ ฉันควรจะทำยังไงดีเนี่ย!? โยมิ!?
“ม- ไม่ เป็นไร…! ก็แค่ เจ็บที่หัว เท่านั้น…! ยิ่งกว่า นั้น… จำ บางอย่าง ขึ้นมา…!”
“ไม่ต้องพยายามนึกแล้ว! ตั้งสติให้ดีก่อนสิ!?”
“อื้อ…! อ๊า…! ……จ- จริงสิ… หน้าแบบนั้น… มองที่ฉันด้วยสายตาเย็นชามาตลอด… หน้า แบบนั้น…”
สายตา… เย็นชา?
มีอาน่ะนะ?
“นังนั่น… เด่นดัง ในหมู่คน… เราน่ะ… ไอ้ ตัวปัญหา… เธอน่ะสวยเสมอ สวยมาตลอด… เราถูกบอกมาตลอด ว่าด้อยกว่า…”
ไอ้ตาถั่วพวกนั้นมันใคร!?
ดูยังไง โยมิก็น่ารักกว่านังนั่นชัดๆ…
“มีอา… มีอา… พี่ สาว…”
ฉันจะเป็นคนฟาดค้อนพิพากษาใส่……เอง?
เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ? พี่สาวงั้นเหรอ?
“พ-…พี่สาว? นางคนนั้นเป็นพี่สาวของเจ้าอย่างนั้นฤ!?”
“ค- ค่ะ… ไม่ ผิด แน่”
…อ๊าาา!?
แน่นอนสินะ… ผมสีเดียวกัน บางส่วนของหน้าก็เหมือนกันด้วย…
อ้อ! เข้าใจแล้ว เหตุผลที่ฉันเกิดลังเลที่จะโจมตีนังนั่น ก็เพราะเธอมีบางส่วนดูคล้ายโยมินี่เอง!
ที่คุณเทียน่ากับคุณเซดเกิดลังเลขึ้นมา ก็คงเพราะเหตุผลเดียวกันแน่นอน…!
‘ใช่ค่ะ ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนเลยค่ะ ฝ่าบาท’
‘งั้นเหรอ ทำได้ดีมาก มีอา’
‘อุฮุฮุ แน่นอนเลยค่ะท่าน ต่างจากน้องสาวโง่เง่าไร้ความสามารถของดิฉันอย่างสิ้นเชิงอยู่แล้วค่ะ’
‘…นั้นสินะ สอบปากคำต่อได้เลย’
‘เข้าใจแล้วค่ะ’
“อุฮุฮุฮุ… ถ้างั้น ดิฉันจะถามอะไรกับพวกเผ่ามารน่าสมเพชอย่างพวกแกซักหน่อยนะ… ตัวตนของขุนพลจตุเทวอสุรา… โดยเฉพาะ ตำแหน่งที่ 1 นี่ ขอรายละเอียดเยอะซักหน่อย …นะ?”
TN: บอกเลย ใครทันสังเกตจุดที่ซ่อนไว้ตั้งแต่ตอนที่ 61] เลยเดาไว้ในใจแล้วเนี่ย คุณเก่งมากครับ
และสำหรับใครที่จำไม่ได้ว่ามีอาทำอะไรไว้บ้าง ย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 20 ได้เลยนะครับ จะได้ยิ่งเกลียดนางได้มากขึ้นอีก