(เฮ้อออ อย่างที่คิด ตอนนั้นควรจะหยุดเอเลน่าไว้อย่างสุดกำลังจริงๆนั่นแหละ)
เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว
หลังจากกินอาหารเย็นที่บ้าน เบเรตต์เริ่มนึกเสียใจขณะที่เขากำลังทำการบ้านอยู่ที่โถงใหญ่ในตัวบ้าน
เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากเวลาหลังเลิกเรียน
ผมเดินกลับบ้านพร้อมกับเชียเป็นครั้งแรก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาท่าทางของเธอก็ดูแปลกไป
เธอดูลุกลี้ลุกลน อึดอัดใจ และก็คอยแอบลอบมองหน้าผมอย่างเหม่อลอยอยู่บ่อยๆ
ถึงแม้จะผ่านมาสักพักใหญ่ๆแล้วท่าทีของเธอก็ยังเหมือนเดิม
“เชีย? ตอนเดินขาขวากับแขนขวามันเหวี่ยงไปพร้อมกันแล้วนะ เดินแบบนั้นไม่ลำบากเหรอ?”
“อ๊ะ!”
“ก..ก็นะ…อย่าล้มหน้าคะมำไปก็แล้วกัน”
“ค-ค่ะ!”
“แล้วก็เวลาเธอทำความสะอาดก็มีสมาธิกับงานหน่อย อย่าเอาแต่มองมาทางฉันสิ”
“!?”
ทันทีที่บอกไปแบบนั้นดวงตากลมโตของเชียก็แข็งค้างไป ร่างกายกระตุกกึกๆผมเปียไหวไปมาท่าทางลนลานน่าดู
(นี่อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าผมจะไม่รู้ตัวน่ะ ถ้าเล่นจ้องมาตลอดเวลาขนาดนั้นเป็นใครก็โดนจับได้ทั้งนั้นแหละ)
ที่ทำให้เธอคิดอย่างนั้นอาจจะเพราะผมรู้ตัวอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรเป็นพิเศษล่ะมั้ง
“อะ ข..ขอโทษค่ะ เอ่ออ.. ฉ -ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนการเรียนของท่านเบเรต์จริงๆ…นะคะ….!”
“ไม่เป็นไรๆ ฉันรู้”
ในความเป็นจริงแล้วถ้าสาวใช้ทำอะไรแบบนั้นกับเจ้านายจริงๆล่ะก็ หัวคงจะหลุดออกจากบ่าแทบจะทันทีเลยล่ะมั้ง
และแน่นอนว่าเชียไม่ใช่สาวใช้ประเภทนั้นแน่ แต่เชียก็รีบแก้ต่างอย่างลุกลี้ลุกลน
—ทำไมเชียถึงเริ่มทำตัวประหลาดๆแบบนี้กันนะ? ผมว่าผมรู้สาเหตุแล้วล่ะ
‘….นายเนี่ย เปลี่ยนไปมากจริงๆนะ อ๊ะ? หรือว่า นายเริ่มเข้าใจถึงความน่ารักของเชีย แล้วก็ตกหลุมรักเข้าให้แล้ว….ใช่ปะ?’
‘มันน่าจะเป็นอะไรที่เหมือนการนับถือมากกว่านะ’
‘เอ๋? นับถือ?’
‘อื้อ ก็เพราะมันสุดยอดจริงๆไม่ใช่เหรอ? ถึงเธอจะอายุน้อยกว่าฉันถึงสองปี แต่เธอก็ตื่นแต่เช้าตรู่ทุกวัน ทำงานบ้าน เตรียมอาหาร ไม่ว่าฉันจะดุจะด่าแค่ไหน เชียก็ไม่เคยยอมแพ้เลย อดทนทำงานหนักต่อไป และเป็นเด็กที่ร่าเริงอยู่เสมอ ถ้าเทียบกับฉันต่อให้เป็นภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา ก็คงจะทำแบบเชียไม่ได้หรอก’
สาเหตุเพราะไอ้นั่นแหง เรื่องที่คุยกับเอเลน่าที่เป็นถึงลูกสาวท่านเอิร์ลและก็เป็นเพื่อนกับเชียอีกต่างหาก
เมื่อนึกขึ้นได้มันก็สายไปเสียแล้ว ผมจินตนาการได้ไม่ยากเลยหลังจากที่เอเลน่าฟังเรื่องที่ผมพูดไป แล้วสิ่งต่อไปที่เธอจะทำคืออะไร ‘อุฟุฟุ ฉันจะเอาไปบอกกับเชียให้หมดเปลือกเลย ไอ้เบเรต์บ้า! ’
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่ช่วงพักกลางวันจะหมดและคาบต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น
เอเลน่าได้มารายงานกับผมโดยที่ทำปากจู๋ไปพลางม้วนปอยผมเล่นไปพลาง
“ท่าทางของเชียน่าร๊ากกกมากเลยล่ะน้าา”
“หลังเลิกเรียน ถ้าเธอดูแปลกๆไปนิดหน่อย? ก็ไม่ต้องกังวลไปนะ”
“ฮ๊าา วันนี้เธอจะนอนหลับมั้ยนะ เด็กคนนั้นเป็นประเภทที่ถ้ามีความสุขก็จะค่อนข้างดีดเหมือนเด็กกินนํ้าตาลตอนกลางคืนซะด้วยสิ”
เอเลน่ากล่าว
หลังจากที่เอเลน่าชมเธอ ผมเองก็เห็นดีเห็นงามตามนํ้าไปด้วยเช่นกัน
ก็ บอกตามตรงผมก็ค่อนข้างคาดหวังปฏิกิริยาของเชียหลังจากได้ยินเรื่องนั้นอยู่พอสมควรแหละ แต่ก็ไม่คิดว่าเธอจะอาการหนักถึงขนาดนี้
(ขอร้องล่ะเชีย ได้โปรดช่วยหยุดพฤติกรรมประหลาดๆแบบนั้นที ผมชักจะกลัวแล้วนะ)
ผมหยุดทำการบ้านไว้ก่อนและเริ่มแผนการกู้สถานการณ์นี้
“คือว่านะ เชีย ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“เอะ -เอ๊ะ?”
“เชียเนี่ยทำการบ้านเสร็จไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ? วันนี้เห็นว่าอาจารย์ให้การบ้านมาค่อนข้างเยอะเลยนี่?”
จู่ๆผมก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เอ่ออ..คือว่า ฉันเรียนอยู่คลาสของเมด เลยไม่ค่อยมีการบ้านมากเท่าไหร่ อาจจะฟังดูแปลกๆสำหรับท่านเบเรต์ไปสักหน่อยนะคะ แต่การเรียนไม่ใช่สิ่งสำคัญเป็นอันดับหรอกของสาวใช้หรอก …นะคะ”
“อ่าา อย่างนี้นี่เอง”
ถ้าการเรียนที่มากเกินไปมันส่งผลกระทบกับงานสาวใช้มันก็คงจะเป็นปัญหาล่ะนะ
เพื่อป้องกันไม่ให้เกินเหตุการณ์เช่นนี้ ชั้นเรียนของเมดก็เลยงานน้อยกว่าชั้นเรียนอื่นๆ
“แต่ถึงยังไงมันก็ยังมีปัญหาอยู่นะ มันน่าสงสัยตรงที่ฉันไม่เคยเห็นเธอทำการบ้านเลยนี่แหละ”
“โดยปกติแล้วฉันพยายามทำการบ้านให้เสร็จในภายในเวลาเรียนน่ะค่ะ ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็ทำหลังจากที่ท่านเบเรต์เข้านอนแล้ว ”
“เอ๊ะ? หมายถึงหลังจากที่ผมนอนไปแล้ว ถ้าแค่เข้าห้องนอนไปเฉยๆนี่ไม่นับเหรอ?”
“ช..ใช่ค่ะ”
ผมพยักหน้าตอบเชียเล็กน้อย
“เอ่อ ต้องลำบากรอถึงขนาดนั้นเลย? มันไม่ค่อยสะดวกเลยไม่ใช่เหรอแบบนั้น?”
“ม..มันเป็นเรื่องปกติของสาวใช้ค่ะ….”
“กล่าวอีกนัยนึงคือ เวลาว่างทั้งหมดของเชียมีแค่ช่วงเวลาที่ฉันนอนพักอย่างนั้นสินะ?”
“ค่ะ สาวใช้คนอื่นๆนอกจากฉันก็ใช้ชีวิตแบบนี้เหมือนกันหมด”
“หืม อย่างนี้นี่เอง”
เหตุผลหลักๆน่าจะเพราะเพื่อที่จะรอสแตนด์บายพร้อมรับใช้เจ้านายอยู่ตลอดเวลา
พอลองคิดดูดีๆสภาพแวดล้อมแบบนี้มันก็เป็นเรื่องปกติของโลกนี้เลยนี่นะ
แต่สำหรับชาวต่างโลกแบบผม มันช่างเป็นอะไรที่ดูสับสนจริงๆ แถมยุ่งยากอีก
“งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กฎอาจจะเปลี่ยนเล็กน้อย ”
“ป..เปลี่ยน เหรอคะ?”
“อื้อ อันดับแรก ถ้าเธอยังทำการบ้านที่ค้างอยู่ไม่เสร็จก็ไปทำให้เสร็จซะก่อนจะมาเข้ากะทำงานรับใช้”
“เอ๊ะ!?”
“แล้วก็ขอแค่ฉันเข้าห้องนอนไปแล้ว ก็ถือเป็นเวลาอิสระของเธอแล้วนะ ไม่ต้องรอถึงขั้นจนฉันเข้านอนจริงๆหรอก”
จริงๆแล้วผมอยากจะพูดว่า ‘ถ้าเธอว่างจริงๆ อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลยผมไม่ว่าหรอก’ แต่เอาเข้าจริงๆมันค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยง เชียคงจะรู้สึกกังวลมากกว่าจะรู้สึกดีแน่
“เอ่อ..ท -ท่านเบเรต์คะ หมายความว่าเรื่องเรียนของฉันสำคัญกว่างานรับใช้ท่านเบเรต์เหรอคะ?”
“เรื่องผมน่ะไม่ต้องห่วงหรอก อ๊ะ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าเชียเป็นคนที่ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้นหรอกนะ”
พูดกันเข้าใจผิดไว้ก่อนละกัน
“ฉันแค่คิดว่าถ้าเป็นนักเรียนก็ควรใส่ใจกับการมาก่อนเป็นอันดับแรกน่ะ ในอนาคตมันต้องจำเป็นสำหรับเชียแน่ๆ อีกอย่างสาวใช้ส่วนใหญ่ถึงอยากเรียนแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสได้เรียน เพราะงั้นฉันเลยอยากจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดล่ะนะ”
“ท่านเบเรต์….”
เพราะเธอเองก็เป็นผู้ติดตามของผม ผมเองก็อยากให้เธอใส่ใจตัวเองมากกว่านี้หน่อย
ดูเหมือนว่าความรู้สึกนี้จะสื่อไปถึงเธอแล้ว
“ถ้าการบ้านมันเยอะถึงขั้นรบกวนการทำงานของเธอ งั้นก็ไว้ชดเชยวันพรุ่งนี้ก็ได้ มันก็คล้ายๆกับการเป็นหวัดนั่นแหละ เข้าใจมั้ยครับนักเรียน?”
“หวา อ๊ะ ค่ะ! เข้าใจแล้วค่ะ! ”
“งั้นก็ประมาณนี้แหละ บางทีเธอคงจะสับสนไปสักพักนึง ขอโทษสำหรับเรื่องนั้นด้วยนะ”
“ม..ไม่เลยค่ะ! ขอบคุณมากจริงๆนะคะ ที่ทำเพื่อฉันขนาดนี้”
“ไม่ใช่เรื่องน่าขอบคุณขนาดนั้นหรอกนะ”
ผมตั้งใจจะคุยแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องจริงจังไปซะได้
แต่เรื่องที่จริงจังแบบนี้ก็ได้ผลดีอยู่นะ ตอนนี้เชียที่ตอนแรกดูฟุ้งซ่านเริ่มกลับมาสงบแล้ว
“อื้ม ว่าแต่ วันนี้เชียยังทำการบ้านไม่เสร็จใช่ไหม?”
“ไม่ค่ะ! วันนี้ฉันทำเสร็จหมด….แล้วค่ะ”
“……”
ไม่เนียนเลยน้าเชียน้อยของเรา
ถ้าเสร็จจริงทำไมประโยคหลังๆต้องทำเสียงอ่อยเหมือนไม่มั่นใจด้วยล่ะ ฮะๆๆ
“หืมม? อะไรเหรอ?”
“พ..พูดจริงนะคะ! วันนี้ทำเสร็จหมดแล้วจริงๆนะคะ! ”
“……”
ฮั่นแน่ผมเห็นนะ สายตาเลิ่กลั่กเชียวน้า เห็นได้ชัดเลยว่ากำลังโกหก
(เอาไงดีนะ แกล้งสักหน่อยดีไหม)
ก็เข้าใจความรู้สึกอยู่หรอกนะ แต่ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้เรื่องที่พูดไปเมื่อกี้ก็ไม่มีความหมายน่ะสิ
“ขอถามอีกครั้ง การบ้านวันนี้เสร็จแล้วใช่ไหม? ถ้าเธอโกหกครั้งนึง ให้วิดพื้น 500ครั้ง ซิทอัพ500ครั้ง สคอช500ครั้ง และวิ่ง5กิโลเมตร ”
“เอ๊ะ…หะ -ห้าร้อย…”
“ใช่ รวมที่เธอพูดโกหกไปเมื่อกี้2ครั้ง รวมเป็น 1000แล้ว”
เชียเริ่มทำหน้าเหยเก ปากสั่นพับๆๆ
(ดีล่ะ เริ่มแผนการปั้นน้องเมดไปเป็นสาวเมดสุดแกร่งต่อยหมัดเดียวตายได้ ช่วยไม่ได้น้าเชียใครใช้ให้เธอดูออกง่ายขนาดนั้นล่ะ ฮ่าๆๆๆ)
ผมสามารถอ่านความคิดเชียออกได้อย่างง่ายดาย
“อะ เปลี่ยนใจละ ถ้าเธอโกหกอีกครั้งเพิ่มเป็นสองเท่าเลยดีกว่า”
“ง..งืออ….”
รวมทั้งหมดเป็น2000ครั้ง กับวิ่งอีก20กิโล ด้วยตัวเลขอันน่าหวาดหวั่นนี้ เชียก็เริ่มครางออกมาอย่างน่ารัก และยอมจำนนแต่โดยดี
“ข -ขอโทษค่ะ ยังเหลืออยู่อีกนิดหน่อย…”
“อื้ม ถ้างั้นก็เลิกทำความสะอาดแล้วก็ไปเอาการบ้านมานั่งทำข้างๆฉันนี่”
“งือออ น่าอายจังเลยค่ะ…”
“อะฮ่าๆๆ เอาน่าไม่ต้องคิดมากหรอก รีบไปเอาการบ้านมาสิ”
ผมอดขำไม่ได้กับท่าทางอันน่ารักของเชีย
TN:หลังจากนี้มันจะเริ่มเป็นพาร์ทวิชาการแล้วนะครับ ซึ่งผมโคตรรรจะไม่ถนัดแนวนี้เลย ทำความเข้าใจเองว่ายากแล้วต้องแปลให้เข้าใจอีกนี่ยิ่งยากไปใหญ่ ถ้าแปลงงๆมึนๆก็ขออภัยด้วยนะมันได้เท่านี้จริงๆ
อะไรกันผมก็แค่อยากจะแปลนิยายรอมคอมชิลๆแท้ๆ!!! Orz