“คุณลุงกู้ครับ คุณอย่ารีบปฏิเสธ ลองเปิดพัดดูก่อนครับ ดูเสร็จแล้วค่อยว่ากันว่าจะรับไม่รับ ถ้าหากว่าคุณดูเสร็จแล้วก็ยังไม่อยากรับไว้ ผมก็จะไม่พยายามยัดเยียดครับ”
กงซุนจุนมีความมั่นใจมาก คิดว่าถ้าหากกู้เจี้ยนหมินเปิดพัดดูแล้ว จะต้องรับไว้แน่นอน
กู้เจี้ยนหมินลังเลแล้วลังเลอีก แล้วก็หยิบพัดขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และค่อยๆเปิดพัดออก
จากที่พัดค่อยๆเปิดออก ภาพวาดของหน้าพัดก็ค่อยๆแสดงออก ภาพวาดน้ำภูเขาที่ดูมีราศีอย่างมากแสดงให้เห็น
แค่เพียงได้เห็นถึงราศีของภาพวาดน้ำภูเขา กู้เจี้ยนหมินก็อึ้งไปแล้ว
แต่เมื่อกู้เจี้ยนหมินเห็นตราประทับก็ยิ่งตกใจจนอ้าปากกว้าง
“นี่ นี่เป็นภาพวาดที่ปาต้าซานเหรินวาด ก็ว่าทำไมถึงได้ดูมีราศีมากขนาดนี้! นี่มันเป็นของที่ดีที่สุดเลยนะ ไม่ เป็นของที่ล้ำค่าที่สุด ของล้ำค่าที่เกินกว่าความธรรมดาทั่วไป!”
ในตอนที่กู้เจี้ยนหมินตกใจอย่างที่สุด เฉินเสี่ยวถงคล้องแขนหวังฟางเดินออกมา
หวังฟางที่เปลี่ยนชุดกี่เพ้าดูแล้วสง่างามมากขึ้นไม่น้อย เพื่อให้ดูร่ำรวยสง่าในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ หวังฟางจึงไปเรียนมารยาทและท่าทางมาโดยเฉพาะ สามารถพูดได้เลยว่าลงทุนไปมาก
“เจี้ยนหมิน คุณวุ่นวายอะไรกัน ได้ยินเสียงวุ่นวายของคุณมาแต่ไกลเลย”
หวังฟางมองกู้เจี้ยนหมินอย่างไม่พอใจเล็กน้อย รู้สึกว่ากู้เจี้ยนหมินเป็นแบบนี้นั้นน่าอับอายขายหน้า
กู้เจี้ยนหมินยิ้มแห้ง ถือพัดไว้ยิ่งดูยิ่งชอบมาก ในใจเหมือนกันว่ามีเสียงมากมายดังขึ้น กำลังตะโกนบอกให้กู้เจี้ยนหมินรับพัดอันนี้ไว้
กู้เจี้ยนหมินที่ในใจทรมานอย่างมาก ในที่เส้นกั้นในใจก็ทลายลง คิดว่ารับพัดอันนี้ไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
หวังฟางและเฉินเสี่ยวถงเดินไปถึงข้างกายกู้เจี้ยนหมิน ทั้งสองมองไปที่พัดในมือของกู้เจี้ยนหมินพร้อมกัน
“พัดอันนี้ดูไม่เลวเลยนะ ราคาน่าจะไม่ถูกเลยใช่มั้ย”
ถึงแม้ว่าหวังฟางจะไม่เข้าใจโบราณวัตถุเท่าไหร่ แต่ว่าช่วงนี้ก็เรียนรู้เบื้องต้นไว้บ้างแล้ว หลังจากที่ดูพัดอันนี้แล้ว ก็รู้สึกได้ว่าพัดอันนี้ราคาไม่ถูก
กู้เจี้ยนหมินคิ้วกระตุก พูดอย่างตื่นเต้นว่า “นี่มันราคาไม่ถูกที่ไหนกัน พัดอันนี้สามารถแลกคฤหาสน์ครึ่งหนึ่งของเราได้แล้ว!”
“อะไรนะ? พัดอันหนึ่งสามารถมีมูลค่าขนาดนั้นเชียว? นี่มันก็เกินจริงไปมั้ง”
หวังฟางพูดอย่างตกใจ
“นี่ไม่เกินจริงไปเลยสักนิด เธอดูตัวพัดอันนี้สิ งาช้างนะ แล้วลวดลายยังละเอียด ถือเป็นถึงของชั้นดีของงาช้าง ตัวห้อยพัดอันนี้คือหยกเหอเถียนแดง ชิ้นแค่นี้ก็มีมูลค่าหลายแสนแล้ว! สุดท้ายมาดูภาพวาดพัด นี่เป็นปาต้าซานเหรินวาด แค่เพียงหน้าพัดเล้กนี้ก็มีมูลค่าอย่างต่ำสิบล้าน ของชุดนี้ส่งไปที่งานประมูล ประมูลออกมาราคาสองถึงสามสิบล้านก็เป็นเรื่องปกติ”
กู้เจี้ยนหมินพูดอธิบายไม่หยุด ทำเอาหวังฟางอึ้งไป
กงซุนจุนยกยิ้ม คิดว่าเรื่องการให้ของขวัญนั้นสำเร็จแล้ว จากการแสดงออกในตอนนี้ของกู้เจี้ยนหมิน พัดอันนี้เขาคงไม่ปฏิเสธคืนกลับมาแล้ว
“พัดล้ำค่าขนาดนี้นายเอาไว้ทำไม เดี๋ยวถ้าทำเสียแล้ว…รีบคืนเขาไปซะ”
หวังฟางพูดอย่างร้อนใจ
“แหะๆ นี่เป็น….อืม กงซุนจุนเอามามอบให้ฉัน ตอนนี้พัดอันนี้ก้เป็นสมบัติของบ้านเราแล้ว”
กู้เจี้ยนหมินเงยหน้าขึ้นอย่างได้ใจ
หวังฟางนิ่งอึ้งไป จากนั้นใบหน้าก็แสดงถึงความดีใจ
นี่เป็นถึงของล้ำค่าเชียวนะ คนที่มาครั้งแรกก็ให้ของที่ล้ำค่าขนาดนี้ จะต้องเป็นคนกันเองอยู่แล้ว! จะต้องต้อนรับอย่างดีถึงจะถูก!
เหลือบมองเฉินเสี่ยวถงข้างกาย หวังฟางก็รีบพูดว่า “เสี่ยวถง ยังไม่รีบไปเทน้ำชาให้คุณกงซุนอีก จะต้องให้คุณกงซุนรู้สึกว่าเหมือนอยู่บ้านตัวเอง”
เสี่ยวถงยู่ปาก แต่ก็ยังทนไว้ไม่ได้เถียงหวังฟาง แต่กลับก้มหน้ายกกาน้ำชาขึ้น แล้วเทน้ำใส่แก้วชาของกงซุนจุน
กงซุนจุนมองดูหน้าตาที่สวยงามของเฉินเสี่ยวถง ในใจก็เกิดคลื่นกระแสขึ้น
สาวงามขนาดนี้ทำไมถึงอยู่ในบ้านของหลี่โม่! หรือว่าเธอจะมีความสัมพันธ์กับหลี่โม่เช่นกัน?
มีเพียงฉันที่จริงใจกับกู้หยุนหลัน แต่ทำไมกู้หยุนหลันถึงทำเป็นไม่เห็นใส่ฉัน!
“คุณลุงกู้ครับ ของขวัญที่ผมมอบให้คุณรู้สึกพอใจมั้ยครับ”
กงซุนจุนเก็บความโมโหไว้แล้วถามออกไป
“พอใจ พอใจอย่างมาก รับของล้ำค่าขนาดนี้ของนายไว้ ฉันรู้สึกเกรงใจนิดหน่อยเลย”
ปากกู้เจี้ยนหมินพูดว่าเกรงใจ แต่ในมือกลับถือไว้อย่างแน่น เหมือนกลัวว่ากงซุนจุนจะขอพัดคืนไป
ในตอนนี้กงซุนจุนจะพูดจาตามมารยาท หลี่โม่และกู้หยุนหลันก็เดินเข้ามา
สองคนที่เพิ่งเลิกงานกลับมาบ้าน เมื่อเห็นว่ากงซุนจุนนั่งอยู่ในห้องรับแขก จึงมองตากันและกัน ในสายตาเต็มไปด้วยความรำคาญ
“หยุนหลันเลิกงานแล้วหรอ กงซุนจุนเพื่อนของเธอมาบ้าน แล้วยังให้ของขวัญกับพวกเราอย่างเกรงใจอีก เธอรีบมาทักทายเพื่อนของเธอเร็ว”
กู้เจี้ยนหมินกวักมือเรียก
หลี่โม่และกู้หยุนหลันเดินไป กู้หยุนหลันขมวดคิ้วเล็กน้อยมองไปที่กงซุนจุน “นายมาทำไม?”
“ฉันมาให้ของขวัญงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่กับเธอไง ก่อนหน้านี้เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอ วัตถุดิบและเชฟที่จะใช้ในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ฉันเป็นคนจัดการเอง”
กงซุนจุนพูดด้วยรอยยิ้ม
กู้เจี้ยนหมินได้ยินน้ำเสียงของลูกสาวไม่ค่อยดีนัก จึงรีบลากกู้หยุนหลันเดินไปอีกฟาก “หยุนหลัน เธอพูดกับแขกแบบนี้ได้ยังไง คนที่มาบ้านล้วนเป็นแขก เธอต้องต้อนรับเขาดีๆ”
“พ่อคะ เรื่องราวในนี้พ่อไม่รู้เรื่อง”
กู้หยุนหลันเอือมระอาเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะอธิบายความสัมพันธ์ของตัวเองกับกงซุนจุนยังไงดี
“ยังไงซะ ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีมารยาท เธอดูสินี่เป็นของขวัญที่กงซุนจุนมอบให้ฉัน เป็นสมบัติที่ล้ำค่ามาก ฉันชอบอย่างมากเลย”
กู้เจี้ยนหมินเปิดกล่องที่ปิดไว้ออกอย่างระมัดระวังอีกครั้ง ถือเอาพัดออกมาแล้วจะพูดถึงมูลค่าของพัดให้กู้หยุนหลันฟัง
กงซุนจุนเหลือบตามองดูหลี่โม่อย่างได้ใจ คิดในใจว่าก้าวแรกของตัวเองถือว่าสำเร็จ นี่ถือเป็นการได้รับความชื่นชอบจากพ่อของกู้หยุนหลัน ต่อไปแค่เพียงพยายามขึ้นอีก ก็สามารถให้หลี่โม่กลายเป็นอดีต
กู้หยุนหลันมองดูพัด รู้สึกว่าภาพวาดของพัดนั้นดีจริงๆ แต่ว่ายิ่งพัดนี้ล้ำค่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่สามารถให้พ่อของตัวเองรับไว้
กู้หยุนหลันที่เดิมทีอยากจะพูดกล่อมสักหน่อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าดีใจของกู้เจี้ยนหมินแล้ว คำพูดห้ามก็พูดไม่ออกจากปาก
“ให้ผมดูพัดหน่อยครับ” หลี่โม่เดินมาพูดด้วยรอยยิ้ม
กู้เจี้ยนหมินถือพัดแล้วสะบัดตรงหน้าหลี่โม่ “นายดูรู้เรื่องหรอ? รู้มั้ยว่านี่ใครเป็นคนวาด? รู้มั้ยว่าตัวพัดนี้คือวัสดุอะไร?”
“พอเข้าใจอยู่บ้างครับ ช่วงนี้ผมศึกษาความรู้ที่เกี่ยวข้อง พวกเครื่องโบราณวัตถุ”
หลี่โม่พูดอย่างถ่อมตน แล้วก็ดูหน้าพัดอย่างละเอียด
หลังจากที่ดูสักพัก หลี่โม่ก็ค่อยๆส่ายหัว พูดขึ้นว่า “หน้าพัดอันนี้ไม่ใช่ของจริงนี่ ไม่ใช่ของแท้ของปาต้าซานเหริน แต่เป็นภาพวาดที่เลียนแบบทีหลัง น่าเสียดายจัง”