ราชาซากศพ – บทที่ 295 หลงทาง

ราชาซากศพ

บท​ที่​ 295

หลงทาง​

หลังจาก​รับรู้​อะไร​บางอย่าง​ กวน​เจิ้น​ก็​ไม่ปฏิเสธ​ เขา​ยอม​รับข้อเสนอ​ของ​ผาง​หลง​แทน​ เขา​เดิน​ไป​ข้างหน้า​ และ​นำ​แก่น​คริสตัล​ออกจาก​ร่าง​ของ​งูมงกุฎ​เพลิง​นิล​ และ​รวบรวม​ จากนั้น​นาง​หยิบ​แก่น​คริสตัล​ที่​มีแต้ม​จำนวน​ 75 คะแนน​ออกมา​

และ​มอบให้​กับ​ เมิ่งหู​ลู่​

ใน​ท้ายที่สุด​พวกเขา​ทั้ง​สี่คน​ก็​ปล้น​ทุกอย่าง​ออกจาก​ร่าง​ ตามมา​ด้วย​เสียง​ดุด่า​ของ​กู่​ซาน​และ​คนอื่น​ ๆ แต่​ในไม่ช้า​ การปล้น​ชิงของ​คน​เหล่านี้​ กลายเป็น​เสียง​ร้องขอ​ความเมตตา​เพราะ​กวน​เจิ้น​ เปิดเผย​เจตนา​สังหาร​

“ข้า​จะรอ​ท่าน​อยู่​ข้างหน้า​…ข้า​ … ” ดวงตา​ของ​กวน​เย​ว่​ฉายแวว​ไม่อดทน​ต่อ​เสียง​ร้องขอ​ความเมตตา​ และ​หันหน้า​จากไป​

“หญิง​คน​นี้​นี่​!” เมื่อ​เห็น​แผ่น​หลัง​ที่​รีบร้อน​ของ​กวน​เย​ว่​ กวน​เจิ้น​ก็​ส่าย​หัว​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ จากนั้น​เขา​ก็​หัน​ศีรษะ​และ​มอง​ไป​ที่​ผาง​หลง​ เขา​พูด​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​กับ​พี่​เมิ่งจะจัดการ​ที่นี่​! เจ้าดูแล​น้องสาว​ของ​ข้า​ที​ ข้า​เกรง​ว่า​ นาง​จะตกอยู่ในอันตราย​”

“ได้​!” ผาง​หลง​พยักหน้า​อย่าง​รวดเร็ว​ และ​ตอบ​ตกลง​ จากนั้น​เขา​ก็​หัน​ตรง​ไป​และ​ไล่ตาม​กวน​เย​ว่​ออก​ไป​

สิบ​นาที​ต่อมา​ เสียง​ของ​กู่​ซาน​และ​เสียง​ของ​คนอื่น​ ๆ ก็​หาย​ไป​ ร่าง​ทั้งสอง​ร่าง​ เดิน​ออกจาก​ที่เกิดเหตุ​ หลงเหลือ​เพียง​ไฟไหม้​ครั้ง​ใหญ่​ ใน​กลุ่ม​เพลิง​สามารถ​มองเห็น​ได้​อย่าง​คลุมเครือ​ แต่​คาด​ว่า​มีศพ​หลาย​ศพ​กำลัง​ลุกไหม้​อยู่​ภายใน​

“ พี่​เมิ่ง! พวกเขา​….ตั้งแต่​เมื่อใด​?” ระหว่างทาง​กวน​เจิ้น​ เขา​เอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​

“ข้า​เพิ่ง​ค้นพบ​เมื่อไม่นานมานี้​” เมิ่งหู​ลู่​กะพริบตา​ มุมปาก​ของ​เขา​ยกขึ้น​โดยไม่รู้ตัว​ และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ราวกับว่า​ เขา​อารมณ์ดี​อย่าง​เห็นได้ชัด​

“ พี่​เมิ่ง ท่าน​ไม่สบาย​หรือไม่​? ใต้​ตา​ท่าน​มีอะไร​ผิดปกติ​งั้น​หรือ​” กวน​เจิ้น​ส่าย​หัว​และ​อุทาน​ขึ้น​

“ เจ้าคง​ไม่รังเกียจ​พวกเขา​ใช่ไหม​?” เมิ่งหู​ลู่​หันหน้า​ไป​ทาง​กวน​เจิ้น​ และ​ถามด้วย​ความ​ขมวดคิ้ว​

“ ไม่แน่​นอ​น.​..นิสัย​ของ​พี่​ผาง​เป็น​คนดี​ หาก​พวกเขา​เข้ากันได้​ ข้า​เอง​ก็​วางใจ​ อย่างไรก็ตาม​พวกเขา​เพิ่ง​เริ่ม​ดูใจ​กัน​ มัน​ขึ้นอยู่กับ​พวกเขา​” กวน​เจิ้น​ส่าย​หัว​ และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“อืม​! ปล่อย​ให้​เป็นเรื่อง​ของ​สอง​คน​นั้น​เถอะ​ เมิ่งหู​ลู่​พยักหน้า​

“ดี​!” กวน​เจิ้น​พยักหน้า​ ทันใดนั้น​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​แสดง​สีของ​การ​ซักถาม​ และ​เอ่ย​ถามอย่าง​สงสัย​“ พี่​เมิ่ง! ศิษย์​น้อง​เล็ก​ของ​ท่าน​เก่ง​มาก​ เขา​สามารถ​ได้รับ​สมบัติ​เช่น​ ของเหลว​หยวน​เย​ว่​ ยิ่งไปกว่านั้น​ ท่าน​มัน​น่าอิจฉา​จริงๆ​ หาก​ข้า​มีโอกาส​ได้​รู้จัก​กับ​เขา​ ข้า​คงจะ​มีความสุข​”

“อืม​! ศิษย์​น้อง​ ให้ความสำคัญ​กับ​มิตรภาพ​มาก​ หาก​มีโอกาส​ที่​ ข้า​จะแนะนำ​เจ้า ให้​รู้จัก​กับ​เขา​” เมิ่งหู​ลู่​พยักหน้า​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“ขอบคุณ​ท่าน​มาก​! ท่าน​ไม่รู้​เขา​ ต้นแบบ​ของ​ข้า​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เมิ่งหู​ลู่​ กวน​เจิ้น​ ใบหน้า​ดู​มีความสุข​ และ​รีบ​ประสาน​กำปั้น​เพื่อ​ขอบคุณ​เขา​

“มัน​สมควร​แล้ว​!” เมิ่งหู​ลู่​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​

“อืม​!” กวน​เจิ้น​ เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คำพูด​ของ​อีก​ฝ่าย​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​ และ​พยักหน้า​ราวกับ​ไก่​จิก​ข้าวสาร​

…………

ภายใน​หุบเขา​ถงเทียน​ ร่าง​หนึ่ง​พุ่ง​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​ จาก​ยอดเขา​ด้วย​ความเร็ว​ราวกับ​สายฟ้า​ฟาด​ ยอดเขา​แห่ง​นี้​ ยื่น​ออก​มาจาก​หุบเขา​ถงเทียน​ และ​อยู่​ห่าง​จาก​เชิงเขา​หลาย​พัน​เมตร​ ประกอบ​ไป​ด้วย​หุบเขา​น้อย​ใหญ่​ จำนวนมาก​

ร่าง​ที่​พบ​คือ​ หลิน​เว่ย​ เขา​ไม่รู้​ว่า​ เมิ่งหู​ลู่​ และ​คนอื่น​ ๆ สามารถ​รอดชีวิต​การปล้น​ชิง เพราะ​สมบัติ​ที่​เขา​มอบให้​ ใน​ขณะนี้​ เขา​พยายาม​อย่าง​เต็มที่​ เพื่อ​จะขึ้นไป​บน​ยอดเขา​

ความสูง​ของ​หุบเขา​ถงเทียน​นั้น​ มากกว่า​หลาย​หมื่น​เมตร​ เป็น​อย่าง​น้อย​ ยิ่งขึ้นไป​สูงเท่าใด​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​สัตว์​อสูร​ก็​จะยิ่ง​แข็งแกร่ง​ขึ้น​เท่านั้น​ ยิ่ง​ระดับ​ของ​สมบัติ​สวรรค์​สูงเพียงใด​ อันตราย​ก็​จะยิ่ง​

ด้วย​ความ​แข็งแกร่ง​และ​สมบัติ​ธรรมดา​ ๆ ย่อม​ไม่อาจ​กระตุ้น​ความสนใจ​ของ​หลิน​เว่ย​ สิ่งที่​เขา​ต้องการ​คือ​ สมบัติ​สวรรค์​อย่าง​น้อย​ ระดับ​เจ็ด​

สำหรับ​สัตว์​อสูร​ก็​เช่นกัน​ ระดับ​ต่ำสุด​คือ​มากกว่า​ขั้น​เจ็ด​ และ​บังเอิญ​พบ​เจอ​ จึงจะหยุด​สังหาร​ ไม่ได้​ตั้งใจ​ค้นหา​

แน่นอน​ว่า​ระหว่างทาง​ เขา​ก็​มองหา​คน​จาก​สถานศึกษา​เทียน​ห​ยู​ด้วย​ แต่​ก็​ไม่พบ​ข่าวคราว​ ใน​หุบเขา​ถงเทียน​นี้​ การรับรู้​ของ​เขา​ถูก​จำกัด​อย่าง​มาก​ มัน​เหมือนกับ​การมองหา​เข็ม​ใน​มหาสมุทร​ เพื่อ​ค้นหา​ใคร​บางคน​

ดังนั้น​ ความเร็ว​ใน​การ​ขึ้น​ของ​หลิน​เว่ย​ จึงเร็ว​มาก​ เนื่องจาก​ไม่มีแผนที่​สมบูรณ์​ หลิน​เว่ย​จึงพบ​ว่า​ตัวเอง​นั้น​หลงทาง​เสียแล้ว​

เมื่อ​เขา​คิด​ว่า​ ตนเอง​ต้องการ​จับ​สัตว์​อสูร​ระดับสูง​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียงคำราม​อยู่​ข้าง​เบื้องหน้า​ หลิน​เว่ย​ได้ยิน​เสียงคำราม​ ที่​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​โกรธ​อย่าง​รุนแรง​ ยิ่งไปกว่านั้น​ สัตว์​อสูร​ที่​ส่งเสียงคำราม​นั้น​ มีความ​แข็งแกร่ง​ไม่น้อย​ อย่าง​น้อย​มัน​ก็​เป็น​ สัตว์​อสูร​ขั้น​ที่​แปด​

จื่อห​ยู​รีบ​เร่งความเร็ว​ของ​นาง​ และ​ไปหา​ทิศทาง​ของ​เสียง​โดย​ไม่พูด​อะไร​ สัตว์​อสูร​เหนือ​ขั้น​แปด​ ใน​ตอนนี้​ สามารถ​พูด​ได้​ มัน​เป็น​สิ่งที่​หลิน​เว่ย​ต้องการ​มาก​ที่สุด​ ท้ายที่สุด​ มัน​เป็น​สัตว์​อสูร​ที่​อาศัย​อยู่​ที่นี่​ ซึ่งสามารถ​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ แผนที่​ที่​มีชีวิต​

ในที่สุด​ หลิน​เว่ย​ก็ได้​พบ​ สัตว์​อสูร​ใน​ลำธาร​บน​ภูเขา​ตน​หนึ่ง​ ไม่…มัน​น่าจะเป็น​ กลุ่ม​ของ​สัตว์​อสูร​

สัตว์​อสูร​กลุ่ม​นี้​เป็น​กลุ่ม​ของ​วานร​ เมื่อ​เทียบ​กับ​การ​เผชิญหน้า​ครั้งก่อน​ของ​หลิน​เว่ย​ จำนวน​ของ​พวกเขา​ไม่ถือว่า​สูงมาก​นัก​ มีเพียง​ประมาณ​ 100 ตัว​เท่านั้น​ และ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พวก​มัน​แตก​ต่างกัน​ออก​ไป​

ราชา​สัตว์​อสูร​วานร​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ อยู่​ที่​ขั้น​แปด​ ระดับ​สี่ ในขณะที่​ ลูกน้อง​ที่​อ่อนแอ​ที่สุด​คือ​มีอยู่​ไม่กี่​ตัว​เท่านั้น​ที่อยู่​ใน​ขั้น​แปด​ ระดับ​สาม

คู่ต่อสู้​ของ​พวก​มัน​คือ​ เหล่า​นักรบ​มนุษย์​มากกว่า​ 20 คน​ ความ​แข็งแกร่ง​ของ​พวกเขา​นั้น​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ของ​ราชา​เเห่งการต่อสู้​ อย่างไรก็ตาม​ ยังมี​บางคน​ที่อยู่​ใน​ขั้น​จักรพรรดิ​ ระดับ​สาม

ราชา​สัตว์​อสูร​วานร​ถูก​คน​ทั้ง​สาม ปิดล้อม​ มัน​เกรี้ยวกราด​ ถูก​ทุบตี​และ​คำราม​ บน​พื้น​มีซากศพ​วานร​จำนวนมาก​ รวมทั้ง​ศพ​วานร​ขนาดเล็ก​หลาย​ตัว​ กระจัดกระจาย​ไป​ทั่ว​บริเวณ​

ในความเป็นจริง​ จำนวน​วานร​กลุ่ม​เดิม​มีเกือบ​ 200 ตัว​ แต่​ตอนนี้​ถูก​สังหาร​ตาย​ไป​แล้ว​ครึ่งหนึ่ง​ อีกไม่นาน​ เหลือ​เพียง​เรื่อง​ของ​ระยะเวลา​เท่านั้น​ หาก​ราชา​สัตว์​อสูร​วานร​ถูก​สังหาร​ลง​ไป​ วานร​ทั้งหมด​จะถูก​สังหาร​สิ้น​ทั้งหมด​

“อนิจจา​ หลิน​เว่ย​ถอนหายใจ​ และ​ลอยตัว​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​ และ​เข้าใกล้​การต่อสู้​ของ​ทั้งสองฝ่าย​

“เป็น​จักรพรรดิ​ที่​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​!” ใน​ด้าน​ของ​นักรบ​มนุษย์​ เมื่อ​เห็น​หลิน​เว่ย​ลอยตัว​อยู่​ใน​อากาศ​ พวกเขา​ต่าง​ก็​ร้อง​ออกมา​ ด้วย​ความประหลาดใจ​ พวกเขา​ผละ​จาก​การต่อสู้​ และ​รวมตัวกัน​และ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​จื่อห​ยู​

เช่นเดียวกับ​นักรบ​คนอื่น​ ๆ ใบหน้า​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความระมัดระวัง​และ​เตรียมพร้อม​

ในที่สุด​เขา​ก็​มีโอกาส​ได้​หายใจ​ต่อ​ ราชา​สัตว์​อสูร​วานร​คว้า​โอกาส​นี้​เอาไว้​ เขา​คว้า​จับ​ลูกหลาน​ที่​เหลือ​ของ​เหล่า​วานร​ออก​ไป​ และ​ก้าว​ไป​ข้าง ๆ​ เขา​เพียงแค่​มอง​ไป​ที่​ทิศทาง​ของ​ หลิน​เว่ย​ มีร่องรอย​ของ​ความ​ตื่นตระหนก​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​นี้​ และ​พบ​ว่า​จื่อห​ยู​อยู่​กับ​คน​เหล่านั้น​ และ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​นาง​ก็​แข็งแกร่ง​มาก​

ท้ายที่สุด​แล้ว​ ความเฉลียวฉลาด​เผ่าพันธุ์​วานร​นั้น​สูงมาก​ ยิ่งไปกว่านั้น​ มัน​ยัง​เป็น​ราชา​แห่ง​วานร​ ด้วย​การฝึกฝน​ขั้น​แปด​ ระดับ​สี่ ทาง​ด้าน​ของ​จื่อห​ยู​ บิน​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​ มอง​ลง​ไป​ที่​เหล่า​นักรบ​และ​สัตว์​อสูร​ด้านล่าง​

มีผู้คน​ทั้งหมด​ 24 คน​ ซึ่งส่วนใหญ่​มาจาก​ดินแดน​ต่าง ๆ​รวมตัวกัน​เพื่อให้​ง่าย​ต่อ​การ​ไล่ล่า​ และ​สังหาร​สัตว์​อสูร​ อย่างไรก็ตาม​วานร​ตัวเล็ก​นั้น​ ดู​น่าเอ็นดู​ โดยเฉพาะ​วานร​ตัวเล็ก​ ๆ หลาย​ตัว​นอน​อยู่​อก​ของ​วานร​เพศ​เมีย​

ราชาซากศพ

ราชาซากศพ

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง ราชาซากศพ รายละเอียด หลินเว่ย ขอทานตัวน้อยที่โดนทำลายฐานพลัง วันหนึ่งได้เจอคริสตัลสีดำปริศนา ซึ่งมีความสามารถให้การคืนชีพซากศพสัตว์อสูรให้เป็นนักรบโครงกระดูก ที่มีทักษะความสามารถเหมือนยามมีชีวิต เรื่องราวการผจญภัยของราชาคนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท