“คุณอย่าแสร้งทำเป็นเสือตัวใหญ่เลย มากสุดคุณก็เป็นได้แค่แมวตัวน้อย รีบลุกขึ้นเร็ว เกรงว่าหยุนหลันจะรอจนกระหืดกระหอบแล้ว”
หลี่โม่ผลักดันเฉินเสี่ยวถงออกเบาๆ แล้วเพิกเฉยต่อความออดอ้อนของเฉินเสี่ยวถง
เฉินเสี่ยวถงกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ และเดินตามหลังหลี่โม่พร้อมกับทำปากมุ่ย
และในขณะนี้เจินจาหนานดึงจูเจียนเฉิงยืนอยู่ริมถนน
เจินจาหนานหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนคาบไว้ที่ปากและจุดไฟ จากนั้นพูดอย่างหดหู่ใจว่า: “แม่งเอ๊ย รถสปอร์ตรุ่นมีจำนวนจำกัดที่ผมเพิ่งซื้อมาใหม่ถูกเดิมพันแพ้ออกไปแล้ว! นายนี่มันไอ้หลอกลวง บอกผมสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น!”
“คุณใจเย็นๆ ก่อนสิ ทางนี้ผมยังถามไม่ชัดเจนเลย แต่โดยหลักแล้วมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยนะ”
จูเจียนเฉิงนวดหน้าผาก และรู้สึกว่าในหัวมีความสับสนวุ่นวายเล็กน้อย ซึ่งคิดไม่ออกแม้แต่นิดเลยว่าบัตรผ่านประตูนั้นกลายเป็นบัตรปลอมได้อย่างไร
“คุณให้ผมไปถามดูก่อน แล้วเรื่องนี้ผมจะให้คำตอบคุณอย่างแน่นอน”
หลังจากปลอบโยนและสงบอารมณ์ของเจินจาหนานแล้ว จูเจียนเฉิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาทอมป์สันอีกครั้ง
ในที่สุดครั้งนี้ก็โทรติด และจูเจียนเฉิงถามอย่างร้อนอกร้อนใจว่า: “ทอมป์สันคุณบัตรผ่านประตูที่คุณให้ฉันมันอะไรกัน? ทำไมหลังจากสอบถามแล้วเขาบอกว่าเป็นบัตรปลอม! นี่มันทำให้ฉันเสียหน้ามากเลยนะ!”
“โอ้พระเจ้าของผม ตอนนี้คุณไปหาหลี่โม่กับกู้หยุนหลันแล้วเหรอ? คุณทำให้ผมผิดหวังมากเลย”
ทอมป์สันแสร้งทำเป็นพูดเกินจริง
“นี่คุณหมายความว่าไง? หรือว่าบัตรผ่านประตูนั้นจะกลายเป็นบัตรจริงในวันคอนเสิร์ตเหรอ? คุณอย่ามาล้อเล่นกับผมเลย”
“ก็ได้ ผมคิดว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันต่อไปอีกแล้วละ บ๊ายบาย”
ทอมป์สันวางสายโดยตรง ทำเอาจูเจียนเฉียงโมโหจนเกือบอ้วกเป็นเลือด
“ไอ้เลว ไอ้เวรเอ๊ยให้ตายเถอะ! แม่งเลวทุกคน!”
“นายหยุดด่าได้แล้ว ตอนนี้ผมต้องการคำอธิบาย และอีกอย่างนายต้องไถ่ถอนรถสปอร์ตของผมกลับมาให้ได้! นั้นเป็นรถสปอร์ตที่ผมเสียเงิน20ล้านซื้อมาเลยนะ!”
เจินจาหนานคว้าคอเสื้อของจูเจียนเฉิงไว้ด้วยความโกรธเกรี้ยว และเขย่าตัวจูเจียนเฉิงแรงๆ สองที เหมือนกับว่าจะกลืนจูเจียนเฉิงเข้าไปทั้งเป็น
จูเจียนเฉิงพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น: “แต่ผมก็ไม่มีเงิน20ล้านที่จะจ่ายคืนคุณ ต้นเหตุเป็นเพราะหลี่โม่ไอ้เลวที่สมควรตายนั้น พวกเราควรหาวิธีแก้แค้นหลี่โม่กันก่อน”
เจินจาหนานผลักดันจูเจียนเฉิงออก และปล่อยมือที่คว้าคอเสื้อของจูเจียนเฉิงไว้ โดยรู้ว่าถึงแม้ตอนนี้จะจัดการกับจูเจียนเฉิงยังไงมันก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว
ในเมื่อรถยนต์ก็แพ้ออกไปแล้ว หากอยากได้รถคืนกลับมาต้องไปหาหลี่โม่เท่านั้น
“ไอ้เลวให้ตายเถอะ! นายรีบคิดหาวิธีสิ ผมต้องการเอารถของผมคืนกลับมา รถของผมนั้นเป็นรถสปอร์ตรุ่นจำนวนจำกัดนะ!”
“ผมรู้ว่าเป็นรุ่นจำนวนจำกัด คุณปล่อยให้ผมคิดหาวิธีก่อน หรือไม่พวกเราหาคนไปแย่งรถกลับมาไหม”
“แม่งเอ๊ย ในหัวของนายมีแต่ขี้หรือไง! ถ้าหากว่าสามารถแย่งคืนกลับมาได้ ยังต้องให้นายมาพูดอีกเหรอ!”
เจินจาหนานจ้องเขม็งไปที่จูเจียนเฉิงด้วยความโกรธเกรี้ยว และรู้สึกว่านายคนนี่เป็นเพื่อนร่วมทีมยอดแย่จริงๆ
จูเจียนเฉิงลำบากใจมากจนดึงผมตัวเอง คิดหนักมากเกี่ยวกับแผนการ และในที่สุดจูเจียนเฉิงก็คิดได้วิธีหนึ่ง นั้นก็คือไปฟ้อง!
เช่นเดียวกับเด็กที่แพ้จากการต่อสู้ และต้องการกลับบ้านไปฟ้องให้กับผู้ปกครอง จูเจียนเฉิงก็ต้องการที่จะไปฟ้องให้กับพ่อของตัวเอง จากนั้นให้พ่อของตัวเองไปหากู้เจี้ยนหมิน
จูเจียนเฉิงคิดว่า ขอแค่พ่อของตัวเองไปสื่อสารกับกู้เจี้ยนหมิน จะบังคับให้หลี่โม่คืนรถสปอร์ตให้อย่างแน่นอน
ในขณะนี้จูเจียนเฉิงก็ไม่ได้คิดเรื่องอื่น เพียงแค่หวังว่าสามารถขอรถสปอร์ตของเจินจาหนานกลับคืนมา เพื่อไม่ให้เจินจาหนานนั่นต้องเกลียดตัวเอง
“คุณให้เวลาผมสองวัน ผมจะคิดหาวิธีเอารถสปอร์ตของคุณกลับคืนมาให้ได้อย่างแน่นอน”
จูเจียนเฉิงพูดอย่างจริงจัง
เจินจาหนานเหลือบมองไปที่จูเจียนเฉิง และพูดอย่างเฉยเมยว่า: “ได้ ผมให้เวลานายสามวัน แต่ถ้าหากเอาคืนกลับมาไม่ได้ ก็อย่ามาโทษผมว่าเป็นคนพลิกลิ้นเหี้ยมโหดละกัน รีบไปให้พ้นหน้า!”
จูเจียนเฉิงวิ่งหนีจากไปอย่างลนลาน เจินจาหนานคายก้นบุหรี่ที่คาบไว้ในปากออกมา และคิดว่าเอาความหวังฝากไว้ให้กับจูเจียนเฉิงไม่ได้อย่างแน่นอน
“ควรหาใครมาช่วยดี ในเมืองฮ่านนี้ไม่ค่อยรู้จักใครเลย เหมือนกับว่าคางเหวินซิงจะอยู่ที่นี่ หรือไม่ก็ลองไปถามคางเหวินซิงดู”
เจินจาหนานและคางเหวินซิงเป็นลูกคนรวยที่ชื่นชอบการแข่งรถลากเหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาสองคนจึงได้รู้จักกัน
เพียงแต่เจินจาหนานเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน ยังไม่รู้เรื่องการแข่งรถลากของหลี่โม่กับหลงโป ถ้าหากรู้เรื่องนี้แล้วละก็ เกรงว่าเจินจาหนานก็คงไม่ถูกจูเจียนเฉิงหลอกมาหรอก
หลังจากตัดสินใจแล้ว เจินจาหนานหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาคางเหวินซิง
“ฮาโหล เจ้าคาง ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณอยู่ที่เมืองฮ่านเหรอ ตอนนี้คุณอยู่ไหน พี่ก็มาที่เมืองฮ่านแล้วเหมือนกัน”
“โอ้ คุณก็มาเมืองฮ่านเหรอ ผมอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างตรงข้ามหยุนจงหลันกรุ๊ป ถ้าหากคุณมีเวลาว่างก็มาได้เลย ช่วงนี้ผมกำลังทำโครงการก่อสร้าง ไม่สามารถไปไหนได้เลย”
คางเหวินซิงพูดด้วยรอยยิ้ม
เจินจาหนานขมวดคิ้วเล็กน้อย และสายตาก็มองไปยังสถานที่ที่กำลังทำการก่อสร้างอยู่ตรงข้าม
“คุณเป็นลูกคนรวยที่สง่างาม ทำไมยังไปที่ไซต์งานก่อสร้างอีกละ? แม้ว่าจะเป็นการหาประสบการณ์การใช้ชีวิต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาประสบการณ์ที่ไซต์งานก่อสร้างก็ได้นิ” เจินจาหนานถามด้วยความประหลาดใจ
“เฮอเฮอ นี่ผมไม่ใช่หาประสบการณ์การใช้ชีวิตนะ แต่นี่คือกำลังสร้างกิจการของผม ผมจะสร้างสโมสรแข่งรถที่นี่ และต่อไปที่นี่จะเป็นจุเที่ทำให้ความฝันพวกเราเป็นจริง!”
“เชี่ย คุณบ้าไปแล้วเหรอ สร้างสโมสรแข่งรถในเมืองฮ่านเล็กๆ แบบนี้ ถึงแม้ว่าจะทำมันจริงๆ คุณก็ควรที่จะสร้างให้มันใกล้กับแนวหน้าของเมืองใหญ่”
เจินจาหนานรู้สึกตระหนกตกใจจริงๆ ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าของสโมสรแข่งรถ นั้นคือลูกคนรวยของแต่ละท้องที่ และสถานที่ที่ลูกคนรวยเหล่านี้รวมตัวกันนอกจากนครปักกิ่งแล้ว นั้นก็คือนครเซี่ยงไฮ้
ดังนั้นหากสโมสรแข่งรถสร้างใกล้ระหว่างสองเมืองนั้น ก็ยังพอมีความเป็นไปได้ แต่ถ้าหากสร้างไว้ในเมืองฮ่าน เจินจาหนานรู้สึกมีความเป็นไปไม่ได้เล็กน้อย
“เฮอเฮอ สำหรับรายละเอียดของโครงการรอให้คุณมาก่อนแล้วผมจะบอกคุณอีกที ในทางโทรศัพท์หนึ่งประโยคสองประโยคคุยกันไม่รู้เรื่องแน่นอน ผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้ เอาล่ะผมยังมีธุระอื่นต้องทำ ขอวางสายก่อน”
คางเหวินซิงวางสายโทรศัพท์ไป
เจินจาหนานลังเลแล้วลังเลอีก และอยากจะดูว่าคางเหวินซิงกำลังจะทำอะไรกันแน่ ดังนั้นเขาจึงก้าวเท้าเดินข้ามไป
ไม่นานเจินจาหนานก็เดินเข้าไปในไซต์งานก่อสร้าง หลังจากสอบถามแล้วสักพัก เขาก็เดินไปที่สำนักงานใหญ่โครงการ และได้พบเจอกับคางเหวินซิงในสำนักงานใหญ่
คางเหวินซิงมองไปยังเจินจาหนานที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย
“คุณมาได้เร็วมากเลย ผมนึกว่าคุณต้องการเวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงในการเดินทางมาเลยนะ”
“ผมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่พอดี คุณรีบบอกผมสิว่าทำไมคุณถึงสร้างสโมสรแข่งรถที่นี่ ไม่ใช่ผมดูถูกคุณ เพียงแต่ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่นี่แย่มาก”
คางเหวินซิงยิ้มพร้อมกับส่ายหัว: “มันไม่เกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ โดยหลักแล้วเป็นเพราะอาจารย์ของผม”
“อาจารย์ของคุณ? อาจารย์ขอบคุณคือใคร?”
เจินจาหนานเริ่มมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
“ดูเหมือนว่าคุณจะได้รับข่าวสารช้าไปนะ ช่วงก่อนหน้านี้อาจารย์ของผมได้แข่งขันกับหลงโป แล้วก็ทิ้งท้ายหลงโปไว้ด้านหลังจนแทบจะไม่เห็นไฟท้ายของรถ และในตอนนี้อาจารย์ของผมก็ได้เป็นเทพรบในวงการแข่งรถนี้แล้ว” คางเหวินซิงพูดด้วยความโอ้อวดเป็นอย่างยิ่ง
“เชี่ย ไม่ใช่แล้วมั้ง ชนะหลงโปเลยเหรอ?”