หลี่โม่กลับถึงบ้านและเห็นกู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงนั่งอยู่ด้วยกัน และมองดูซองจดหมายที่อยู่บนโต๊ะ
ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้ว แล้วหลี่โม่ได้จับซองจดหมายที่อู๋เต้าเหวินมอบให้ในกระเป๋ากางเกงของเขา
นี่คือจังหวะของซองจดหมายพบซองจดหมายเหรอ?
หลี่โม้ที่รู้สึกอ่อนไหวเล็กน้อยกับซองจดหมาย เดินไปหากู้หยุนหลันและนั่งลงแล้วถามว่า “พวกคุณกำลังดูอะไรอยู่?”
“หลังจากที่พวกคุณจากไปเมื่อกี้ กงซุนจุนให้คนส่งมาให้ โดยบอกว่ามันเป็นการชดเชยความผิดพลาดที่ทำลงไปในตอนเมื่อกี้นี้”
เฉินเสี่ยวถงมุ่ยปากและกล่าวว่า
“ชดเชยความผิดพลาดงั้นเหรอ? ไอ้ผู้ชายคนนี้น่าสนใจจริงๆ ลองเปิดออกมาดูหน่อยสิ ว่าเขาจะใช้อะไรมาชดเชยความผิดพลาดนั้น”
หลี่โม่พูดอย่างไม่ใส่ใจ
เฉินเสี่ยวถงอยากเปิดซองจดหมายเพื่อดูเนื้อหาตั้งนานละ ในขณะนี้ หลังจากได้ฟังคำสั่งของหลี่โม่แล้ว เฉินเสี่ยวถงหยิบกรรไกรออกมาแล้วตัดซองจดหมายทันที
หลังจากเปิดซองจดหมาย เฉินเสี่ยวถงดึงการ์ดสีทองออกจากซอง
เปิดการ์ดออก เฉินเสี่ยวถงและกู้หยุนหลันมองดูเนื้อหาของการ์ดด้วยกัน
“อ่า! เป็นตั๋วงานคอนเสิร์ตของหานเสว่เอ๋อ! ยังเป็นบัตรสำหรับแขกSuper VIP room No. 1! ว่ากันว่าราคาของตั๋วใบนี้มากกว่าหนึ่งแสนหยวน !ถ้าพวกตั๋วผีได้ตั๋วนี้ไป สามารถขายได้ในราคาสูงเสียดฟ้าสามถึงห้าแสนหยวน! ”
เฉินเสี่ยวถงกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“หานเสว่เอ๋อ? เขาเป็นใครเหรอ? มีชื่อเสียงดังมากเหรอ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินนี้มาก่อน”
หลี่โม่ถามด้วยความสงสัย
ห้องวีไอพีค่าใช้จ่ายมากกว่าแสนหยวน ซึ่งแน่นอนราคาต้องสูงเสียดฟ้าอยู่แล้ว มีเพียงซูเปอร์สตาร์ของราชินียูเรนัสนานาชาติ ถึงสามารถขายราคาตั๋วดังกล่าวได้
“หานเสว่เอ๋อเธอก็ไม่รู้จัก? เป็นไปได้เหรอ นั่นเป็นราชินีเพลงที่โด่งดังที่สุดในประเทศ ปีนี้เพิ่งจะอายุยี่สิบต้นๆ คนก็สวยและมีเสียงที่ไพเราะมาก และเป็นคู่รักในฝันของผู้ชายหลายคนเลย”
“เหรอ ฉันไม่รู้จริงๆ ปกติฉันไม่ค่อยได้สนใจวงการบันเทิงและไม่ค่อยได้ฟังเพลง”
หลี่โม่พูดด้วยท่าทางไร้เดียงสา
“เสียงตบลิ้น กงซุนจุนคนคนนี้ไม่เลวนะ ของขวัญที่ส่งมาแทนคำขอโทษนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ถึงเวลานั้นพวกเราไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน”
เฉินเสี่ยวถงมองหลี่โม่ด้วยความตื่นเต้น
หลี่โม่ยักไหล่แล้วมองไปที่กู้หยุนหลัน: “จะไปหรือไม่ไปคุณพูดคำไหนคำนั้น คุณว่าจะไปหรือไม่ไป?”
“ตั๋วใบนี้ส่งมาแล้ว แน่นอนว่าต้องไป ยังไงไม่ไปก็เสียเปล่าๆ ” กู้หยุนหลันนั้นเชียวๆ และง่ายมาก
เฉินเสี่ยวถงปรบมืออย่างตื่นเต้น: “งั้นก็ตกลงตามนี้นะ ถึงเวลานั้นพวกเราไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน!”
······
จูเจียนเฉียงตื่นจากอาการโคม่าแล้ว ก็รีบเรียกพยาบาลเพื่อมาสอบถาม หลังจากที่แน่ใจว่าตัวเองไม่มีอะไรร้ายแรงนั้นถึงจะโล่งอก
“ไอ้บ้าหลี่โม่! กล้าดียังไงที่มาให้ฉันขายหน้า และทำให้ฉันอับอายต่อหน้าผู้คน ความแค้นใจนี้ฉันไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้หรอก。”
“ฮิฮิ คุณจู ทำไมนายถึงมานอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยล่ะ เพื่อที่จะตามหานาย ฉันใช้ความพยายามอย่างมาก” ทอมป์สันเดินเข้าในห้องผู้ป่วยด้วยใบหน้าที่คร่ำครวญ
เมื่อเห็นการมาถึงของทอมป์สันแล้ว บนใบหน้าของจูเจียนเฉียงก็เปล่งประกายด้วยความสุข
“คุณมาจนได้ เมื่อกี้ฉันถูกหลี่โม่รังแกอีกแล้ว คุณต้องช่วยล้างแค้นให้ฉันนะ!”
จูเจียนเฉียงพูดด้วยแบบน้อยใจ
“อ้าว คุณจู นายทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ทำไมนายชั่งไม่เอาไหนเลย?”
“ฉันพยายามเต็มที่แล้ว แต่เป็นเพราะหลี่โม่คนนั้นยอดเยี่ยมเกินไป เพียงแค่เจอกับลิ้นอมตะสามนิ้วของเขา ก็ทำให้ฉันอารมณ์ขึ้นจนเป็นลมเลย”
จูเจียนเฉียงรู้สึกตัวเองไม่เอาไหน แต่เป็นเพราะหลี่โม่แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะต่อสู้ด้วยทักษะความรู้หรือด้วยพละกำลังก็ไม่ใช่คู่แข่งของเขา
ทอมป์สันค่อนข้างจะเข้าใจความรู้สึกของจูเจียนเฉียง ยังไงแล้วทอมป์สันก็เคยได้รับความเดือดร้อนจากหลี่โม่เหมือนกัน
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสคุณได้โอ้อวด คุณต้องการมันไหม?”
ทอมป์สันมองไปที่จูเจียนเฉียงด้วยรอยยิ้ม
“โอกาส? งั้นฉันต้องการมันแน่นอน! คุณพูดมาให้ฉันทำอะไร ฉันจะโอ้อวดอยู่ต่อหน้าหลี่โม่ดีๆ สักครั้ง!”
“ใบนี้คือตั๋วของงานคอนเสิร์ต ใบที่เอาให้คุณเป็นของจริง แต่ก่อนหน้านี้ที่เราจัดคนเอาตั๋วไปให้หลี่โม่นั้นเป็นของปลอม จากนั้นต้องทำยังไงคงไม่ต้องให้ฉันพูดเยอะแล้วมั้ง”
สายตาของจูเจียนเฉียง จ้องมองไปที่ตั๋วในมือของทอมป์สัน และหัวใจของเขารู้สึกก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ฉันรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรแน่นอน หยิบตั๋วใบนี้ตบเพี้ยะเพี้ยะใส่หน้าหลี่โม่ จากนั้นก็เหยียดหยามหลี่โม่อย่างรุนแรง ให้เขาเข้าใจว่าเขาเป็นแค่ไอ้คนจนคนหนึ่ง เป็นผู้ชายที่ไร้ประโยชน์เกาะแต่ผู้หญิงกิน!”
จูเจียนเฉียงพูดเต็มไปด้วยความเกลียดแค้น
ทอมป์สันเอามือปิดหน้าทั้งสองข้าง รู้สึกว่าจูเจียนเฉียงมีศักยภาพที่จะเป็นคู่หูที่โง่เขลา
“ คุณจู คุณทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ทำไมถึงทำได้เรียบง่ายและหยาบคายแบบนี้? คุณควรแสดงท่าทางสุภาพบุรุษของคุณออกมา เพื่อที่จะทำให้หลี่โม่รู้สึกละอายใจ”
“อ่า?”
จูเจียนเฉียงมองไปที่ทอมป์สันด้วยสายตาที่งงงวย ไม่เข้าใจว่าทอมป์สันทำไมถึงอยากใช้วิธีที่เป็นสุภาพบุรุษ
“นี่มันเป็นเพราะอะไร?สำหรับไอ้เวรหลี่โม่แล้ว ใช้วิธีสุภาพบุรุษกับเขาได้ยังไง กับเขาแล้วควรจะเรียบง่ายและหยาบคายถึงจะได้!”
จูเจียนเฉียงพูดด้วยความโกรธเคือง
“ชั่งเถอะ แล้วแต่ความต้องการของคุณ คุณอยากทำยังไงก็ได้”
ทอมป์สันพูดจบก็เอาตั๋วยื่นให้กับจูเจียนเฉียง
จูเจียนเฉียงถือตั๋วไว้อย่างแน่น บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยท่าทางที่มีความสุขที่ซ่อนไม่ได้ และในสมองได้จินตนาการถึงภาพที่เขาได้ทำให้หลี่โม่ขายหน้าอยู่ในที่เกิดเหตุ
ในที่สุด เขาก็ได้มีโอกาสที่จะแก้แค้น และครั้งนี้ต้องเอาหน้าที่เคยเสียหายกลับมาให้หมด!แล้วให้หลี่โม่เสียหน้าต่อหน้าผู้คนทั้งหมด!
สัตว์ร้ายตัวน้อยที่อยู่ในหัวใจของจูเจียนเฉียงนั้นคำรามอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าความฝันของเขากำลังจะเป็นจริง
ทอมป์สันเหลือบมองจูเจียนเฉียงด้วยสายตาดูถูก จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วกล่าว:“เอาล่ะ คุณพักผ่อนดีๆ เถอะ ผมขอกลับไปก่อนล่ะ”
ออกจากห้องผู้ป่วย นัยน์ตาของทอมป์สันปรากฏความเยาะเย้ยออกมา:“ชั่งโง่เหมือนหมูจริงๆ โง่ยิ่งกว่าหมูด้วยซ้ำ ไอ้คนแบบนี้ก็เอามาเป็นได้แค่ผู้เสียสละเท่านั้น”
หลังบ่นไปคำเดียว ทอมป์สันก็รีบเดินออกจากโรงพยาบาล
จูเจียนเฉียงหยีบตั๋วแล้วจินตนาการอยู่สักพัก เขาเอาผ้าห่มออกจากตัวแล้วลุกลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว
“พยาบาล! พยาบาลมาเร็วๆ ฉันต้องการทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล!”
“คุณครับ คุณควรตรวจเช็ดให้ดีก่อนนะ ที่เกิดอาการโคม่ากะทันหันคุณควรระมัดระวังก่อนนะ”
พยาบาลกล่าวหลังจากที่เข้าประตูห้องแล้ว
“ไม่จำเป็นแล้ว ร่างกายของฉันนั้นแข็งแรงมาก ฉันยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ! ฉันรอไม่ไหวแล้ว นี่มันคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันไม่สามารถรอได้แม้แต่วินาทีเดียว!”
เมื่อเห็นจูเจียนเฉียงยืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาล นางพยาบาลก็เลิกที่จะห้ามแล้ว แล้วพาจูเจียนเฉียงไปทำเรื่องต่างที่จะออกจากโรงพยาบาล
ทำเรื่องเสร็จทุกขั้นตอนนั้นใช้เวลาไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง จูเจียนเฉียงเดินออกไปจากโรงพยาบาลแล้วก็ดูเวลา รู้สึกว่าวันนี้จะไม่มีเวลาที่ไปหาหลี่โม่เพื่อทำให้เขาขายหน้าแล้ว ต้องปล่อยให้ถึงพรุ่งนี้ค่อยไปหาหลี่โม่
“คนพึ่งพาเสื้อผ้าและม้าพึ่งพาอานม้า(การแต่งตัวเปลี่ยนบุคลิกได้) ฉันต้องไปหารถหรูสักคันถึงจะได้ ต้องบดขยี้หลี่โม่ไปทุกๆ ด้าน ให้ไอ้พวกที่ไร้ประโยชน์ที่เกาะแต่ผู้หญิงกิน ได้รู้จักความสามารถของฉันนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!”