มู่หนานจือ – บทที่ 330 ได้ยิน

มู่หนานจือ

ห​ลี่​เชีย​น​หัวเราะ​และ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าวางใจ​เถอะ​ ข้า​รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​อย่างไร​!”

เจียง​เซี่ยน​ไม่วางใจ​!

ชาติก่อน​ ห​ลี่​เชีย​นร​บ​แพ้​ฮามี่ ก็​ไม่บอก​นาง​ จนกระทั่ง​นาง​พบ​ว่า​ห​ลี่​เชีย​น​ไม่ได้​รายงาน​สถานการณ์​การ​รบ​หลาย​วัน​แล้ว​ นาง​ถึงรู้สึก​แปลก​ๆ จึงสอบถาม​ด้วย​ตนเอง​ ทว่า​ถึงจะเป็น​เช่นนั้น​ ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ไม่ได้​ส่งสาส์น​อธิบาย​สถานการณ์​ในทันที​เช่นกัน​ แต่​รอ​จน​เปลี่ยน​มาชนะ​แล้ว​ ถึงจะส่งสาส์น​แจ้งข่าวดี​

นาง​รู้​ว่า​ ต่อให้​ห​ลี่​เชีย​น​เจอ​เรื่อง​ที่​รับมือ​ยาก​ ก็​จะไม่ร้องทุกข์​ต่อหน้า​นาง​ หาก​เขา​ร้องทุกข์​ต่อหน้า​นาง​ จะต้อง​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​สำคัญ​อย่าง​แน่นอน​

เจียง​เซี่ยน​ไม่ซักไซ้​อีก​

นาง​ตัดสินใจ​ว่า​จะหา​เวลา​ไป​ถามเซี่ย​หยวน​ซี

ห​ลี่​เชีย​น​เปลี่ยน​เรื่อง​แล้ว​ เขา​ยิ้ม​พลาง​ถามนาง​ว่า​ “วันนี้​เล่น​สนุก​ไหม​?”

ไม่มีอะไร​ไม่สนุก​ ทว่า​หาก​จะบอ​กว่า​สนุก​ ก็​เรียก​ไม่ได้​เช่นกัน​

เป็น​เพียง​งานเลี้ยง​ธรรมดา​งาน​หนึ่ง​เท่านั้น​

แต่​เจียง​เซี่ยน​รู้​ว่า​ถึงห​ลี่​เชีย​น​จะอยู่​ข้างนอก​ ใน​ใจก็​เป็นห่วง​นาง​อยู่ดี​

นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​หวาน​ แล้ว​พยักหน้า​เล็กน้อย​ และ​เอ่ย​ว่า​ “สนุก​มาก​! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ฮูหยิน​หลู่​ พูดจา​ตลกขบขัน​ เป็น​คน​ร่าเริง​และ​ใจกว้าง​ อายุ​ก็​ถือว่า​ห่าง​กับ​ข้า​ไม่มาก​นัก​ สามารถ​เป็นเพื่อน​และ​คบหา​กัน​ได้​…ฮูหยิน​ของ​ผู้บัญชาการ​หวัง​อายุ​มาก​ที่สุด​ แต่​ดู​เป็น​คน​จริงใจ​ ก็​น่าคบหา​เช่นกัน​…พรุ่งนี้​ฮูหยิน​ลู่​ชวน​พวกเรา​ไปดู​งิ้ว​ที่​บ้าน​ของ​นาง​ เชิญคณะ​สื่อ​เจีย​เหมือนเดิม​ เพียงแต่​แสดง​ ‘สะพาน​ขาด​’ ข้า​เห็น​ฮูหยิน​ลู่​ดู​กลุ้ม​ใจมาก​…ลูกสาว​ของ​ฮูหยิน​ติง​สวย​มาก​ สวย​แบบ​นิสัย​ดี​มากกว่า​หน้าตา​ ได้ยิน​ว่า​นาง​ยังมี​น้องชาย​คน​หนึ่ง​ด้วย​ ปี​นี้​เพิ่งจะ​อายุ​สิบสอง​ ก็​สอบผ่าน​และ​ได้​เป็น​ซิ่ว​ไฉแล้ว​…เพราะ​แบบนี้​หรือเปล่า​ตระกูล​สยง​ถึงเป็น​ญาติ​ที่​เกี่ยวดอง​กัน​กับ​ตระกูล​ติง​…เด็ก​ของ​ตระกูล​ติง​ดูเหมือน​จะเรียนหนังสือ​เก่ง​มาก​ทุกคน​เลย​…”

เจียง​เซี่ยน​คุยจ้อ​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​ ห​ลี่​เชีย​น​ฟังไป​ก็​ลูบ​หลัง​ของ​นาง​เบา​ๆ ทำให้​นาง​ขดตัว​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​ตนเอง​เหมือน​แมว​น้อย​

—————————————————-

ทาง​ตะวันออก​ของ​เรือน​ด้านหลัง​ห้อง​หลัก​ของ​เรือน​เล็ก​ที่​ตระกูล​เกา​อาศัย​อยู่​ เป็น​ที่อยู่​ของ​เกา​เมี่ยวหรง​

ภายใต้​แสงไฟสลัว​ ปาก​ของ​นาง​เม้มแน่น​มาก​ สีหน้า​แลดู​ทั้ง​โกรธแค้น​และ​อับอาย​ “นาง​ว่า​ข้า​แบบนี้​ได้​อย่างไร​! ผู้อาศัย​…ข้า​ไม่รู้​ว่า​ข้า​กลายเป็น​หญิง​รับใช้​ที่​จำเป็นต้อง​ประจบ​ฮูหยิน​เห​อ​ถึงจะได้​กินข้าว​ตั้งแต่​เมื่อไร​!”

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้มเยาะ​

คุณหนู​สามซือ​ไม่เข้าใจ​ ไม่ได้​หมายความว่า​นาง​จะไม่เข้าใจ​

นี่​เห็นได้ชัด​ว่า​เจียง​เซี่ยน​กำลัง​ดูถูก​นาง​ว่า​เป็น​เพียง​หลานสาว​ของ​ผู้ช่วย​คน​หนึ่ง​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​ แต่กลับ​ประจบประแจง​ฮูหยิน​เห​อ​ และ​ทำ​สิ่งที่​ไม่สอดคล้อง​กับ​ฐานะ​ของ​ตนเอง​อย่าง​ไม่ละอายใจ​

เซียงจื่อ​ที่​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​ก็​โกรธ​มาก​เช่นกัน​ เสียง​ที่​พูด​จึงดัง​มากขึ้น​ “คุณหนู​ เรื่อง​นี้​ท่าน​จะแล้วกันไป​แบบนี้​ไม่ได้​นะ​เจ้าคะ​! ไม่อย่างนั้น​คน​ข้างนอก​ล้วน​ต้อง​คิด​ว่า​คุณหนู​เป็น​พวก​ประจบประแจง​และ​พึ่งพาอาศัย​ผู้มีอำนาจ​ คิด​ว่า​ท่าน​อยาก​อาศัย​สอง​มือ​ของ​ตนเอง​สร้าง​พื้นฐาน​ชีวิต​อย่าง​แน่นอน​เจ้าค่ะ​!”

เกา​เมี่ยวหรง​ได้ยิน​ก็​แทบ​อยาก​จะฉีก​ปาก​ของ​เซียงจื่อ​

นา​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​ทำ​หน้า​ขรึม​ และ​เอ่ย​ว่า​ “อาศัย​สอง​มือ​ของ​ตนเอง​สร้าง​พื้นฐาน​ชีวิต​อะไร​กัน​ ใคร​เขา​พูด​แบบ​เจ้ากัน​?”

พูด​ไม่เป็น​ก็​ไม่ต้อง​พูด​!

ทว่า​นาง​กลับ​ไม่อาจ​ห้าม​เซียงจื่อ​ได้​มาก​นัก​

สาวใช้​ทั้งสอง​คน​ข้าง​กาย​นาง​ล้วน​ติดตาม​นาง​มาตั้งแต่​เด็ก​ สัญญาขายตัว​ก็​อยู่​ใน​มือ​นาง​เช่นกัน​ เซียงมู่​สุขุม​ทว่า​เงียบขรึม​และ​พูดน้อย​มาก​ อยู่​ข้าง​กาย​นาง​มานาน​ขนาด​นี้​ก็​ไม่เห็น​ว่า​จะค่อนข้าง​สนิท​กับ​สาวใช้​คน​ไหน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ฮูหยิน​เห​อ​ เซียงจื่อ​ใจร้อน​แต่​พูดจา​คล่องแคล่ว​ คุย​กับ​คน​ทั้ง​ตระกูล​ห​ลี่​ได้​หมด​ เรื่อง​อย่าง​การ​สอบถาม​ข้อมูล​หรือ​ถ่ายทอด​คำพูด​นั้น​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ทำให้​นาง​ประหยัดเวลา​ไป​ไม่น้อย​ หาก​นาง​พูดมาก​ไป​ เกรง​ว่า​จะทำลาย​ความ​กระ​ตือรืน​ร้น​ของ​เซียงจื่อ​ แล้ว​ข้าง​กาย​นาง​ก็​จะขาด​คน​ที่​สามารถ​วิ่งเต้น​ทำงาน​เล็กๆ น้อยๆ​ ได้​ไป​คน​หนึ่ง​เช่นกัน​

เซียงจื่อ​รู้สึก​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​ชอบ​นาง​มาก​มาตลอด​ จึงไม่กลัว​ กลับ​ยัง​ยิ้ม​ให้​เกา​เมี่ยวหรง​อย่าง​รู้สึก​ผิด​ และ​เอ่ย​ว่า​ “คุณหนู​ ครั้งนี้​ท่าน​ก็​ให้อภัย​ข้า​เถอะ​? ท่าน​ก็​รู้​เช่นกัน​ว่า​ พอ​ข้า​ใจร้อน​ก็​จะพูด​ผิด​ง่าย​ ครั้งนี้​ท่านหญิง​ทำเกินไป​แล้ว​ นาง​ว่า​ท่าน​แบบนี้​ได้​อย่างไร​? นาง​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​แขก​ใน​บ้าน​ ท่าน​ก็​ไม่ได้​อยาก​ไป​ดื่มเหล้า​ของ​นาง​สัก​ถ้วย​ แล้ว​นาง​มีสิทธิ​อะไร​มาว่า​ท่าน​แบบนี้​! พวก​ฮูหยิน​ได้ยิน​แล้ว​ จะคิด​อย่างไร​กับ​ท่าน​? แล้ว​ยัง​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ ปกติ​ดี​กับ​ท่าน​แค่​ไหน​ แต่​ท่าน​ดู​สิ พอ​เวลา​สำคัญ​นาง​ก็​พูด​ไม่ชัดเจน​ พูด​เหมือน​ท่าน​อยาก​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ครั้งนี้​ให้ได้​! ข้า​ว่า​…ท่าน​ควร​เรียก​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​มาตำหนิ​อย่าง​รุนแรง​สัก​รอบ​ ดู​สิว่า​นาง​ยัง​จะกล้า​แต่งเรื่อง​ท่าน​อย่าง​มั่วซั่ว​ข้างนอก​อีก​หรือไม่​!”

ทว่า​เกา​เมี่ยวหรง​ได้ยิน​แล้ว​กลับ​ยิ้ม​อย่าง​เฉยชา​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ท่านหญิง​ก็​พูด​ถูก​เช่นกัน​ คุณหนู​ลู่​ทั้งสอง​ตาม​ฮูหยิน​ลู่​มา คุณหนู​ติง​ตาม​ฮูหยิน​ติง​มา คุณหนู​สามซือ​เอง​…ก็ตาม​ฮูหยิน​ซือ​มาเช่นกัน​…ข้า​ไม่มีแม่ที่​มีบรรดาศักดิ์​ระดับ​ห้า​เสียหน่อย​ ทำไม​ท่านหญิง​จะต้อง​เชิญข้า​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ด้วย​!”

นาง​พูด​อยู่​ ขอบตา​ก็​แดง​ไป​หมด​แล้ว​

เซียงจื่อ​กับ​เซียงมู่​มองหน้า​กัน​เลิ่กลั่ก​

เซียงมู่​ยังคง​เงียบ​เช่น​เดิม​ แต่​เซียงจื่อ​กลับ​รีบ​เอ่ย​ว่า​ “คุณหนู​ มัน​ไม่ได้​เป็น​อย่าง​ที่​ท่าน​คิด​เจ้าค่ะ​ ท่านหญิง​…ท่านหญิง​ก็​แค่​ไม่ได้​ตั้งใจ​เท่านั้นเอง​…”

ไม่ได้​ตั้งใจ​อะไร​!

นาง​ตั้งใจ​

รังแก​ที่​นาง​สูญเสีย​มารดา​ไป​ตั้งแต่​เด็ก​

ทว่า​นี่​เป็น​เรื่องจริง​

นาง​อยาก​แก้ต่าง​สัก​คำ​ก็​ทำ​ไม่ได้​

เกา​เมี่ยวหรง​กำมือ​แน่น​จน​เป็น​หมัด​

เซียงมู่​ก้มหน้า​ลง​

คุณหนู​ได้ยิน​ว่า​ท่านหญิง​จะจัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​ฮูหยิน​ระดับ​ห้า​ขึ้นไป​ใน​บ้าน​ เตรียม​เครื่องประดับ​กับ​เสื้อผ้า​ที่จะ​สวมใส่​ไป​ร่วมงาน​เรียบร้อย​หมด​แล้ว​ แต่​จน​งานเลี้ยง​จะเริ่ม​แล้ว​ ก็​ไม่มีคน​มาแจ้งให้​คุณหนู​ไป​ คุณหนู​ทำ​เหมือน​เดิมที​ก็​ควร​เป็น​เช่นนั้น​อยู่แล้ว​ และ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​ด้วย​สีหน้า​สงบนิ่ง​ บอ​กว่า​จะฝึก​คัด​ตัวอักษร​สักพัก​ ทว่า​ตอนที่​นาง​เข้าไป​เก็บ​ของ​ใน​ห้อง​หนังสือ​ กลับ​ไม่เห็น​กระดาษ​แม้แต่​แผ่น​เดียว​ และ​กลับ​พบ​ขี้เถ้า​ที่​ถูก​เผา​อยู่​ใน​ที่​ล้าง​พู่กัน​

จริงๆ​ แล้ว​ใน​ใจคุณหนู​ก็​ถือสา​มาก​ใช่หรือไม่​!

แต่​ฮูหยิน​เห​อ​เป็น​คน​ที่​พึ่งพา​ไม่ได้​

ก่อนหน้านี้​นาง​ก็​เคย​เตือน​คุณหนู​

ทว่า​คุณหนู​กลับ​เหมือน​หลง​งมงาย​ ไม่ฟังคำพูด​ของ​นาง​เลย​

เซียงมู่​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

—————————————————–

แต่​ฉิงเค่อ​กลับ​คว้า​เหรียญทองแดง​กำ​หนึ่ง​ยัด​ใส่มือ​สาวใช้​คน​หนึ่ง​ และ​ยิ้ม​อย่าง​พอใจ​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “งาน​ที่​สั่งให้​ไป​ทำ​ครั้งนี้​จัดการ​ได้​ไม่เลว​ เงิน​พวก​นี้​ให้​เจ้าซื้อ​ลูกอม​กิน​”

สาวใช้​อายุ​เพียง​เจ็ด​แปด​ขวบ​ ตัว​ผอม​และ​เล็ก​มาก​ ฉายแวว​เฉลียวฉลาด​

มือ​ของ​นาง​เล็ก​เกินไป​ จน​ถือ​เหรียญทองแดง​พวก​นั้น​ไม่ไหว​ จึงใช้เสื้อผ้า​ห่อ​ไว้​และ​คุกเข่า​ลง​ไป​คำนับ​ฉิงเค่อ​ครั้งหนึ่ง​ แล้ว​ตะโกน​เสียง​แจ๋ว​ว่า​ “ขอบคุณ​พี่​ฉิงเค่อ​มาก​ ต่อไป​หาก​พี่​มีเรื่อง​อะไร​สั่งมาได้​เลย​ ซิ่ว​เอ๋อร์​จะทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​ทำให้​เสร็จ​อย่าง​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”

ฉิงเค่อ​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ และ​ให้​สาวใช้​ที่​รับใช้​ข้าง​กาย​พา​ซิ่ว​เอ๋อร์​ออก​ไป​

ไป่​เจี๋ย​เดิน​ออก​มาจาก​หลังฉาก​กั้น​ และ​เอ่ย​ว่า​ “สาวใช้​คน​นี้​ไว้ใจได้​หรือ​?”

“ไม่รู้​!” ฉิงเค่อ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ดังนั้น​จึงต้อง​ลอง​ใช้ดู​ อย่างไร​พวกเรา​ก็​ใช้พวก​คน​ที่​ติดตาม​พวกเรา​ออกจาก​วัง​ตลอด​ไม่ได้​กระมัง​?”

เด็กน้อย​ที่​ชื่อ​ซิ่ว​เอ๋อร์​นี้​เป็น​คน​หมู่บ้าน​เดียว​กับ​ห​ลี่​ไท่​หัวหน้า​พ่อบ้าน​ ที่​บ้าน​ยากจน​จน​ใช้ชีวิต​ต่อไป​ไม่ได้​แล้ว​ จึงจำเป็นต้อง​มาพึ่งพาอาศัย​ห​ลี่​ไท่​ ห​ลี่​ไท่​เห็น​นาง​ทำ​อะไร​มีไหวพริบ​มาก​ จึงแนะนำ​ให้​นาง​มาเป็น​คนรับใช้​ใน​จวน​ หลาย​วันก่อน​ตอนที่​ฉิงเค่อ​เลือก​สาวใช้​ที่​ไม่เข้า​ระดับ​ให้​เรือน​ตะวันตก​ ซิ่ว​เอ๋อร์​ถูก​เลือก​แล้ว​

ฉิงเค่อ​จึงให้​งาน​ชิ้น​หนึ่ง​แก่​นาง​

ให้​นาง​แพร่งพราย​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ที่​เกี่ยวกับ​เกา​เมี่ยวหรง​ที่​เกิดขึ้น​ใน​งานเลี้ยง​ให้​เกา​เมี่ยวหรง​ฟัง

คิดไม่ถึง​ว่า​นาง​จะได้​คุย​กับ​เซียงจื่อ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เกา​เมี่ยวหรง​เร็ว​ขนาด​นี้​ แถมยัง​ส่งข่าว​ออก​ไป​แล้วด้วย​

เด็ก​คน​นี้​ควบคุม​ยาก​ ดูท่าทาง​ยัง​ไม่สามารถ​เลื่อนตำแหน่ง​นาง​ขึ้น​มาเร็ว​ขนาด​นี้​ได้​ นอกจาก​ต้อง​ขัดเกลา​นิสัย​แล้ว​ ยัง​ต้อง​ให้​นาง​คิด​หาทาง​ไปมาหาสู่​กับ​สาวใช้​และ​แม่บ้าน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​เกา​เมี่ยวหรง​บ่อยๆ​ ด้วย​ถึงจะถูก​

—————————————————–

ทว่า​จวน​สกุล​ลู่​ในเวลานี้​กลับ​กลุ้ม​มาก​

หนึ่ง​เค่อ​ก่อนหน้านี้​ อาจารย์​ลู่​รู้​ว่า​ฮูหยิน​ลู่​จะจัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​กลุ่ม​เดิม​ที่​กิน​เหล้า​วันนี้​ใน​บ้าน​ ก็​โกรธ​จน​เคราแพะ​กระดก​ขึ้น​ และ​สะบัด​แขน​เสื้อ​จากไป​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท