มู่หนานจือ – บทที่ 333 สกุลจั่ว

มู่หนานจือ

เซี่ย​หยวน​ซีมอง​ตั๋วเงิน​ที่​หนา​มาก​ใน​มือ​เจียง​เซี่ยน​ โดย​ไม่พูด​อะไร​นาน​มาก​ แล้ว​คารวะ​เจียง​เซี่ยน​อย่าง​เคารพ​นบนอบ​ และ​เอ่ย​ด้วย​เสียงทุ้ม​ว่า​ “ขอบคุณ​ฮูหยิน​มาก​ หลาย​วันนี้​ท่าน​แม่ทัพ​ออก​เช้ากลับ​ดึก​ เพราะ​อยาก​ติดต่อ​กับ​กัว​หย่ง​กู้​ผู้ว่าราชการ​มณฑล​เสฉวน​ขอรับ​”

“กัว​หย่ง​กู้​?!” เจียง​เซี่ยน​ตกใจ​

จิ้งจอก​เฒ่าผู้​นี้​เป็น​ผู้ว่าราชการ​มณฑล​ที่​เสฉวน​มายี่สิบ​ปี​แล้ว​ ตอนที่​นาง​เป็น​ไทเฮา​อยาก​ย้าย​เขา​เข้า​เมืองหลวง​เข้า​สำนักราชเลขาธิการ​หลายครั้ง​ก็​ถูก​เขา​ปฏิเสธ​อย่าง​อ้อมค้อม​ด้วย​เหตุผล​ต่างๆ​ นานา​ เพื่อที่จะ​อยู่​เสฉวน​และ​เป็น​ผู้ว่าราชการ​มณฑล​ของ​เขา​ต่อไป​ เขา​ถึงกับ​ไป​ติดสินบน​เฉาเซวียน​ ตอนนั้น​นาง​ยัง​ไม่เข้าใจ​เรื่องราว​ใน​ราชสำนัก​ กัว​หย่ง​กู้​อยู่​เสฉวน​ก็​ทำได้​ดีมาก​ นอกจาก​เรื่อง​ที่​ไม่อยาก​เข้า​เมืองหลวง​แล้ว​ เรื่อง​อื่น​ก็​ล้วน​รับผิดชอบ​ได้ดี​ และ​นาง​ก็​ไม่มีตัวเลือก​ที่​เหมาะสม​จะแทนที่​กัว​หย่ง​กู้​จริงๆ​ เรื่อง​นี้​จึงถูก​หยุด​ไว้​แบบ​นั้น​

ใน​ใจนาง​ กัว​หย่ง​กู้​เป็น​คน​ที่​จัดการ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​คนเก่ง​มาก​ จะล่วงเกิน​ห​ลี่​เชีย​น​ได้​อย่างไร​?

พอ​คิด​ขึ้น​มา นาง​ก็​อด​ที่จะ​หัวเราะเยาะ​ไม่ได้​

ตอนนี้​นาง​ไม่ใช่ไทเฮา​ และ​ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ไม่ใช่อ๋อง​หลิน​ถง เจอ​เรื่อง​ราวกับ​ผู้คน​ก็​ย่อม​ไม่เหมือนกัน​แล้ว​เช่นกัน​

พอ​คิดถึง​ตรงนี้​ นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เสียดาย​เล็กน้อย​ ที่​ชาติก่อน​ไม่ได้​รู้จัก​กัว​หย่ง​กู้​อย่าง​ละเอียด​สักหน่อย​ ภาพ​จำที่​มีต่อ​กัว​หย่ง​กู้​ยัง​หยุด​อยู่​ที่​ภาพลักษณ์​ที่​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ อ่อนโยน​ และ​จัดการ​อย่าง​ว่องไว​ของ​เขา​

“เขา​ไม่ยอม​เจอห​ลี่​เชีย​น​หรือ​?” เจียง​เซี่ยน​ถาม

เซี่ย​หยวน​ซีพยักหน้า​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ใต้เท้า​กัว​นั้น​เฉาไทเฮา​ช่วย​เป็น​คนกลาง​ให้​ขอรับ​ ตอน​ฤดูใบไม้ผลิ​ปี​นี้​ท่าน​แม่ทัพ​เคย​แอบ​ไป​เสฉวน​รอบ​หนึ่ง​ ตอนนั้น​ใต้เท้า​กัว​รับปาก​เป็น​อย่าง​ดี​ แต่​ครั้งนี้​ตอนที่​ท่าน​แม่ทัพ​อยาก​เข้า​เสฉวน​อีกครั้ง​ กลับ​ติดต่อ​เขา​ไม่ได้​เลย​ บ่อ​เกลือ​ของ​เสฉวน​ล้วน​พูด​ง่าย​ ไหว​เป่ย​กับ​ไหว​หนาน​ก็​ผลิต​เกลือ​เช่นกัน​ และ​พ่อค้า​เกลือ​ของ​ไหว​เป่ย​กับ​ไหว​หนาน​ก็​เยอะ​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​จ่าย​เงิน​เพิ่ม​นิดหน่อย​ ทว่า​เหล็ก​กลับ​พูด​ยาก​ ประการ​แรก​หาก​ต้องการ​น้อย​ จะสะดุดตา​เกินไป​ ประการ​ที่สอง​อ่อนไหว​เกินไป​ สืบ​ว่า​เหล็ก​พวก​นี้​ไป​ที่ไหนได้​ง่าย​มาก​ แล้ว​ก็ช่าง​หลอม​เหล็ก​ที่​ดี​ ส่วนใหญ่​อยู่​พื้นที่​ห่างไกล​ ที่​พวกเรา​รู้จัก​ตอนนี้​ คน​หนึ่ง​อยู่​เสฉวน​ อีก​คน​อยู่​เหลียว​ตง​ เหลียว​ตง​เป็น​สถานที่​ของ​อ๋อง​เหลียว​ ตอนนี้​พวกเรา​ไม่มีทั้ง​กำลังคน​และ​เส้นสาย​ที่​สามารถ​ทำ​อาวุธ​จาก​เหลียว​ตง​ได้​…”

เจียง​เซี่ยน​เข้าใจ​แล้ว​

ห​ลี่​เชีย​นอ​ยาก​ทำ​อาวุธ​ชุด​หนึ่ง​ เวลานี้​มีเพียง​สอง​แห่ง​ที่​มี ที่หนึ่ง​คือ​เสฉวน​ อีก​ที่​คือ​เหลียว​ตง​ เหลียว​ตง​นั้น​เพราะ​อ๋อง​เหลียว​ตั้งมั่น​รักษาการณ์​ จึงทำ​ไม่ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​ เช่นนั้น​ก็​ต้อง​เล็ง​ไป​ที่​เสฉวน​ ทว่า​เวลานี้​กัว​หย่ง​กู้​ผู้ว่าราชการ​มณฑล​ของ​เสฉวน​กลับ​ไม่ยอม​พบ​พวกเขา​ เทียบ​กับ​รบกวน​อ๋อง​เหลียว​แล้ว​ พวกเขา​ยอม​คิด​หาทาง​ติดต่อ​กับ​กัว​หย่ง​กู้​มากกว่า​

นาง​นึก​ถึงที่​ห​ลี่​เชีย​น​ไป​หาเรื่อง​เซ่ารุ่ย​ พลาง​ครุ่นคิด​ว่า​น่าจะ​เพราะ​การ​สู้รบ​ไม่ค่อย​เป็นไป​อย่าง​ที่​คิด​ และ​ต่อ​ให้การ​สู้รบ​เป็นไป​อย่าง​ที่​คิด​ ก็​อาจจะ​บาดเจ็บ​และ​เสียชีวิต​มากมาย​เช่นกัน​ เขา​น่าจะ​ต้องการ​อาวุธ​ชุด​นี้​อย่าง​เร่งด่วน​เพื่อ​เสริม​พลัง​ใน​การป้องกัน​และ​โจมตี​ของ​พวก​อวิ๋น​หลิน​

เจียง​เซี่ยน​ส่งเซี่ย​หยวน​ซีกลับ​ไป​ และ​นั่งลง​บน​เตียง​อุ่น​หลัง​ใหญ่​ใกล้​หน้าต่าง​พลาง​พยายาม​หวน​คิดถึง​พวก​คน​ที่​ช่วย​ขอร้อง​ให้​กัว​หย่ง​กู้​ใน​ตอนนั้น​อย่าง​สุดกำลัง​…ตอนแรก​สุดคน​ที่​ช่วย​กัว​หย่ง​กู้​ดำเนินการ​ ต่อให้​ไม่ใช่เพื่อนสนิท​ของ​เขา​ก็​เป็น​คน​ที่​สนิท​กับ​เขา​ หาก​นาง​จำไม่ผิด​ล่ะ​ก็​ กัว​หย่ง​กู้​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ใน​ปี​หย่ง​ซิ่งที่​สิบ​สาม ปี​นั้น​ยังมี​ใคร​สอบผ่าน​และ​ได้​เป็น​จิ้น​ซื่อ​อี​ก.​..

นาง​กำลัง​คิด​อยู่​ จู่ๆ ก็​คิด​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​ใน​ทันใด​

จั่ว​อี่​หมิง​

ยังมี​จั่ว​อี่​หมิง​ที่​เป็น​จิ้น​ซื่อ​ใน​ปี​หย่ง​ซิ่งที่​สิบ​สาม

เพียงแต่​หลังจาก​จ้าว​อี้​ว่าราชการ​ด้วย​ตนเอง​ไม่ถึงสอง​ปี​จั่ว​อี่​หมิง​ก็​ลาออก​และ​กลับ​บ้านเกิด​

นาง​เคย​ออกหน้า​รั้ง​ไว้​ จั่ว​อี่​หมิง​ไม่เพียงแต่​ไม่ตกลง​ ทว่า​ยัง​เคย​เอ่ย​กับ​นาง​ว่า​ ‘ฮ่องเต้​คือ​ฮ่องเต้​ ขุนนาง​คือ​ขุนนาง​ ฮองเฮา​จิตใจ​บริสุทธิ์​งดงาม​ แต่​ต้อง​จำไว้​ว่า​ สิ่งที่​ฝ่าบาท​ตัดสิน​พระทัย​แล้ว​ ต่อให้​ท่าน​เป็น​คน​ที่​เล่น​ด้วยกัน​มาตั้งแต่​เด็ก​และ​เติบโต​ใน​วัง​ด้วยกัน​กับ​ฝ่าบาท​ ก็​ไม่อาจ​คัดค้าน​ตามใจชอบ​ได้​เช่นกัน​’

ตอนนั้น​นาง​โง่ ไม่เข้าใจ​

เวลานี้​คิดดู​แล้ว​ จริงๆ​ แล้ว​จั่ว​อี่​หมิง​กำลัง​เตือน​นาง​ว่า​ จ้าว​อี้​เปลี่ยนไป​แล้ว​ ให้​นาง​อย่า​จินตนาการ​ถึงจ้าว​อี้​มากเกินไป​…

ตอนหลัง​นาง​เป็น​ไทเฮา​ เคย​ส่งคน​ไป​ถามสารทุกข์สุกดิบ​จั่ว​อี่​หมิง​ และ​ถามจั่ว​อี่​หมิง​ว่า​อยาก​กลับมา​เมืองหลวง​อีกครั้ง​หรือไม่​ ทว่า​กลับ​ถูก​จั่ว​อี่​หมิง​บอกปัด​อย่าง​อ้อมค้อม​

นาง​ยัง​จำคำพูด​ที่​เขา​พูด​กับ​ทูต​ได้​ ‘ข้า​เป็น​ขุนนาง​จ้าว​ ได้รับ​ความ​คุ้มครอง​จาก​ราชวงศ์​จ้าว​ การ​จงรักภักดี​อย่าง​ถึงที่สุด​ตอบแทน​แคว้น​เป็น​หน้าที่​ของ​ข้า​ เพียงแต่​ข้า​ไม่อยาก​ให้​ลูกหลาน​ของ​ข้า​เกี่ยวข้อง​กับ​วงการ​ราชการ​จ้าว​อีก​ ข้า​จึงจำเป็นต้อง​อยู่​ห่าง​จาก​ราชสำนัก​ และ​สอนหนังสือ​ผู้​คนใน​ชนบท​’

เจียง​เซี่ยน​รู้สึก​ว่า​คำพูด​นี้​แปลกประหลาด​มาก​ ตอนหลัง​ส่งคน​ไป​คารวะ​จั่ว​อี่​หมิง​ที่​เจียง​หนาน​หลายครั้ง​ ถึงแม้จั่ว​อี่​หมิง​จะมีท่าที​อ่อน​ลง​ทุกครั้ง​ ทว่า​นาง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​โน้มน้าว​จั่ว​อี่​หมิง​ ก็​ถูก​จ้าว​สี่วางยาพิษ​

เจียง​หนาน​!

ทันใดนั้น​เจียง​เซี่ยน​ก็​คิด​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​อีก​

นาง​ลืม​ไป​ได้​อย่างไร​

จั่ว​อี่​หมิง​เป็น​คน​จิน​หวา​เจ้อเจียง​

เช่นนั้น​กัว​หย่ง​กู้​ก็​เป็น​คน​จิน​หวา​เจ้อเจียง​เหมือนกัน​

ชาติก่อน​ พวกเขา​นั้น​คน​หนึ่ง​อยู่​ทางใต้​อีก​คน​อยู่​ทางตะวันตก​ ต่าง​ก็​ไม่ยอม​เข้า​เมืองหลวง​ เป็น​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ราชวงศ์​จ้าว​ไม่ไหว​แล้ว​ พวกเขา​จึงไม่อยาก​เข้าไป​พัวพัน​กับ​เรื่อง​นี้​หรือเปล่า​?

ต้อง​เป็น​แบบนี้​อย่าง​แน่นอน​!

เจียง​เซี่ยน​คิด​

ตระกูล​กัว​เหมือน​เป็น​เพียง​ตระกูล​ธรรมดา​ที่​พอ​จะมอบ​บัณฑิต​ให้ได้​คน​หนึ่ง​ แต่​ตระกูล​จั่ว​กลับเป็น​ตระกูล​ที่​มีประวัติ​ความเป็นมา​ยาวนาน​และ​มีชื่อเสียง​มาก​ของ​เจียง​หนาน​ จั่ว​อี่​หมิง​สามารถ​เพิกเฉย​ต่อ​ความเป็นความตาย​ของ​ตนเอง​ได้​ ทว่า​กลับ​ไม่อาจ​เพิกเฉย​ต่อ​ความเป็นความตาย​ของ​ตระกูล​ได้​

หาก​สกุล​จ้าว​พังพินาศ​ ด้วย​วิธีทำ​ของ​บัณฑิต​เหล่านั้น​ ตนเอง​ตาย​ตอบแทน​แคว้น​ เหลือ​ลูกหลาน​ใน​ตระกูล​ไว้​กบดาน​ผ่าน​ช่วง​ที่สอง​ราชวงศ์​แทนที่​กัน​ ถือว่า​ตอบแทน​บุญคุณ​ของ​ราชวงศ์​ก่อน​แล้ว​ หมด​ความจงรักภักดี​ต่อ​ราชวงศ์​ก่อน​แล้ว​ ก็​สามารถ​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​ได้​ตามปกติ​ ชิงตำแหน่ง​อัครมหาเสนาบดี​ให้​สำเร็จ​แล้ว​

ถึงเวลานี้​เจียง​เซี่ยน​ถึงจะมีความรู้สึก​ที่​เข้าใจ​ทันที​

จั่ว​อี่​หมิง​พูด​ชัดเจน​มาก​ตั้ง​นาน​แล้ว​

ต้องโทษ​ที่​นาง​ไม่เข้าใจ​

นาง​นึกถึง​ตอน​เด็ก​ๆ อยู่​ที่​วัง​ฉือ​หนิง​ จั่ว​อี่​หมิง​ถูก​เฉาไทเฮา​กับ​ไท​ฮอง​ไทเฮา​ทำ​จน​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ และ​ทำได้​เพียง​ยืน​ฝืนยิ้ม​อยู่​ใต้​ต้น​ไป่​ต้น​ใหญ่​ตรง​ห้อง​ข้าง​ตะวันตก​หลัง​ตำหนัก​อู่​อิง​ แต่​ตอนที่​เจอ​นาง​จะบอก​นาง​ว่า​จับ​พู่กัน​อย่างไร​อย่าง​อดทน​และ​อ่อนโยน​มาก​ ตอนที่​นาง​ไม่ยอม​ฝึก​คัด​ตัวอักษร​ก็​จะใช้กระดาษ​พับ​เป็น​นก​กระเรียน​ให้​นาง​เล่น​

เกรง​ว่า​จั่ว​อี่​หมิง​จะไม่มีความอดทน​แบบนี้​กับ​ลูกชาย​ของ​ตนเอง​ด้วยซ้ำ​

นี่​ก็​เหมือน​จะเป็น​สิ่งที่​จั่ว​อี่​หมิง​เคย​พูด​เช่นกัน​

ไม่รู้​ว่า​ผลงาน​ของ​เหล่า​ลูกชาย​ของ​เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​?

หลังจากนั้น​ตระกูล​จั่ว​ก็​ไม่มีใคร​เข้าร่วม​การ​สอบ​ขุนนาง​อีก​เลย​ นาง​ก็​คิดไม่ถึง​เช่นกัน​

เจียง​เซี่ยน​แอบ​เสียดาย​ แล้วก็​อุ่นใจ​มาก​ รู้สึก​อบอุ่น​

นาง​เรียก​เซียงเอ๋อร์​เข้ามา​ฝน​หมึก​และ​เขียนจดหมาย​ให้​จั่ว​อี่​หมิง​ฉบับ​หนึ่ง​ โดย​เล่า​ความลำบาก​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ให้​เขา​ฟังทั้งหมด​

เจียง​เซี่ยน​คิด​ว่า​ใน​เมื่อ​จั่ว​อี่​หมิง​สามารถ​มองออก​ได้​ว่า​สถานการณ์​ไม่ดีแล้ว​ ก็​ย่อม​สามารถ​คาดเดา​แนวโน้ม​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ผ่าน​พวก​สิ่งที่​ห​ลี่​เชีย​น​ทำได้​เช่นกัน​

คุย​กับ​คน​ฉลาด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​คุย​กับ​พวก​คน​ที่​มีความสามารถ​และ​สติปัญญา​โดดเด่น​และ​ใน​ใจเปลี่ยน​ทิศทาง​ตลอดจน​ไม่รู้​ว่า​มีแผนการ​กี่​แผน​แบบนี้​ การปิดบัง​และ​ข้ออ้าง​มีแต่​จะทำให้​พวกเขา​เกลียด​ กระทั่ง​รู้สึก​ว่า​เจ้าดูถูก​เขา​

เจียง​เซี่ยน​บอก​ให้​จั่ว​อี่​หมิง​ช่วย​นางใน​จดหมาย​โดยตรง​

ต้อง​โน้มน้าว​กัว​หย่ง​กู้​ให้​ขาย​ ‘ เหล็ก​’ ให้​ห​ลี่​เชีย​น​ให้ได้​

ไม่อย่างนั้น​จะไป​ฟ้อง​ต่อหน้า​ไท​ฮอง​ไทเฮา​และ​เฉาไทเฮา​ ให้​สตรี​ที่​ฐานะ​สูงสุด​ใน​วัง​สอง​คน​ย้าย​เขา​ไป​สอน​จ้าว​สี่ ถึงอย่างไร​ข้าง​กาย​จ้าว​อี้​มีสยงจวิ้นหรง​คน​หนึ่ง​แล้ว​ ต่อให้​บางครั้ง​นึกถึง​เขา​ เขา​ก็​ไม่เคย​คิด​จะแย่ง​สยงจวิ้นหรง​เพื่อให้​ได้รับ​ภารกิจ​สำคัญ​จาก​จ้าว​อี้​เช่นกัน​ คิด​ว่า​จ้าว​อี้​จะต้อง​ไม่ปฏิเสธ​อย่าง​แน่นอน​

พอ​เขียน​ถึงตรงนี้​ นาง​ก็​หัวเราะ​ออกมา​เอง​

หาก​เขา​ถูก​ส่งไป​เป็น​อาจารย์​คน​แรก​ให้​ลูกชาย​คน​แรก​ที่เกิด​จาก​สนม​ของ​ฮ่องเต้​ซึ่งฐานะ​คลุมเครือ​อย่าง​จ้าว​สี่ ชื่อเสียง​อัน​โดดเด่น​ชั่วชีวิต​ถูก​ทำลาย​จน​หมดสิ้น​ เกรง​ว่า​จะยอม​ลาออก​และ​กลับ​บ้านเกิด​ดีกว่า​!

แล้ว​นาง​ก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่​จ้าว​อี้​อยาก​ตั้ง​นางใน​ใน​วัง​ที่​อายุ​เกิน​สามสิบ​คน​หนึ่ง​เป็น​สนม​ ทว่า​กลัว​ว่า​ตระกูล​เจียง​กับ​สำนักราชเลขาธิการ​จะไม่ตกลง​ จึงมอบ​เงิน​หนึ่งร้อย​ตำลึง​ให้​ลุง​ของ​นาง​และ​ราชเลขาธิการ​ทุกคน​ของ​สำนักราชเลขาธิการ​…

นาง​ตัดสินใจ​มอบ​ภาพวาด​โบราณ​ให้​จั่ว​อี่​หมิง​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท