เจียงเซี่ยนนั่งดื่มชาอยู่ตรงนั้นอย่างเยือกเย็นมาก
ทว่าฮูหยินเหอกลับสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจอีกครั้ง และขอโทษเกาเมี่ยวหรงเสียงเบา “เดิมทีก็ไม่คิดจะไปเช่นกัน ตอนหลังท่านหญิงบอกว่าไม่ไปไม่ดี จึงเปลี่ยนใจกะทันหันอีก ทำให้เจ้ามาเสียเที่ยวแล้ว ขอโทษด้วย เมี่ยวหรง ไว้ข้าเสร็จงานเลี้ยงสองวันนี้แล้ว จะเชิญเจ้ามาดื่มชา หลายวันก่อนท่านหญิงให้ชาแดงมากล่องหนึ่ง ว่ากันว่าบำรุงเลือดลม ถึงรสชาติจะแปลกไปหน่อย แต่พอดื่มเยอะก็จะรู้สึกว่าอร่อยมาก ท่านหญิงยังชงชาดอกไม้เป็นอีกมากมาย มีชาส้มจี๊ดที่อร่อยมาก ถึงเวลานั้นเจ้าลองชิมดูได้”
เกาเมี่ยวหรงกำมือแน่น
ก่อนที่เจียงเซี่ยนจะแต่งเข้ามา หากเจอเรื่องแบบนี้ นอกจากฮูหยินเหอจะขอโทษแล้ว ยังจะชวนนางไปร่วมงานเลี้ยงด้วย ถึงอย่างไรฮูหยินเหอก็เป็นเจ้าบ้าน นางเป็นผู้อาศัย ฮูหยินเหอทิ้งแขกอย่างนางไว้ที่บ้านแล้วตนเองไปร่วมงานเลี้ยง ก็เสียมารยาทไปหน่อยจริงๆ
ทว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนกันแล้ว!
พอท่านหญิงเอ่ยปาก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดอย่างที่คิดจริงๆ!
จะเห็นได้ว่าฐานะของคนๆ หนึ่งจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน
วันนี้สิ่งที่ทำโดยไม่ได้ตั้งใจกลับทำให้นางหยั่งเชิงอิทธิพลของเจียงเซี่ยนที่ตระกูลหลี่ในเวลานี้ได้
เกาเมี่ยวหรงยิ้มเล็กน้อย
จะเห็นได้ว่านางก็เอาแต่ยึดกฎตายตัวไม่ได้แล้วเช่นกัน
“เช่นนั้นข้าจะรอคำเชิญจากฮูหยิน!” นางยิ้มอย่างอ่อนโยนและใจกว้าง แถมยังลูบศีรษะของหลี่ตงจื้ออย่างเอ็นดู และเอ่ยกับฮูหยินเหอว่า “ท่านกับท่านหญิงเดินทางปลอดภัย ข้าจะกลับไปก่อนแล้ว”
ฮูหยินเหอพยักหน้าอย่างรู้สึกเสียใจ และส่งนางออกไปข้างนอกด้วยตนเอง
เจียงเซี่ยนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ และดูการแต่งตัวของหลี่ตงจื้อกับเหอถงเหนียง
หลี่ตงตงจื้อสวมเสื้อกั๊กยาวผ้าไหมหังสีเขียวอ่อน เครื่องประดับรูปดอกไม้ไข่มุกเล็กหินโมราสีแดง สะอาดสะอ้านและเกลี้ยงเกลา เหอถงเหนียงสวมเสื้อกั๊กยาวผ้าโปร่งสีชมพู กระโปรงปักลายสีขาว ปิ่นปักผมดอกไม้อำพันขี้ผึ้งสีแดง ถึงแม้จะดูเหมือนหญิงงามจากตระกูลเล็กๆ ทว่าก็กลับทำให้คนเห็นแล้วเบิกบานใจเช่นกัน
เจียงเซี่ยนพยักหน้า และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “การแต่งตัวของพวกเจ้าสองคนเป็นความคิดของใครหรือ?”
ทั้งสองคนได้ยินแล้วต่างก็กังวลและกระวนกระวายเล็กน้อยทันที พวกนางผลัดกันมองไปมา สุดท้ายหลี่ตงจื้อก็เป็นคนเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ เป็นความคิดของข้า”
เจียงเซี่ยนยิ้มและเอ่ยว่า “ไม่เลว ไม่เลว! ต่อไปก็แต่งตัวแบบนี้ ก่อนที่จะแน่ใจรูปแบบการแต่งตัวของตนเอง แต่งตามคนธรรมดาจะดีที่สุด อย่างน้อยก็จะไม่เกิดข้อผิดพลาด และจะไม่เสียหน้า ไว้พวกเจ้าโตอีกหน่อย รู้ว่าอะไรเป็นที่นิยมบ้าง ก็ต้องเพิ่มของที่เป็นนิยมในเสื้อผ้ากับเครื่องประดับธรรมดาสักสองสามชิ้น พาตนเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่โดดเด่น เจ้าดูฮูหยินหลู่สิ ไม่ว่าจะปรากฏตัวเมื่อไรก็แต่งตัวด้วยไข่มุกกับอัญมณีอย่างละลานตาและสวยหรูมาก แต่เห็นแล้วกลับทำให้คนรู้สึกสบาย หากเป็นคนอื่นแต่งตัวแบบนี้ กลับมองอย่างไรก็เหมือนคนที่รวยชั่วข้ามคืนอย่างนั้น”
ทั้งสองคนตั้งใจฟัง และพยักหน้าพร้อมกัน
ฮูหยินเหอเห็นลูกสาวได้รับคำชม ก็ดีใจมากเช่นกัน
เจียงเซี่ยนก็ยิ้มและลุกขึ้นยืน แล้วสั่งฉิงเค่อว่า “มอบอั่งเปาสองซองให้เป็นรางวัลแก่เสี่ยวเหอ”
เสี่ยวเหอคือสาวใช้ของหลี่ตงจื้อ
คนที่อยู่ในห้องต่างก็ตกใจ และมองเจียงเซี่ยนอย่างประหลาดใจ เสียงทั้งหมดเหมือนถูกขวางอยู่นอกห้อง จึงเงียบสงัด
เสี่ยวเหอนั้นหลังจากแข็งทื่อไปชั่วครู่ ก็คุกเข่าลงไป เดี๋ยวอ้าปากเดี๋ยวหุบปาก ทำอะไรไม่ถูก อยากพูดทว่าก็หยุดไว้
เจียงเซี่ยนเห็นแล้วก็อดที่จะเอ่ยด้วยรอยยิ้มไม่ได้ว่า “หากเป็นความคิดของน้องหญิง ตอนที่ข้าถาม น้องหญิงจะต้องตอบข้าทันทีอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าน้องหญิงกลับลังเลอยู่ชั่วครู่ แสดงว่าคนที่แต่งตัวให้พวกเจ้าเป็นคนที่ใกล้ชิดกับน้องหญิงมาก น้องหญิงกลัวว่านางจะถูกตำหนิ จึงยอมรับไว้เอง ข้าคิดไปคิดมา ก็มีแต่เสี่ยวเหอที่ดูแลน้องหญิงมาตั้งแต่เด็กแล้วเช่นกัน” แล้วนางก็ชมหลี่ตงจื้ออีก “เจ้าทำแบบนี้ดีมาก หากเจ้ายังปกป้องคนที่อยู่ข้างกายตนเองไม่ได้ ทำไมคนอื่นยังต้องจงรักภักดีต่อเจ้าอย่างสุดหัวใจด้วย”
หลี่ตงจื้อเข้าใจทันที นางพยักหน้าติดกันหลายครั้ง และเอ่ยว่า “พี่สะใภ้สั่งสอนได้ถูกต้อง! ข้าจำไว้แล้ว!”
สายตาที่นางมองเจียงเซี่ยนล้วนสนิทสนมมากขึ้นเล็กน้อย
ทว่าเหอถงเหนียงกลับอดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ
ท่านคิดไปคิดมานี่ก็คิดได้เร็วเกินไปแล้วกระมัง!
พวกนางต่างนิ่ง ก็ถูกเจียงเซี่ยนมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว
เหอถงเหนียงนับถือเจียงเซี่ยนมากทันที
มิน่าเล่าคนอื่นเป็นท่านหญิง ยังได้แต่งงานกับท่านพี่หลี่เชียน ทำให้ท่านพี่หลี่เชียนแน่วแน่อยู่กับนาง คนที่เดิมทีนอนในค่ายทหารทุกวัน ตอนนี้ไม่ว่าเมื่อไรก็ต้องกลับมา เหมือนได้เห็นท่านหญิงสักครั้งก็สบายใจแล้ว
เหอถงเหนียงอดที่จะเอ่ยไม่ได้ว่า “พี่สะใภ้เก่งมาก! เสี่ยวเหอเป็นคนช่วยพวกเราแต่งตัวจริงๆ เสี่ยวเหอไม่เพียงแต่แต่งตัวคนเป็น ทว่ายังวาดตัวอย่างลายปัก และทำเสื้อผ้ากับรองเท้าแบบใหม่เป็นด้วยเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นดีมาก!” เจียงเซี่ยนชมเสี่ยวเหอเล็กน้อย
เสี่ยวเหอตื่นเต้นจนตัวสั่นตลอดทั้งตัว และไม่กล้ามองเจียงเซี่ยน
เดิมทีนางก็เป็นเพียงเด็กสาวที่หนีภัยมาเช่นกัน และถูกขายมายังตระกูลหลี่ด้วยความบังเอิญ ตอนหลังเพราะทำงานเรียบร้อยและว่องไว และยอมติดตามตระกูลหลี่มารับตำแหน่งไกลมากถึงซานซี จึงถูกเลือกให้เป็นคนรับใช้ในเรือนของหลี่ตงจื้อ
ท่านหญิงเจียหนาน สำหรับนาง ก็คือเด็กสาวที่อยู่หน้าเจ้าแม่กวนอิมในตำนาน และองค์หญิงของฮ่องเต้
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นคนรับใช้ของครอบครัวสามีท่านหญิงเจียหนาน เพียงแค่ได้เห็นท่านหญิงเจียหนานอยู่ไกลๆ สักนิด นั่นก็เป็นเพราะบรรพบุรุษจุดธูปสูงแล้ว เวลานี้ได้รับคำชมจากท่านหญิงเจียหนาน…ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ต่อไปต่อให้ตระกูลหลี่ไม่ต้องการนางแล้ว นางก็สามารถเป็นหญิงรับใช้ให้ตระกูลที่มั่งคั่งและมีอำนาจอื่นได้เช่นกัน
พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ นางก็คำนับเจียงเซี่ยนสามครั้ง
เจียงเซี่ยนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เพียงแค่คำชมธรรมดาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าคำนับแบบนี้จริงๆ
ดูท่าทางถึงแม้เสี่ยวเหอจะใช้ได้ แต่เรื่องมารยาทกับกิริยาท่าทางก็ยังต้องอบรมสั่งสอนสักพัก
นางแต่งงานมาเดือนกว่าแล้ว หลายวันนี้รู้จักกับสตรีบรรดาศักดิ์ระดับห้าขึ้นไปแล้ว ต่อไปก็น่าจะมีคนมากมายอาศัยสตรีชนชั้นสูงเหล่านี้เป็นคนกลางมารู้จักนาง นางก็ต้องยุ่งอยู่กับการติดต่อกับคนเหล่านี้เช่นกัน จึงไม่มีเวลาแล้วก็ไม่มีแรงกายแรงใจหันกลับมาก้าวก่ายทุกเรื่องเหมือนที่จัดระเบียบงานภายในของตระกูลหลี่อีกแล้ว ดังนั้นนางคิดถึงอะไรก็ถามถึงเรื่องนั้น งานที่รับผิดชอบก็เตรียมมอบให้ฉิงเค่อไปดูแล ก็เหมือนในวังชาติก่อน ในวังไม่มีฮ่องเต้ งานของวังทั้งหกก็มอบให้ฉิงเค่อหมด
ตอนที่ออกจากบ้าน เจียงเซี่ยนจูงหลี่ตงจื้อขึ้นมาบนรถม้าของตนเอง
“แม้น้องหญิงจะอายุน้อย แต่ข้าดูแล้วกลับเป็นคนที่มีความคิดลุ่มลึกเหมือนท่านแม่ทัพ” นางถามหลี่ตงจื้อว่า “ไม่รู้ว่าน้องหญิงคิดอย่างไรกับเสี่ยวเหอ?”
หลี่ตงจื้อไม่เข้าใจ
เจียงเซี่ยนยิ้มและเอ่ยว่า “หากน้องหญิงคิดจะให้เสี่ยวเหอรับใช้เจ้าไปตลอดชีวิต ตอนนี้ก็ให้นางเรียนรู้กับพวกฉิงเค่อว่าดูรายการบัญชีอย่างไรและดูแลบ้านอย่างไรดีกว่า หากน้องหญิงเพียงแค่อยากให้เสี่ยวเหอรับใช้ระยะหนึ่ง ปกติก็ปกป้องนางมากหน่อย และตกรางวัลให้นางบ้างเป็นบางครั้ง ไว้นางถึงวัยแล้ว ก็หาครอบครัวสามีให้นางอย่างดีก็พอแล้ว”
หลี่ตงจื้อเข้าใจแล้ว จึงรีบเอ่ยว่า “ข้าอยากให้นางรับใช้ข้าไปตลอดชีวิต”
“เช่นนั้นก็ดี!” เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ไว้ผ่านสองวันนี้ไปแล้ว เจ้าก็ให้เสี่ยวเหอไปหาฉิงเค่อเถอะ! ตอนที่เจ้าฝึกคัดตัวอักษร สามารถให้เสี่ยวเหอเรียนรู้อะไรบางอย่างกับฉิงเค่อได้ ก็ไม่ทำให้นางเสียเวลารับใช้เจ้าเช่นกัน”
หลี่ตงจื้อพยักหน้าติดกันหลายครั้ง
เจียงเซี่ยนไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับหลี่ตงจื้อแล้ว จึงหลับตาพักผ่อน
หลี่ตงจื้อไม่รู้ว่าควรจะคุยอะไรกับเจียงเซี่ยนบ้าง จึงทำได้เพียงก้มหน้าเล่นผ้าเช็ดหน้าในมือ
ท่ามกลางเสียงกลิ้งของรถม้า ไม่นานพวกนางก็ถึงบ้านของใต้เท้าหลู่
หลี่ตงจื้อโล่งอก
นางรู้สึกว่าเจียงเซี่ยนดีกับนางมาก ทว่าไม่รู้ทำไม นางถึงกลัวพี่สะใภ้ใหญ่ของนางคนนี้เล็กน้อย
————————————–