มู่หนานจือ – บทที่ 338 ต่อสู้กันอย่างลับๆ

มู่หนานจือ

ฮูหยิน​ลู่​ขอให้​ฮูหยิน​หลู่​ช่วย​พูด​ให้​นาง​ต่อหน้า​ฮูหยิน​จวง​

ฮูหยิน​หลู่​แปลกใจ​มาก​ คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่อง​นี้​จนถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่จบ​

ตาม​หลัก​แล้ว​ พวก​นาง​ต่าง​ก็​อยู่​ใน​วง​เดียวกัน​ สำหรับ​คน​ที่​เรียก​ว่า​ ‘เพื่อน​’ จะไม่ไว้หน้า​ ก็​เกินไป​หน่อย​แล้ว​

นี่​ตระกูล​จวง​คิด​จะแตกหัก​กับ​ตระกูล​ลู่​หรือ​?

นาง​นึกได้​ว่า​เมื่อวาน​ฮูหยิน​ลู่​เคย​ไปหา​ฮูหยิน​ติง​ จึงอด​ที่จะ​เอ่ย​ไม่ได้​ว่า​ “ฮูหยิน​ติง​ว่า​อย่างไร​?”

ฮูหยิน​ลู่​เอ่ย​ด้วย​สายตา​มืดมน​ว่า​ “ฮูหยิน​ติง​เคย​โน้มน้าว​ฮูหยิน​จวง​แล้ว​ แต่​ฮูหยิน​จวง​กลับ​ปฏิเสธ​อย่าง​อ้อมค้อม​ ข้า​คิด​ว่า​นาง​สนิทสนม​กับ​เจ้าที่สุด​ จึงอยาก​ขอให้​เจ้าช่วย​ออกหน้า​พูด​ให้​หน่อย​ ทุกคน​เจอกัน​บ่อย​ พวกเรา​ตั้งใจ​จะคืนดี​กับ​ใต้เท้า​จวง​ และ​ยินดี​จัด​งานเลี้ยง​เลี้ยง​เหล้า​ใต้เท้า​จวง​ที่​หอ​ไท่​หยวน​”

ฮูหยิน​หลู่​รู้สึก​ว่า​ตระกูล​ลู่​ทำ​ถึงขั้น​นี้​ก็​ถือว่า​ค้อมตัว​แล้ว​

“ข้า​จะหา​โอกาส​ถามให้​เจ้า” ฮูหยิน​หลู่​เอ่ย​

ฮูหยิน​ลู่​ซาบซึ้ง​มาก​

ทั้งสอง​คน​เข้าไป​ใน​โถงบุปผา​ด้วยกัน​

บังเอิญ​เป็นช่วง​ที่​แสดง​จบ​องก์​หนึ่ง​และ​พัก​พอดี​

ทั้งสอง​คน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ที่​ดัง​กังวาน​เอ่ย​อย่าง​เย่อหยิ่ง​ว่า​ “…พี่ใหญ่​ของ​ครอบครัว​ท่าน​ลุง​ข้า​เก่ง​มาก​เลย​ อายุ​มากกว่า​ข้า​เพียงแค่​สอง​ปี​ ก็​เป็น​จวี่​เห​ริน​แล้ว​ ส่วน​น้อง​รอง​ของ​ข้า​ อายุ​น้อยกว่า​ข้า​สอง​ปี​ ก็​เป็น​ซิ่ว​ไฉแล้ว​ คน​ที่​เจ้าบอก​นั้น​อายุ​สิบ​เจ็ด​ปี​แล้ว​ใช่หรือไม่​? จวี่​เห​ริน​ที่​อายุ​สิบ​เจ็ด​ปี​ ก็​ไม่แปลก​ตรงไหน​เช่นกัน​!”

ถึงอย่างไร​ก็​อายุ​ยัง​น้อย​ ความหงุดหงิด​ฉาย​วาบ​ผ่าน​ไป​บน​หน้า​ของ​ติง​หวั่น​อย่าง​เบาบาง​ อยาก​โต้เถียง​ ก็​ไม่อาจ​โต้เถียง​ได้​

สีหน้า​ของ​นาง​จึงดู​แย่​เล็กน้อย​

ฮูหยิน​หลู่​กับ​ฮูหลิน​ติ​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​

พี่ชาย​ของ​ฮูหยิน​จวง​ ปี​นี้​ยัง​อายุ​ไม่ถึงสี่สิบ​ปี​ ก็​ดำรงตำแหน่ง​รอง​ตุลาการ​ของ​ศาล​ต้าห​ลี่​แล้ว​

นี่​ก็​เป็น​ความมั่นใจ​ของ​ฮูหยิน​จวง​เช่นกัน​

ใน​ห้อง​เงียบกริบ​ไป​ชั่วขณะ​

สีหน้า​ของ​ฮูหยิน​ติง​กับ​ฮูหยิน​ห​ลี่​ก็​ดู​แย่​เล็กน้อย​เช่นกัน​

เมื่อ​ครู่​ไม่รู้​ว่า​คุย​อะไร​ คุย​ไป​คุย​ไป​ก็​เอ่ยถึง​การ​สอบ​ขุนนาง​ระดับ​เซียง​ซื่อ​ที่​จัด​ขึ้น​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ปี​ที่แล้ว​ ลูกชาย​ของ​ฮูหยิน​ห​ลี่​สอบผ่าน​และ​ได้​เป็น​เจี่ย​หยวน​ ติง​หวั่น​นับถือ​พี่ชาย​ผู้​นี้​มาโดยตลอด​ จึงอด​ไม่ได้​ที่จะ​ชมขึ้น​มา ทว่า​จู่ๆ คุณหนู​ใหญ่​ตระกูล​จวง​กลับ​ก้าว​ออกมา​เอ่ยถึง​ลูกพี่​ลูก​พี่น้อง​ที่​มีศักดิ์​เป็น​พี่ชาย​ของ​ตนเอง​

ไม่ว่า​แม่คน​ไหน​ได้ยิน​คำพูด​แบบนี้​ก็​จะรู้สึก​ไม่ค่อย​พอใจ​ทั้งนั้น​

ยิ่งไปกว่านั้น​คุณหนู​จวง​เป็น​เพียง​เด็กสาว​ที่​ยัง​อายุ​ไม่ครบ​สิบห้า​ปี​เต็ม​ คน​ที่นั่ง​อยู่​ก็​ล้วน​เป็น​ผู้อาวุโส​ของ​นาง​ ต่อให้​พวก​นาง​อยาก​ทะเลาะ​กับ​นาง​ก็​ไม่สมฐานะ​อยู่ดี​

ฮูหยิน​จวง​รีบ​ลุกขึ้น​ขอโทษ​ฮูหยิน​ติง​กับ​ฮูหยิน​ห​ลี่​ “นาง​เป็น​ลูกสาว​คนโต​ หลังจากนั้น​สิบเอ็ด​เดือน​ข้า​ก็​คลอด​ลูกชาย​คนโต​อีก​ทันที​ ท่าน​แม่กลัว​ว่า​ข้า​เลี้ยงลูก​สอง​คน​พร้อมกัน​จะเหนื่อย​เกินไป​ จึงรับ​นาง​ไป​เลี้ยงดู​ข้าง​กาย​ นาง​โตมา​กับ​ลุง​ จึงนิสัย​เอาแต่ใจ​เล็กน้อย​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​ ขอให้​ฮูหยิน​ทั้งสอง​อย่า​ได้​ใส่ใจ”

พูด​ไป​พูด​มา ก็​ยัง​ต้อง​ใช้ลุง​ของ​คุณหนู​จวง​มากด​คน​

ฮูหยิน​ติง​กับ​ฮูหยิน​ห​ลี่​สีหน้า​เย็นชา​มากขึ้น​ และ​ขี้เกียจ​แม้แต่​จะเอ่ย​คำทักทาย​แล้ว​

ฮูหยิน​หลู่​รีบ​ออกหน้า​ไกล่เกลี่ย​ โดย​ถามทุกคน​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “แตง​หวาน​วันนี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​? ข้า​รู้สึก​ว่า​หวาน​กว่า​ปี​ที่ผ่านมา​เสีย​อีก​ ซื้อ​กลับมา​เล็กน้อย​ก็ดี​ทุก​ลูก​ ข้า​ได้ยิน​หญิง​รับใช้​ใน​บ้าน​บอ​กว่า​ นั่น​เป็น​เพราะ​ปี​นี้​น้ำฝน​ดี​ อากาศ​ร้อน​ เพียงแต่​ลำบาก​พวกเรา​แล้ว​ ออก​ไป​ข้างนอก​ก็​เหงื่อ​ทั้งตัว​ จน​ไม่กล้า​ไป​ไหน​ทั้งนั้น​” แล้วก็​สั่งแม่นม​ข้าง​กาย​ว่า​ “ส่งน้ำแกง​ถั่วเขียว​สำหรับ​คลาย​ร้อน​ไป​ให้​คน​ของ​คณะ​สื่อ​เจีย​หน่อย​ พวกเขา​ก็​ลำบาก​มาก​เหมือนกัน​”

แม่นม​ยิ้ม​พลาง​ขาน​ว่า​ “เจ้าค่ะ​” และ​ออก​ไป​

ฮูหยิน​ติง​กับ​ฮูหยิน​ห​ลี่​ก็​กลับมา​เป็นปกติ​แล้ว​เช่นกัน​ จึงยิ้ม​และ​เอ่ยถึง​อากาศ​ปี​นี้​กับ​ฮูหยิน​หลู่​

เรื่อง​นี้​ฮูหยิน​หวัง​รู้ดี​ที่สุด​ หัวข้อ​สนทนา​ของ​ทุกคน​ค่อยๆ​ ย้าย​ไป​ที่​ฮูหยิน​หวัง​ ฮูหยิน​เห​อ​นั้น​เพราะ​ก่อนหน้านี้​เคย​ถกเถียง​เรื่อง​นี้​กับ​ฮูหยิน​หวัง​และ​ฮูหยิน​เฉียน​ เพิ่งจะ​เรียน​มาก็​ใช้ทันที​ จึงสามารถ​คุย​กับ​เหล่า​ฮูหยิน​ได้​แล้ว​

ฮูหยิน​หลู่​ก็​ลาก​ฮูหยิน​จวง​ไปนอก​โถงบุปผา​ และ​ถามนาง​ว่า​ “เจ้าเป็น​อะไร​ไป​กัน​แน่​? ไม่เพียงแต่​ล่วงเกิน​ตระกูล​ลู่​ ยัง​ล่วงเกิน​ฮูหยิน​ติง​ด้วย​ นาย​ท่าน​ของ​พวก​เจ้าจะเลื่อนตำแหน่ง​แล้ว​หรือเปล่า​? หรือว่า​นาย​ท่าน​ของ​พวก​เจ้าวาง​แผนงาน​ดี​อีกแล้ว​?”

ฮูหยิน​จวง​เม้มปาก​ยิ้ม​ และ​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ภูมิใจเล็กน้อย​ว่า​ “หาก​มีข่าวดี​ข้า​จะบอก​เจ้าเป็น​คน​แรก​”

นั่น​ก็​หมายความว่า​ ใต้เท้า​จวง​เลื่อนตำแหน่ง​แล้ว​

เดิมที​ฮูหยิน​หลู่​ยัง​อยาก​เป็น​คนกลาง​ให้​ตระกูล​ลู่​ ดูท่าทาง​คนกลาง​นี้​ก็​อย่า​เป็น​เลย​ ตระกูล​จวง​ไม่มีทาง​เลิก​แค้น​ตระกูล​ลู่​หรอก​

นาง​ลอบ​ถอนหายใจ​ และ​หา​โอกาส​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ฮูหยิน​ลู่​

แน่นอน​ว่า​ นาง​ไม่ได้​บอก​เรื่อง​ที่​ใต้เท้า​จวง​อาจจะ​เลื่อนตำแหน่ง​ เพียงแค่​บอก​ฮูหยิน​ลู่​ว่า​เรื่อง​นี้​นาง​ก็​ไร้ความสามารถ​เช่นกัน​ และ​บอก​ฮูหยิน​ลู่​เป็น​นัยว่า​ เรื่อง​นี้​หาก​ไม่แก้ไข​ตอนนี้​ ต่อไป​คงจะ​ยุ่งยาก​มากขึ้น​

ฮูหยิน​ลู่​ก็​เป็น​คน​ฉลาด​มาก​เช่นกัน​ ไม่อย่างนั้น​ด้วย​นิสัย​ของ​ใต้เท้า​ลู่​ คง​ถูก​คน​จัดการ​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​

นาง​คิด​แล้ว​ สุดท้าย​ก็​ขอร้อง​ในนามของ​เจียง​เซี่ยน​

ตอนนั้น​เจียง​เซี่ยน​กำลัง​ปรึกษา​เรื่อง​ไป​กิน​เหล้า​ที่​ตระกูล​ซือ​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​

วันนั้น​รับประทาน​อาหารเย็น​ที่​บ้าน​ของ​ฮูหยิน​หลู่​แล้ว​ ทุกคน​กำลัง​เตรียมตัว​แยกย้าย​ จู่ๆ ฮูหยิน​ซือ​ก็​เอ่ยปาก​เชิญทุกคน​ไป​ร่วม​วันเกิด​ของ​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​

แน่นอน​ว่า​ทุกคน​ย่อม​พา​กัน​รับปาก​ แต่​สุดท้าย​จะไป​หรือไม่​นั่น​ก็​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​แล้ว​

เมื่อวาน​ จวน​สกุล​ห​ลี่​ได้รับ​เทียบเชิญ​จาก​ตระกูล​ซือ​แล้ว​

เท่าที่​เจียง​เซี่ยน​รู้​ ตระกูล​ซือ​ยัง​ส่งเทียบเชิญ​ให้​เกา​เมี่ยวห​รง​คนเดียว​ด้วย​

เกา​เมี่ยวหรง​ถือ​เทียบเชิญ​ไป​พบ​ฮูหยิน​เห​อ​ บอ​กว่า​ถึงเวลา​นั้น​จะไป​ตระกูล​ซือ​กับ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​และ​เห​อถง​เหนียง​ และ​เอ่ย​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​ว่า​ถึงเวลา​นั้น​นาง​จะคอย​ดู​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ จะไม่ให้​ใคร​รังแก​พวก​นาง​

เพราะ​เป็น​วันเกิด​ของ​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​ นอก​เสีย​จากว่า​เป็น​ตระกูล​ที่​สนิทสนม​กัน​มาก​จน​เหมือน​เป็น​คนใน​ครอบครัว​ ไม่อย่างนั้น​ผู้อาวุโส​ก็​จะไม่ไป​ร่วมงาน​

ใน​มุมมอง​ของ​เจียง​เซี่ยน​ ตระกูล​ห​ลี่​กับ​ตระกูล​ซือ​ยัง​เรียก​ว่า​ตระกูล​ที่​สนิทสนม​กัน​มาก​จน​เหมือน​เป็น​คนใน​ครอบครัว​ไม่ได้​ นาง​ก็​จะไม่เอาชื่อ​ของ​ตนเอง​ไป​เสริม​เกียรติ​ให้​คุณหนู​สามตระกูล​ซือ​เช่นกัน​ กลับมา​จึงปรึกษา​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​เรียบร้อย​แล้ว​ ถึงเวลา​นั้น​จะส่งแค่​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ไป​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​ยัง​ไม่เคย​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ของ​พวก​คุณหนู​ตระกูล​ขุนนาง​คนเดียว​ ฮูหยิน​เห​อ​จึงอด​ที่จะ​กังวล​ไม่ได้​ คำพูด​ของ​เกา​เมี่ยวหรง​ทำให้​นาง​ซาบซึ้ง​มาก​ทันที​ จึงมอบ​เครื่องประดับ​ผม​รูป​ดอกไม้​ไข่มุก​ประดับ​ด้วย​ขนนก​กระเต็น​สีฟ้าให้​เกา​เมี่ยวหรง​คู่​หนึ่ง​

ทว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​เกา​เมี่ยวหรง​ก็​ไม่ยอมรับ​ไว้​ และ​บอ​กว่า​หาก​ฮูหยิน​เห​อ​ทำ​แบบนี้​อีก​ นาง​ก็​จะไม่มาเยี่ยม​ฮูหยิน​เห​อ​อีกแล้ว​ นาง​ดี​กับ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ เพราะ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​เป็น​คน​ที่​นาง​เห็น​มาตั้งแต่​เด็ก​จน​โต​ ใน​ใจนาง​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ก็​เหมือน​น้องสาว​ของ​นาง​

ฮูหยิน​เห​อ​จึงจำเป็นต้อง​ล้มเลิก​ และ​จูงมือ​ของ​นาง​ส่งนาง​ออกจาก​ลาน​บน​ด้วย​ตนเอง​

เจียง​เซี่ยน​หัวเราะเยาะ​ และ​ไปหา​ฮูหยิน​เห​อ​ ให้​ฮูหยิน​เห​อ​ไป​บอก​เกา​เมี่ยวหรง​ว่า​ ถึงเวลา​นั้น​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​จะไป​กับ​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​ คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​จะดูแล​พวก​นาง​สอง​คน​ “…น้อง​หญิง​ทั้งสอง​นั้น​คน​หนึ่ง​เป็น​คุณหนู​ที่เกิด​จาก​ภรรยา​เอก​ที่​แท้จริง​ของ​ตระกูล​ห​ลี่​ อีก​คน​เป็น​คุณหนู​ที่​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ที่​แท้จริง​ หลานสาว​ของ​ผู้ช่วย​เป็น​คน​พา​ไป​ร่วม​วันเกิด​ของ​คุณหนู​ขุนนาง​ นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​? หรือว่า​ตระกูล​ของ​พวกเรา​หา​คน​ที่​สามารถ​แนะนำ​น้อง​หญิง​ทั้งสอง​ได้​ไม่ได้​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? ให้​คน​ที่​ไม่รู้​แม้แต่​ตนเอง​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​เป็นเพื่อน​? หรือว่า​หลานสาว​ของ​ผู้ช่วย​คน​นี้​มาจาก​ตระกูล​สูงศักดิ์​ นาง​เป็น​คน​อบรมสั่งสอน​คุณหนู​ของ​ตระกูล​เรา​ทุกอย่าง​หรือ​? น้อง​หญิง​ทั้งสอง​ยัง​จะแต่งงาน​หรือไม่​?”

ฮูหยิน​เห​อ​อาย​จน​หน้า​แดงก่ำ​ทั้ง​หน้า​

ส่วน​ป้า​เห​อตบ​ต้นขา​อย่าง​แรง​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ก็​ว่า​ ทำไม​ข้า​ฟังเรื่อง​นี้​แล้ว​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​ หากว่า​ไปเป็นเพื่อน​ อา​ถงของ​พวกเรา​ไป​ก็​พอแล้ว​ นาง​เข้าไป​แทรกแซง​ใน​นั้น​ มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​? ยัง​ดี​ที่​ท่านหญิง​รู้​เข้า​ ไม่อย่างนั้น​พวกเรา​ก็​จะไป​ทำ​เรื่อง​น่าอาย​ใน​งานเลี้ยง​อีกแล้ว​!”

ฮูหยิน​เห​อ​ร้อนใจ​จน​น้ำตา​ใกล้​จะร่วง​ลงมา​แล้ว​

เจียง​เซี่ยนอด​ไม่ได้​ที่จะ​ใจอ่อน​ จึงเอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “ยัง​ดี​ที่​รู้​ทันเวลา​ และ​ฮูหยิน​ติง​ก็​ตกลง​ให้​คุณหนู​รอง​ตระกูล​ติง​พา​น้อง​หญิง​ทั้งสอง​ไป​ด้วย​ เรื่อง​นี้​จึงหยุด​ไว้​ตรงนี้​ ถือว่า​เป็น​บทเรียน​แล้วกัน​”

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท