มู่หนานจือ – บทที่ 342 สามหยวน

มู่หนานจือ

ถูก​คน​จ้องมอง​เป็นเรื่อง​ดี​ ทว่า​ก็​ต้อง​แบ่ง​ด้วยว่า​ถูก​คน​จ้องมอง​เพราะ​เรื่อง​อะไร​

หาก​ถูก​คน​จ้องมอง​เพราะ​คำพูด​และ​การกระทำ​ไม่เหมาะสม​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​คงจะ​อาย​และ​โกรธ​จน​ยาก​ที่จะ​ทน​ไหว​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เกา​เมี่ยวหรง​ที่​เย่อหยิ่ง​และ​ชอบ​เอาชนะ​

นาง​อดทน​ที่จะ​ไม่หันกลับ​ไป​มองว่า​ใคร​กำลัง​วิพากษ์วิจารณ์​นาง​อย่าง​ยากลำบาก​ แล้ว​เอ่ย​กับ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​และ​เห​อถง​เหนียง​ด้วย​ใบหน้า​เจือ​รอยยิ้ม​เหมือน​ไม่ได้ยิน​ว่า​ “พวก​เจ้าออกจาก​บ้าน​มาก่อน​ข้า​ ทำไม​ถึงเพิ่งจะ​มาตอนนี้​?” แล้วก็​ทักทาย​ติง​หวั่น​ “คุณหนู​ติง​หวั่น​ พวก​เจ้าตาม​ข้า​มาทาง​นี้​” พอ​เอ่ย​จบ​ก็​พา​พวก​นาง​เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ พลาง​เอ่ย​ว่า​ “เพราะ​คน​ที่​เชิญมาวันนี้​ล้วน​เป็น​เพื่อนรุ่นเดียวกัน​ อาหารกลางวัน​จึงจัด​ที่​ห้อง​ข้าง​ตะวันออก​ใน​เรือน​ของ​ซาน​เม่ย​ แต่​ตอนบ่าย​จะจัด​ชมรม​กวี​ใน​สวนดอกไม้​ด้านหลัง​ อาหารเย็น​ก็​จัด​ใน​ศาลา​ของ​สวนดอกไม้​ด้านหลัง​ ตอนนี้​ข้า​จะพา​พวก​เจ้าไป​ที่​ห้อง​ข้าง​ตะวันออก​ คุณหนู​จวง​กับ​คุณหนู​ลู่​มาถึงแล้ว​ หาก​คุณหนู​ติง​ ตง​จื้อ​ และ​ถงเหนียง​ต้องการ​อะไร​ ให้​สาวใช้​หา​ข้า​ก็ได้​ หรือ​สั่งแม่บ้าน​ก็ได้​…”

เอ่ย​ได้​พอสมควร​ ก็​ถึงห้อง​ข้าง​ตะวันออก​พอดี​

ใน​ห้อง​ข้าง​ตะวันออก​นอกจาก​คุณหนู​จวง​กับ​คุณหนู​ลู่​แล้ว​ ยังมี​คุณหนู​ที่​แปลกหน้า​มาก​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​ดูเหมือน​อายุ​สิบ​ห้าสิบ​หก​ปี​ อีก​คน​ดูเหมือน​อายุ​สิบสอง​สิบ​สามปี​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​อายุ​ห่าง​กัน​ และ​คน​หนึ่ง​ใส่สีแดง​อีก​คน​ใส่สีเขียว​ ก็​ดูเหมือน​สอง​พี่น้อง​ฝาแฝด​

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้ม​และ​เอ่ย​ว่า​ “หน้าตา​เหมือนกัน​มาก​ใช่หรือไม่​? ตอนที่​ข้า​เห็น​ก็​ตกใจ​มาก​เหมือนกัน​ สอง​คน​นี้​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​ซาน​เม่ย”​

ทุกคน​คารวะ​กัน​

มีสาวใช้​มาเชิญเกา​เมี่ยวหรง​ “คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​มาแล้ว​ คุณหนู​สามเชิญท่าน​ไป​เจ้าค่ะ​”

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้ม​และ​บอกลา​ทุกคน​ “ข้า​ไป​ดูก่อน​!”

“เจ้าไป​เถอะ​!” ทุกคน​ต่าง​ก็​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ มีเพียง​คุณหนู​จวง​ที่​เลิกคิ้ว​มอง​เกา​เมี่ยวหรง​ครั้งหนึ่ง​ และ​ยก​ถ้วย​ชาดื่ม​ชา โดย​ไม่สนใจ​เกา​เมี่ยวหรง​

เกา​เมี่ยวหร​งอด​ทน​ต่อ​การ​ถูก​ดูหมิ่น​และ​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ข้าง​

คุณหนู​จวง​ถึงจะพยักหน้า​ให้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​และ​เห​อถง​เหนียง​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ต่าง​ก็​ทั้ง​ประหลาดใจ​และ​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​

สายตา​ของ​คุณหนู​จวง​จับจ้อง​ไป​ที่​ติง​หวั่น​แล้ว​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ได้ยิน​ว่า​พี่เขย​เจ้ากำลังจะ​ไป​รับราชการ​ที่หก​กรม​แล้ว​ เป็น​ความจริง​หรือไม่​?”

ติง​หวั่น​ไม่อยาก​คุย​กับ​นาง​ด้วยซ้ำ​ แต่​ทั้งสอง​ตระกูล​มักจะ​ปรากฏตัว​ใน​โอกาส​เดียวกัน​ และ​นาง​ก็​อายุ​มากกว่า​คุณหนู​จวง​ อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​ทำตัว​ใจแคบ​และ​ไม่สนใจ​คุณหนู​จวง​ได้​!

นาง​ตอบ​อย่าง​เย็นชา​มากว่า​ “ไม่รู้​”

ทว่า​คุณหนู​จวง​ดัน​คิด​แต่​จะคุย​กับ​นาง​ จึงเอ่ย​อี​กว่า​ “สามหยวน​ออกเรือน​ เจ้ามอบ​ของขวัญ​อะไร​ให้​นาง​? เล่า​ให้​ข้า​ฟังหน่อย​ ถึงเวลา​นั้น​ข้า​ก็​ให้​ของขวัญ​นาง​ตาม​ของ​เจ้าแล้วกัน​ จะได้​ไม่ลำเอียง​”

ติง​หวั่น​เอ่ย​ว่า​ “ยัง​ไม่ได้​ตัดสินใจ​”

คุณหนู​จวง​ฟังออก​ว่า​นาง​กำลัง​ตอบ​ตนเอง​อย่าง​ขอไปที​แล้ว​ จึงโกรธจัด​ทันที​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ทำไม​เจ้าถึงไม่รู้​อะไร​เลย​?”

ติง​หวั่น​เอ่ย​อย่าง​เยือกเย็น​ว่า​ “เรื่อง​พวก​นี้​ล้วน​เป็นเรื่อง​ของ​ผู้ใหญ่​ ข้า​จะรู้​ได้​อย่างไร​…หรือว่า​พี่เขย​เจ้าไป​รับราชการ​ที่​ไหนจะ​เขียนจดหมาย​มาบอก​เจ้าโดยเฉพาะ​อย่างนั้น​หรือ​? หรือว่า​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​ออกเรือน​มอบ​ของขวัญ​อะไร​ให้​บ้าง​เจ้าจ่าย​เงิน​ของ​ตนเอง​หรือ​?”

คำพูด​นั้น​ไม่เพียงแต่​ย้อน​คุณหนู​จวง​จน​พูดไม่ออก​ ทว่า​หน้า​ยัง​เขียว​สลับ​แดง​เป็นระยะๆ​ ด้วย​

“นี่​ใคร​กำลัง​แต่งเรื่อง​ข้า​ลับหลัง​น่ะ​?” เสียงหัวเราะ​ที่​ร่าเริง​ดัง​มาจาก​หน้า​ประตู​

“สามหยวน​!”

“คุณหนู​สามหยวน​!”

คน​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ยิ้ม​และ​พา​กัน​มอง​ไป​ทาง​หน้า​ประตู​ ลูกพี่ลูกน้อง​สอง​คน​ของ​คุณหนู​สามซือ​ถึงกับ​ลุกขึ้น​ยืน​

หญิงสาว​ที่​รูปร่าง​ผอม​เพรียว​ สวม​เสื้อกั๊ก​ยาว​ผ้า​โปร่ง​สีแดงก่ำ​ เสื้อ​สั้น​ผ้าไหม​หัง​สีเขียว​อ่อน​ เกล้า​มวย​ทรง​ง่ามคู่​ แต่กลับ​สวม​ที่​คาด​ผม​อำพัน​ขี้ผึ้ง​สีเหลือง​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​

“คุณหนู​ติง​หวั่น​!” นาง​ทักทาย​ทุกคน​อย่าง​ชำนาญ​ และ​ถามสาร​ทุกข์สุข​ดิบ​ทุกคน​ “ครั้งก่อน​ข้า​ได้ยิน​ว่า​เจ้าเป็นหวัด​ ยัง​อยาก​ไป​เยี่ยม​เจ้า ไม่คิด​ว่า​เจ้าจะอยู่​ที่นี่​ แสดงว่า​หาย​หวัด​แล้ว​…คุณหนู​จวง​! ทำไม​เจ้าไม่มีความ​เป็น​พี่น้อง​แม้แต่​นิดเดียว​? ครั้งก่อน​ข้า​เชิญเจ้ามาเล่น​ที่​บ้าน​ เจ้าบอ​กว่า​ไม่ว่าง​ ทำไม​…วันเกิด​ของ​คุณหนู​สามซือ​ถึงว่า​ง? หาก​ครั้งหน้า​เจ้าตอบ​ข้า​แบบนี้​อีก​ ข้า​จะโกรธ​แล้ว​นะ​…” พอ​ตอนที่​ถึงตา​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ทั้งสอง​คน​และ​ยิ้ม​ตาหยี​ แล้ว​หันหน้า​ไป​เอ่ย​กับ​ติง​หวั่น​ว่า​ “ให้​ข้า​เดา​ ท่าน​นี้​ต้อง​เป็น​ลูกสาว​ของ​ใต้เท้า​ห​ลี่​แม่ทัพ​ซาน​ซีที่​รับ​ตำแหน่ง​ใหม่​อย่าง​แน่นอน​! ได้ยิน​ชื่อ​นี้​มานาน​แล้ว​ แต่​เพิ่ง​เคย​เจอ​เป็นครั้งแรก​ ข้างๆ​ ท่าน​นี้​น่าจะเป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ที่​มีศักดิ์​เป็น​พี่สาว​ของ​คุณหนู​ห​ลี่​ เมื่อวาน​ยัง​ได้ยิน​คน​เอ่ย​ถึงว่า​คุณหนู​เห​อรูป​ร่าง​หน้าตา​งดงาม​อย่างไร​ ข้า​ยัง​ไม่เชื่อ​ วันนี้​พอ​เจอ​ ก็​เรียก​ได้​ว่า​สมคำ​ร่ำ​ลือ​…”

นาง​หน้าตา​ถือ​ได้​เพียง​ว่า​ได้สัดส่วน​ และ​ผิวคล้ำ​เล็กน้อย​ อย่างไร​ก็​เรียก​ว่า​หญิง​งามไม่ได้​ ทว่า​นาง​สายตา​สดใส​ รอยยิ้ม​เป็นมิตร​ เต็มไปด้วย​ความมีชีวิตชีวา​ ทำให้​คน​ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​นาง​หน้าตา​ดี​ เจริญตา​ และ​สวยงาม​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ต่าง​ก็​เป็น​คน​ค่อนข้าง​สุขุม​ จึงชอบ​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​ทันที​ จน​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​กับ​ติง​หวั่น​นั่งลง​ข้างๆ​ ทั้งสอง​คน​ถึงจะเห็น​เกา​เมี่ยวหรง​ที่​พา​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​มา

พวก​นาง​ยิ้ม​ให้​เกา​เมี่ยวหรง​

แต่​รอยยิ้ม​ของ​เกา​เมี่ยวหรง​กลับ​ฝืนใจ​เล็กน้อย​

นาง​ยืน​อยู่​ใน​ห้อง​ครู่หนึ่ง​ ถึงจะลุกขึ้น​ออก​ไป​ต้อน​รับแขก​คนอื่น​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​เบื่อ​ จึงเริ่ม​มอง​ทิวทัศน์​รอบ​ๆ

ตระกูล​ซือ​ไม่เหมือนกับ​ตระกูล​หลู่​และ​ตระกูล​ลู่​

ตระกูล​หลู่​กว้าง​สามห้อง​แบ่ง​พื้นที่​ออก​เป็น​ห้า​ส่วน​ แถมยัง​แบ่ง​เป็น​เรือน​ตะวันออก​กับ​เรือน​ตะวันตก​ ทุกที่​เป็น​ทิวทัศน์​ ท่าทาง​มั่งคั่ง​และ​มีอำนาจ​ ตระกูล​ลู่​ถึงแม้จะเล็ก​ แต่​ทุกที่​กลับเป็น​ไผ่​ สิ่งที่​ดวงตา​เห็น​เป็น​ดอกไม้​ งดงาม​และ​ใสสะอาด​ ทว่า​ตระกูล​ซือ​กลับ​ไม่มีมาด​เท่า​ตระกูล​หลู่​ และ​ไม่สวย​เท่า​ตระกูล​ลู่​ ดู​คล้าย​บ้าน​ของ​พวกเขา​ เหมือน​เรือน​ข้าง​ของ​พวกเขา​…

คิดถึง​ตรงนี้​ ห​ลี่​ตง​จื้อ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หน้าแดง​

มิน่าเล่า​พี่สะใภ้​ถึงต้อง​ให้​นาง​กับ​เห​อถง​เหนียง​มาร่วม​งานเลี้ยง​ของ​คน​พวก​นี้​เพื่อ​เปิดหูเปิดตา​

แต่​พี่สะใภ้​ต้อง​รู้​อย่าง​แน่นอน​ว่า​ตระกูล​ห​ลี่​ดู​ไม่ค่อย​มีชีวิตชีวา​ แล้ว​ทำไม​ไม่ช่วย​จัด​บ้าน​ล่ะ​?

ห​ลี่​ตง​จื้อ​ไม่ค่อย​เข้าใจ​ จึงตัดสินใจ​ว่า​กลับ​ไป​จะถามเจียง​เซี่ยน​ กระทั่ง​คิด​ว่า​หาก​ได้​จัด​บ้าน​ใหม่​กับ​เจียง​เซี่ยน​ก็ดี​

ทว่า​สถานที่​ที่​เห​อถง​เหนียง​กับ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​สนใจ​กลับ​ไม่เหมือนกัน​

โดย​เนื้อแท้​ลุง​เห​อ​ยังคง​เป็น​พ่อค้า​ ต่อให้​มาพึ่งพาอาศัย​จวน​สกุล​ห​ลี่​แล้ว​ และ​ช่วย​จวน​สกุล​ห​ลี่​จัด​การงาน​ต่างๆ​ คน​ที่​ติดต่อ​ส่วนใหญ่​ก็​เป็น​พวก​พ่อค้า​อยู่ดี​ ตระกูล​หยวน​มีอำนาจ​มาก​แค่​ไหน​ นาง​ก็​เคย​ได้ยิน​มาตั้งแต่​เด็ก​แล้ว​

นาง​มอง​คุณหนู​สามหยวน​อย่าง​เหม่อลอย​ และ​รู้สึก​หวั่นไหว​มาก​

คนอื่น​ต่าง​บอ​กว่า​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​ถูก​เลี้ยง​ให้​โต​เหมือน​ลูกชาย​ ครอบครัว​สามีของ​นาง​ในเวลานี้​ก็​เป็น​เพราะ​เห็น​ว่า​นาง​เก่ง​มาก​เช่นกัน​ จึงอยาก​แต่ง​นาง​ไป​รับใช้​ตระกูล​ ถึงได้​ขอแต่งงาน​อย่าง​เกิน​จริง​

คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​เหมือน​อย่าง​ที่​พวกเขา​บอก​จริงๆ​ พูดจา​และ​ทำ​อะไร​คล่องแคล่ว​และ​เก่ง​มาก​

จริงๆ​ แล้ว​ผู้หญิง​เป็น​แบบนี้​ก็​ทำให้​ครอบครัว​สามีชอบ​ได้​เหมือนกัน​นี่​นา​!

จะเห็น​ได้​ว่า​เป็น​คน​ต้อง​มีความสามารถ​ ไม่ว่า​จะนิสัย​อย่างไร​ ก็​จะมีคน​ชอบ​ทั้งนั้น​!

นาง​มอง​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​คุย​กับ​ติง​หวั่น​อย่าง​ฉะฉาน​ด้วย​ความอิจฉา​ และ​นับถือ​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​มาก​

แล้ว​จู่ๆ นาง​ก็​พบ​ว่า​วันนี้​ตระกูล​ลู่​ก็​มีแค่​คุณหนู​ใหญ่​ตระกูล​ลู่​มาเช่นกัน​ และ​คุณหนู​ใหญ่​ตระกูล​ลู่​ยัง​นั่ง​อยู่​ใน​มุมตลอด​และ​ไม่ค่อย​สนใจ​ใคร​ด้วย​

เห​อถง​เหนียง​นึกถึง​ความ​หลักแหลม​ตอนที่​นาง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ตระกูล​ห​ลี่​ จึงรู้สึก​โดยสัญชาตญาณ​ว่า​อาจจะ​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​นาง​

จนกระทั่ง​ทุกคน​มาครบ​แล้ว​ คุณหนู​ลู่​ก็​ถูก​จัด​ให้​อยู่​โต๊ะ​เดียว​กับ​เห​อถง​เหนียง​และ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ แถมนาง​ยัง​นั่ง​อยู่​ทางซ้าย​และ​ทางขวา​ของ​คุณหนู​ลู่​ด้วย​ นาง​นึกถึง​เมื่อ​ครู่​ที่​คุณหนู​สามตระกูล​หยวน​พูดคุย​และ​หัวเราะ​กับ​เหล่า​คุณหนู​ขุนนาง​อย่าง​สนุกสนาน​มาก​ แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามคุณหนู​ลู่​เสียง​เบา​ว่า​ “วันนี้​เจ้าเป็น​อะไร​ไป​? ไม่พูดไม่จา​ ไม่สบาย​หรือเปล่า​? เดี๋ยว​รับประทาน​อาหารกลางวัน​แล้ว​ ข้า​ได้ยิน​พวก​นาง​บอ​กว่า​จะไป​จัด​ชมรม​กวี​ใน​สวนดอกไม้​ เจ้าอยาก​บอก​คน​ของ​ตระกูล​ซือ​สักหน่อย​หรือไม่​ ให้​พวก​นาง​จัด​สถานที่​ให้​เจ้าพักผ่อน​สักครู่​?”

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท