พอหวนคิดถึงสิ่งที่มารดาเคยเตือนตนเอง หลี่ตงจื้อก็เหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง ลนลานและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี?
ในเวลานี้เองสาวใช้คนหนึ่งที่รับใช้ข้างกายคุณหนูสามหยวนก็เดินมาอย่างรวดเร็ว และเอ่ยกับคุณหนูสามหยวนเสียงเบาว่า “แย่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนูสาม คุณหนูจวงสั่งให้สาวใช้ข้างกายนางกลับไปแจ้งข่าวที่จวนสกุลจวง บอกว่านางถูกคุณหนูหลี่ตงจื้อตบ เวลานี้เวียนศีรษะและตาลาย ให้ฮูหยินจวงส่งคนมารับนางกลับไปเจ้าค่ะ!”
กำลังกลัวอะไรอยู่อันนั้นก็มาจริงๆ!
คุณหนูสามหยวนลูบหน้าผาก และมองเหอถงเหนียงครั้งหนึ่ง
เหอถงเหนียงตกใจจนอึ้งไปตั้งนานแล้ว นางจับผ้าเช็ดหน้าในมือแน่นมากและยืนอยู่ข้างๆ อย่างตัวสั่นไม่หยุด จึงไม่ได้สังเกตสายตาที่คุณหนูสามหยวนมองมาอย่างสิ้นเชิง
คุณหนูสามหยวนจึงจำเป็นต้องมองไปที่คุณหนูใหญ่ตระกูลลู่
ช่างประสบภัยอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ!
บุญคุณและความแค้นของตระกูลลู่กับตระกูลจวงยังไม่คลี่คลาย นางก็กลายเป็นคนพวกเดียวกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่โดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว
จะแบ่งความสัมพันธ์ให้ชัดเจนและเป็นคนแปลกหน้าตั้งแต่นี้ไปหรือจะช่วยคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่สักครั้งโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น?
ความคิดฉายวาบผ่านไป เพียงแค่ไม่กี่อึดใจคุณหนูใหญ่ตระกูลลู่ก็ตัดสินใจได้แล้ว
บุญคุณและความแค้นของตระกูลลู่กับตระกูลจวงดูเหมือนจะคลี่คลายไม่ได้แล้ว หากนางยังทิ้งหลี่ตงจื้อกับเหอถงเหนียงตรงนี้อีก นั่นก็ทิ้งแม้แต่น้ำใจและความหยิ่งในศักดิ์ศรีไปด้วยแล้ว…เข้าข้างคุณหนูจวง ตระกูลจวงอาจจะไม่รับน้ำใจ ทว่าเข้าข้างหลี่ตงจื้อ อย่างน้อยก็ยังสามารถรักษาชื่อเสียงของตระกูลลู่และชื่อเสียงของตนเองไว้ได้
“คุณหนูหลี่” นางไม่คิดอะไรอีก และก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วจับแขนของหลี่ตงจื้อ พลางเอ่ยเสียงเบาว่า “เจ้ารีบเรียกสาวใช้กับหญิงรับใช้ที่ติดตามรับใช้ข้างกายมาเดี๋ยวนี้ แล้วส่งคนที่เชี่ยวชาญและเฉลียวฉลาดกลับไปแจ้งข่าวที่จวนก่อน แล้วเจ้าก็ไปบอกคุณหนูสามซือสักหน่อย บอกว่าเจ้าไม่สบาย ฉวยโอกาสที่คุณหนูจวงยังไม่รู้ตัว กลับจวนเดี๋ยวนี้”
ถึงอย่างไรหลี่ตงจื้อก็ยังเด็ก จึงยังคิดไม่ถึงความร้ายแรงของเรื่องราว แล้วก็กลัวว่าหลังจากกลับจวนสิ่งที่รอนางอยู่จะไม่ใช่การปลอบใจกับการสนับสนุนด้วยเสียงอ่อนโยนและอ้อมค้อมของบิดามารดา กลับเป็นการต่อว่าอย่างดุร้ายและโกรธแค้นกับการขอโทษอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน จึงยืนพึมพำอยู่ตรงนั้นอย่างค่อนข้างหลบเลี่ยงว่า “ข้า…ข้าไม่ผิดเสียหน่อย! เป็นความผิดที่นางว่าพี่สะใภ้ของข้าก่อน ข้าถึงได้โกรธ…”
นางเอ่ยอย่างขาดความมั่นใจอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้
นางยังจำได้ว่าตอนนางเด็กๆ มีครั้งหนึ่งไปเป็นแขกที่ตระกูลจิ้งไห่โหวกับมารดา และถูกหลานชายของลูกสาวคนโตของตระกูลจิ้งไห่โหวสาดจนเสื้อผ้าเปียก นางผลักเด็กชายคนนั้นทีหนึ่ง เด็กชายคนนั้นไม่เป็นอะไรเลย แต่กลับถูกเด็กชายคนนั้นหาเรื่องกลับด้วยการไปฟ้องฮูหยินเฒ่าจิ้งไห่โหว มารดาของนางทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นความผิดของเด็กชายคนนั้น สุดท้ายยังบังคับให้นางขอโทษเด็กชายคนนั้น…ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่นางไปเป็นแขกที่จวนจิ้งไห่โหว พวกเด็กของตระกูลจิ้งไห่โหวก็จะรังแกนาง
อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นถูกรังแกมามากแล้ว ครั้งนี้พอนางได้ยินคุณหนูจวงว่าเจียงเซี่ยนแบบนั้น คิดถึงที่ตระกูลของนางกลับมาบ้านเกิดอย่างยากลำบาก และจะไม่ไปจากซานซีอีกแล้ว นางยังต้องถูกคนรังแกเป็นประจำเหมือนเมื่อก่อนอีกอย่างนั้นหรือ? จึงทนไม่ไหวจนระเบิดอารมณ์ที่เมื่อก่อนเก็บไว้ในใจและฝืนอดทนมาตลอดออกมา…สุดท้ายก็ยังก่อเรื่องอยู่ดี!
หลี่ตงจื้อไม่ยอมกลับไป
หลังจากกลับไป นางต้องถูกมารดาบังคับให้ไปขอโทษคุณหนูจวงเหมือนเมื่อก่อนอย่างแน่นอน
และคุณหนูจวงร้ายกาจมากกว่าพวกเด็กที่นางเจอเมื่อก่อนเสียอีก นางแอบรู้สึกว่าหากนางไปขอโทษคุณหนูจวง คุณหนูจวงจะต้องแก้แค้นนางด้วยความร้ายกาจสิบเท่าอย่างแน่นอน แถมนางยังอาจจะกลายเป็นตัวตลกของทุกคน และเป็นตัวตลกไปตลอดชีวิต
นางอยู่ที่นี่ มารดาของนางรักหน้าตา อาจจะยกขึ้นสูงๆ และวางลงเบาๆ เพียงแค่ตีนางสักรอบหรือด่านางสักรอบก็จบแล้ว
ถึงแม้คุณหนูใหญ่ลู่จะไม่รู้ว่าหลี่ตงจื้อกำลังคิดอะไร แต่รู้ว่าหลี่ตงจื้อไปตอนนี้ก็หมายความว่า ‘แพ้ตั้งแต่ยังไม่สู้’ ไม่ว่าใครก็ไม่ยอม และไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างแบบนี้ทั้งนั้น
นางมองคุณหนูสามหยวนครั้งหนึ่ง และเอ่ยตรงๆ ว่า “ตงจื้อ เจ้าไม่รู้ว่าตระกูลจวงกำเริบเสิบสานแค่ไหน ฮูหยินจวงรักคุณหนูจวงมากแค่ไหน ข้าให้เจ้าไปตอนนี้ เพราะกลัวเจ้าตกเป็นเบี้ยล่าง…ฮูหยินจวงรู้ว่าคุณหนูจวงถูกตบแล้ว จะต้องไม่ยอมเลิกราง่ายๆ อย่างแน่นอน! หากนางไปหาฮูหยินเหอยังพูดง่าย ถ้าสั่งให้แม่นมข้างกายพาแม่บ้านที่ทำงานหนักเอาพวกไม้กระบองมาฆ่า เจ้าอยู่ที่นี่หากบาดเจ็บตรงไหน ไม่เพียงแต่จะเสียหน้า ทว่าตนเองยังได้รับความทุกข์ทรมานด้วย แล้วเจ้าจะทำแบบนี้ไปทำไม? หานซิ่นยังเคยอับอายที่ต้องคลานลอดใต้หว่างขา! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงธรรมดาอย่างพวกเจ้า! ไม่ว่าอย่างไรเมื่อครู่เจ้าก็เรียกข้าว่าพี่ เจ้าก็ฟังข้าสักครั้งเถอะ!”
หลี่ตงจื้อตกใจ และเบิกตาโตมาก เหมือนกำลังฟังบทความที่เข้าใจยาก “ฮูหยินจวง นาง…นางจะส่งแม่นมข้างกายมา…”
ตีนาง?!
คุณหนูใหญ่ลู่รีบเอ่ยว่า “เรื่องแบบนี้ฮูหยินจวงก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ หากเจ้าอยากรู้ ต่อไปข้าค่อยเล่าให้เจ้าฟังอย่างละเอียด ตอนนี้เจ้ารีบกลับบ้าน...หากเป็นเรื่องใหญ่แล้ว ไม่ว่าเจ้ามีเหตุผลหรือคุณหนูจวงมีเหตุผล หากถูกลากเข้าไปพัวพันก็เสียชื่อเสียงทั้งนั้น…”
เพียงแต่นางยังพูดไม่จบ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบและสะเปะสะปะดังมาจากนอกห้องข้าง เหมือนมีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาทางนี้
คุณหนูสามหยวนกับคุณหนูใหญ่ลู่อดที่จะแลกเปลี่ยนสายตากันไม่ได้
คุณหนูใหญ่ลู่รีบเอ่ยว่า “พี่สาม ท่านช่วยขวางไว้ให้พวกเราหน่อย พวกเราจะไปบอกลาคุณหนูสามตระกูลซือเดี๋ยวนี้” นางเอ่ยพลางจูงหลี่ตงจื้อเดินไปทันที เดินไปได้สองก้าว เห็นเหอถงเหนียงไม่ตามมา จึงหันไปใช้มืออีกข้างจูงเหอถงเหนียง รีบร้อนจะไปทางประตูหลัง
“เจ้าอย่าร้อนใจไป คนของตระกูลจวงไม่มาเร็วขนาดนี้” คุณหนูสามหยวนเพิ่งจะเอ่ยจบ คุณหนูใหญ่ลู่ก็เห็นคุณหนูสามตระกูลซือกับเกาเมี่ยวหรงเดินเข้ามาโดยมีเหล่าสาวใช้ล้อมอย่างแน่นหนา
คุณหนูใหญ่ลู่โล่งอก
คุณหนูสามตระกูลซือเอ่ยด้วยสีหน้าโกรธจัดแล้วว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอยู่ดีๆ คุณหนูหลี่ถึงสาดชาใส่คุณหนูจวง?”
เอ่ยปากก็ตัดสินโทษของหลี่ตงจื้อแล้ว
หลี่ตงจื้อรีบมองไปที่เกาเมี่ยวหรง
เกาเมี่ยวหรงทั้งร้อนใจและโกรธ
ร้อนใจที่ด้วยความสัมพันธ์ของนางกับตระกูลหลี่ ไม่ว่าอย่างไรนางก็หนีไม่พ้น และโกรธที่เด็กสาวดีๆ อย่างหลี่ตงจื้อ ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นไม่เชื่อฟังขึ้นมา แถมยังก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำให้นางเสียหน้าต่อหน้าคุณหนูสามตระกูลซือไปด้วย
“ตงจื้อ” นางเรียกชื่อของหลี่ตงจื้อ และเอ่ยอย่างกังวลว่า “เจ้าอย่าร้อนใจไป เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าเล่าให้คุณหนูสามตระกูลซือฟังดีๆ เดี๋ยวข้าไปขอโทษคุณหนูจวงเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าไม่ต้องกลัว ส่วนฮูหยินนั้น ข้าจะไปช่วยพูดให้เอง ไม่เป็นไรหรอก”
หลี่ตงจื้อหลุบตาลง
พี่เกาเลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก นางเป็นคนอย่างไร คนอื่นไม่รู้ พี่เกาควรจะรู้ดีที่สุดถึงจะถูก
ทว่าพี่เกากลับพูดออกมาแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย
นางเสียใจมาก
เสียใจจนกระทั่งท้อแท้เล็กน้อย
และไม่อยากแม้แต่จะพูดแก้ตัวอีกแล้ว
สีหน้ายังคงฉายแววดื้อรั้นเล็กน้อยอย่างที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ว่าเป็นความเข้าใจผิด
คุณหนูสามซือเห็นแล้วโกรธมาก
ฮูหยินจวงให้ท้าย ทุกคนในวงการราชการซานซีต่างก็รู้ หลี่ตงจื้อหาเรื่องใครไม่ดี กลับหาเรื่องคุณหนูจวง และเป็นวันเกิดของนางอีก นางที่เป็นเจ้าภาพไม่ออกหน้าจัดการได้หรือ? ทว่าตระกูลจวงจะไว้หน้าตระกูลซือได้อย่างไร? ถึงเวลานั้นมีแต่ต้องเชิญมารดาของนางไปขอโทษ
ทำไมจะต้องให้ตระกูลซือของพวกนางไปถูกรังแกที่บ้านคนอื่นเพราะเรื่องที่หลี่ตงจื้อก่อไว้ด้วย!
หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่เชิญหลี่ตงจื้อกับลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวของนางมาแล้ว
งานเลี้ยงวันเกิดดีๆ ของนางกลับถูกหลี่ตงจื้อทำวุ่นวายไปหมด!
คุณหนูสามตระกูลซือยิ่งคิดสีหน้าก็ยิ่งดูแย่ จนสุดท้ายสีหน้าก็ดุร้ายขึ้นมาเล็กน้อย