แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 886 แฉโพยความลับ

ตอนที่ 886 แฉโพยความลับ

ตอนที่​ 886 แฉโพย​ความลับ​

สาว​ ๆ พูดคุย​และ​ปรึกษา​กัน​อยู่​นาน​ จน​ในที่สุด​ก็​ตัดสินใจ​ได้​ว่า​จะกิน​อะไร​ดี​

ทุกคน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​หลิน​ม่าย​พร้อมกัน​ ก่อน​จะผลัก​เมนู​ไปหา​เธอ​ “เหลือ​เธอ​คนเดียว​ที่​ยัง​ไม่ได้​สั่งแล้ว​”

หลิน​ม่าย​อุ้ม​ทารก​ไว้​ใน​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ และ​ใช้มือ​อีก​ข้าง​พลิก​เมนู​ตรงหน้า​ เธอ​กล่าว​กับ​บริกร​ที่​รอ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ว่า​ “กระต่าย​ย่าง​ 1 ตัว​ค่ะ​”

เหมียว​เหมียว​อุทาน​เสียงหลง​ “เธอ​กล้า​สั่งกระต่าย​ย่าง​ทั้งตัว​เลย​เหรอ​ มัน​แพง​มาก​เลย​นะ​ กระเป๋าสตางค์​ของ​ฉัน​จะฉีก​ไหม​เนี่ย​?”

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ก่อน​จะตอบ​ว่า​ “แต่​กระเป๋าสตางค์​ของ​ฉัน​รับได้​”

ภายใน​ไม่กี่​วินาที​ ทุกคน​เข้าใจ​ความหมาย​ทันที​ พวกเขา​ยิ่ง​มีความสุข​มากขึ้น​

กระต่าย​ย่าง​ ลูก​แกะ​ย่าง​ของ​ร้านอาหาร​แห่ง​นี้​มีชื่อเสียง​มาก​ แม้พวกเขา​อยาก​จะลิ้มลอง​ แต่​ราคา​ของ​มัน​แพง​เกิน​กว่า​จะจ่าย​ไหว​

เวลานี้​หลิน​ม่าย​นั่ง​มอง​เพื่อน ๆ​ ทุกคน​กำลัง​ลิ้มรส​ความ​อร่อย​ของ​กระต่าย​ย่าง​

แม้ว่า​ร้านอาหาร​แห่ง​นี้​จะอัด​แน่น​ไป​ด้วย​ผู้คน​ แต่​ความเร็ว​ใน​การ​เสิร์ฟ​อาหาร​ยัง​ถือว่า​เร็ว​มาก​

ภายใน​ยี่สิบ​นาที​ ยกเว้น​บาร์บีคิว​สอง​สามชิ้น​ และ​กระต่าย​ย่าง​ทั้งตัว​ อาหาร​อื่น​ ๆ ถูก​เสิร์ฟ​จน​ครบ​แล้ว​

เมื่อ​เหมียว​เหมียว​กำลังจะ​เชิญทุกคน​ให้​ร่วม​รับประทาน​ บริกร​ชาย​ก็​เข็น​เค้ก​วันเกิด​ขนาดใหญ่​เข้ามา​ใกล้​โต๊ะ​

บริกร​ชาย​วาง​เค้ก​วันเกิด​ไว้​กลาง​โต๊ะ​ด้วย​ความระมัดระวัง​ ก่อน​จะหันไป​กล่าว​กับ​เหมียว​เหมียว​ว่า​ “สุขสันต์วันเกิด​นะ​ครับ​”

เหมียว​เหมี่ยว​ตกตะลึง​ก่อน​จะรีบ​อุทาน​ “ฉัน​ไม่ได้​สั่งนะคะ​”

เป็น​หลิน​ม่าย​ที่​ยก​ยิ้ม​และ​พูดว่า​ “เธอ​จะไม่รับ​เค้ก​วันเกิด​นี้​ได้​ยังไง​ล่ะ​ ฉัน​สั่งมาให้​”

“ม่าย​จือ​ เธอ​ใจดีมาก​เลย​” เหมียว​เหมียว​มีความสุข​มาก​จน​พุ่งตัว​เข้าไป​กอด​อีก​ฝ่าย​ และ​ยัง​ต้องการ​จูบ​แก้ม​ของ​หลิน​ม่าย​ด้วย​ แต่​เวลานี้​หลิน​ม่าย​ผลัก​เธอ​ออก​ด้วย​ความรังเกียจ​

ทั้ง​กลุ่ม​กิน​และ​ดื่ม​อย่าง​มีความสุข​ แม้แต่​เสี่ยว​มู่ตง​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​หลิน​ม่าย​ก็​ยัง​ตื่นเต้น​ไป​ด้วย​

ขณะที่​ยก​ไม้ยกมือ​ พูดเจื้อยแจ้ว​พร้อม​พ่น​น้ำลาย​ออกมา​เป็นระยะ​ เขา​มอง​อาหาร​รส​เลิศ​บน​โต๊ะ​ด้วย​ดวงตา​มันวาว​ราวกับ​ต้องการ​ชิม

แต่​เขา​ยัง​ตัวเล็ก​มาก​ และ​ยัง​ไม่สามารถ​กิน​อาหารเสริม​อื่น​ ๆ ได้​เลย​ จึงไม่มีใคร​กล้า​หยิบ​อะไร​ใส่ปาก​ของ​เขา​

หลิน​ม่าย​และ​เพื่อน​ร่วมโต๊ะ​ทั้งหมด​กิน​กระต่าย​ย่าง​อย่าง​มีความสุข​ ในขณะที่​เสี่ยว​มู่ตง​น้ำลายไหล​ย้อย​ตลอดเวลา​ สุดท้าย​พวกเขา​ก็​จ่าย​เงิน​และ​เดิน​ออกจาก​ร้าน​ไป​

ทันทีที่​ทั้ง​กลุ่ม​เดิน​ออก​มาจาก​ร้านอาหาร​ เฝิงเย​ว่​จู๋เดิน​เข้ามา​กล่าว​อ้อนวอน​ “ม่าย​จื่อ​ ฉัน​อยาก​คุย​กับ​เธอ​”

เห็น​อย่างนั้น​แล้ว​ เพื่อนร่วมชั้น​จึงบอกกล่าว​กับ​หลิน​ม่าย​ และ​ตรง​ไป​ยัง​ป้ายรถเมล์​เพื่อ​นั่ง​รถบัส​กลับ​มหาวิทยาลัย​

หลิน​ม่าย​ถามกลับ​ “คุณ​จะคุย​อะไร​กับ​ฉัน​คะ​?”

เฝิงเย​ว่​จู๋เผย​ท่าทาง​ลังเล​ แต่​ก็​ยัง​กล่าว​พึมพำ​เสียง​ค่อย​ “เธอ​ช่วย​เก็บ​เรื่อง​เมื่อครู่นี้​เป็นความลับ​ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​เลิกคิ้ว​ “แล้ว​คุณ​คิด​ว่า​ยังไง​ล่ะ​?”

เธอ​ทิ้ง​เฟิงเย​ว่​จู๋พร้อมกับ​เดิน​ตรง​ไป​ที่​รถ​เบนซ์​ของ​ตัวเอง​

แต่​เฝิงเย​ว่​จู๋รีบ​ติดตาม​ด้านหลัง​มาอย่าง​รวดเร็ว​แล้ว​อธิบาย​ต่อ​ “ฉัน​ไม่ได้​อยาก​มานัดบอด​คราวนี้​ แม่ของ​ฉัน​จัดการ​ให้​ทุกอย่าง​”

หลิน​ม่าย​จึงหยุด​เดิน​แล้ว​ถามว่า​ “แม่ของ​คุณ​ไม่พอใจ​พี่ชาย​ฉัน​เหรอ​?”

เฝิงเย​ว่​จู๋ตกตะลึง​ครู่หนึ่ง​ หล่อน​ไม่รู้​เลย​ว่า​จะตอบ​อย่างไร​

ทำไม​ความคิด​ของ​หลิน​ม่าย​ถึงแตกต่าง​จาก​คนอื่น​นัก​?

เธอ​ควรจะ​สนใจ​ว่าการ​นัดบอด​นี้​ไม่ใช่ความสมัครใจ​ของหล่อน​ แต่​เป็น​ความตั้งใจ​ของ​แม่หล่อน​ หล่อน​ก็​เพียงแค่​บอก​กล่าวว่า​แม่บังคับ​ให้​หล่อน​มา แล้ว​อีก​ฝ่าย​ก็​ควรจะ​เลิกแล้วต่อกัน​

แต่​หลิน​ม่าย​กลับ​ถามถึงความคิด​ของ​แม่หล่อน​ที่​มีต่อ​ไป๋​เซี่ย!​

มัน​เป็น​เพราะ​ไป๋​เซี่ย​ขู่​หล่อน​เสมอ​ว่า​จะเลิก​กับ​หล่อน​ก่อน​แต่งงาน​ เช่นนี้​จึงไม่มีแม่คน​ไหน​ที่จะ​พอใจ​ใน​ตัว​เขา​

แต่​เฝิงเย​ว่​จู๋ไม่กล้า​ที่จะ​พูด​เรื่อง​นี้​ออก​ไป​

หลิน​ม่าย​เปิดประตู​ก่อน​จะนั่งลง​กับ​ทารก​ใน​อ้อมแขน​ ก่อน​จะปิดประตู​ เธอ​พูด​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋ว่า​ “ใน​เมื่อ​แม่ของ​คุณ​ไม่พอใจ​พี่ชาย​ของ​ฉัน​ เดี๋ยว​ฉัน​จะบอก​พ่อ​ให้​นะคะ​”

หลัง​พูด​จบ​ เธอ​เหยียบคันเร่ง​และ​ออกจาก​ตรงนี้​ทันที​ ก่อน​จะพ่น​ควัน​ดำ​ใส่ใบหน้า​ของ​เฝิงเย​ว่​จู๋

เฝิงเย​ว่​จู๋ไอ​อย่าง​หนัก​สัก​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะวิ่งหนี​กลับบ้าน​

เวลานี้​คุณแม่​เฝิงกับ​คุณพ่อ​เฝิงกำลัง​นั่ง​ดู​ทีวี​พร้อมกับ​หัวเราะ​กัน​อย่าง​สนุกสนาน​

เมื่อ​เห็น​เฝิงเย​ว่​จู่วิ่ง​กลับมา​พร้อม​ร่างกาย​ชุ่มเหงื่อ​ พวกเขา​รีบ​ถาม “เป็น​ยังไง​บ้าง​? นัดบอด​ผ่าน​ไป​ได้​ด้วยดี​ไหม​?”

เฝิงเย​ว่​จู๋ร้องไห้​ออกมา​พร้อมกับ​กล่าว​ด้วย​ความขุ่นเคือง​ “ฉัน​บอก​แล้ว​ว่า​ไม่ไป​ แต่​พวก​แม่ก็​ดันทุรัง​อยาก​ให้​ฉัน​ไป​นัดบอด​ แล้วก็​บังเอิญ​ไป​เจอ​กับ​ม่าย​จื่อ​ ม่าย​จื่อ​บอ​กว่า​หล่อน​จะฟ้อง​ลุง​ไป๋​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​วันนี้​ ฉัน​จะสูญเสีย​ทั้งสอง​คน​ไป​!”

คุณแม่​เฝิงถึงกับ​ตกตะลึง​

ชายหนุ่ม​วัยกลางคน​ชื่อ​ลู่​เวย​เพิ่ง​เดินทาง​กลับ​จาก​ต่างประเทศ​ ตาม​คำบอกเล่า​ของ​คนอื่น​ ๆ บอก​ไว้​ว่า​อาชีพ​ของ​เขา​ทำ​ให้การ​แต่งงาน​ใน​ชีวิต​ของ​เขา​ต้อง​ถูก​เลื่อน​ออก​ไป​

เวลานี้​พ่อแม่​ที่​บ้าน​กระวนกระวาย​จน​เส้น​ผม​เปลี่ยนเป็น​สีขาว​ และ​พวกเขา​ขอให้​ทุกคน​ที่​พบ​เจอ​แนะนำ​คู่ชีวิต​ให้​กับ​ลูกชาย​ของ​ตัวเอง​

เงื่อนไข​ที่​ผู้เฒ่า​ทั้งสอง​พอใจ​คือ​หญิงสาว​ต้อง​มีวุฒิการศึกษา​ระดับ​มหาวิทยาลัย​ และ​มีงาน​ทำ​ มีพื้นฐาน​ครอบครัว​ที่​ดี​ และ​จะดีมาก​ถ้าหากว่า​หล่อน​คน​นั้น​หน้าตา​ดี​

คุณแม่​เฝิงตื่นเต้น​ที่​ได้​รู้​ข่าว​นี้​ และ​พวกเขา​รู้​ว่า​คุณแม่​เฝิงไม่พอใจ​กับ​ว่าที่​ลูกเขย​ในอนาคต​

ทันทีที่​คุณแม่​เฝิงรู้เรื่อง​นี้​ จึงลอง​ถามคุณแม่​เฝิงว่า​อยาก​ให้​เฝิงเย​ว่​จู๋ลอง​ไป​นัดบอด​ดู​ไหม​? แล้ว​ถ้าหาก​ชอบใจ​ขึ้น​มาล่ะ​?

เพื่อน​ของ​แม่เฝิงยัง​บอก​อี​กว่า​ลู่​เวย​ยัง​ไม่ได้​วางแผน​จะกลับมา​ทำงาน​ในประเทศ​จีน​ เพราะ​สุดท้าย​แล้ว​เขา​สามารถ​หา​เงินได้​มากกว่า​ใน​อเมริกา​ เงินเดือน​ของ​เขา​สูงมาก​ด้วย​

การ​กลับมา​ประเทศ​จีน​คราวนี้​ไม่เพียงแต่​เพื่อ​แก้ไข​เหตุการณ์​ที่​ควร​เกิด​แต่​ยัง​ไม่เกิด​เท่านั้น​ แต่​เขา​ยัง​กลับมา​เพื่อ​ชำระ​ทุนการศึกษา​ของ​ตนเอง​ เพื่อให้​ตัว​เขา​สามารถ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​อเมริกา​ได้​

ได้ยิน​อย่างนั้น​แล้ว​ คุณแม่​เฝิงพลัน​หวั่นไหว​ทันที​

หนึ่ง​ดอลลาร์สหรัฐ​เทียบ​เท่ากับ​สิบ​หยวน​

แม้ลู่​เวย​จะได้รับ​ค่าแรงขั้นต่ำ​ใน​อเมริกา​ แต่​เขา​ก็​ยัง​สามารถ​หา​เงินได้​มาก​ถึง 2-3,000 ดอลลาร์​ต่อ​เดือน​ หาก​แปลง​เป็น​เงิน​สกุล​จีน​ก็​นับว่า​หลาย​หมื่น​หยวน​ รายได้​เช่นนี้​ย่อม​สูงว่า​ไป๋​เซี่ย​ไม่ใช่เหรอ​?

และ​ถ้าลูกสาว​ของหล่อน​สามารถ​มัด​ใจลู่​เว่ย​ได้​ หล่อน​ก็​จะได้​แต่งงาน​โดยเร็ว​

และ​หาก​ทั้งสอง​คน​แต่งงาน​กัน​ ลูกสาว​ของหล่อน​จะได้​ไป​อยู่​ที่​อเมริกา​ด้วย​แน่นอน​ และ​หล่อน​ก็​จะมีงาน​ทำ​

ตราบใดที่​ลูกสาว​และ​ลูกเขย​เจียดเงิน​มาให้​พวกเขา​สักหน่อย​ ตระกูล​เฝิงของ​พวกเขา​จะกลับ​กลายเป็น​รุ่งเรือง​ขึ้น​มาทันที​ และ​ลูกชาย​คน​สุดท้อง​จะสามารถ​พึ่งพา​เขา​ใน​การ​เข้าเรียน​ที่​สหรัฐอเมริกา​ได้​ด้วย​

ยิ่ง​คุณแม่​เฝิงคิด​เรื่อง​นี้​มาก​เท่าใด​ หล่อน​ยิ่ง​ฝันเฟื่อง​ไป​ไกล​เท่านั้น​ จึงสนับสนุน​เฝิงเย​ว่​จู๋ให้​ไป​นัดบอด​

เฝิงเย​ว่​จู๋ไม่พอใจ​การ​ที่​พ่อ​ไป๋​และ​หลิน​ม่าย​ตระหนี่​สินสอด​ ส่วน​ไป๋​เซี่ย​ไม่เพียงแต่​จะไม่ขอ​สินสอด​เพิ่ม​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ห้ามไม่ให้​ตระกูล​เฝิงเพิ่ม​เงื่อนไข​การ​แต่งงาน​อีกด้วย​ สิ่งนี้​ทำให้​หล่อน​รู้สึก​ไม่พอใจ​มาก​

เวลานี้​เมื่อ​คุณแม่​เฝิงขอให้​หล่อน​ไป​นัดบอด​ หล่อน​จึงลังเล​อยู่​นาน​ แต่​ก็​ตอบ​ตกลง​

หล่อน​วางแผน​จะพบ​เจอ​คน​ที่​ดี​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ละทิ้ง​ไป๋​เซี่ย​ภายหลัง​

แต่​เพราะ​การ​ปรากฏตัว​ของ​หลิน​ม่าย​ สถานการณ์​จึงเกิน​การควบคุม​ และ​คุณแม่​เฝิงก็​ไม่ได้คิด​เรื่อง​นี้​ด้วย​

คุณแม่​เฝิงรีบ​หันไป​ถามคุณพ่อ​เฝิงทันที​ว่า​จะทำ​อย่างไร​ต่อ​?

เวลานี้​คุณพ่อ​เฝิงสูบบุหรี่​มากกว่า​ครึ่ง​ซอง​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​คิด​หน​ทางออก​ได้​

ท้ายที่สุด​ หัวใจ​ของ​คุณแม่​เฝิงก็​เจ็บปวด​ขึ้น​มา และ​เฝิงเย​ว่​จู๋ก็​ยังคง​โทษ​ว่า​ทุกสิ่ง​เป็น​ความผิด​ของ​แม่ทั้งสิ้น​

อาจ​เรียก​ได้​ว่า​นี่​เป็นเรื่อง​แม่รังแก​ฉัน​ เป็น​เพราะ​แม่ของหล่อน​เป็น​คน​เสนอ​ให้​ไป​นัดบอด​ใน​คราวนี้​

หาก​เป็น​เช่นนี้​ เฝิงเย​ว่​จู๋ยัง​จะสามารถ​รักษาการ​แต่งงาน​กับ​ไป๋​เซี่ย​ไว้​ได้​

ต่อให้​แม่เฝิงจะถูก​ตระกูล​ไป๋​เกลียดชัง​ หรือ​ถูก​ไป๋​เซี่ย​รังเกียจ​ เวลานี้​หล่อน​ก็​ไม่คิด​สนใจ​อีกแล้ว​ และ​หล่อน​จะไม่ยอม​เสีย​เนื้อ​ชิ้น​นี้​ไป​โดย​เด็ดขาด​

กว่า​หลิน​ม่าย​จะกลับ​ถึงบ้าน​ก็​มืด​แล้ว​ เธอ​ผล็อย​หลับ​ไป​ทันที​หลังจาก​อาบน้ำ​เสร็จ​ แต่​สำหรับ​ตระกูล​เฝิงทั้งหมด​มัน​กลายเป็น​ช่วงเวลา​ที่​ยากลำบาก​

วัน​ต่อมา​ หลังจาก​รับประทาน​มื้อ​เช้า หลิน​ม่าย​ขับรถ​พา​โต้​ว​โต้​ว​และ​ทารก​น้อย​กลับมา​ที่​บ้านเกิด​ของ​ตน​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ต้อง​ทำงาน​จึงไม่สามารถ​ไป​กับ​พวกเขา​ได้​

พ่อ​ไป๋​เห็น​หลิน​ม่าย​กลับมา​พร้อมกับ​เด็ก​ทั้งสอง​คน​ เขา​ก็​ดีใจ​จน​แทบ​เป็นบ้า​

เขา​กำลังจะ​หันไป​สั่งให้​ไป๋​เซี่ย​ไป​ที่​ตลาด​ฝูตัว​ตัว​เพื่อ​ซื้อ​วัตถุดิบ​และ​ปรุงอาหาร​รส​เลิศ​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​และ​ลูก​ ๆ ของ​เธอ​

ทันใดนั้น​เขา​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ไป๋​เซี่ย​ต้อง​ไป​ออก​เดท​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋ใน​วันนี้​

พ่อ​ไป๋​หันไป​พูด​กับ​ไป๋​เซี่ย​ว่า​ “ถ้าจะไป​ออก​เดท​ก็​รีบ​ไป​ซะ มัว​ชักช้า​ปล่อย​ให้​ผู้หญิง​รอ​ได้​ยังไง​”

ไป๋​เซี่ย​มอง​นาฬิกา​ที่​แขวน​อยู่​ใน​ห้องนั่งเล่น​ก่อน​จะพูดว่า​ “ยัง​เช้าอยู่เลย​ครับ​ เย​ว่​จู๋ยัง​ไม่ตื่น​หรอก​เวลานี้​”

หลิน​ม่าย​โบกมือ​ก่อน​จะพูดว่า​ “ไม่ต้อง​ไป​เดท​กับ​เย​ว่​จู๋แล้ว​ล่ะ​ค่ะ​ วันนี้​ฉัน​มีเรื่องสำคัญ​จะบอก​”

หลิน​ม่าย​ยุ่ง​มาก​จนกระทั่ง​วันหยุด​ที่ผ่านมา​ยัง​ไม่มีเวลา​กลับบ้าน​ แต่​นี่​เป็น​เรื่องสำคัญ​ที่​เธอ​สามารถ​สละเวลา​อัน​มีค่า​มาที่นี่​ได้​

พ่อ​ไป๋​จึงตระหนัก​ได้​ว่า​น่าจะ​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​

เขา​คาดเดา​ไป​ต่าง ๆ​ นานา​ สงสัย​ว่า​หลิน​ม่าย​ไป​ทะเลาะ​อะไร​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​วิ่ง​มาฟ้อง​พวกเขา​หรือไม่​

นอกเหนือจาก​ความเป็นไปได้​ใน​เรื่อง​นี้​ พวกเขา​ไม่สามารถ​นึกถึง​เรื่อง​อื่น​ได้​

คุณพ่อ​ไป๋​ถามออก​ไป​ด้วย​ความ​เสียง​จริงจัง​ “เสวี่ย​เป่า​ บอก​พ่อ​มาเถอะ​ว่า​จั๋ว​หรา​น​รังแก​อะไร​ลูก​หรือเปล่า​?”

“ถ้าเขา​กล้า​ที่จะ​รังแก​น้องสาว​ฉัน​ ฉัน​จะทุบตี​เขา​จน​ไม่สามารถ​จดจำ​ใบหน้า​บรรพบุรุษ​ตัวเอง​ได้​เลย​!” ไป๋​เซี่ย​พูด​พร้อมกับ​ถก​แขน​เสื้อ​ตั้งท่า​โกรธจัด​

เมื่อ​เห็น​ว่า​พ่อ​กับ​พี่ชาย​กำลัง​โกรธจัด​ หลิน​ม่าย​คิด​อยาก​อธิบาย​แต่​ไป๋​ลู่​กระโดด​มาด้านหน้า​ก่อน​จะพูดว่า​ “ถึงฉัน​จะไม่เก่งกาจ​เรื่อง​การต่อสู้​ แต่​ฉัน​สามารถ​ตำหนิ​อาจารย์​ฟางให้​เจ็บปวด​ได้​นะ​”

หลิน​ม่าย​เห็น​ว่า​ทั้ง​สามคน​เริ่ม​เพ้อเจ้อ​แล้ว​ และ​ยัง​ต้องการ​จัดการ​กับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ด้วย​ เวลานี้​เธอ​จึงลูบ​หน้าผาก​ของ​ตัวเอง​ก่อน​จะพูด​ต่อว่า​ “พวกคุณ​คิด​อะไร​กัน​อยู่​? จั๋ว​หรา​น​จะมารังแก​ฉัน​ได้​ยังไง​? เรื่องสำคัญ​ที่​ฉัน​จะพูด​วันนี้​คือ​เรื่อง​ของ​พี่ชาย​ค่ะ​”

เวลานี้​ไป๋​เซี่ย​ถึงกับ​สับสน​ “เรื่อง​ของ​ฉัน​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ก่อน​จะบอก​ทุกคน​เรื่อง​ที่​เฝิงเย​ว่​จู๋พยายาม​เหยียบเรือสองแคม​ด้วย​การ​นัดบอด​กับ​ชาย​อีก​คน​ไป​พร้อมกัน​

ใบหน้า​ของ​ไป๋​เซี่ย​กลายเป็น​มืดมน​ เขา​หัน​กลับมา​และ​ทำ​ท่าจะ​ออกจาก​บ้าน​ “ฉัน​จะไปหา​เฝิงเย​วา​จู๋ การ​แต่งงาน​ของ​เรา​จะถูก​ยกเลิก​ ทีนี้​หล่อน​อยาก​จะไป​นัดบอด​กับ​ใคร​ก็​เชิญ!”

“เดี๋ยว​!” คุณพ่อ​ไป๋​หยุด​เขา​ทันที​ “ถ้าลูก​อยาก​จะหย่า​กับ​เสี่ยว​เฝิง ใน​ครอบครัว​ก็​ไม่มีใคร​คัดค้าน​หรอก​ แต่​เป็น​เพราะ​พ่อ​ไม่อยาก​ให้​ลูก​ต้อง​เสียใจ​ทีหลัง​ ลอง​ใจเย็น​ ๆ ลง​ก่อน​แล้ว​ผ่าน​ไป​สักพัก​ค่อย​ตัดสินใจ​ยัง​ไม่สาย​”

ส่วน​หลิน​ม่าย​และ​ไป๋​ลู่​ก็​พยายาม​เกลี้ยกล่อม​ไป๋​เซี่ย​ด้วย​เช่นกัน​

เวลานี้​ไป๋​เซี่ย​จึงยอม​หยุด​ เขา​โทร​หา​เฝิงเย​ว่​จู๋เพื่อ​บอก​กล่าวว่า​วันนี้​จะไม่ไป​ตาม​นัดหมาย​

เวลานี้​เขา​ถูก​สวม​หมวก​เขียว​ขนาด​นี้​ แล้​วจะ​มีอารมณ์​ออก​เดท​ได้​อย่างไร​?

เฝิงเย​ว่​จู๋ก็​มีความกังวล​ใน​ใจ หล่อน​ไม่กล้า​ที่จะ​ต่อว่า​อีก​ฝ่าย​และ​ตอบ​ตกลง​อย่าง​เชื่อฟัง​

เป็นเรื่อง​ยาก​ที่​หลิน​ม่าย​จะกลับมา​ที่​บ้าน​ เพราะ​เธอ​อยู่​ที่นี่​แล้ว​ เธอ​จึงรอ​กิน​มื้อ​กลางวัน​ที่นี่​

เวลานี้​เธอ​ฝาก​เสี่ยว​มู่ตง​ไว้​กับ​ไป๋​ลู่​และ​โต้​ว​โต้​ว​ จากนั้น​จึงเข้าครัว​ไป​ช่วย​พ่อ​ไป๋​ทำ​มื้อ​เที่ยง​ ส่วน​ไป๋​เหยียน​ก็​เข้ามา​ที่​บ้าน​พร้อมกับ​เถียนเถียน​

พ่อ​ไป๋​วิ่ง​ออก​มาจาก​ครัว​พร้อม​ทัพพี​ใน​มือ​ก่อน​จะพูด​ติดตลก​ว่า​ “วันนี้​ลม​อะไร​พัด​มา? ลูกสาว​คนโต​กับ​หลานสาว​ของ​ฉัน​ถึงกับ​กลับมา​ที่​บ้าน​”

ไป๋​เหยียน​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “ม่าย​จื่อ​ก็​อยู่​ที่นี่​เหรอ​?”

“แปลก​มาก​! วันนี้​พวกเรา​มาก​ินอาหาร​ร่วมกัน​ดีกว่า​!” พ่อ​ไป๋​หัน​กลับมา​สั่งไป๋​เซี่ย​ “ไหน ๆ​ พี่สาว​กับ​น้องสาว​ของ​ลูก​ก็​กลับมา​ที่​บ้าน​แล้ว​ ทำไม​ถึงยัง​ไม่ออก​ไป​ซื้อ​วัตถุดิบ​ทำอาหาร​อีก​ล่ะ​?”

ไป๋​เซี่ย​ตอบรับ​ก่อน​จะหยิบ​เงิน​และ​ตะกร้า​ผัก​ของ​คุณพ่อ​ไป๋​ก่อน​จะขี่​จักรยาน​ออกจาก​บ้าน​ไป​

พ่อ​ไป๋​ถามไป๋​เหยียน​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​บ้าน​หรือไม่​?

ไป๋​เหยียน​พยักหน้า​รับ​

พ่อ​ไป๋​จึงรีบ​ถามต่อ​

ไป๋​เหยียน​กล่าว​ด้วย​แรง​อารมณ์​ “จะอะไร​อีก​ล่ะ​คะ​? ก็​เพราะ​ตระกูล​หยาง​ไม่พอใจ​สามีของ​ฉัน​”

หลิน​ม่าย​ออกจาก​ห้องครัว​ก่อน​จะถามว่า​ “ทำไม​ล่ะ​คะ​? คราวนี้​ตระกูล​หยาง​สร้างเรื่อง​บาดหมาง​อะไร​อีก​?”

“พวกเขา​พา​คุณย่า​ที่​เป็น​อัมพาต​มาที่​บ้าน​ของ​พวกเรา​แต่เช้า​ บอ​กว่า​ย่า​ออกจาก​โรงพยาบาล​ทั้ง​นาน​แล้ว​ แต่​พวกเรา​ไม่ไป​เยี่ยม​ ไม่สนใจ​ และ​เป็น​ครอบครัว​ของ​พวกเรา​ต้อง​ดูแล​คนป่วย​นี้​ต่อ​” ไป๋​เหยียน​กล่าว​อย่าง​หงุดหงิด​

ไป๋​ลู่​ตะโกน​ขึ้น​เป็น​คน​แรก​ “คุณย่า​ของ​เถียนเถียน​เป็นโรค​หลอดเลือด​ใน​สมอง​แตก​จน​กลายเป็น​อัมพาต​ มัน​ไม่ได้​เกิดขึ้น​เพราะ​พวก​พี่​ด้วยซ้ำ​ แล้ว​ทำไม​พี่​กับ​พี่เขย​ต้อง​ดูแล​พวกเขา​ด้วย​ล่ะ​!”

“อืม​ พี่เขย​ของ​เธอ​ก็​พูด​อย่าง​นั้นแหละ​” ไป๋​เหยียน​โบกมือ​ “แต่​ไม่ต้อง​ห่วง​หรอก​ พ่อ​เถียนเถียน​บอก​ให้​ฉัน​พา​เถียนเถียน​กลับมา​ที่​บ้าน​เพื่อ​จะได้​ไม่ต้อง​รับรู้​อะไร​ และ​เขา​จะจัดการ​ทาง​นั้น​เอง​”

ทุกคน​รู้สึก​โล่งใจ​มาก​

ใน​มื้อ​เที่ยง​ ทุกคน​รับประทาน​อาหาร​บน​โต๊ะ​ด้วย​ความ​เอร็ดอร่อย​

คุณพ่อ​ไป๋​เล่า​ว่า​บ้าน​ใหม่​ที่​หน่วยงาน​ของ​เขา​มอบให้​ได้รับ​การปรับปรุง​เสร็จสิ้น​แล้ว​ มัน​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ไว้​กว่า​ครึ่ง​เดือน​ และ​ก๊าซพิษ​ก่อนหน้า​ก็​หาย​ไป​หมด​แล้ว​

เขา​วางแผน​ไว้​ว่า​จะย้าย​ไป​บ้าน​ใหม่​ใน​สัปดาห์​หน้า​ เช่นนี้​ก็​เพื่อให้​พี่สาว​ไป๋​เหยียน​พา​สามีกับ​ลูก​ไป​ที่​บ้าน​ใหม่​เพื่อ​รับประทาน​มื้อ​เย็น​กับ​ครอบครัว​ได้​

เวลานี้​ทั้ง​ไป๋​เหยียน​และ​หลิน​ม่าย​ต่าง​ก็​เห็นด้วย​

หลัง​รับประทาน​มื้อ​เที่ยง​แล้ว​ หลิน​ม่าย​ก็​ขับรถ​กลับมา​พร้อมกับ​ลูก​ทั้งสอง​

ครู​สอนพิเศษ​จะเข้ามา​ช่วย​สอน​การบ้าน​ให้​กับ​โต้​ว​โต้​ว​ใน​ช่วง​บ่าย​ เช่นนี้​เธอ​จึงไม่สามารถ​อยู่​ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​ได้​อีกต่อไป​

หลังจาก​ช่วง​บ่าย​ผ่านพ้น​ หลิน​ม่าย​โทร​หา​ไป๋​เหยียน​แล้ว​ถามว่า​ปัญหา​ที่​อีก​ฝ่าย​พบ​เจอ​ถูก​แก้ไข​เสร็จสิ้น​หรือยัง​

ไป๋​เหยียน​รู้สึก​เหนื่อยใจ​เล็กน้อย​ก่อน​จะตอบกลับ​ว่า​ “แก้ไข​แล้ว​แล้ว​ล่ะ​ แต่​ต้อง​ใช้เงิน​แก้​ ไม่มีประโยชน์​ที่จะ​คิด​เรื่อง​พวก​นี้​หรอก​”

หลิน​ม่าย​ถามต่อ​ “พี่​จ่าย​เงิน​ให้​พวกเขา​ยังไง​?”

ไป๋​เหยียน​ตอบกลับ​ด้วย​ความขุ่นเคือง​ “พวกเขา​ให้​ครอบครัว​ของ​เรา​จ่าย​ค่ารักษา​ให้​คุณย่า​ 50 หยวน​ต่อ​เดือน​ และ​จ่าย​ค่า​กิน​อยู่​ 15 หยวน​ต่อ​เดือน​ แต่​ค่ารักษา​และ​ค่าใช้จ่าย​ทั้งหมด​มัน​ควร​ถูก​ใช้กับ​คุณย่า​เท่านั้น​ ท้ายที่สุด​มัน​ไม่ควร​เข้า​กระเป๋า​ของ​หยาง​เซิงและ​ภรรยา​ของ​เขา​!”

“คง​เป็น​ทางออก​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​แล้ว​ล่ะ​ค่ะ​” หลิน​ม่าย​ตอบ​ “ถึงจะขึ้นศาล​ แต่​สุดท้าย​ศาล​ก็​จะตัดสิน​ว่า​คุณย่า​เถียนเถียน​เป็นโรค​หลอดเลือด​ใน​สมอง​แตก​ และ​คง​ตัดสิน​ให้​ครอบครัว​ของ​พี่​กับ​ครอบครัว​พี่สะใภ้​ผลัดกัน​ดูแล​คุณย่า​เถียนเถียน​ แทนที่​เรา​จะทำ​อย่างนั้น​ การ​ใช้เงิน​แก้ปัญหา​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​สมควร​ทำ​ อย่า​ไป​ขุ่นเคือง​เพราะ​เรื่อง​นี้​เลย​”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

เรียบร้อย​จ้า ไม่ต้อง​คิด​ฝันหวาน​จะขาย​ลูกสาว​เกาะ​ครอบครัว​ลูกเขย​กิน​แล้ว​ทีนี้​ กลายเป็น​ม่ายขันหมาก​กลางอากาศ​ไป​แล้ว​บ้าน​ตระกูล​เฝิง โลภมาก​ลาภ​หาย​น่ะ​รู้จัก​ไหม​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

  1. ชนิดา แซ่ลิ้ม พูดว่า:

    ขอบคุณค่ะ ที่แก้ไข

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท