แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 887 ซุบซิบนินทา

ตอนที่ 887 ซุบซิบนินทา

ตอนที่​ 887 ซุบซิบนินทา​

สภาพอากาศ​อบอุ่น​ขึ้น​ทุกวัน​ และ​อีกไม่นาน​ก็​จะถึงวันอาทิตย์​ ซึ่งเป็น​วัน​ที่จะ​ต้อง​ไป​รับประทาน​มื้อ​เย็น​กับ​ครอบครัว​ที่​บ้าน​ของ​พ่อ​ไป๋​

แม้คุณพ่อ​ไป๋​จะอยาก​ให้​ลูกสาว​สอง​ใน​สามคน​ที่​แต่งงาน​แล้ว​พา​สามีพา​ลูก​มาด้วย​ แต่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ยังคง​ต้อง​ทำงาน​ต่อไป​

เวลานี้​หลิน​ม่าย​ได้​ซื้อ​ของขวัญ​และ​พา​ลูก​ ๆ ทั้งสอง​คน​ไป​ที่​บ้าน​ใหม่​ของ​พ่อ​ไป๋​

บ้าน​หลัง​นี้​มีสามห้องนอน​ และ​หนึ่ง​ห้องนั่งเล่น​ ทั้งหมด​ได้รับ​การ​ตกแต่ง​อย่าง​ดี​

ไป๋​เหยียน​รู้สึก​ชอบ​ตั้งแต่​แรกเห็น​ และ​คิด​ว่า​เมื่อใด​ครอบครัว​ของ​ตน​จะสามารถ​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​ใหญ่​เช่นนี้​ได้​

ไป๋​ลู่​ตบ​บ่า​หล่อน​เบา​ ๆ ก่อน​จะพูด​ขึ้น​ว่า​ “ม่าย​จื่อ​ก็​สร้างบ้าน​ได้​นี่​ พี่สาว​ก็​ไป​ซื้อ​บ้าน​หลัง​ใหญ่​ของ​ม่าย​จื่อ​สิคะ​ เวลานี้​พี่เขย​คนโต​เป็น​เศรษฐี​ขาย​เซาปิ่ง​ไส้เนื้อ​ ไม่ใช่ว่า​จะไม่สามารถ​ซื้อ​บ้าน​หลัง​ใหญ่​ได้​สักหน่อย​นี่​คะ​”

ไป๋​เหยียน​หัน​กลับมา​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​มีบ้าน​หลัง​ใหญ่​จะขาย​ให้​หล่อน​บ้าง​ไหม​

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​ก่อน​จะส่าย​ศีรษะ​ “ยัง​ไม่มีแพลน​เลย​ค่ะ​”

เวลานี้​ว่า​นท​งก​รุ๊ป​มีงาน​ใน​เมืองหลวง​มากมาย​ นอกเหนือจาก​พื้นที่​ที่อยู่​ระหว่าง​การ​ก่อสร้าง​ยังมี​โครง​การเพิ่มเติม​ที่​ต้องการ​สร้าง​คลังสินค้า​สำหรับ​ขนส่ง​ด้วย​ สิ่งนี้​ทางรถไฟ​เพิ่ง​มอบหมาย​ให้​เธอ​เมื่อ​สัปดาห์​ที่แล้ว​

เช่นเดียวกับ​หอสมุด​ประจำเมือง​ และ​รถไฟใต้ดิน​หมายเลข​สอง​ ทั้งหมด​นับ​รวม​เป็น​สี่โครงการ​ที่​กำลัง​ก่อสร้าง​อยู่​

ใน​โครงการ​เหล่านี้​ ห้องสมุด​ของ​เมือง​และ​รถไฟใต้ดิน​หมายเลข​สอง​เป็น​โครงการ​หลัก​ และ​ห้าม​ผิดพลาด​โดย​เด็ดขาด​

ปัจจุบัน​ว่า​นท​งก​รุ๊ป​จึงไม่มีเวลา​ไป​สร้าง​บ้านจัดสรร​ใน​เมืองหลวง​เลย​ ตอนนี้​เธอ​จะต้อง​รอ​จนกว่า​จะสร้าง​ห้องสมุด​เสร็จสิ้น​แล้ว​ค่อย​ขยับขยาย​ไป​สร้าง​บ้านจัดสรร​ใน​ภายหลัง​

ซึ่งจะเป็น​ใน​อีก​ไม่กี่​ปี​ข้างหน้า​ ไป๋​เหยียน​รู้สึก​ว่า​ยัง​รอ​ได้​

หลิน​ม่าย​เห็น​เพียง​พี่สาว​ของ​เธอ​ ขณะ​พ่อ​ไป๋​และ​ไป๋​เซี่ย​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​ใน​ครัว​ ส่วน​โต้​ว​โต้​ว​และ​เสี่ยว​โต้​ว​กำลัง​นั่งเล่น​เกม​อยู่​ใน​ห้องนั่งเล่น​

เธอ​หันมา​กระซิบ​ถามไป๋​ลู่​ว่า​ไป๋​เซี่ย​ทบทวน​จะเลิกรา​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋แล้ว​หรือยัง​ และ​ทำ​อย่างไร​ต่อไป​

ไป๋​ลู่​ตอบกลับ​ “มีอะไร​ต้อง​คิด​อีก​ล่ะ​ ทั้งสองฝ่าย​กำหนด​วัน​แต่งงาน​แล้ว​ ตระกูล​เฝิงก็​ยอมรับ​สินสอดทองหมั้น​ทั้งหมด​ แต่​เฝิงเย​ว่​จู๋กลับ​ไป​นัดบอด​ด้านนอก​ นี่​มัน​ต่าง​อะไร​กับ​การ​นอกใจ​พี่ชาย​? หาก​พี่ชาย​ไม่ยอม​เลิกรา​ ฉัน​จะบอก​ให้​เขา​เปลี่ยนไป​ใช้สกุล​เฝิงซะ!”

ไป๋​เหยียน​ตอบกลับ​ด้วย​ความขุ่นเคือง​ “เธอ​เลิก​เอา​เวลา​ไป​ยุ่ง​เรื่องส่วนตัว​ของ​พี่ชาย​ได้​แล้ว​ รีบ​คิด​เรื่องสำคัญ​ใน​ชีวิต​ตัวเอง​ก่อน​เถอะ​ น้องสาว​คน​เล็ก​ของ​พวกเรา​มีลูก​สอง​คน​แล้ว​ แต่​เธอ​ยัง​ไม่มีแฟน​ด้วยซ้ำ​! ระหว่าง​เรียน​มหาวิทยาลัย​ให้​จบ​ก็​รีบ​หา​แฟน​ด้วย​ หลัง​เรียนจบ​จะได้​แต่งงาน​เสียที​!”

ไป๋​ลู่​วิ่ง​เข้าครัว​ไป​ด้วย​ความ​อับอาย​

เดิมที​หลิน​ม่าย​อยาก​จะถามสักหน่อย​ว่า​ไป๋​เซี่ย​จะเลิกรา​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋เมื่อใด​ และ​อีก​ฝ่าย​จะคืน​สินสอด​อย่างไร​ แต่​ก่อนที่จะ​ทัน​ได้​ถาม อีก​ฝ่าย​ก็​วิ่งหนี​ไป​เสียแล้ว​

แม้ว่า​จะเป็น​งานเลี้ยง​ภายใน​ครอบครัว​ แต่​พ่อ​ไป๋​ก็​เตรียม​อาหาร​มื้อ​ใหญ่​

พวกเขา​เริ่ม​กิน​และ​พูดคุย​

หลิน​ม่าย​คาดหวัง​ว่า​หัวข้อ​ใน​การ​พูดคุย​คราวนี้​จะเป็นเรื่อง​การ​ถอนหมั้น​ แต่​ทุกคน​ก็​พูดคุย​กัน​ใน​เรื่อง​อื่น​ ๆ และ​ไม่มีใคร​พูด​เรื่อง​นี้​เลย​

ในที่สุด​หลิน​ม่าย​ไม่มีทางเลือก​นอกจาก​ถามไป๋​เซี่ย​ว่า​ “พี่ใหญ่​ พ่อ​บอก​ให้​พี่​คิดทบทวน​สัก​สัปดาห์​ไม่ใช่เหรอ​? แล้ว​พี่​คิดได้​หรือยัง​ว่า​จะเลิก​กับ​เฝิงเย​ว่​จู๋ไหม​?”

ไป๋​เซี่ย​พยักหน้า​ “อืม​ คิด​ไว้​แล้ว​ล่ะ​ วันนี้​ช่วง​บ่าย​ฉัน​จะไป​ยกเลิก​ทุกอย่าง​”

หลิน​ม่าย​ถามว่า​เจ้าสาว​จะคืน​สินสอด​หรือไม่​

เธอ​กลัว​ว่า​พ่อ​ไป๋​จะอยาก​จบ​เรื่องราว​และ​ไม่ต้องการ​สินสอด​กลับคืน​

แต่​เวลานี้​พ่อ​ไป๋​เคาะ​จาน​ก่อน​จะพูดว่า​ “แน่นอน​! ต้อง​เอา​กลับคืน​มาสิ ตั้ง​ห้า​ร้อย​หยวน​ พ่อ​ใช้เวลา​ตั้ง​นาน​กว่า​จะเก็บ​มัน​ได้​ ไม่ได้​กิน​หรือ​ดื่ม​อะไร​นาน​แค่​ไหน​!”

ไป๋​เหยียน​ถอนหายใจ​ “แต่​ฉัน​เกรง​ว่า​ถ้าอยากได้​สินสอด​กลับคืน​ คุณพ่อ​อาจจะ​ต้อง​ถลก​หนัง​พวกเขา​นะคะ​”

หลิน​ม่าย​พูด​เสียง​เรียบ​ “ถ้าต้อง​ถลก​หนัง​ก็​ถือว่า​ดี​ค่ะ​ เกรง​ว่า​ตระกูล​เฝิงจะหา​ข้ออ้าง​ไม่ยอม​ยกเลิก​งานแต่ง​ และ​ฉัน​ก็​ไม่รู้​ด้วยว่า​พวกเขา​จะยื้อ​เรื่อง​นี้​ไป​นาน​แค่​ไหน​”

ไป๋​ลู่​หัน​หลับ​มาหา​พ่อ​ไป๋​แล้ว​พูดว่า​ “พ่อ​คะ​ พา​ฉัน​ไป​ด้วย​นะคะ​ ไป​กัน​เยอะ​ ๆ จะได้​ช่วยกัน​กดดัน​ค่ะ​”

ไป๋​เซี่ย​ผลัก​ศีรษะ​ของหล่อน​ทันที​ “เธอ​แค่​ทุบตี​ฉัน​หรือ​ดุด่า​ฉัน​ก็​พอแล้ว​ไหม​? ถ้าฉัน​ต้อง​พา​เธอ​ไป​ที่นั่น​ ฉัน​คง​ต้อง​มาคอย​ห้ามปราม​เธอ​อีก​!”

ไป๋​เหยียน​ป้อน​ซุป​ไก่​ให้​เถียนเถียน​สอง​สามคำ​ ก่อน​จะพูดว่า​ “ฉัน​ควร​เรียก​สามีไป​ด้วยดี​ไหม​? อย่าง​น้อย​มัน​ก็​ทำให้​ฉัน​สบายใจ​”

คุณพ่อ​ไป๋​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​

เขา​ขมวดคิ้ว​แน่น​ก่อน​จะพูดว่า​ “นี่​ฉัน​กลายเป็น​คน​ไร้ค่า​ใน​สายตา​พวก​เธอ​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​? นี่​ขนาด​ยัง​ไม่แต่งงาน​นะ​?”

ลูก​ทุกคน​พลัน​มีสีหน้า​อับอาย​

เวลานี้​พวกเขา​เริ่ม​คีบ​อาหาร​ให้​กับ​พ่อ​ไป๋​

“พ่อ​ครับ​ ลูกชิ้น​นี้​อร่อย​มาก​เลย​ครับ​ ลอง​ชิมดู​”

“ไก่​ตุ๋น​เห็ด​นี่​ก็​ดีมาก​ค่ะ​ พ่อ​ลอง​ชิมดู​นะคะ​”

ทั้งหมด​เริ่ม​กลับมา​รับประทาน​อาหาร​อีกครั้ง​ และ​พวกเขา​ก็​พูดคุย​กัน​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ใน​ครอบครัว​

เมื่อ​ทุกคน​รู้​ว่า​พ่อ​ไป๋​จะพา​ไป๋​เซี่ย​ไป​ที่​บ้าน​ตระกูล​เฝิง หลิน​ม่าย​ก็​ไม่ต้องการ​อยู่​ต่อ​อีกแล้ว​ หลังจาก​พูดคุย​กัน​สักพัก​ เธอ​ก็​กลับ​ออกมา​พร้อมกับ​พี่สาว​คนโต​ และ​ลูก​ ๆ ทั้งสอง​

เธอ​ขับรถ​พา​ไป๋​เหยียน​และ​ลูกสาว​ไป​ส่งที่​บ้าน​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​พา​เด็ก​ทั้งสอง​คน​กลับบ้าน​

หลิน​ม่าย​ชะลอรถ​เล็กน้อย​เมื่อ​ขับ​ผ่าน​ตัวแทน​อสังหาริมทรัพย์​

พ่อ​ไป๋​คืน​ลานบ้าน​ให้​เธอ​แล้ว​ แต่​มัน​ยัง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ หาก​เอา​มัน​ไป​แลก​เปลี่ยนเป็น​อะไร​ที่​มีประโยชน์​คงจะ​ดี​ไม่น้อย​

เธอ​จอด​รถ​ไว้หน้า​อาคาร​ที่​เคย​ซื้อ​บ้าน​ สถานที่​แห่ง​นี้​มีทางเข้าออก​สอง​ทาง​

ก่อน​ลง​จาก​รถ​ เธอ​เปิด​หน้าต่าง​ไว้​เล็กน้อย​เพื่อให้​อากาศ​ภายใน​รถ​ไหลเวียน​

จากนั้น​บอกกล่าว​กับ​โต้​ว​โต้​ว​ให้​ดูแล​น้องชาย​ที่อยู่​ใน​รถ​ให้​ดี​ เธอ​จะเข้าไป​ด้านใน​เพื่อ​พูดคุย​บางสิ่ง​ และ​ไม่นาน​จะกลับ​ออกมา​

โต้​ว​โต้​ว​พยักหน้า​รับ​อย่าง​เชื่อฟัง​

แม้หลิน​ม่าย​จะคลุม​ศีรษะ​ไว้​ด้วย​ผ้าพันคอ​ แต่​พนักงานขาย​ลู่​ที่​เคย​รับใช้​เธอ​ล่าสุด​ก็​ยังคง​จดจำ​เธอ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

เพื่อนร่วมงาน​คน​หนึ่ง​ของ​เขา​กำลังจะ​เดิน​เข้าไป​ต้อนรับ​หลิน​ม่าย​ แต่​เขา​รีบ​ผลัก​อีก​ฝ่าย​ออก​ไป​อย่าง​เบามือ​แล้ว​พูด​ชัดเจน​ว่า​ “นี่​เป็น​ลูกค้า​ของ​ฉัน​”

เพื่อนร่วมงาน​คน​นั้น​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​กลับ​ไป​นั่ง​ที่​เดิม​

พนักงานขาย​ลู่​พา​หลิน​ม่าย​ไป​นั่ง​ที่​โต๊ะ​ของ​เขา​อย่าง​กระตือรือร้น​ รอยยิ้ม​เบ่งบาน​ราวกับ​ดอกไม้​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​

เขา​เอ่ยปาก​ถามหลิน​ม่าย​ว่า​คราวนี้​ต้องการ​ซื้อ​บ้าน​แบบ​ไหน​

แต่​หลิน​ม่าย​ส่าย​ศีรษะ​ก่อน​จะตอบกลับ​ว่า​ “คราวนี้​ฉัน​ไม่ต้องการ​ซื้อ​บ้าน​ แต่​ฉัน​อยาก​ปล่อย​บ้าน​ให้เช่า​ค่ะ​”

พนักงานขาย​ลู่​ถามรายละเอียด​เกี่ยวกับ​ลานบ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

เมื่อ​รู้​ว่า​เป็น​เรือน​สี่ประสาน​ เขา​ก็​บอก​กล่าวถึง​ปัญหา​บางอย่าง​ “เรือน​สี่ประสาน​มีทางเข้า​มากกว่า​หนึ่ง​ทาง​ สามารถ​ปล่อย​เช่าได้​ง่าย​ ทั้ง​ชาวต่างชาติ​และ​ชาว​จีน​โพ้นทะเล​ซึ่งกลับมา​อาศัย​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​ชื่นชอบ​ที่จะ​เช่าบ้าน​อยู่​ ส่วนใหญ่​แล้ว​ผู้เช่า​ทั้งหลาย​จะทำสัญญา​ 1 ปี​และ​จ่าย​เงินมัดจำ​ทันที​ แต่ว่า​ชาวต่างชาติ​และ​ชาว​จีน​โพ้นทะเล​คง​ไม่ชอบ​ที่จะ​เช่าเรือน​ของ​คุณ​หลิน​เท่าไหร่​ แล้ว​คน​ในประเทศ​ก็​จ่าย​ค่าเช่า​ไม่ไหว​ด้วย​ครับ​”

หลิน​ม่าย​รู้ดี​ว่า​เรือน​สี่ประสาน​สอ​งวง​หรือ​สามวง​สามารถ​ปล่อย​ให้เช่า​ได้​ง่าย​

เรือน​สี่ประสาน​สอง​วงใน​ทำเลทอง​ของ​เธอ​เพิ่ง​ซื้อ​ถูก​เช่าโดย​ชาว​จีน​โพ้นทะเล​หลาย​คน​ ทันทีที่​เสิ่น​เสี่ยว​ผิง​ลง​ประกาศ​ข้อมูล​การเช่า​ใน​หนังสือพิมพ์​ มัน​ก็​ถูก​เช่าในทันที​

แต่​เธอ​ไม่รู้​จริง ๆ​ ว่า​เรือน​สี่ประสาน​ที่​เธอ​มีอยู่​ตอนนี้​ไม่อาจ​ปล่อย​เช่าโดยง่าย​

พนักงานขาย​ลู่​ยังคง​แนะนำ​ “ถ้าคุณ​หลิน​เต็มใจ​ที่จะ​ปล่อย​เช่าแบบ​อยู่​ก่อน​จ่าย​ก็ได้​นะ​ครับ​ หรือ​ละเว้น​มัดจำ​ก็ได้​นะ​ครับ​”

แต่​หลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​แบบ​นั้น​ เธอ​ต้องการ​ค่าเช่า​และ​มัดจำ​เต็ม​จำนวน​

หาก​ปล่อย​ให้​อยู่​ก่อน​จ่าย​ และ​มีผู้เช่า​มากเกินไป​ บ้าน​จะเสียหาย​และ​ไม่คุ้มค่า​กับ​การซ่อมแซม​บ้าน​ที่​เสียหาย​ ดังนั้น​ย่อม​ขาดทุน​มากกว่า​ได้รับ​กำไร​

หลิน​ม่าย​ตอบกลับ​ว่า​ “ฉัน​ไม่รีบร้อน​ที่จะ​ปล่อย​ค่ะ​ เอาไว้​คุณ​ค่อย ๆ​ จัดการ​ให้​ฉัน​ก็ได้​”

จากนั้น​เขา​จึงขอ​กุญแจ​หนึ่ง​ชุด​ของ​ลานบ้าน​หลัง​นั้น​ เพื่อ​เตรียม​ไว้​สำหรับ​การพา​ลูกค้า​เข้า​ไปดู​บ้าน​

หลังจาก​ออกจาก​บริษัท​นายหน้า​อสังหาริมทรัพย์​แล้ว​ หลิน​ม่าย​จึงขับรถ​ไป​ส่งโต้​ว​โต้​ว​และ​เสี่ยว​มู่ตง​กลับบ้าน​

บังเอิญ​ว่า​พวกเขา​เห็น​ทัง​อี้​กำลัง​เดิน​ไป​ตาม​ถนน​พร้อมกับ​ผู้หญิง​ไว้​ผม​หาง​ม้าใน​อ้อมแขน​ เวลานี้​เขา​คงจะ​กำลัง​ไป​ซื้อ​ของ​กับ​ภรรยา​แน่นอน​

มีเพียง​ไม่กี่​คู่​เท่านั้น​ที่​ยัง​แสดง​ความรัก​ต่อกัน​แม้จะมีลูก​แล้ว​

แม้หลิน​ม่าย​จะไม่ได้​อิจฉา​ แต่​เธอ​ก็​ยัง​รู้สึก​บางอย่าง​

เวลานี้​เธอ​ขับ​ช้าลง​เล็กน้อย​เพราะ​ต้อง​การทักทาย​คู่สามีภรรยา​นี้​

แต่​เมื่อ​เธอ​เห็น​ใบหน้า​ของ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ชัดเจน​ เธอ​ก็​รีบ​จากไป​อย่าง​เงียบเชียบ​ทันที​

เพราะ​ผู้หญิง​ที่​ทัง​อี้​กอด​อยู่​ไม่ใช่ภรรยา​ของ​เขา​

หลิน​ม่าย​เคย​ได้​พบ​กับ​ภรรยา​ของ​ทัง​อี้​แล้ว​ หล่อน​เป็น​ผู้หญิง​ชนชั้นกลาง​และ​ยัง​ดุร้าย​มาก​ด้วย​

เป็น​เพราะ​วัน​นั้​

เธอ​คาดหวัง​ว่า​พนักงาน​จะลดราคา​ให้​เธอ​ 20% แต่​ทุกอย่าง​ถูก​ปฏิเสธ​โดย​สมบูรณ์​

ผู้หญิง​คน​นั้น​ลาก​ทัง​อี้​เข้ามา​มีส่วนร่วม​ และ​ขอให้​เขา​สั่งให้​พนักงาน​จัดการ​ส่วนลด​ให้​เธอ​ 20% แต่​สุดท้าย​ทัง​อี้​ปฏิเสธ​เธอ​อย่าง​ไม่แยแส​

ผู้หญิง​คน​นั้น​โกรธ​มาก​ที่​ไม่ได้​รับประโยชน์​จาก​เรื่อง​นี้​ เธอ​สาปแช่ง​ทัง​อี้​ต่อหน้า​ทุกคน​ว่า​เป็น​เพียง​ขยะ​ไร้ค่า​ก่อน​จะจากไป​

เวลานี้​ผู้หญิง​ที่​ทัง​อี้​กอด​เอาไว้​ดู​ธรรมดา​มาก​ เธอ​แต่ง​ตัวอย่าง​เรียบง่าย​และ​ดู​พบ​เจอ​ได้​ทั่วไป​

ทัง​อี้​กำลัง​… มีชู้?

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

รอ​ดู​นะคะ​ว่า​บ้าน​เฝิงจะเดือด​เป็นไฟ​แค่​ไหน​ ท่าทาง​พี่ชาย​คือ​จริงจัง​มาก​

ทัง​อี้​จะทำ​ยังไง​กับ​ลูก​เมีย​ต่อ​คะ​ มามีคนอื่น​นอกบ้าน​นี่​เท่ากับ​เล่นชู้​ทั้งที่​ยัง​ไม่หย่า​นะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท