รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 863 สนามรบมืดมิดถูกระเบิด การต่อสู้อันน่าตกตะลึงปะทุขึ้น!

บทที่ 863 สนามรบมืดมิดถูกระเบิด การต่อสู้อันน่าตกตะลึงปะทุขึ้น!

บท​ที่​ 863 สนามรบ​มืดมิด​ถูก​ระเบิด​ การต่อสู้​อัน​น่า​ตกตะลึง​ปะทุ​ขึ้น​!

โฮก​!

สิงโต​ดำ​คำราม​ออกมา​ด้วย​แววตา​ดุร้าย​ มัน​ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​จ้าว​ชิงจะสามารถ​ต่อกร​กับ​มัน​ได้​ถึงเพียงนี้​

หลัง​พัน​กว่า​กระบวนท่า​ผ่าน​ไป​ มัน​กับ​จ้าว​ชิงก็​สู้กัน​ต่อ​ไม่น้อยกว่า​อีก​หมื่น​กระบวนท่า​ ผล​ออกมา​คือ​มัน​ไม่อาจ​ทำ​อะไร​จ้าว​ชิงได้​ ทั้ง​ยัง​ไม่อาจ​กดดัน​จ้าว​ชิงได้​สำเร็จ​

จ้าว​ชิงเพิ่งจะ​บรรลุ​ขั้น​ที่หก​จะแข็งแกร่ง​ถึงเพียงนี้​ได้​อย่างไร​?!

หมอก​สีดำ​ระเบิด​ออกมา​ มัน​ไม่อาจ​ทน​รับ​ผลลัพธ์​เช่นนี้​ได้​ ตัว​มัน​นั้น​ไม่ได้​เพิ่ง​บรรลุ​ขึ้น​ที่หก​ แต่กลับ​ใช้เวลานาน​แล้ว​ยัง​ไม่อาจ​สยบ​จ้าว​ชิงลง​ได้​ มัน​รู้สึก​อับอายขายหน้า​ยิ่ง​!

พลัง​ของ​มัน​พุ่ง​สูงขึ้น​ ระเบิด​การ​โจมตี​อย่าง​ดุเดือด​ พลัง​มืดมิด​ถล่ม​ฟ้าทลาย​ดิน​ ทั่ว​ทั้ง​สนามรบ​ถูก​ปกคลุม​ไป​ด้วย​พลัง​มืดมิด​อัน​ไร้​ขอบเขต​

ทุก​วิชา​ลับ​ถูก​ใช้ออกมา​อย่าง​ดุดัน​ ฝีมือ​นับว่า​แข็งแกร่ง​ยิ่ง​

จ้าว​ชิงพร่างพราย​สง่างาม ส่องสว่าง​ผ่า​ความมืด​ กระบี่​มรกต​วาด​แสงออก​ไป​นับไม่ถ้วน​ ทำลาย​การ​โจมตี​ของ​สิงโต​ดำ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​

ยิ่ง​ต่อสู้​มาก​เท่าใด​เขา​ก็​ยิ่ง​ดุดัน​มากขึ้น​เท่านั้น​ เกิน​ยิ่งกว่า​ความคาดหมาย​ของ​สิงโต​ดำ​

ยาม​เพิ่ง​เข้าสู่​ขั้น​ที่หก​ พลัง​ของ​ของ​เขา​ยัง​นับ​ได้​ว่า​ไม่เสถียร​อยู่​บ้าง​

ทว่า​หลังจาก​ผ่าน​การต่อสู้​อย่าง​ดุเดือด​ การควบคุม​พลัง​ก็​ยิ่ง​เสถียร​มากขึ้น​ พลัง​ที่​สำแดง​ออกมา​แข็งแกร่ง​กว่า​เดิม​เรื่อย ๆ​!

เสียง​ฉึบ​ดัง​ขึ้น​ อุ้ง​เท้าหน้า​คู่​หนึ่ง​ของ​สิงโต​ดำ​ถูก​ตัดออก​ เลือด​สีดำ​สาด​กระเซ็น​หยด​ลง​บน​พื้น​ เกิด​เป็นควัน​ดำ​ เผย​ให้​เห็น​ถึงพลัง​กัดกร่อน​อัน​รุนแรง​

“สมควร​ตาย​!”

สิงโต​ดำ​คำราม​ออกมา​ มัน​ระเบิด​พลัง​โจมตี​รุนแรง​ พยายาม​จัดการ​จ้าว​ชิงลง​ ทว่า​ก็​ล้มเหลว​อีกครั้ง​ ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ที่​มัน​ไม่อาจ​ทำ​อัน​ใด​จ้าว​ชิงได้​ กระทั่ง​อุ้ง​เท้าหน้า​ของ​มัน​ยัง​ถูก​ตัด​ นี่​ยิ่ง​ทำให้​มัน​ไม่อาจ​ทน​ไหว​!

มัน​เปิดปาก​พ่น​ลำแสง​สีดำ​ออกมา​ นี่​คือ​พลัง​มืดมิด​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​ร่างกาย​ น่าสะพรึงกลัว​อย่าง​ถึงที่สุด​ นับ​ได้​ว่า​เป็นการ​โจมตี​อัน​ทรงพลัง​สุด​ของ​มัน​

“ไร้ประโยชน์​!”

สีหน้า​ของ​จ้าว​ชิงไม่แยแส​ ตอนนี้​เขา​เชี่ยวชาญ​การ​ใช้พลัง​ของ​ขั้น​ที่หก​อย่าง​ถึงแก่นแท้​

มือ​กวัดแกว่ง​กระบี่​หยก​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ แสงกระบี่​ถัก​ทอ​กลายเป็น​ตาข่าย​ พุ่ง​ทำลาย​แสงสีดำ​

แสงสีดำ​ถูก​ทำลาย​ สิงโต​ดำ​ที่​มีความ​เชื่อมโยง​กับ​มัน​ร่างกาย​สั่นสะท้าน​ กระอัก​โลหิต​สีดำ​ออกจาก​ปาก​

จ้าว​ชิงลงมือ​อย่าง​เด็ดขาด​ ไม่ให้โอกาส​ใด​กับ​สิงโต​ดำ​ ตรง​เข้าไป​พร้อม​กระบี่​มรกต​ด้วย​ต้องการ​จะสังหาร​สิงโต​ดำ​

ขณะนั้น​เอง​ตง​เซิงก็​หยุด​การเฝ้าดู​แล้ว​ลงมือ​ทันที​

ครั้น​ชี้นิ้ว​ออกมา​ ก็​พลัน​มีลำแสง​ดู​ราวกับ​แสงเหนือ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​พุ่งตรง​เข้าใส่​!

จ้าว​ชิงสัมผัส​ได้​ถึงแรง​คุกคาม​มหาศาล​ก่อนที่​มัน​จะเข้าใกล้​เสีย​อีก​

เขา​ล้มเลิก​การ​โจมตี​สิงโต​ดำ​ทันที​ ขยับ​กระบี่​อย่าง​ว่องไว​ ใช้กระบี่​มรกต​ต้านทาน​ลำแสง​ที่​พุ่ง​เข้ามา​

ตู้​ม!

จ้าว​ชิงถูก​กระแทก​จน​กระเด็น​ถอยหลัง​ไป​ทันที​ เลือด​ลม​ใน​ร่าง​วิ่ง​พล่าน​อย่าง​ดุเดือด​ ใบหน้า​ซีดเซียว​ ร่าง​สั่นสะท้าน​จน​เกือบ​ล้ม​ลง​ไป​กับ​กอง​ที่​พื้น​

กระทั่ง​กระบี่​มรกต​ใน​มือ​ยัง​สูญเสีย​แสงที่​เปล่งประกาย​ สุดท้าย​ก็​จางหาย​ไป​โดยสิ้นเชิง​

มือ​ที่​ถือ​กระบี่​มรกต​อ่อน​ยวบ​ ไม่สามารถ​จับ​กระบี่​เอาไว้​ได้​อีก​ กระบี่​มรกต​ร่วง​ลง​บน​พื้น​ส่งเสียง​เค​ร้ง​

“แข็งแกร่ง​ยิ่งนัก​!”

เขา​สูด​ลมหายใจ​เย็นเยียบ​ แม้จะรู้​แต่แรก​ว่า​ตง​เซิงนั้น​น่ากลัว​ ทว่า​ก็​ไม่คาดคิด​ว่า​จะน่ากลัว​ถึงเพียงนี้​!

กระทั่ง​การ​โจมตี​ครั้ง​เดียว​เขา​ก็​ไม่อาจ​หยุดยั้ง​ ช่องว่าง​มีมากเกินไป​!

สีหน้า​ของ​สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​เริ่ม​คล้ำ​ลง​

เดิมที​เมื่อ​พวกเขา​เห็น​ว่า​จ้าว​ชิงทรงพลัง​เป็นอย่างมาก​ ต่าง​ก็​อด​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาไม่ได้​

ทว่า​ตอนนี้​หลัง​ตง​เซิงลงมือ​ พวกเขา​พลัน​รู้สึก​สิ้นหวัง​ อารมณ์​ดิ่ง​ลง​ในทันที​

ยัง​จะ…ต่อกร​ได้​อย่างไร​อีก​?

มองไม่เห็น​ความหวัง​แม้แต่น้อย​!

“นาย​ท่าน​ตง​เซิงไร้​เทียมทาน​!”

“เพียงแค่​แมลง​ตัว​จ้อย​ไร้ค่า​กลุ่ม​หนึ่ง​ คิด​อยาก​จะต่อกร​กับ​นาย​ท่าน​ตง​เซิงเช่นนั้น​หรือ​? ช่างน่าขัน​เสีย​จริง​! นาย​ท่าน​ตง​เซิงเพียงแค่​ลงมือ​ครั้ง​เดียว​ก็​สามารถ​สังหาร​พวก​เจ้าทั้งหมด​ได้​!”

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จำนวนมาก​ส่งเสียง​กู่​ร้อง​ออกมา​

นาย​ท่าน​ตง​เซิงสมแล้ว​ที่​มาจาก​แดน​บูชายัญ​อันธการ​ ช่างแข็งแกร่ง​น่าสะพรึงกลัว​อย่าง​แท้จริง​!

“ให้​ข้า​ดู​เสีย​ว่า​เจ้ามีความลับ​อัน​ใด​อยู่​”

สีหน้า​ตง​เซิงสงบนิ่ง​ เขา​ก้าว​ออก​ไป​เบื้องหน้า​อย่าง​แช่มช้า

“อา​มิตา​พุทธ​!”

ตอนนั้น​เอง​พลัน​มีเสียงสวด​ดัง​ขึ้น​มา แสงพุทธะ​ส่องสว่าง​ปัดเป่า​ความ​มืดมิด​

“เจ้าลา​แก่​หัวโล้น​น่า​ตาย​นั้น​!”

“แมลงหวี่​น่ารำคาญ​มาแล้ว​!”

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เต็มไปด้วย​ความชิงชัง​ เมื่อ​เทียบ​ใน​หมู่​ยอด​ฝีมือ​จาก​โลก​หลังฉาก​แล้ว​ พวก​มัน​เกลียด​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​มาก​ที่สุด​

ไม่มีเหตุผล​อื่น​ สาเหตุ​หลัก​คือ​การ​ที่​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​แตกต่าง​จาก​ยอด​ฝีมือ​หลังฉาก​คนอื่น​ ๆ

สำหรับ​ยอด​ฝีมือ​หลังฉาก​คนอื่น​ ๆ พวก​มัน​พ่ายแพ้​ก็​พ่ายแพ้​เถิด​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​ตาย​ ทว่า​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​นั้น​แตกต่าง​ออก​ไป​

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​นั้น​จะไม่ลง​มือสังหาร​!

เมื่อ​พวก​มัน​พ่ายแพ้​ และ​ถูก​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​จัดการ​ พวก​มัน​จะต้อง​ฟังเสียงสวด​ตลอดเวลา​ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ไม่คิด​จะปล่อย​พวก​มัน​ไป​จนกว่า​พวก​มัน​จะกลับตัวกลับใจ​ เดิน​เข้าสู่​เส้นทาง​แสงสว่าง​

กลับ​ไป​สู่แสงสว่าง​ไร้สาระ​อัน​ใด​!

พวก​มัน​ถือกำเนิด​ขึ้น​มาจาก​ความมืด​ แล้​วจะ​ยังมี​แสงสว่าง​อัน​ใด​ให้​กลับ​

การ​ฟังบท​สวด​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​นั้น​เลวร้าย​เสีย​ยิ่งกว่า​การสังหาร​พวกเขา​โดยตรง​!

ใน​หมู่​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​คือ​ผู้​ที่​พวก​มัน​จงเกลียดจงชัง​อย่าง​ถึงที่สุด​ไม่มีสิ่งอื่น​ใด​เปรียบ​!

“นาย​ท่าน​ตง​เซิงได้​โปรด​สังหาร​ลา​แก่​หัวโล้น​นั่น​ด้วย​ อย่า​ปล่อย​ให้​ลา​แก่​หัวโล้น​ได้​ท่อง​บท​สวด​อีก​!”

“ไม่อาจ​ทน​ได้​อีกต่อไป​แล้ว​!”

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ขอร้อง​ตง​เซิง หวัง​ว่า​ตง​เซิงจะสังหาร​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​โดยเร็ว​ที่สุด​

อย่า​ว่าแต่​บท​สวด​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​เลย​ กระทั่ง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ที่ยัง​ไม่ได้​สวด​ พวก​มัน​ยัง​รู้สึก​ขยาด​เป็นอย่างมาก​เพียงแค่​ได้ยิน​เสียง​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​เอ่ย​ขึ้น​

ทว่า​ตง​เซิงไม่ได้​ใส่ใจอัน​ใด​กับ​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เหล่านี้​

เขา​มอง​ไป​ทาง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ ดวงตา​เปล่งประกาย​ด้วย​ความประหลาดใจ​เล็กน้อย​

“เจ้าคือ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​หรือ​? ช่างไม่ธรรมดา​จริง ๆ​ พลัง​มืดมิด​เข้าสู่​ร่างกาย​กัดกร่อน​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​ ทว่า​เจ้ากลับ​สามารถ​ทำลาย​พลัง​มืดมิด​ขับ​มัน​ออกมา​ได้​!”

เขา​เอ่ยปาก​ขึ้น​มา ก่อนหน้านี้​เขา​เอง​ก็​เคย​ได้ยิน​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เอ่ยถึง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​

ยาม​นั้น​สิ่งมีชีวิต​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ประดัง​ห้อมล้อม​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ จน​สุดท้าย​มีสิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ตน​หนึ่ง​ระเบิด​ตนเอง​จุด​พลัง​มืดมิด​ออกมา​อย่าง​เต็มที่​ ส่งพลัง​เข้าไป​ใน​ร่าง​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ ต้องการ​จะลาก​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ลง​สู่ความ​มืดมิด​ กลาย​มาเป็น​ฝ่าย​ของ​พวก​มัน​

ทว่า​ผล​กลับ​ออกมา​ล้มเหลว​

พลัง​มืดมิด​ที่​ถูกจุด​ออกมา​อย่าง​เต็มที่​นั้น​น่ากลัว​ถึงที่สุด​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ แม้จะเป็นยอด​ฝีมือ​เช่น​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ เมื่อ​โดน​พลัง​มืดมิด​นั่น​พุ่ง​เข้าไป​ใน​ร่าง​ ก็​พลัน​ลุกลาม​ไป​ทั่ว​ทันที​

ยาม​นั้น​กระทั่ง​ดวงวิญญาณ​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ก็​ถูก​พลัง​มืดมิด​กลืน​กิน​ กลายเป็น​สถานการณ์​ที่​แทบ​ไม่อาจ​แก้ไข​ได้​ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​จะต้อง​จมลง​สู่ความ​มืดมิด​อย่าง​แน่นอน​

ทว่า​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​กลับ​น่า​เหลือเชื่อ​อย่าง​ถึงที่สุด​ สามารถ​ก้าว​ข้าม​สถานการณ์​ดังกล่าว​มาได้​โดย​ไม่จมลง​ไป​สู่ความมืด​

หัวใจ​พุทธะ​เช่นนี้​ กระทั่ง​ตง​เซิงเอง​ก็​อด​แปลกใจ​ไม่ได้​ ฝึกฝน​มาเช่นใด​กัน​? พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ถึงได้​แข็งแกร่ง​เช่นนี้​

“หา​ใช่ถึงเพียงนั้น​ จิต​ส่วนมาก​ถูก​กลืน​กิน​ไป​แล้ว​ ไม่อาจ​กำจัด​ความ​มืดมิด​ ทำได้​เพียงแค่​ละทิ้ง​”

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธ​เจ้าที่​ปรากฏ​กาย​ออกมา​ส่ายหน้า​เอ่ย​

นับ​เป็น​ประสบการณ์​ที่​อันตราย​อย่างยิ่ง​ เขา​ห่าง​จาก​การ​ถูก​ครอบงำ​อย่าง​สมบูรณ์​เพียงแค่​ก้าว​เดียว​ ทว่า​ด้วย​หัวใจ​พุทธะ​อัน​มั่นคง​ สุดท้าย​ก็​ยัง​สามารถ​เค้น​แรง​ต่อต้าน​ได้​

น่าเสียดาย​ที่​ความคิด​จำนวนมาก​ของ​เขา​ถูก​กลืน​กิน​ไป​แล้ว​ ไม่อาจ​หวน​กลับมา​ได้​

“ละทิ้ง​ความคิด​จำนวนมาก​ ทว่า​เจ้าก็​ยัง​สามารถ​ก้าว​เข้าสู่​ขั้น​ที่หก​ได้​ ดูท่า​…บน​ร่าง​ของ​เจ้าเอง​ก็​มีความลับ​เช่นกัน​!”

เปลวไฟ​สีดำขลับ​ลุกโชน​ใน​ดวงตา​ตง​เซิงขณะ​จับจ้อง​ไป​ทาง​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​

เมื่อ​แยก​ความคิด​จำนวนมาก​ออก​ไป​ พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ก็​ไม่อาจ​รักษา​พลัง​เอาไว้​คงเดิม​ได้​ การ​ที่​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​สามารถ​บรรลุ​ขั้น​ที่หก​ได้​ นับ​เป็นเรื่อง​ที่​คาดไม่ถึง​จริง ๆ​

ไม่ต้องสงสัย​เลย​ บน​ร่าง​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​มีความลับ​อัน​ยิ่งใหญ่​อยู่​!

สีหน้า​ของ​พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​จริงจัง​ ไม่เอ่ย​อัน​ใด​

กระทั่ง​ตัว​ของ​เขา​เอง​ก็​ยัง​รู้สึก​เหลือเชื่อ​ สุรา​เพียงแค่​หนึ่ง​หยด​ ไม่เพียงแต่​สามารถ​ทำให้​เขา​กลับคืน​สู่สภาพเดิม​ได้​ แต่​ยัง​ทำให้​เขา​บรรลุ​ไป​สู่ขั้น​ถัดไป​ได้​ ภายในใจ​ของ​เขา​ตื่น​ตะลึง​เป็นอย่างมาก​

คุณชาย​ผู้​นั้น​คือ​ใคร​กัน​?

ช่างแข็งแกร่ง​จน​มิอาจ​จินตนาการ​ได้​!

“ความลับ​เช่นใด​กันที่​สามารถ​ทำให้​พวก​เจ้าทั้งสอง​ก้าวหน้า​ขึ้น​มาได้​ ข้า​อยากรู้​เสีย​จริง​”

เปลวไฟ​สีดำ​ใน​ดวงตา​ของ​ตง​เซิงขยับ​ไหว​แรง​ยิ่งขึ้น​

“เจ้าผิด​แล้ว​ ไม่ใช่เพียงแค่​สอง​คน​!”

“พวก​ข้า​เอง​ก็​บรรลุ​ขั้น​ใหม่​เช่นเดียวกัน​!”

ร่าง​แล้ว​ร่าง​เหล่า​ปรากฏตัว​ออก​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​ ลมหายใจ​ต่าง​น่าสะพรึงกลัว​เป็น​อย่างยิ่ง​

ประมุข​แห่ง​สรวงสวรรค์​ ปรมาจารย์​เต๋า​ ยอด​ฝีมือ​สะท้าน​โลกันตร์​ และ​ยอด​ฝีมือ​คนอื่น​ ๆ ล้วน​มายัง​สถานที่​แห่ง​นี้​

“จำนวนมาก​เพียงนี้​?!”

สีหน้า​ของ​ตง​เซิงแปรเปลี่ยน​ เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​?! ยอด​ฝีมือ​ฉากหลัง​กลุ่ม​นี้​ล้วน​บรรลุ​ขั้น​ที่หก​แล้ว​!

เมื่อใด​กันที่​ขั้น​ระดับ​พลัง​สามารถ​ก้าว​ข้าม​ได้​ง่ายดาย​เช่นนี้​?!

สิ่งมีชีวิต​กลุ่ม​นี้​สามารถ​ก้าว​ข้าม​ได้​พร้อมกัน​หรือ​?!

นี่​แทบจะ​เป็นไปไม่ได้​เลย​ หาก​ไม่เห็นด้วย​ตา​ของ​ตนเอง​จริง ๆ​ เขา​คงจะ​ไม่เชื่อ​

“ให้​ข้า​ดู​เสีย​ว่า​พวก​เจ้ามีความลับ​อัน​ใด​อยู่​!”

เขา​พุ่งตรง​เข้าไป​ ไม่ต้องสงสัย​ บน​ตัว​ของ​สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​เหล่านี้​จะต้อง​มีความลับ​อัน​น่า​ตื่น​ตะลึง​อยู่​!

พระ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ลงมือ​ก่อน​ ตบ​ฝ่ามือ​ลง​ไป​

นี่​คือ​มหา​วิชา​ของ​พระพุทธศาสนา​ ดูเหมือน​เพียงแค่​ฝ่ามือ​เดียว​ แต่​แท้จริง​แล้ว​มัน​รวบรวม​พลัง​ศรัทธา​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ทั้งหมด​ใน​พุทธภูมิ​ น่า​หวาดหวั่น​อย่าง​ถึงที่สุด​ และ​เคย​ทำให้​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จำนวนมาก​หวาดกลัว​มาแล้ว​ ไม่กล้า​ต้าน​รับ​โดยตรง​

แสงสีทอง​สว่างไสว​ เสียง​พุทธะ​กึกก้อง​ทั่ว​ท้อง​นภา​ หนึ่ง​ฝ่ามือ​กด​ลงมา​ ปรากฏ​ภาพ​นิมิต​มากมาย​ สามารถ​เห็น​พุทธภูมิ​ปรากฏ​ขึ้น​ พุทธ​สาวก​จำนวน​นับไม่ถ้วน​กำลัง​สวดมนต์​ ศักดิ์สิทธิ์​เหนือ​ชั้น​ยิ่ง​!

“วิชา​ปัญจ​อสนีบาต​!”

หลังจากนั้น​พลัง​ของ​ปรมาจารย์​เต๋า​ก็​ถูก​ส่งออกมา​ บน​ฝ่ามือ​ปรากฏ​สายฟ้า​ห้า​สี ประกอบด้วย​อสนี​ทอง​ อสนี​ไม้ อสนี​น้ำ​ อสนี​เพลิง​ และ​อัสนี​ดิน​!

นี่​คือ​วิชา​ขั้นสูงสุด​ของ​ปรมาจารย์​เต๋า​ อสนี​ทอง​ พุ่ง​สังหาร​ ปรากฏ​ทหาร​เต๋า​ทั้งหลาย​ออกมา​ อานุภาพ​ร้ายแรง​เป็นอย่างมาก​!

อสนี​ไม้ประกอบด้วย​พืชพรรณ​หลาก​หลายชนิด​ เถาวัลย์​ปรากฏ​ออกมา​ พุ่งตรง​ไป​เบื้องหน้า​ ตาม​รัด​พัน​ก่อกวน​

อสนีบาต​น้ำ​ระเบิด​ออก​ บน​ท้องฟ้า​เบื้องบน​พลัน​ปรากฏ​ลูกเห็บ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ขนาดใหญ่​เทียบเท่า​ดวงดาว​ตกลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ ขณะเดียวกัน​ก็​มีสารพัด​พิษ​หลั่งไหล​ออกมา​ราวกับ​สายฝน​ พลัง​นี้​ยาก​จะต้านทาน​

อสนีบาต​เพลิง​ทำให้เกิด​ผืน​ทะเล​อัคคี​อัน​กว้างใหญ่​ไพศาล​ แผดเผา​นภา​ ส่งสายฟ้า​ฟาด​ลงมา​ด้วย​พลัง​ทำลายล้าง​อัน​ไร้​ขอบเขต​!

อสนีบาต​ดิน​ปรากฏ​ออกมา​เป็น​ขุนเขา​หลาย​ลูก​ แต่ละ​ลูก​ล้วน​หนักอึ้ง​จน​ไม่อาจ​จินตนาการ​ได้​ สามารถ​ทลาย​ปริภูมิ​เวลา​ หรือ​กระทั่ง​ท้องฟ้า​เหนือ​จักรวาล​ได้​

พลัง​ทำลายล้าง​ของ​วิชา​ปัจญ​อสนีบาต​น่ากลัว​เป็น​อย่างยิ่ง​ น้อย​ครั้ง​นัก​จึงจะสำแดง​ออกมา​พร้อมกัน​

ปรมาจารย์​เต๋า​ตระหนัก​ได้​ถึงความ​น่ากลัว​ของ​ตง​เซิง อสนีบาต​ทั้ง​ห้า​จึงถูก​ใช้ออกมา​พร้อมกัน​โดย​ไม่เก็บ​ออม​เอาไว้​

ประมุข​แห่ง​สรวงสวรรค์​สูงใหญ่​ทรงพลัง​ ทั่ว​ทั้ง​ร่างกาย​สว่างไสว​อย่าง​ถึงที่สุด​ เขา​ต่อย​หมัด​ออกมา​ ด้านหลัง​พลัน​ปรากฏ​เงาสูงนับ​ร้อย​ล้าน​จั้งทอดสายตา​ลง​มองโลก​หล้า​ ภายใน​หมัด​เปี่ยม​ด้วย​พลัง​สูงสุด​ของ​ประมุข​แห่ง​สรวงสวรรค์​!

เขา​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ออก​วิชา​มวย​ เป็น​เพียงแค่​การ​ตั้งท่า​ พลัง​อัน​ไร้​ขอบเขต​ก็​ทะลัก​ออกมา​ ทำให้​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จำนวนมาก​ที่​เห็น​เกิด​ความหวาดหวั่น​ ตัว​สั่นเทา​ด้วย​ความกลัว​ หวนกลับ​ไป​นึกถึง​เรื่องราว​อัน​เลวร้าย​

ครั้งหนึ่ง​ประมุข​สวรรค์​เคย​ใช้วิชา​นี้​ออกมา​ ทำลาย​กองทัพ​สูงสุด​ของ​พวก​มัน​ทิ้ง​ได้​ในทันที​!

โฮก​!

ยอด​ฝีมือ​สะท้าน​โลกันตร์​แหงนหน้า​ขึ้น​ฟ้าแล้ว​คำราม​ออกมา​ แสงทั่ว​ร่าง​เปล่งประกาย​เจิดจ้า​ฉาย​ขึ้นไป​บน​ฟ้า ร่าง​ของ​มัน​ส่องสว่าง​ราวกับ​จะยึดครอง​ทั่ว​ทั้ง​สนามรบ​ฝั่งความ​มืดมิด​ทั้งหมด​ ดวงตา​คู่​หนึ่ง​ใหญ่​เสีย​ยิ่งกว่า​ดวง​ดารา​

ทั่ว​ทั้ง​ร่าง​เปี่ยม​ด้วย​เกล็ด​เย็นเยียบ​ บน​ศีรษะ​มีเขา​อยู่​ ด้วย​ความตระหนัก​ได้​ว่า​ตง​เซิงยาก​แก่​การ​ต่อกร​ จึงใช้วิชา​ที่​แข็งแกร่ง​สุด​ของ​มัน​ออกมา​!

เขา​บน​หัว​ของ​มัน​หลุด​ออก​ไป​ ถัก​ทอ​ด้วย​พลัง​และ​กฎเกณฑ์​พิเศษ​ พุ่ง​เข้าใส่​ตง​เซิงด้วย​ความเร็ว​สูงสุด​

นี่​คือ​วิชา​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ของ​มัน​ เขา​นั้น​เหนือ​ชั้น​ ไม่มีสิ่งใด​สามารถ​หยุดยั้ง​ได้​

กระทั่ง​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ยัง​ไม่อาจ​หยุดยั้ง​ ร่างกาย​ถูก​เจาะทะลุ​!

“ฆ่า!”

จ้าว​ชิงกัดฟัน​ หยิบ​กระบี่​ที่​ตกลง​บน​พื้น​ออกมา​สำแดง​วิชา​กระบี่​ที่​แข็งแกร่ง​สุด​!

ยังมี​ยอด​ฝีมือ​ที่​บรรลุ​เข้าขั้น​ที่หก​ พวกเขา​ต่าง​ระเบิด​พลัง​ออกมา​อย่าง​เต็มที่​โดย​ไม่มีการ​เก็บ​ออม​เอาไว้​!

ภาพ​ดังกล่าว​น่ากลัว​เกิน​จินตนาการ​ ทั่ว​ทั้ง​สนามรบ​มืดมิด​แทบจะ​ระเบิด​ออก​!

“ล้วนแล้วแต่​แข็งแกร่ง​ไกล​เกิน​กว่า​ผู้​ที่​เพิ่ง​เข้าสู่​ขั้น​หก​ เดิมที​คิด​ว่า​สามารถ​จัดการ​กับ​พวก​เจ้าได้​อย่าง​ง่ายดาย​ แต่​ตอนนี้​ดู​แล้ว​ข้า​คง​ต้อง​จริงจัง​ยิ่งขึ้น​”

ประกายไฟ​ใน​ดวงตา​สีดำ​ของ​ตง​เซิงลุกโชน​ เขา​เรียก​ทวน​ออกมา​ไว้​ใน​มือ​ก่อน​จะพุ่งตรง​ไป​เบื้องหน้า​

ใจเชื่อมั่น​เป็น​อย่างยิ่ง​ ว่า​เพียงแค่​ตัว​เขา​ผู้เดียว​ก็​สามารถ​สยบ​ทั้งหมด​ลง​ได้​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท