บทที่ 863 สนามรบมืดมิดถูกระเบิด การต่อสู้อันน่าตกตะลึงปะทุขึ้น!
โฮก!
สิงโตดำคำรามออกมาด้วยแววตาดุร้าย มันไม่คาดคิดเลยว่าจ้าวชิงจะสามารถต่อกรกับมันได้ถึงเพียงนี้
หลังพันกว่ากระบวนท่าผ่านไป มันกับจ้าวชิงก็สู้กันต่อไม่น้อยกว่าอีกหมื่นกระบวนท่า ผลออกมาคือมันไม่อาจทำอะไรจ้าวชิงได้ ทั้งยังไม่อาจกดดันจ้าวชิงได้สำเร็จ
จ้าวชิงเพิ่งจะบรรลุขั้นที่หกจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?!
หมอกสีดำระเบิดออกมา มันไม่อาจทนรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้ ตัวมันนั้นไม่ได้เพิ่งบรรลุขึ้นที่หก แต่กลับใช้เวลานานแล้วยังไม่อาจสยบจ้าวชิงลงได้ มันรู้สึกอับอายขายหน้ายิ่ง!
พลังของมันพุ่งสูงขึ้น ระเบิดการโจมตีอย่างดุเดือด พลังมืดมิดถล่มฟ้าทลายดิน ทั่วทั้งสนามรบถูกปกคลุมไปด้วยพลังมืดมิดอันไร้ขอบเขต
ทุกวิชาลับถูกใช้ออกมาอย่างดุดัน ฝีมือนับว่าแข็งแกร่งยิ่ง
จ้าวชิงพร่างพรายสง่างาม ส่องสว่างผ่าความมืด กระบี่มรกตวาดแสงออกไปนับไม่ถ้วน ทำลายการโจมตีของสิงโตดำครั้งแล้วครั้งเล่า
ยิ่งต่อสู้มากเท่าใดเขาก็ยิ่งดุดันมากขึ้นเท่านั้น เกินยิ่งกว่าความคาดหมายของสิงโตดำ
ยามเพิ่งเข้าสู่ขั้นที่หก พลังของของเขายังนับได้ว่าไม่เสถียรอยู่บ้าง
ทว่าหลังจากผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือด การควบคุมพลังก็ยิ่งเสถียรมากขึ้น พลังที่สำแดงออกมาแข็งแกร่งกว่าเดิมเรื่อย ๆ!
เสียงฉึบดังขึ้น อุ้งเท้าหน้าคู่หนึ่งของสิงโตดำถูกตัดออก เลือดสีดำสาดกระเซ็นหยดลงบนพื้น เกิดเป็นควันดำ เผยให้เห็นถึงพลังกัดกร่อนอันรุนแรง
“สมควรตาย!”
สิงโตดำคำรามออกมา มันระเบิดพลังโจมตีรุนแรง พยายามจัดการจ้าวชิงลง ทว่าก็ล้มเหลวอีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันไม่อาจทำอันใดจ้าวชิงได้ กระทั่งอุ้งเท้าหน้าของมันยังถูกตัด นี่ยิ่งทำให้มันไม่อาจทนไหว!
มันเปิดปากพ่นลำแสงสีดำออกมา นี่คือพลังมืดมิดที่แข็งแกร่งที่สุดในร่างกาย น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด นับได้ว่าเป็นการโจมตีอันทรงพลังสุดของมัน
“ไร้ประโยชน์!”
สีหน้าของจ้าวชิงไม่แยแส ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญการใช้พลังของขั้นที่หกอย่างถึงแก่นแท้
มือกวัดแกว่งกระบี่หยกครั้งแล้วครั้งเล่า แสงกระบี่ถักทอกลายเป็นตาข่าย พุ่งทำลายแสงสีดำ
แสงสีดำถูกทำลาย สิงโตดำที่มีความเชื่อมโยงกับมันร่างกายสั่นสะท้าน กระอักโลหิตสีดำออกจากปาก
จ้าวชิงลงมืออย่างเด็ดขาด ไม่ให้โอกาสใดกับสิงโตดำ ตรงเข้าไปพร้อมกระบี่มรกตด้วยต้องการจะสังหารสิงโตดำ
ขณะนั้นเองตงเซิงก็หยุดการเฝ้าดูแล้วลงมือทันที
ครั้นชี้นิ้วออกมา ก็พลันมีลำแสงดูราวกับแสงเหนืออันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงเข้าใส่!
จ้าวชิงสัมผัสได้ถึงแรงคุกคามมหาศาลก่อนที่มันจะเข้าใกล้เสียอีก
เขาล้มเลิกการโจมตีสิงโตดำทันที ขยับกระบี่อย่างว่องไว ใช้กระบี่มรกตต้านทานลำแสงที่พุ่งเข้ามา
ตู้ม!
จ้าวชิงถูกกระแทกจนกระเด็นถอยหลังไปทันที เลือดลมในร่างวิ่งพล่านอย่างดุเดือด ใบหน้าซีดเซียว ร่างสั่นสะท้านจนเกือบล้มลงไปกับกองที่พื้น
กระทั่งกระบี่มรกตในมือยังสูญเสียแสงที่เปล่งประกาย สุดท้ายก็จางหายไปโดยสิ้นเชิง
มือที่ถือกระบี่มรกตอ่อนยวบ ไม่สามารถจับกระบี่เอาไว้ได้อีก กระบี่มรกตร่วงลงบนพื้นส่งเสียงเคร้ง
“แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เขาสูดลมหายใจเย็นเยียบ แม้จะรู้แต่แรกว่าตงเซิงนั้นน่ากลัว ทว่าก็ไม่คาดคิดว่าจะน่ากลัวถึงเพียงนี้!
กระทั่งการโจมตีครั้งเดียวเขาก็ไม่อาจหยุดยั้ง ช่องว่างมีมากเกินไป!
สีหน้าของสิ่งมีชีวิตหลังฉากเริ่มคล้ำลง
เดิมทีเมื่อพวกเขาเห็นว่าจ้าวชิงทรงพลังเป็นอย่างมาก ต่างก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
ทว่าตอนนี้หลังตงเซิงลงมือ พวกเขาพลันรู้สึกสิ้นหวัง อารมณ์ดิ่งลงในทันที
ยังจะ…ต่อกรได้อย่างไรอีก?
มองไม่เห็นความหวังแม้แต่น้อย!
“นายท่านตงเซิงไร้เทียมทาน!”
“เพียงแค่แมลงตัวจ้อยไร้ค่ากลุ่มหนึ่ง คิดอยากจะต่อกรกับนายท่านตงเซิงเช่นนั้นหรือ? ช่างน่าขันเสียจริง! นายท่านตงเซิงเพียงแค่ลงมือครั้งเดียวก็สามารถสังหารพวกเจ้าทั้งหมดได้!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากส่งเสียงกู่ร้องออกมา
นายท่านตงเซิงสมแล้วที่มาจากแดนบูชายัญอันธการ ช่างแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง!
“ให้ข้าดูเสียว่าเจ้ามีความลับอันใดอยู่”
สีหน้าตงเซิงสงบนิ่ง เขาก้าวออกไปเบื้องหน้าอย่างแช่มช้า
“อามิตาพุทธ!”
ตอนนั้นเองพลันมีเสียงสวดดังขึ้นมา แสงพุทธะส่องสว่างปัดเป่าความมืดมิด
“เจ้าลาแก่หัวโล้นน่าตายนั้น!”
“แมลงหวี่น่ารำคาญมาแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดเต็มไปด้วยความชิงชัง เมื่อเทียบในหมู่ยอดฝีมือจากโลกหลังฉากแล้ว พวกมันเกลียดพระอมิตาภะพุทธเจ้ามากที่สุด
ไม่มีเหตุผลอื่น สาเหตุหลักคือการที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าแตกต่างจากยอดฝีมือหลังฉากคนอื่น ๆ
สำหรับยอดฝีมือหลังฉากคนอื่น ๆ พวกมันพ่ายแพ้ก็พ่ายแพ้เถิด อย่างมากสุดก็แค่ตาย ทว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้านั้นแตกต่างออกไป
พระอมิตาภะพุทธเจ้านั้นจะไม่ลงมือสังหาร!
เมื่อพวกมันพ่ายแพ้ และถูกพระอมิตาภะพุทธเจ้าจัดการ พวกมันจะต้องฟังเสียงสวดตลอดเวลา พระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่คิดจะปล่อยพวกมันไปจนกว่าพวกมันจะกลับตัวกลับใจ เดินเข้าสู่เส้นทางแสงสว่าง
กลับไปสู่แสงสว่างไร้สาระอันใด!
พวกมันถือกำเนิดขึ้นมาจากความมืด แล้วจะยังมีแสงสว่างอันใดให้กลับ
การฟังบทสวดของพระอมิตาภะพุทธเจ้านั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าการสังหารพวกเขาโดยตรง!
ในหมู่สิ่งมีชีวิตมืดมิด พระอมิตาภะพุทธเจ้าคือผู้ที่พวกมันจงเกลียดจงชังอย่างถึงที่สุดไม่มีสิ่งอื่นใดเปรียบ!
“นายท่านตงเซิงได้โปรดสังหารลาแก่หัวโล้นนั่นด้วย อย่าปล่อยให้ลาแก่หัวโล้นได้ท่องบทสวดอีก!”
“ไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนนับไม่ถ้วนขอร้องตงเซิง หวังว่าตงเซิงจะสังหารพระอมิตาภะพุทธเจ้าโดยเร็วที่สุด
อย่าว่าแต่บทสวดของพระอมิตาภะพุทธเจ้าเลย กระทั่งพระอมิตาภะพุทธเจ้าที่ยังไม่ได้สวด พวกมันยังรู้สึกขยาดเป็นอย่างมากเพียงแค่ได้ยินเสียงของพระอมิตาภะพุทธเจ้าเอ่ยขึ้น
ทว่าตงเซิงไม่ได้ใส่ใจอันใดกับสิ่งมีชีวิตมืดมิดเหล่านี้
เขามองไปทางพระอมิตาภะพุทธเจ้า ดวงตาเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้าคือพระอมิตาภะพุทธเจ้าหรือ? ช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ พลังมืดมิดเข้าสู่ร่างกายกัดกร่อนอย่างสมบูรณ์แล้ว ทว่าเจ้ากลับสามารถทำลายพลังมืดมิดขับมันออกมาได้!”
เขาเอ่ยปากขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยได้ยินสิ่งมีชีวิตมืดมิดเอ่ยถึงพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ยามนั้นสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนประดังห้อมล้อมพระอมิตาภะพุทธเจ้า จนสุดท้ายมีสิ่งมีชีวิตมืดมิดตนหนึ่งระเบิดตนเองจุดพลังมืดมิดออกมาอย่างเต็มที่ ส่งพลังเข้าไปในร่างของพระอมิตาภะพุทธเจ้า ต้องการจะลากพระอมิตาภะพุทธเจ้าลงสู่ความมืดมิด กลายมาเป็นฝ่ายของพวกมัน
ทว่าผลกลับออกมาล้มเหลว
พลังมืดมิดที่ถูกจุดออกมาอย่างเต็มที่นั้นน่ากลัวถึงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นยอดฝีมือเช่นพระอมิตาภะพุทธเจ้า เมื่อโดนพลังมืดมิดนั่นพุ่งเข้าไปในร่าง ก็พลันลุกลามไปทั่วทันที
ยามนั้นกระทั่งดวงวิญญาณของพระอมิตาภะพุทธเจ้าก็ถูกพลังมืดมิดกลืนกิน กลายเป็นสถานการณ์ที่แทบไม่อาจแก้ไขได้ พระอมิตาภะพุทธเจ้าจะต้องจมลงสู่ความมืดมิดอย่างแน่นอน
ทว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้ากลับน่าเหลือเชื่ออย่างถึงที่สุด สามารถก้าวข้ามสถานการณ์ดังกล่าวมาได้โดยไม่จมลงไปสู่ความมืด
หัวใจพุทธะเช่นนี้ กระทั่งตงเซิงเองก็อดแปลกใจไม่ได้ ฝึกฝนมาเช่นใดกัน? พระอมิตาภะพุทธเจ้าถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้
“หาใช่ถึงเพียงนั้น จิตส่วนมากถูกกลืนกินไปแล้ว ไม่อาจกำจัดความมืดมิด ทำได้เพียงแค่ละทิ้ง”
พระอมิตาภะพุทธเจ้าที่ปรากฏกายออกมาส่ายหน้าเอ่ย
นับเป็นประสบการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง เขาห่างจากการถูกครอบงำอย่างสมบูรณ์เพียงแค่ก้าวเดียว ทว่าด้วยหัวใจพุทธะอันมั่นคง สุดท้ายก็ยังสามารถเค้นแรงต่อต้านได้
น่าเสียดายที่ความคิดจำนวนมากของเขาถูกกลืนกินไปแล้ว ไม่อาจหวนกลับมาได้
“ละทิ้งความคิดจำนวนมาก ทว่าเจ้าก็ยังสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นที่หกได้ ดูท่า…บนร่างของเจ้าเองก็มีความลับเช่นกัน!”
เปลวไฟสีดำขลับลุกโชนในดวงตาตงเซิงขณะจับจ้องไปทางพระอมิตาภะพุทธเจ้า
เมื่อแยกความคิดจำนวนมากออกไป พระอมิตาภะพุทธเจ้าก็ไม่อาจรักษาพลังเอาไว้คงเดิมได้ การที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าสามารถบรรลุขั้นที่หกได้ นับเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
ไม่ต้องสงสัยเลย บนร่างของพระอมิตาภะพุทธเจ้ามีความลับอันยิ่งใหญ่อยู่!
สีหน้าของพระอมิตาภะพุทธเจ้าจริงจัง ไม่เอ่ยอันใด
กระทั่งตัวของเขาเองก็ยังรู้สึกเหลือเชื่อ สุราเพียงแค่หนึ่งหยด ไม่เพียงแต่สามารถทำให้เขากลับคืนสู่สภาพเดิมได้ แต่ยังทำให้เขาบรรลุไปสู่ขั้นถัดไปได้ ภายในใจของเขาตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก
คุณชายผู้นั้นคือใครกัน?
ช่างแข็งแกร่งจนมิอาจจินตนาการได้!
“ความลับเช่นใดกันที่สามารถทำให้พวกเจ้าทั้งสองก้าวหน้าขึ้นมาได้ ข้าอยากรู้เสียจริง”
เปลวไฟสีดำในดวงตาของตงเซิงขยับไหวแรงยิ่งขึ้น
“เจ้าผิดแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่สองคน!”
“พวกข้าเองก็บรรลุขั้นใหม่เช่นเดียวกัน!”
ร่างแล้วร่างเหล่าปรากฏตัวออกมายังที่แห่งนี้ ลมหายใจต่างน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ประมุขแห่งสรวงสวรรค์ ปรมาจารย์เต๋า ยอดฝีมือสะท้านโลกันตร์ และยอดฝีมือคนอื่น ๆ ล้วนมายังสถานที่แห่งนี้
“จำนวนมากเพียงนี้?!”
สีหน้าของตงเซิงแปรเปลี่ยน เกิดอันใดขึ้น?! ยอดฝีมือฉากหลังกลุ่มนี้ล้วนบรรลุขั้นที่หกแล้ว!
เมื่อใดกันที่ขั้นระดับพลังสามารถก้าวข้ามได้ง่ายดายเช่นนี้?!
สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้สามารถก้าวข้ามได้พร้อมกันหรือ?!
นี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่เห็นด้วยตาของตนเองจริง ๆ เขาคงจะไม่เชื่อ
“ให้ข้าดูเสียว่าพวกเจ้ามีความลับอันใดอยู่!”
เขาพุ่งตรงเข้าไป ไม่ต้องสงสัย บนตัวของสิ่งมีชีวิตหลังฉากเหล่านี้จะต้องมีความลับอันน่าตื่นตะลึงอยู่!
พระอมิตาภะพุทธเจ้าลงมือก่อน ตบฝ่ามือลงไป
นี่คือมหาวิชาของพระพุทธศาสนา ดูเหมือนเพียงแค่ฝ่ามือเดียว แต่แท้จริงแล้วมันรวบรวมพลังศรัทธาจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งหมดในพุทธภูมิ น่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด และเคยทำให้สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากหวาดกลัวมาแล้ว ไม่กล้าต้านรับโดยตรง
แสงสีทองสว่างไสว เสียงพุทธะกึกก้องทั่วท้องนภา หนึ่งฝ่ามือกดลงมา ปรากฏภาพนิมิตมากมาย สามารถเห็นพุทธภูมิปรากฏขึ้น พุทธสาวกจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังสวดมนต์ ศักดิ์สิทธิ์เหนือชั้นยิ่ง!
“วิชาปัญจอสนีบาต!”
หลังจากนั้นพลังของปรมาจารย์เต๋าก็ถูกส่งออกมา บนฝ่ามือปรากฏสายฟ้าห้าสี ประกอบด้วยอสนีทอง อสนีไม้ อสนีน้ำ อสนีเพลิง และอัสนีดิน!
นี่คือวิชาขั้นสูงสุดของปรมาจารย์เต๋า อสนีทอง พุ่งสังหาร ปรากฏทหารเต๋าทั้งหลายออกมา อานุภาพร้ายแรงเป็นอย่างมาก!
อสนีไม้ประกอบด้วยพืชพรรณหลากหลายชนิด เถาวัลย์ปรากฏออกมา พุ่งตรงไปเบื้องหน้า ตามรัดพันก่อกวน
อสนีบาตน้ำระเบิดออก บนท้องฟ้าเบื้องบนพลันปรากฏลูกเห็บจำนวนนับไม่ถ้วนขนาดใหญ่เทียบเท่าดวงดาวตกลงมาจากท้องฟ้า ขณะเดียวกันก็มีสารพัดพิษหลั่งไหลออกมาราวกับสายฝน พลังนี้ยากจะต้านทาน
อสนีบาตเพลิงทำให้เกิดผืนทะเลอัคคีอันกว้างใหญ่ไพศาล แผดเผานภา ส่งสายฟ้าฟาดลงมาด้วยพลังทำลายล้างอันไร้ขอบเขต!
อสนีบาตดินปรากฏออกมาเป็นขุนเขาหลายลูก แต่ละลูกล้วนหนักอึ้งจนไม่อาจจินตนาการได้ สามารถทลายปริภูมิเวลา หรือกระทั่งท้องฟ้าเหนือจักรวาลได้
พลังทำลายล้างของวิชาปัจญอสนีบาตน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง น้อยครั้งนักจึงจะสำแดงออกมาพร้อมกัน
ปรมาจารย์เต๋าตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของตงเซิง อสนีบาตทั้งห้าจึงถูกใช้ออกมาพร้อมกันโดยไม่เก็บออมเอาไว้
ประมุขแห่งสรวงสวรรค์สูงใหญ่ทรงพลัง ทั่วทั้งร่างกายสว่างไสวอย่างถึงที่สุด เขาต่อยหมัดออกมา ด้านหลังพลันปรากฏเงาสูงนับร้อยล้านจั้งทอดสายตาลงมองโลกหล้า ภายในหมัดเปี่ยมด้วยพลังสูงสุดของประมุขแห่งสรวงสวรรค์!
เขายังไม่ทันได้ออกวิชามวย เป็นเพียงแค่การตั้งท่า พลังอันไร้ขอบเขตก็ทะลักออกมา ทำให้สิ่งมีชีวิตมืดมิดจำนวนมากที่เห็นเกิดความหวาดหวั่น ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว หวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวอันเลวร้าย
ครั้งหนึ่งประมุขสวรรค์เคยใช้วิชานี้ออกมา ทำลายกองทัพสูงสุดของพวกมันทิ้งได้ในทันที!
โฮก!
ยอดฝีมือสะท้านโลกันตร์แหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วคำรามออกมา แสงทั่วร่างเปล่งประกายเจิดจ้าฉายขึ้นไปบนฟ้า ร่างของมันส่องสว่างราวกับจะยึดครองทั่วทั้งสนามรบฝั่งความมืดมิดทั้งหมด ดวงตาคู่หนึ่งใหญ่เสียยิ่งกว่าดวงดารา
ทั่วทั้งร่างเปี่ยมด้วยเกล็ดเย็นเยียบ บนศีรษะมีเขาอยู่ ด้วยความตระหนักได้ว่าตงเซิงยากแก่การต่อกร จึงใช้วิชาที่แข็งแกร่งสุดของมันออกมา!
เขาบนหัวของมันหลุดออกไป ถักทอด้วยพลังและกฎเกณฑ์พิเศษ พุ่งเข้าใส่ตงเซิงด้วยความเร็วสูงสุด
นี่คือวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน เขานั้นเหนือชั้น ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดยั้งได้
กระทั่งสิ่งมีชีวิตมืดมิดที่แข็งแกร่งที่สุดยังไม่อาจหยุดยั้ง ร่างกายถูกเจาะทะลุ!
“ฆ่า!”
จ้าวชิงกัดฟัน หยิบกระบี่ที่ตกลงบนพื้นออกมาสำแดงวิชากระบี่ที่แข็งแกร่งสุด!
ยังมียอดฝีมือที่บรรลุเข้าขั้นที่หก พวกเขาต่างระเบิดพลังออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่มีการเก็บออมเอาไว้!
ภาพดังกล่าวน่ากลัวเกินจินตนาการ ทั่วทั้งสนามรบมืดมิดแทบจะระเบิดออก!
“ล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งไกลเกินกว่าผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นหก เดิมทีคิดว่าสามารถจัดการกับพวกเจ้าได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ดูแล้วข้าคงต้องจริงจังยิ่งขึ้น”
ประกายไฟในดวงตาสีดำของตงเซิงลุกโชน เขาเรียกทวนออกมาไว้ในมือก่อนจะพุ่งตรงไปเบื้องหน้า
ใจเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ว่าเพียงแค่ตัวเขาผู้เดียวก็สามารถสยบทั้งหมดลงได้!