บทที่ 864 จ้าวชิง ‘ไม่ถูก ต้องตกหล่นอันใดไปแน่!’
“มหาไวโรจนพุทธ!”
ในพุทธศาสนา มิได้มีเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้าเท่านั้นที่ก้าวสู่ขั้นที่หกแล้ว หากแต่ยังมีอีกผู้หนึ่ง เขาคือพระตถาคต ทรงพลังกล้าแกร่งไร้ผู้ใดทัดเทียมเฉกเช่นเดียวกัน แสงพุทธะนับล้านสาดส่องเจิดจ้าจนมิอาจจ้องมองตรง ๆ
เขาสำแดงมหาวิชา พลานุภาพมิได้ด้อยไปกว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้า ธารปริภูมิเวลาสั่นสะท้าน
“หนึ่งปราณผลัดตรีวิสุทธิ์!”
ศาสนาเต๋าไม่ธรรมดาเช่นกัน มิได้มียอดฝีมือเพียงตนเดียวที่ก้าวสู่ขั้นหก
ผู้เฒ่าผมขาวท่านหนึ่งจำแลงร่างแยกออกมาสามร่าง โดยมีของวิเศษอย่างแผนผังไท่จี๋ แผนผังฟ้าดินในมือขณะบุกออกไป
ร่างแยกทั้งสามนี้ไม่ธรรมดากันทั้งสิ้น เปี่ยมไปด้วยพลัง!
เขาคือเล่าจื๊อ หนึ่งในยอดฝีมือสูงสุดแห่งศาสนาเต๋า!
สรวงสวรรค์ เผ่าปีศาจก็เช่นกัน มิได้มีผู้ก้าวสู่ขั้นหกเพียงตนเดียว เวลานี้พากันสำแดงฝีมือ บุกออกไปข้างหน้า
หมอกดำรายล้อมอยู่รอบตัวตงเซิง ทวนยาวสีดำแฝงไว้ด้วยพลังเกินหยั่ง เขาน่าพรั่นพรึงเกินไป ทวนที่แทงออกไป ฝ่ามือของพระอมิตาภะพุทธเจ้าและภาพพุทธภูมินับล้านถูกกำจัดในพริบตา!
กระทั่งฝ่ามือของพระอมิตาภะพุทธเจ้ายังถูกแทงทะลุอีกด้วย โลหิตพระพุทธรินไหลไม่หยุด เสียงบริกรรมบทสวดซึ่งดังกึกก้องไปทั่วเอกภพก็หยุดชะงัก!
วิชาปัญจอสนีบาตจากยอดฝีมือศาสนาเต๋าผู้นั้นก็ถูกกำราบบดขยี้ไม่เหลือซากด้วยฝ่ามือของตงเซิง ไม่อาจส่งผลอันใดได้เลย!
ซ้ำร้ายตัวเขาเองยังกระอักเลือดไม่หยุด ถูกพลังสะท้อนกลับรุนแรง บาดเจ็บสาหัส!
ประมุขแห่งสรวงสวรรค์บุกเข้ามาพร้อมด้วยพลังหมัดสะท้านโลกา อวตารสูงนับล้านด้านหลังคล้ายว่าอยู่เหนือทุกสิ่ง เปี่ยมด้วยกำลังเหลือล้น!
กระนั้นเขาก็ยังสู้มิได้ ตงเซิงอ้าปากพ่นลำแสงสีดำออกมา กระหน่ำใส่เขาจนต้องล่าถอย ร่างอวตารสูงนับล้านจั้งด้านหลังเริ่มสั่นคลอน มีวี่แววสูญสลาย
เขาเดี่ยวของปีศาจสะท้านโลกันตร์ผู้นั้นบุกเข้ามาด้วยความเร็วอันทลายขีดจำกัด ถล่มใส่ตัวตงเซิงในอึดใจเดียว
ทว่าไม่อาจทะลุผ่านร่างของตงเซิงได้
หมอกดำห้อมล้อมอยู่รอบตัวตงเซิง กฎแห่งความมืดมิดถักทอประสาน เขาเดี่ยวไร้เทียมทานทะลวงได้ทุกสิ่ง ฉับพลันเจอตอ กระแทกเข้าจนร่วงหล่นลงมา
ขณะเดียวกัน บนเขาเดี่ยวยังมีรอยร้าวเล็ก ๆ ปรากฏ!
จ้าวชิงฟันกระบี่ทรงอานุภาพที่สุดออกไป แสงกระบี่เจิดจ้า ตงเซิงแหงนสายตามอง เปลวเพลิงสีดำลุกโชนพวยพุ่ง แผดเผากระบี่นี้จนสิ้นซาก
การโจมตีทรงพลังที่สุดของพระตถาคต เล่าจื๊อ และยอดฝีมือตนอื่น ๆ ก็ไม่มีผลเช่นกัน
ตงเซิงสยดสยองจนตายด้วยความหวาดกลัวได้ สยบทั้งหมดด้วยกำลังเพียงหนึ่ง ลบล้างการโจมตีและพลังทุกอย่าง เผยให้เห็นถึงความไร้เทียมทานอย่างเต็มที่!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
“ห่างกันเกินไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตหลังฉากมากมายตกใจจนหน้าซีดเซียว เลือดปราณพร่องลง มิอาจเชื่อผลลัพธ์ที่ปรากฏสู่สายตาพวกเขา
ทั้งที่อยู่ขั้นหกเหมือน ๆ กัน ทว่าความห่างชั้นนั้นมิใช่น้อย ๆ แทบไม่อาจเทียบกันได้เลย ตงเซิงแข็งแกร่งจนพวกเขามองไม่เห็นความหวัง!
“นี่แหละคือท่านตงเซิง!”
“พวกเจ้าคิดอะไรอยู่ คงมิได้คิดว่าเอาชนะท่านตงเซิงได้จริง ๆ กระมัง!”
เสียงหัวเราะร่วนดังมาจากทางด้านสิ่งมีชีวิตมืดมิดระลอกแล้วระลอกเล่า
เดิมพวกมันเห็นยอดฝีมือหลังฉากมีการก้าวสู่ขั้นหกแล้วนับคณายังรู้สึกวิตกอยู่บ้าง ทว่าบัดนี้ พวกมันไม่เหลือความกังวลใดอีก!
ท่านตงเซิงกำราบได้ทั้งหมด!
“เจ้าพวกโง่งม นายท่านของข้าหาใช่ผู้ที่พวกเจ้าเทียบเทียมได้?! ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!”
สิงโตทมิฬหลอมร่างใหม่ขึ้นมา แหงนศีรษะพลางแค่นเสียง
“ฮ่า ๆ สวะจ้าวชิง เจ้าอยากฆ่าข้ามิใช่หรือ อยากล้างแค้นให้ภรรยาเจ้ามิใช่หรือ มาสิ มาฆ่าข้าสิ!”
สิ่งมีชีวิตมืดมิดที่เคยสังหารภรรยาจ้าวชิงถูกจ้าวชิงฟันไปหลายที กระนั้นยังไม่ตาย เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายอยู่
มันไม่สามารถหลอมร่างใหม่ขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ ได้เพียงคงรูปลักษณ์หมอกดำไว้
ทว่ามันยังคงหัวเราะอย่างโอหัง สาแก่ใจเป็นหนักหนา!
พระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นต่างหนักอึ้งในใจ แม้นเคยคิดไว้นานแล้วว่าตงเซิงนั้นต่อกรด้วยยากยิ่ง กระนั้นก็ไม่คิดเลยว่ายากปานนี้!
พวกเขาต่างโจมตีรุนแรงที่สุดออกไปแล้ว สุดท้ายกลับแผ้วพานตงเซิงมิได้เลย!
ความห่างชั้นนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง พวกเขามิใช่คู่มือของตงเซิง
“ได้ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทุกท่านจนบัดนี้ อาตมารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง วันนี้น่ากลัวว่าพวกเราคงจบไม่ดีแล้ว ต้องตายอยู่ที่นี่ แต่กระนั้น อาตมาก็ไม่รู้สึกเสียใจ!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้าปริปาก
“มาเถิดทุกท่าน จุดประกายพวกเราเองให้เจิดจ้า แล้วต่อสู้ครั้งสุดท้ายกันเถิด!”
เขาเอ่ยต่อเสียงดัง ไม่มีทางยอมจำนน พร้อมใช้ชีวิตของเขาเพื่อหยุดยั้งความมืดมิด
“มาเลย!”
“ข้าเตรียมพร้อมเพื่อลมหายใจนี้อยู่แล้ว ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว หากความมืดมิดคิดผ่านเข้าไป มีเพียงเส้นทางเดียวคือต้องย่ำศพเราไปเท่านั้น!”
เหล่ายอดฝีมือตวาด เตรียมใจตายแล้วเช่นกัน
“ไม่ถูก…ไม่ถูก!”
อีกด้าน จ้าวชิงลุกลี้ลุกลน รู้สึกมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ทว่าไม่ถูกต้องตรงไหน เขากลับบอกไม่ถูก
เขาร้อนรนอยากรู้ว่าผิดพลาดตรงไหน บางทีอาจเปลี่ยนแปลงจุดจบของพวกเขาได้
“พวกเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ต่อหน้าข้า พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกความตายของตนเองด้วยซ้ำ”
ตงเซิงควงทวนดำพลางเอ่ยเสียงเรียบ
เขาแข็งแกร่งเกินไป มีพลังเบ็ดเสร็จที่สามารถควบคุมพระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่น
เป็นดั่งที่เขาว่า ต่อหน้าเขา พระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นไม่อาจตายได้ด้วยซ้ำ
“ขอข้าดูหน่อยเถิดว่าพวกเจ้ามีความลับอันใด!”
เขาก้าวไปข้างหน้า หมายจะผ่าส่วนลึกวิญญาณของพระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นออก เพื่อล่วงรู้เรื่องที่เขาอยากรู้
“ไม่มีทาง!”
ปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนหนึ่งคำราม จุดประกายพลังในตัวอย่างบ้าคลั่งพร้อมบุกไปหาตงเซิงหมายจะระเบิดตัวเอง แล้วลากตงเซิงตายไปด้วยกัน
ต่อให้ฆ่าตงเซิงมิได้ มันก็ต้องพยายามสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้ตงเซิง
มันไม่ยอมให้ตงเซิงสมปรารถนา ให้ตายก็ไม่ยอม!
“เรื่องนี้เจ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสิน”
ตงเซิงมีสีหน้าราบเรียบ ยื่นมือข้างหนึ่งออกไป ขยายใหญ่ตามลม กุมปีศาจสะท้านโลกันตร์ไว้ในกำมือ
ขณะเดียวกันพลังมืดมิดไหลเวียนอยู่ในฝ่ามือของเขา ก่อนจะพุ่งเข้าไปในร่างของปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนนั้น ทลายพลังที่มันจุดประกายขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนปีศาจสะท้านโลกันตร์ไม่อาจระเบิดตัวเองได้อีกต่อไป
เขานั้นสยดสยองอย่างแท้จริง มีพลังที่สามารถกำกับทุกสิ่ง บรรดายอดฝีมือหลังฉากแม้แต่จะตายยังมิได้
“เช่นนั้นเริ่มจากเจ้าแล้วกัน”
เขาเอ่ยเสียงเบา ลำแสงสีดำพุ่งออกจากหน้าผาก หายลับเข้าไปในร่างของปีศาจสะท้านโลกันตร์ หมายจะแหวกส่วนลึกวิญญาณของปีศาจสะท้านโลกันตร์ออกเพื่อสืบหาข้อมูล
“อ๊ากกก!”
ปีศาจสะท้านโลกันตร์ครวญครางเสียงปวดร้าว มันพยายามขัดขืนสุดแรงแล้วยังมิไหว วิญญาณถูกแหวกออกทีละน้อย เจ็บปวดจนทนมิได้
เมื่อวิญญาณของมันถูกแหวกออกอย่างสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างของมันย่อมต้องถูกเปิดเผยอย่างไม่ต้องสงสัย
เวลานั้นเอง จ้าวชิงเงยหน้าฉับพลัน
“กาสุราที่บรรจุสุรามา!”
ในที่สุดเขาก็รับรู้แล้วว่าผิดตรงไหน
ในความรู้สึกของเขา คุณชายหลี่ผู้นั้นเล็งเห็นศึกนี้ไว้ก่อนแล้วแน่นอน ถึงได้ส่งสุรามาเป็นกำลังหนุนพวกเขา ช่วยให้พวกเขามีพลังพอจะต่อสู้กับตงเซิง
มิฉะนั้น เหตุใดสุราถึงแบ่งได้คนละหยดพอดี!
เห็นได้ชัดว่าสุราหยดที่เขาเหลือไว้ให้ตาเฒ่าขี้เมาก็อยู่ในการคาดการณ์ของคุณชายหลี่
นอกจากนี้ ช่วงเวลานั้นไม่บังเอิญไปหรือ!
พอดีกับช่วงก่อนตงเซิงปรากฏตัวในสมรภูมิมืดมิด!
ใต้หล้านี้มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นที่ไหน คุณชายหลี่ผู้นี้ย่อมต้องใช้วิชาบางอย่างซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับรากฐานพิเศษในโลกหน้าฉาก จนมองเห็นทุกอย่างนี้ล่วงหน้า
ทว่าพวกเขากลับไม่อาจต่อสู้ทัดเทียมกับตงเซิง ห่างชั้นกันไกลโข!
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง!
ในเมื่อคุณชายหลี่ผู้นั้นมองเห็นทุกอย่างนี้ล่วงหน้าแล้ว ซ้ำยังตัดสินใจช่วยพวกเขา ไฉนเลยจะปล่อยให้พวกเขาไร้กำลังพอให้ต่อสู้กับตงเซิง
ไม่น่าเป็นไปได้
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างตกหล่นไปแน่นอน
บัดนี้เขานึกได้แล้ว!
นอกจากสุราแล้วยังมีกาสุราอยู่!
กาสุรานี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพวกเขาในการต่อกรกับตงเซิง!
“เจ้าอย่าได้ลำพองใจนัก คอยดูนี่!”
เขาตวาดใส่ตงเซิง เรียกกาสุราออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมเปิดฝาออก
นี่คือน้ำเต้าสุราลักษณะพิถีพิถัน หลี่จิ่วเต้าหลอมด้วยฝีมือตนเอง
“เจ้าเมาแล้วหรือ กระทั่งน้ำเต้าสุรายังโยนออกมาได้”
ตงเซิงหันมองจ้าวชิง
เขาหรือก็นึกว่าจ้าวชิงมีลูกไม้อันใด ที่แท้แค่เรียกน้ำเต้าสุราออกมาชิ้นหนึ่ง
เรื่องนี้เป็นผลให้เขาหัวเราะออกมาอย่างอดมิได้
ทว่าไม่นาน เขาก็หัวเราะไม่ออก
น้ำเต้าสุราลอยขึ้นไปบนอากาศ นิ่งงันอยู่ตรงนั้น ประกายพิเศษบางอย่างไหลเวียนไปตามพวยกา ทั้งยังมีพลังซึ่งจินตนาการไม่ออกกำลังหลอมรวม ขณะเดียวกัน กฎระเบียบสูงส่งวิเศษเริ่มโลดแล่นอยู่บนน้ำเต้าสุรา
สีหน้าตงเซิงเปลี่ยนไป ยกมือเหวี่ยงปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนนั้นไปอีกด้าน
น้ำเต้าสุรานี้สร้างความคุกคามต่อเขาได้ จนเขาไม่มีแก่จิตแก่ใจจัดการปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนนี้
พระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นรีบเข้าไปรับปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนนี้ พร้อมถ่ายทอดพลังเข้าไปในตัวเขา เพื่อช่วยฟื้นพลังให้ปีศาจสะท้านโลกันตร์
วิญญาณของปีศาจสะท้านโลกันตร์ตนนี้เกือบถูกสะบั้น บาดเจ็บสาหัส ยังดีที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นถ่ายทอดพลังเข้าไปในตัวมัน มันถึงค่อย ๆ อาการดีขึ้น ใบหน้ากลับมาเลือดฝาดอีกครั้ง
“น้ำเต้าสุราจากที่ใดกัน…”
ตงเซิงมีสีหน้าเคร่งเครียด คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าวันหนึ่งมันจะรู้สึกคุกคามเพราะน้ำเต้าสุรา!
“กำราบก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
เขาเคลื่อนไหว ตวัดทวนดำบุกไปหาน้ำเต้าสุรา
น้ำเต้าสุรากำลังรวบรวมพลัง เขาไม่มีทางเมินเฉย ภัยคุกคามนั้นเป็นความจริง หากปล่อยไปจนน้ำเต้าสุราสั่งสมพลังเสร็จแล้ว เขาอาจต้องเสียเปรียบครั้งใหญ่!
หมอกดำรายล้อมรอบตัว พริบตาเดียวเขาก็ปรี่มาถึงด้านน้ำเต้าสุรา แล้วแทงด้วยทวนดำ!
ตู้ม!
อสนีบาตสีทองถล่มออกจากน้ำเต้าสุรา หยุดยั้งทวนดำที่แทงเข้ามา!
คิ้วของตงเซิงกระตุก น้ำเต้าสุรานี้น่าประหวั่นพรั่นพรึงอย่างแท้จริง มิน่า แม้นยังรวบรวมพลังไม่เสร็จแต่ยังสร้างความคุกคามต่อเขาได้!
หากรอให้น้ำเต้าสุรานี้รวบรวมพลังเสร็จ ไม่รู้ว่าจะเกิดอันใดขึ้นบ้าง!
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าทำสำเร็จ!”
เขาเอ่ยเสียงเย็น สำแดงมหาวิชาออกมา
นี่คือวิชาที่จ้าวแห่งความมืดมิดประทานแก่เขา กล้าแกร่งเหลือแสนซ้ำยังสยดสยอง เขาไม่เชื่อว่าจะกำราบน้ำเต้าสุราลงมิได้!
ความมืดมิดจุติ แสงสว่างอันตรธาน พลังปราณพิศวงชวนผวาคืบคลาน ใช่แค่น่าสะพรึงที่ไหน
กระทั่งแสงจากน้ำเต้าสุรายังถูกความมืดมิดกลืนกินไปจนสิ้น เร้นกายอยู่ในความมืดมิด ไม่อาจมองเห็น
ในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตหลังฉากทั้งปวงเสมือนตาบอด ทัศนวิสัยดำมืด มองไม่เห็นสิ่งใดทั้งสิ้นรวมถึงญาณสัมผัสด้วย
พระอมิตาภะพุทธเจ้าและยอดฝีมือตนอื่นก็ต้านมิไหว ดวงตาสูญเสียการมองเห็น ทุกอย่างดำสนิท!
จิตใจพวกเขาหนักอึ้ง หายใจลำบาก กดดันเหลือแสน ถูกปกคลุมไปด้วยความผวา ความมืดมนไร้ที่สิ้นสุดเช่นนี้เป็นผลให้พวกเขาไม่มีความรู้สึกปลอดภัยเลยสักนิด!
“ผนึกฟ้าดิน ความมืดมิดกำราบทุกสิ่ง เตรียมต้อนรับความมืดมิดได้เลย!”
ตงเซิงหัวเราะเสียงเย็น นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
หลังจากนั้น มหาวิชามืดมิดนี้จะสำแดงอานุภาพรุนแรงไร้ที่สิ้นสุด บดขยี้น้ำเต้าสุราให้แหลกเหลว!