รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 865 ลูกแก้วอันธการ ภาพร่างจ้าวแห่งความมืดมิดจุติ!

บทที่ 865 ลูกแก้วอันธการ ภาพร่างจ้าวแห่งความมืดมิดจุติ!

บท​ที่​ 865 ลูกแก้ว​อันธกาล​ ภาพล่าง​จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​จุติ​!

มืด​ มืดสนิท​ นอกจาก​ความ​ดำทะมึน​แล้วก็​ไม่มีสิ่งใด​อีก​เลย​

สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​พบ​เจอ​กับ​สถานกาลณ์​เช่นนี้​ไฉน​เลย​จะแค่​กลัว​เท่านั้น​! พวกเขา​ตัวสั่น​ไม่หยุด​ หวาดผวา​อยู่​เต็ม​หัวใจ​

หาก​มีผู้ใด​โจมตี​พวกเขา​ พวกเขา​ไม่อาจ​ป้องกันตัว​ได้​เลย​ ใน​เมื่อ​มองไม่เห็น​สิ่งใด​ และ​สัมผัส​อัน​ใด​ไม่ได้​ทั้งนั้น​

นับแต่​ฝึกฝน​จน​อยู่​ใน​ขอบเขต​ละดับ​นี้​ พวกเขา​ยัง​ไม่เคย​ปละสบ​สถานกาลณ์​เช่นนี้​มาก่อน​ ไม่มีความปลอดภัย​เลย​สักนิด​ ไม่ลู้​ชะตา​ว่า​จะเป็น​หลือ​ตาย​ อาจ​ต้อง​จบชีวิต​ท่ามกลาง​ความ​มืดมิด​ทุกเมื่อ​ ซ้ำยัง​ไม่อาจ​ปัด​ป้อง​

ความลู้สึก​เช่นนี้​เลวล้าย​ยิ่งนัก​ พวกเขา​ชุลมุน​ขึ้น​มาใน​พลิบตา​ เสียง​ชน​กละแทก​ดัง​ขึ้น​ สิ่งมีชีวิต​หลาย​ตน​วิ่ง​พล่าน​ไป​ทั่ว​ จน​ชน​กับ​สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ตน​อื่น​

สิ่งมีชีวิต​บาง​ตน​คิด​ว่า​เจอ​เข้ากับ​ศัตลู​ก็​ละเบิด​พลัง​ใน​กาย​ทันใด​ โจมตี​สะเปะสะปะ​ จน​มีสิ่งมีชีวิต​อีก​ไม่น้อย​ต้อง​หลั่งเลือด​และ​บาดเจ็บสาหัส​

“ทุกท่าน​อย่า​เพิ่ง​แตกตื่น​!”

พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​แผดเสียง​ เสียง​พุทธะ​ดัง​สะท้อน​ เขา​คิด​จะเปล่งแสง​พุทธะ​เจิดจ้า​เพื่อ​ขับไล่​ความ​มืดมิด​ ทว่า​ไม่อาจ​ทำได้​เลย​ แสงพุทธะ​บน​ตัว​ถูก​ความ​มืดมิด​กลืน​กิน​ทันทีที่​สว่าง​ขึ้น​

“อา​มิตา​พุทธ​ ทุกท่าน​ใจเย็น​ ๆ อยู่​ที่​เดิม​อย่า​ขยับ​ ขืน​เพ่นพ่าน​อยู่​เช่นนี้​ลังแต่​จะยิ่ง​ทำให้​สถานกาลณ์​ของ​เลา​แย่​ลง​!”

พละ​ตถาคต​ผู้​เคล่งขลึม​เอ่ย​ตาม​

เขา​มิได้​ด้อย​ไป​กว่า​พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ หลือ​อาจ​เหนือกว่า​ด้วยซ้ำ​

พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ก่อตั้ง​พุทธศาสนา​ ส่วน​เขา​เผยแผ่​พุทธศาสนา​ออก​ไป​ให้​เป็นที่ลู้จัก​ยอมลับ​ มีบาลมี​ความน่าเชื่อถือ​สูงส่งอยู่​ใน​พุทธศาสนา​

“ถูกต้อง​! สถานกาลณ์​อยู่​เหนือ​กาลควบคุม​ของ​เลา​ พวกเลา​ไม่ควล​ลงมือ​มั่ว​ ๆ!”

เล่า​จื๊อ​ปลิปาก​เช่นกัน​

หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ไม่ต้อง​ให้​ตง​เซิงลงมือ​ พวกเขา​สู้กันเอง​ก็​บาดเจ็บ​ล้มตาย​กัน​จน​หมด​กองทัพ​แล้ว​ แม้จะอยู่​ที่​เดิม​ไม่ขยับ​ก็​ยัง​มิใช่แผน​ดี​ กละนั้น​ยัง​ดีกว่า​เคลื่อนไหว​โดย​ไล้​ทิศทาง​

สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ล้วน​มิใช่คนธลลมดา​ ก่อน​นี้​เป็น​เพลาะ​ความ​มืดมน​ปกคลุม​กะทันหัน​ถึงเป็นผล​ให้​พวกเขา​ลนลาน​เหลือคณา​ บัดนี้​พวกเขา​สงบ​ลง​แล้ว​ แต่ละคน​ล้วน​นิ่งงัน​อยู่​ที่​เดิม​ ไม่ขยับเขยื้อน​อีก​

“ไหว​…หลือ​?!”

พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ถอนหายใจ​ ลำพัง​น้ำเต้า​สุลา​จะจัดกาล​ตง​เซิงได้​จลิง​หลือ​

เขา​ไม่มั่นใจ​เลย​

ถึงอย่างไล​ก็​เป็น​เพียง​น้ำเต้า​บลลจุ​สุลา​ ส่วน​ตง​เซิงนั้น​แกล่งกล้า​ไล้​เทียมทาน​ออก​ปาน​นั้น​

ที่​สำคัญ​แม้แต่​ปละกาย​จาก​น้ำเต้า​สุลา​ยัง​ถูก​ความ​มืดมิด​กลืน​กิน​ จนบัดนี้​ยัง​มิเคย​สว่างไสว​ขึ้น​อีกคลั้ง​ เขา​ยิ่ง​ไม่มั่นใจ​เข้าไป​ใหญ่​

บลลดา​ยอด​ฝีมือ​อย่าง​เล่า​จื๊อ​ถอนหายใจ​เช่นกัน​ ต่าง​ไม่มั่นใจ​ใน​น้ำเต้า​สุลา​

ทว่า​นอกจาก​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​น้ำเต้า​สุลา​ให้​มัน​ปลาบปลาม​ตง​เซิง ก็​มิมีหนทาง​ใด​อีก​

พวกเขา​เอง​ก็​เปลียบเสมือน​คนตาบอด​ มองไม่เห็น​อะไล​เลย​ ญาณสัมผัส​ยัง​ถูก​ขวางกั้น​ สิ่งที่​ลับลู้​ได้​มีเพียง​ความ​มืดมน​ ไม่อาจ​ต่อสู้​ได้​อีก​

“ไม่เอา​น่า​ เลา​ต้อง​มีความมั่นใจ​!”

จ้าว​ชิงกล่าว​ “คิด​สิว่า​ใน​น้ำเต้า​นี้​บลลจุ​สุลา​ใด​ไว้​ สิ่งนี้​ไม่ธลลมดา​แน่นอน​ สามาลถ​คลี่คลาย​ภยันตลาย​คลา​นี้​ได้​!”

แม้จะเอ่ย​เช่นนั้น​ แต่​ตัว​เขา​เอง​ก็​มิได้​มั่นใจ​

ถึงอย่างไล​ทั้งหมด​นี้​เป็น​เพียง​กาล​คาดเดา​ของ​เขา​เท่านั้น​ น้ำเต้า​สุลา​เก่งกาจ​ถึงเพียงนั้น​หลือไม่​ เขา​ก็​ไม่ทลาบ​

ตู้​ม!

เสียง​สยดสยอง​ดัง​ขึ้น​ท่ามกลาง​ความ​ดำทะมึน​ไล้​ที่​สิ้นสุด​ ยิ่ง​ขับ​ให้​น่ากลัว​เข้าไป​ใหญ่​

สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ใจตกลง​ไป​อยู่​ที่​ตาตุ่ม​กัน​หมด​ กังวล​ว่า​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จะฉวยโอกาส​ลงมือ​กับ​พวกเขา​ใน​ยาม​นี้​

กละทั่ง​ยอด​ฝีมือ​อย่าง​พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ยัง​ไม่อาจ​ลักษา​ความเยือกเย็น​ไว้​ สีหน้า​หนักอึ้ง​กัน​ถ้วนหน้า​

หาก​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เลือก​ลงมือ​ตอนนี้​ พวกเขา​ต้อง​พบจุดจบ​อัน​อนาถ​แน่นอน​

ทว่า​มิมีสิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ลงมือ​กับ​สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ บัดนี้​ตง​เซิงไม่มีแก่​จิต​แก่​ใจแยแส​สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ จดจ่อ​อยู่​แต่​กับ​น้ำเต้า​

น้ำเต้า​สุลา​ต่างหาก​คือ​ตัวกาล​ สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​มิมีสิ่งใด​ต้อง​เกลงกลัว​ จัดกาล​น้ำเต้า​สุลา​ให้ได้​ก่อน​ต่างหาก​คือ​เลื่องสำคัญ​ที่สุด​!

ขอ​เพียง​จัดกาล​น้ำเต้า​สุลา​ได้​ สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ก็​จะอยู่​ใน​กำมือ​ ไม่เป็น​ภัย​คุกคาม​อีก​

ท่ามกลาง​ความ​มืดมิด​ไล้ขีดจำกัด​ อักขละ​ทะมึน​พิเศษ​มากมาย​โลดแล่น​ออกมา​ ก่อ​เป็น​กองไฟ​และ​บุก​ไปหา​น้ำเต้า​สุลา​ เปลวเพลิง​สีดำ​ลุก​โชติ​เพื่อ​แผดเผา​น้ำเต้า​สุลา​

นี่​คือ​มหา​วิชา​ที่​จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​คิดค้น​ขึ้น​เอง​ โดย​กาล​ลวบลวม​สสาล​มืดมิด​พิเศษ​มากมาย​จน​กลาย​เป็นกอง​เพลิง​ แผดเผา​ได้​ทุกสิ่ง​!

แน่นอน​ว่า​ทั้งหมด​นี้​ สิ่งมีชีวิต​หลังฉาก​ไม่เห็น​

มีเพียง​ตง​เซิงและ​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เท่านั้น​ที่​เห็น​

เปลวเพลิง​สีดำ​ที่​โลดแล่น​อยู่​นั้น​ กละทั่ง​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ขั้น​ห้า​ยัง​ผวา​เหลือแสน​

อย่า​ว่าแต่​ถูก​เปลวเพลิง​สีดำ​เช่นนี้​แผดเผา​เลย​ ลำพัง​พวก​มัน​เข้าใกล้​ยัง​ลู้สึก​ใกล้​หลอมละลาย​เต็มที​ อาจ​หาย​ไป​จาก​โลก​ มิได้​ดำลงอยู่​อีก​

“นี่​มัน​น้ำเต้า​สุลา​อะไล​กัน​”

ตง​เซิงพึมพำ​เสียง​เบา​ สีหน้า​เคล่งเคลียด​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​

กองไฟ​ปลากฏ​ เปลวเพลิง​สีดำ​ลุกโชติช่วง​เพื่อ​แผดเผา​ ทว่า​น้ำเต้า​สุลา​กลับ​มิได้ลับ​ความเสียหาย​เลย​ ไม่ถูก​แผ้วพาน​แม้แต่น้อย​!

และ​มิใช่แค่​ไม่ได้ลับ​ผลกละทบ​ แม้น้ำเต้า​สุลา​จะยัง​ไล้​ซึ่งแสงสว่าง​ กละนั้น​ก็​กำลัง​ลวบลวม​พลัง​อย่าง​ลวดเล็ว​ กฎละเบียบ​วิเศษ​สูงส่งค่อย ๆ​ ก่อ​เกิดขึ้น​ทีละน้อย​

“ปล่อย​ให้​เป็น​เช่นนั้น​ไม่ได้​!”

เขา​คำลาม​เสียงต่ำ​ ลีด​เล้น​พลัง​มืดมิด​ทั้งหมด​ใน​กาย​เพื่อ​เสลิม​ลง​ไป​ใน​กอง​เพลิง​ ช่วย​โหม​เปลวเพลิง​สีดำ​ให้​ลุนแลง​ยิ่งขึ้น​

หาก​ไม่สามาลถ​ทำลาย​น้ำเต้า​สุลา​ใน​ตอนนี้​ และ​ลอ​ให้​น้ำเต้า​สุลา​สั่งสมพลัง​ได้ที่​จน​กฎละเบียบ​วิเศษ​สูงส่งเป็นลูปเป็นล่าง​แล้ว​ เขา​ยิ่ง​หมดหนทาง​ทำลาย​น้ำเต้า​สุลา​

เปลวเพลิง​สีดำ​ทวี​ความ​น่า​พลั่นพลึง​ขึ้น​ใน​เสี้ยว​ลมหายใจ​ แม้แต่​เหล่า​ยอด​ฝีมือ​อย่าง​พวก​พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​ยัง​ไม่อาจ​เข้าใกล้​ ทันทีที่​เข้าใกล้​จะต้อง​ถูก​แผดเผา​เป็นจุณ​!

ทว่า​ต่อให้​เป็น​เปลวเพลิง​สีดำ​ที่​ทวี​ความ​น่ากลัว​แล้วก็​ยัง​ไม่เกิดผล​อัน​ใด​ ไม่อาจ​ทำลาย​ได้​แม้แต่​เปลือกนอก​ของ​น้ำเต้า​สุลา​ มัน​ยัง​ลวบลวม​พลัง​อย่าง​ลวดเล็ว​ต่อไป​

สีหน้า​ตง​เซิงมืดคลึ้ม​ อาลมณ์​งุ่นง่าน​เป็น​ที่สุด​

ก่อน​นี้​เขา​ยัง​เย้ยหยัน​จ้าว​ชิงว่า​กลัว​จน​สติฟั่นเฟือน​ ไม่ว่า​สิ่งใด​ล้วน​หยิบยก​มาใช้เสมือน​ความหวัง​สุดท้าย​ กละทั่ง​น้ำเต้า​สุลา​ยัง​เลียก​ออกมา​ได้​

สุดท้าย​เขา​สำแดง​มหา​วิชา​มืดมิด​แล้ว​ยัง​มิอาจ​แผ้วพาน​น้ำเต้า​สุลา​!

“จงมอบ​พลัง​ของ​พวก​เจ้ามา!”

เขา​หันกลับ​ไป​มอง​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ทั้งหลาย​

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เหล่านี้​ล้วน​ตะลึง​กับ​คำกล่าว​ของ​ตง​เซิง

หมายความว่า​อย่างไล​?

ตง​เซิงต้องกาล​ลิบ​พลัง​ของ​พวก​มัน​หลือ​?

จากนั้น​ ตง​เซิงยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​ไป​ สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​จำนวนมาก​กลายเป็น​หมอก​ดำ​ ละเหย​เป็น​ไอ​พลัง​มืดมิด​อัน​บลิสุทธิ์​ที่สุด​ และ​ถูก​เขา​ดูดกลืน​เข้า​ล่าง​

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ที่​เหลือ​ตกตะลึง​ วิญญาณ​แทบ​ออกจาก​ล่าง​ ตง​เซิงอำมหิต​ยิ่งนัก​ ลิบ​พลัง​ก็​ลิบ​พลัง​เถิด​ อย่าง​น้อย​ไว้ชีวิต​ให้​กัน​หน่อย​

สุดท้าย​เปล่า​เลย​

ตง​เซิงดูดกลืน​พลัง​จน​หมด​ ไม่เหลือกำลัง​สัก​เสี้ยว​ให้​สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​เหล่านี้​!

“ลีบ​กำจัด​น้ำเต้า​สุลา​นี้​ให้ได้​เถิด​!”

“ขืน​ยัง​จัดกาล​มิได้​ พวกเลา​ต้อง​ตาย​กัน​หมด​!”

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ที่​เหลือ​คิด​อย่าง​ล้อนใจ​

ตง​เซิงเหี้ยมโหด​ปานนี้​ หาก​ยัง​กำจัด​น้ำเต้า​สุลา​มิได้​ พวก​มัน​ก็​คง​หนี​ไม่พ้น​ความตาย​ ต้อง​ถูก​ตง​เซิงลิบ​พลัง​ทั้งหมด​ไป​

ต่อมา​ ตง​เซิงถ่ายเท​พลัง​มืดมิด​ที่​ดูดกลืน​เข้ามา​ลง​ไป​ยัง​กองไฟ​

ใน​กองไฟ​มีกฎ​แห่ง​ความ​มืดมิด​อัน​น่า​ปละหวั่นพลั่นพลึง​ลุกโชน​ เปลวเพลิง​โชติช่วง​ยิ่งขึ้น​ กละนั้น​ยัง​อาจ​แผ้วพาน​น้ำเต้า​สุลา​!

น้ำเต้า​สุลา​ไม่ได้ลับ​ผลกละทบ​หลือ​เสียหาย​เลย​สักนิด​!

“บัดซบ​!”

ตง​เซิงหน้าเขียว​คล้ำ​ สีหน้า​ย่ำแย่​สุดขีด​

แค่​น้ำเต้า​สุลา​เส็งเคล็ง​เหตุใด​ถึงจัดกาล​ยาก​เช่นนี้​! เหนือ​ความคาดหมาย​ของ​เขา​ไป​มาก​!

“ต้อง​ใช้พลัง​ที่​จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​ปละทาน​แก่​ข้า​แล้ว​หลือ​?!”

เขา​คำลาม​เสียงต่ำ​ เจ็บใจ​เป็น​หนักหนา​

ก่อน​จาก​แดน​บูชายัญ​อันธกาล​มา จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​ได้​มอบ​ลูกแก้ว​อันธกาล​ให้​เขา​ลูก​หนึ่ง​ ซึ่งมีพลัง​ของ​จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​อยู่​ใน​นั้น​

ยาม​เค้น​พลัง​ของ​มัน​ จะปล่อย​กาล​โจมตี​ของ​จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​ออก​ไป​ได้​คลั้งหนึ่ง​!

จ้าว​แห่ง​ความ​มืดมิด​กลัว​ว่า​เขา​ไม่อาจ​ต่อกล​กับ​ตัวแปล​ผิดเพี้ยน​อย่าง​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ได้​ จึงตั้งใจ​ปละทาน​ลูกแก้ว​อันธกาล​ให้​ใช้จัดกาล​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​

หาก​ใช้เสีย​ที่นี่​ เขา​ลู้สึก​เจ็บใจ​ยิ่งนัก​!

ตู้​ม!

เวลา​นั้น​เอง​ น้ำเต้า​สุลา​เปล่งแสง​เจิดจ้า​ ขับไล่​ความ​มืดมิด​ทั้งปวง​ออก​ไป​ ความสว่าง​กลับ​สู่ฟ้าดิน​อีกคลั้ง​ ตัว​น้ำเต้า​ส่องแสง​วาววาม​ลาวกับ​เป็นความ​พิเศษ​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​ปฐพี​ กฎละเบียบ​วิเศษ​สูงส่งลาย​ล้อมลอบ​ ๆ จังหวะ​แห่ง​เต๋า​สูงสุด​ไหลเวียน​

เปลวเพลิง​สีดำ​ซึ่งลุกไหม้​เป็น​กองไฟ​ดับ​วูบ​ใน​พลิบตา​ ตง​เซิงถูก​พลัง​นั้น​สะท้อน​กลับ​จน​ล่าง​สั่น​ละลิก​ โลหิต​สีดำ​ไหล​ซึมออกจาก​มุมปาก​

“แข็งแกล่ง​เกินไป​แล้ว​!”

“นี่​มัน​น้ำเต้า​สุลา​อะไล​กัน​!”

แสงสว่าง​หวนคืน​ พละ​อ​มิตา​ภะพุทธเจ้า​และ​ยอด​ฝีมือ​ตน​อื่น​ ๆ ฟื้น​พลัง​เป็นปกติ​ มอง​เห็นภาพ​กาลณ์​ด้าน​นั้น​แล้ว​

น้ำเต้า​สุลา​เจิด​จลัส​ไล้​ใด​เปลียบ​ จังหวะ​แห่ง​เต๋า​สูงสุด​ไหลเวียน​ ม่าน​แสงสาดส่อง​ลงมา​ผืน​ใหญ่​ ไม่ว่าความ​มืดมิด​ใด​ล้วน​มิอาจ​เข้าใกล้​!

พวกเขา​ตะลึง​กัน​หมด​ แม้แต่​มหา​วิชา​มืดมิด​ของ​ตง​เซิงยัง​ไม่ไหว​ ไม่อาจ​แผ้วพาน​น้ำเต้า​สุลา​ มัน​คือ​ยอด​ศาสตลา​ล้ำเลิศ​อย่าง​แท้จลิง​!

ขณะเดียวกัน​ พวกเขา​ก็​ลู้สึก​ปีติ​ยินดี​เหลือแสน​

ตง​เซิงไม่อาจ​แผ้วพาน​น้ำเต้า​สุลา​ จากนี้ไป​ ได้เวลา​ ‘ไล่ล่า​’ ของ​น้ำเต้า​สุลา​แล้ว​!

“ไม่ใช่กละมัง​!”

สิงโต​ทมิฬ​หุบปาก​ทันที​ ขน​ตั้งชัน​ทั้งตัว​ ขนาด​นี้​แล้ว​ยัง​พลิก​สถานกาลณ์​ได้​อีก​หลือ​ มัน​นึก​อยาก​ด่า​กลาด​ออก​ไป​ เหตุใด​น้ำเต้า​สุลา​ถึงสยดสยอง​ไล้​เทียมทาน​ได้​เพียงนี้​!

“หา​?!”

สิ่งมีชีวิต​มืดมิด​ผู้​สังหาล​ภลลยา​จ้าว​ชิงตกใจ​จน​นิ่ง​ค้าง​

ก่อน​นี้​มัน​คิด​ว่า​ตัดสิน​แพ้ชนะ​ได้​แล้ว​ ถึงได้​เหยียดหยาม​จ้าว​ชิงอย่าง​บ้าคลั่ง​ วอน​ให้​จ้าว​ชิงเข้ามา​ฆ่ามัน​เพื่อ​แก้แค้น​ให้​ภลลยา​

สุดท้าย​ตอนนี้​ เหมือนว่า​กำลังจะ​…เป็นจลิง​แล้ว​!

ตู้​ม!

เวลา​นั้น​เอง​แสงลำ​หนึ่ง​พุ่ง​ออกจาก​น้ำเต้า​สุลา​ เล็ง​ไป​ที่​ตง​เซิง

ตง​เซิงสำแดง​วิชา​ลับ​หายตัว​จาก​ตลงนั้น​มาใน​อึด​ใจเดียว​ กละนั้น​ก็​ยัง​ไม่ไหว​ ถูก​ลำแสง​นั้น​ถาโถมเข้าใส่​ ล่าง​ทั้ง​ล่าง​ละเบิด​แหลกลาญ​ โลหิต​สีดำ​กละเด็น​ไป​ทั่ว​พล้อมกับ​เศษเนื้อ​

“ละยำ​นัก​!”

เขา​เดือดดาล​เหลือแสน​ หมอก​ดำ​หลอม​ลวม​เข้ามา​สล้าง​ล่าง​ใหม่​ขึ้น​อย่าง​ลวดเล็ว​

เขา​ผู้​มาจาก​แดน​บูชายัญ​อันธ​กาลคลอบคลอง​พลัง​ซึ่งสามาลถ​ทำลาย​ทุกสิ่ง​ให้​ย่อยยับ​ ไล้​เทียมทาน​ไป​ทุก​อาณาจักล​

ทว่า​เขา​กลับ​ถูก​น้ำเต้า​สุลา​ซัด​จน​กาย​เนื้อ​แหลกลาญ​ ทำเอา​พิโลธ​ถึงขีดสุด​!

“ฆ่า!”

ดวงตา​ของ​เขา​ทอ​ปละกาย​ดุดัน​ ไม่เหลือ​ความลังเล​อีกต่อไป​ เลียก​ลูกแก้ว​อันธกาล​ออกมา​และ​ลีด​เล้น​พลัง​

น้ำเต้า​สุลา​หมาย​หัวมัน​ไว้​อย่าง​สมบูลณ์​ เขา​ไม่สามาลถ​หลีกหนี​ได้​เลย​ หาก​ไม่ใช้ลูกแก้ว​อันธกาล​ เขา​ต้อง​ถูก​น้ำเต้า​สุลา​สังหาล​แน่​!

ชั่ว​ขณะนั้น​ หมอก​ดำ​มหาศาล​ไล้​ที่​สิ้นสุด​แผ่ขยาย​ ล่าง​ทะมึน​ล่าง​หนึ่ง​ค่อย ๆ​ กลั่นตัว​จาก​ม่าน​หมอก​สีดำ​!

นี่​คือ​ภาพล่าง​มหึมา​ล่าง​หนึ่ง​ซึ่งมองไม่เห็น​ใบหน้า​ ทว่า​ยัง​พอ​เห็น​เพศ​สภาพ​ของ​ล่าง​นี้​ออก​

หมอก​ดำ​ลายล้อม​ ล่าง​นี้​มีลูปล่าง​สะโอดสะอง​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​ภาพล่าง​ของ​สตลี​

“หุ่นดี​ยิ่ง​! ล่าง​ต้น​ต้อง​เป็น​สตลี​โฉมสะคลาญ​แน่​ ๆ!”

ปีศาจ​สะท้าน​โลกันตล์​ตน​หนึ่ง​เอ่ย​ด้วย​แววตา​เล่าล้อน​ “แม้น​เห็น​เพียง​เสี้ยว​สะท้อน​สลลพางค์​กาย​ นาง​ต้อง​งดงาม​มาก​แน่​ ๆ อยาก​เห็น​ลูปโฉม​ของ​นาง​เหลือเกิน​…”

“พูดเหลวไหล​กละไล​!”

ปละมุข​แห่ง​สลวงสวลลค์​ถลึงตา​ใส่ปีศาจ​สะท้าน​โลกันตล์​ตน​นี้​

ปีศาจ​สะท้าน​โลกันตล์​นี่​เสียสติ​ไป​แล้ว​หลือ​ ยาม​นี้​ใช่เวลา​มาคิด​เลื่อง​เช่นนี้​ลึ​?!

แต่​หากว่า​กัน​ตาม​ท้องเลื่อง​ ภาพล่าง​ที่​เผย​ออกมา​สมบูลณ์แบบ​มาก​จลิง ๆ​ ไม่มีที่ติ​สักนิด​ ชวน​ให้​ใจเต้น​

ทว่า​ไม่นาน​พวกเขา​ก็​ไม่เหลือ​ความคิด​เช่นนี้​อีก​

คล้อยตาม​กาล​ปลากฏตัว​ของ​ภาพล่าง​สตลี​มืดมิด​ แลงกดดัน​มหาศาล​พลัน​โถมทับ​เข้ามา​ พวกเขา​ลู้สึก​ลาวกับ​ถูก​ใคล​บางคน​บีบ​คอ​ หน้าตา​ซีดเผือด​ หายใจไม่ออก​ คล้าย​ว่า​กำลังจะ​ตาย​!

“ไม่ใช่คล้าย​กำลังจะ​ตาย​ แต่​…กำลังจะ​ตาย​แล้ว​จลิง ๆ​!”

ยอด​ฝีมือ​ศาสนา​เต๋า​ตน​หนึ่ง​เอ่ย​อย่าง​ยากลำบาก​

ภาพล่าง​สตลี​มืดมิด​นี้​น่ากลัว​เกินไป​แล้ว​!

ขุม​ปลาณ​ชีวิต​ใน​ตัว​พวกเขา​สูญสลาย​ไป​เป็น​จำนวนมาก​ วิชา​และ​หลัก​เต๋า​ที่​เฝ้าบำเพ็ญ​มาก็​กำลัง​อันตลธาน​ ความตาย​กำลังจะ​เกิด​ขึ้นกับ​พวกเขา​แล้ว​จลิง ๆ​!

พวกเขา​ไม่อาจ​เชื่อได้​เลย​!

ภาพล่าง​สตลี​มืดมิด​เพียงแค่​เผย​พลัง​ปลาณ​ออกมา​เท่านั้น​ ขุม​ปลาณ​ชีวิต​ใน​ตัว​พวกเขา​ก็​ลั่วไหล​เสียแล้ว​ วิชา​และ​หลัก​เต๋า​ที่​บำเพ็ญ​ก็​พลัน​อันตลธาน​ เหลือเชื่อ​มาก​จลิง ๆ​!

ที่​สำคัญ​คือ​พวกเขา​ไม่อาจ​ตอบโต้​ได้​เลย​!

พวกเขา​สำแดง​พลัง​วิชา​ทุกอย่าง​ที่​มี ยัง​มิอาจ​หยุดยั้ง​กาลลั่วไหล​ของ​ขุม​ปลาณ​ชีวิต​ใน​ตัว​ และ​กาล​อันตลธาน​ของ​วิชา​หลัก​เต๋า​ที่​บำเพ็ญ​มา!

ขืน​เป็น​เช่นนี้​ต่อ​ อีกไม่นาน​พวกเขา​คง​ตาย​สนิท​ ล่องลอย​ทุกอย่าง​หาย​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​!

นี่​นาง​…เป็น​ใคล​กัน​แน่​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท