วันรุ่งขึ้น
หลินเยวียนกลับมายังห้องซ้อมเต้นอีกครั้ง
ครูสอนเต้นซึ่งบริษัทส่งมาออกตัวเอ่ยว่า “จากผลงานของคุณเมื่อวานนี้ ฉันได้ปรับแผนการเรียนให้คุณแล้ว เรามาเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวพื้นฐานกันดีกว่าค่ะ”
หลินเยวียนเอ่ย “ขอโทษครับ”
“อ๋า?”
ครูสอนเต้นนึงไม่ถึงว่าหลินเยวียนจะเกรงใจเช่นนี้ จึงรีบเอ่ยว่า
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกค่ะ เพิ่งเรียนเต้นช่วงแรกก็ยากจริงๆ …”
“ไม่ใช่ครับ”
หลินเยวียนบอก “เมื่อวานล้อเล่นน่ะครับ ที่จริงแล้วผมเต้นได้”
เอาเถอะ
จู่ๆ ระบบผลิตการเต้นให้หลินเยวียน เรื่องแบบนี้ไม่มีทางอธิบายได้ หลินเยวียนทำได้เพียงปะติดปะต่อเรื่องในอดีต
“คุณเต้นได้”
ครูสอนเต้นมีสีหน้าราวกับไม่เชื่อ ทั้งยังคิดว่าหลินเยวียนกำลังล้อตนเล่น
หลินเยวียนจึงเต้นตามท่าซึ่งครูสอนเต้นสอนเมื่อวาน ทุกการเคลื่อนไหวล้วนถูกต้องแม่นยำ
“นี่คือ…”
ครูสอนเต้นตกตะลึง
เมื่อวานเซี่ยนอวี๋เต้นแกล้งเต้นไม่ดีงั้นหรือ?
เขาล้อเล่นกับตนจริงๆ หรือ?
พ่อเพลงตัวน้อยผู้ยิ่งใหญ่ องค์รัชทายาทแห่งสตาร์ไลท์ ใช้เวลาหลายชั่วโมงเมื่อวานเพื่อแกล้งครูสอนเต้นอย่างตนเนี่ยนะ?
“ขอโทษด้วยครับ”
ท่าทางยอมรับผิดของหลินเยวียนนั้นจริงใจมาก
เรื่องนี้ต้องโทษเขาเอง
ถึงแม้เมื่อวานเขาจะเต้นไม่ได้จริงๆ แต่เขาก็ทำให้ครูสอนเต้นเสียเวลา
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร”
ครูสอนเต้นร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออก “ตอนแรกฉันยังคิดว่าจะสอนคุณจนเต้นได้ แล้วค่อยขอลายเซ็นให้ลูก ตอนนี้ฉันขอลายเซ็นได้ไหมคะ…”
“ไม่มีปัญหาครับ”
หลินเยวียนตอบอย่างร่าเริง
ครูสอนเต้นมีสีหน้ากระอักกระอ่วน “ไม่ใช่ลายเซ็นของคุณค่ะ”
หลินเยวียนชะงัก “อ๋า?”
ครูสอนเต้นยิ่งกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม “แน่นอนว่าถ้าคุณจะช่วยเซ็นให้ฉันก็ไม่เป็นไร ฉันเป็นแฟนเพลงของคุณค่ะ”
หลินเยวียนเข้าใจ “แต่ว่า?”
ครูสอนเต้นกระแอม “แต่ลูกสาวของฉันเป็นแฟนคลับฉู่ขวง ชอบผลงานของอาจารย์ฉู่ขวงมาก น่าเสียดายที่หนังสือพร้อมลายเซ็นของอาจารย์ฉู่ขวงหายากมาก ฉันคิดว่าคุณกับอาจารย์ฉู่ขวงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน บางทีอาจช่วยฉันขอลายเซ็นอาจารย์ฉู่ขวงได้ค่ะ”
หลินเยวียน “…”
ครูสอนเต้นเสียงเบาลงเรื่อยๆ “ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะคะ”
“สะดวกครับ”
หลินเยวียนเอ่ย “พรุ่งนี้ผมจะให้กู้ตงส่งให้คุณ เซ็นหนังสือเล่มไหนดีครับ”
“ถ้าเป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์จะดีมากเลยค่ะ!”
“ได้ครับ”
ครูสอนเต้นท่าทางปลาบปลื้ม “งั้นขอลายเซ็นของอิ่งจือด้วยได้ไหมคะ ลูกชายฉันเป็นแฟนคลับอิ่งจือ!”
หลินเยวียน “???”
เขารู้สึกซับซ้อนในใจ ชั่วขณะหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรดีใจหรืองุนงง ถึงอย่างไรสุดท้ายแล้วเขาก็ตกปากรับคำกับคำขอทั้งสอง
ครูสอนเต้นชอบเซี่ยนอวี๋ ลูกสาวครูสอนเต้นชอบฉู่ขวง ลูกชายครูสอนเต้นชอบอิ่งจือ
สรุปแล้วครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นแฟนคลับของเขา
จะให้อิจฉาตัวเองก็คงไม่ได้สินะ?
เมื่อกลับไปยังห้องทำงาน
หลินเยวียนเริ่มเซ็นชื่อ
เซี่ยนอวี๋ เขียนตัวอักษรข่ายซู[1]
อิ่งจือ เขียนตัวอักษรสิงซู[2]
ฉู่ขวง เขียนตัวอักษรเฉ่าซู[3]
สไตล์การเขียนสามารถแยกแยะตัวตนทั้งสามได้
จะว่าไปนี่ก็เป็นการแจกลายเซ็นครั้งแรกของอิ่งจือ ใช้สิงซูเขียนนั้นเหมาะสมมากทีเดียว เพราะว่าสไตล์ของตัวอักษรสิงซูนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างเฉ่าซูและข่ายซู
ไม่เรียบร้อยเกินไป
และไม่ห้าวหาญจนเกินไป
หลินเยวียนมีความสามารถในการเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพจากกล่องสมบัติจากระบบ
การเขียนทั้งสามสไตล์ทำให้เขาเขียนลายมือได้สามประเภท
ส่วนทำไมต้องแยกลายเซ็นให้ชัดเจน เหตุผลสำคัญคือหลินเยวียนไม่อยากถูกเปิดเผยตัวตนเพราะลายมือ
ระวังไว้ก่อนเป็นดี
ใช้ตัวอักษรรูปแบบเดียวกันเซ็นชื่อ ต่อให้จงใจใช้ลายมือที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่ความลับจะถูกเปิดเผย
……
หลังจากให้กู้ตงส่งลายเซ็นให้ครูสอนเต้น หลินเยวียนจึงใช้เวลาไปกับการเตรียมคอนเสิร์ต
เขาต้องกำหนดเพลงและลำดับการขับร้องในการแสดง
ตอนนี้ยืนยันเพลงได้แล้ว และสามารถซ้อมได้ในเดือนเมษายน
เมื่อเดือนมีนาคมผ่านพ้นไป เดือนเมษายนมาเยือน ในที่สุดบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้รับตารางออกอากาศ
ขณะเดียวกัน
บรรพกาลเวอร์ชันใหม่ซึ่งขับเคี่ยวมากับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็ออกอากาศเช่นเดียวกัน!
แฟนคลับทั้งสองฝั่งต่างอดใจไม่ไหว!
นับตั้งแต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศถือกำเนิดขึ้น ข้อพิพาทระหว่างบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาลยังคงไม่สิ้นสุดลง
ตั้งแต่คุณภาพของนิยายไปจนถึงเพลงโปรโมตซีรีส์ หรือแม้แต่ระดับของโดจิน ล้วนถูกแฟนคลับของทั้งสองฝั่งนำมาเปรียบเทียบกัน…
และในวันนี้
การต่อสู้ระหว่างซีรีส์ทั้งสองเรื่องนั้น ได้รับการขนานนามจากแฟนคลับทั้งสองฝั่งว่าเป็นสงครามระดับสูงสุดระหว่างบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศและบรรพกาล!
“ครั้งนี้เราจะต้องชนะอย่างแน่นอนน!”
แฟนคลับบรรพกาลประกาศก้อง กล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่ทีเดียว
ก่อนที่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะถือกำเนิดขึ้น บรรพกาลนับว่าเป็นเทพปรณัมอันดับหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขา
หลังจากมีบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ บรรพกาลจึงถูกบีบคั้นทุกทิศทุกทาง
ในแง่ของคุณภาพนิยาย บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศดีกว่า
ในแง่ของผลประโยชน์ที่ได้รับ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้รับการยอมรับและการโปรโมตจากสมาคมวรรณศิลป์
ส่วนเพลงโปรโมตซีรีส์ เพลงหงอคงนั้นก็ขับร้องออกมาดีเสียจนแฟนบรรพกาลหมดอารมณ์
แม้แต่โดจินคลาสสิกมากมายซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบรรพกาล ยังถูกแฟนฟิกชันชื่อว่าตำนานหงอคงโดยอี้อันกดขี่
แฟนคลับบรรพกาลอัดอั้นตันใจมานาน!
พวกเขาต้องการระบายอารมณ์!
พวกเขาต้องการชัยชนะครั้งใหญ่เพื่อพิสูจน์ความเก๋าของบรรพกาล!
และซีรีส์ก็เป็นโอกาสคว้าชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของบรรพกาล ถึงอย่างไรรากฐานของบรรพกาลก็มีมากพอ ชาวบลูสตาร์ล้วนผูกพันกับบรรพกาล
เช่นเดียวกับบนโลก
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศฉายบนจอเงินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่ามูลค่าทางทรัพย์สินทางปัญญายังคงเท่าเดิม
ทุกคนยังคงยอมรับมุกนี้
‘ถ้าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศคิดจะก้าวข้ามบรรพกาล รอไปอีกยี่สิบปี!’
ปัจจุบันนี้แฟนคลับบรรพกาลค่อยๆ ยอมรับสถานะของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศแล้ว ทว่าขณะเดียวกันพวกเขาก็คิดว่า
หากบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศต้องการแตะถึงระดับเดียวกับบรรพกาล ยังต้องใช้เวลาบ่มเพาะอีกนาน
สำหรับเรื่องนี้
แน่นอนว่าแฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไม่ยอมรับ
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเอาชนะมาได้ตั้งหลายครั้ง จึงทำให้แฟนคลับกลุ่มนี้เชื่อมั่น
ต่อให้บรรพกาลจะมีรากฐานแน่นหนา ทว่าแฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็คิดว่า ซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็อาจไม่ได้เป็นรองบรรพกาล
ทั้งสองฝั่งได้เริ่มต้นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย!
ในขณะนี้ แฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศรู้สึกตื่นเต้นท่ามกลางความประหม่า!
แต่หากจะบอกว่าในเวลานี้คนกลุ่มไหนตื่นเต้นที่สุด
ไม่ใช่แฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ไม่ใช่แฟนคลับบรรพกาล
อันที่จริงคนที่ตื่นเต้นที่สุดในเวลานี้ คือบรรดานักร้องและนักประพันธ์เพลงในวงการเพลงซึ่งเตรียมตัวบุกชาร์ตเพลง!
เหตุผลนั้นเรียบง่าย
เพราะหลังจากครองแชมป์บนชาร์ตเพลงติดต่อกันมาสามเดือน ในที่สุดเซี่ยนอวี๋ก็หยุดแล้ว!
จวบจนวันสุดท้ายของเดือนมีนาคม
สตาร์ไลท์ไม่ได้ประกาศเกี่ยวกับเพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋
นั่นแสดงว่าเดือนเมษายนในปีนี้ไม่มีเซี่ยนอวี๋!
นั่งบัลลังก์แชมป์ในชาร์ตเพลงติดต่อกันมาสามเดือน จนทำให้คนในวงการเพลงติดโรคกลัวปลากันไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
นักร้องบางคนโชคไม่ดี และถูกเซี่ยนอวี๋วางยาอยู่หลายครั้ง จนโรคกลัวปลาเข้าใกล้ระยะสุดท้าย
หลายคนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อในเดือนเมษายนสามารถหลีกหนีเซี่ยนอวี๋ได้
“ต้องเป็นเพราะการออกอากาศของซีรีส์และการเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตที่ดึงสมาธิของเซี่ยนอวี๋ไปอย่างแน่นอน”
ราชาเพลงคนหนึ่งซึ่งบุกชาร์ตเพลงเดือนเมษายนเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข
ราชินีเพลงคนหนึ่งคาดเดา “ยังมีอีกหนึ่งความเป็นไปได้คือที่ได้แชมป์ติดต่อกันมาสามสมัย เซี่ยนอวี๋หยิบเพลงคงหลังออกมาหมดแล้ว”
“ไม่พูดแล้ว!”
“คืนนี้จะดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!”
“ต้องสนับสนุนซีรีส์เรื่องใหม่ของเซี่ยนอวี๋!”
“เพื่อขอบคุณที่เซี่ยนอวี๋ไว้ชีวิต จะต้องคลิกเข้าไปดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!”
“ไปเร็วๆๆ ไปดูกัน!”
“หนึ่งทุ่มวันนี้ บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ แล้วเจอกัน!”
“ถึงจะสนใจบรรพกาลเหมือนกัน แต่เห็นแก่ที่เซี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยเพลงใหม่ในเดือนเมษา ก็ดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซะเลย!”
“…”
การประกาศอย่างเป็นทางการคือเสียงระฆังแจ้งเตือน
เมื่อนักประพันธ์เพลงระดับเซี่ยนอวี๋ปล่อยผลงานใหม่ จะต้องมีการโปรโมตบ้าง
สตาร์ไลท์ไม่ได้โปรโมต ทุกคนจึงคิดไปโดยปริยายว่าเซี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยเพลง
บางครั้งก็มีข้อยกเว้น
แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครตระหนักว่าการไม่โปรโมตในครั้งนี้จะเป็นอุบัติเหตุเช่นกัน
เพราะตัวซีรีส์เองคือการโปรโมตที่สำคัญที่สุด
[1] ข่ายซู คือตัวบรรจง
[2] สิงซู คือตัวบรรจงแกมหวัด
[3] เฉ่าซู คือตัวอักษรแบบหวัด