ถ้าหากว่าหมัดนี้สามารถต่อยโดน ก็จะต่อยเอ็นคอของหลี่โม่ขาด
หลี่โม่โค้งตัวไปด้านหลัง เป็นท่าสะพานลอย แต่ในขณะเดียวกับที่โค้งไปด้านหลัง ขาของหลี่โม่ก็ถีบออกไป ถีบไปยังสองขาของท่านโหวที่พุ่งเข้ามา
กระบวนท่าของท่านโหวนั้นใช้ไปแล้ว อยากจะถอยหลังนั้นเป็นไปไม่ได้ ท่านโหวเอียงตัวบิดเอวจากความตกใจ ใช้ต้นขอข้างหนึ่งของตัวเองรับเท้าของหลี่โม่
ปึก!
แรงเตะของหลี่โม่ใช้แรงมากพอตัว ช่วงล่าที่มั่นคงของท่านโหวก็ทนกำลังที่มากมายนี้ไม่ได้ ตัวที่เอียงไว้จึงถูกหลี่โม่เตะกระเด็นลอยออกไป
ปึง!
ร่างกายที่แข็งแรงของท่านโหวตกลงพื้น ไถลไปกับพื้นไกลถึง 4-5 เมตรถึงจะหยุดลง ร่างกายครึ่งตัวถูกพื้นถูกจนเป็นแผลถลอก
“ซูด!” เสียงซูดปากที่พร้อมเพรียง
ลุ่มชายชุดดำที่มือถือดาบยาว ในใจต่างก็ตกใจกลัว ท่านโหวที่ไม่เคยมีศัตรูเทียบได้ในสายตาของพวกเขา กลับสู้กับหลี่โม่ไม่กี่ทีก็ถูกเตะกระเด็นแล้ว นี่มันก็หมายความว่าฝีมือของหลี่โม่แข็งแกร่งจนมากเกินไป
พวกชายชุดดำตื่นตกใจ อยากจะเข้าไปขวางหลี่โม่แต่ก็ไม่กล้า อยากจะถอยหลังแล้ววิ่งหนีไปก็ยิ่งไม่กล้า แต่ละคนทำได้เพียงแค่กำดาบยาวในมือแน่น และพยายามกลืนน้ำลายลงคอ
“เหี้ย พ่อมึงเอ้ย!” ใบหน้าของท่านโหวแดงก่ำ ส่งเสียงตะโกนอย่างโมโห
อับอายขายหน้ามากจริงๆ ตั้งแต่ที่ต่อสู้มา ท่านโหวก็ไม่เคยอับอายขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะขายหน้าขนาดนี้ต่อหน้าพวกลูกน้อง ต่อไปยังจะอยู่ยังไง? จะสั่งสอนพวกลูกน้องพวกนี้ยังไง?
ท่านโหวที่อับอาย กระโดดลุกขึ้นจากพื้น คำรามใส่หลี่โม่อย่างโมโห “แม่งเอ้ย เมื่อกี้ประมาทไปหน่อย ไอ้หนุ่ม ถ้าหากท่านโหวคนนี้เอาจริงขึ้นมา แกรอตายได้เลย”
ท่านโหวหาข้อแก้ตัวมาบังหน้า แล้วเหวี่ยงสองกำปั้นพุ่งไปหาหลี่โม่อีกครั้ง
หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้า รอท่านโหวที่พุ่งเข้ามาอย่างผ่อนคลาย
“ประมาท? ฉันทำได้แค่พูดเหอะๆแล้วกัน ฝีมือของนายมันใช้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แม้แต่จะเรียกว่ามีชื่อเสียงแต่ไร้ความสามารถก็ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ นายคู่ควรที่จะใส่เสื้อม่วงชุดนี้? ขายขี้หน้าตระกูลโหวเสื้อม่วงจริงๆ”
“มึงแม่งเอ้ย กูไม่คู่ควรแล้วใครจะคู่ควร! แกรอตายเลย!”
ท่านโหวที่โมโหไม่ออมมืออีกต่อไป ใช้วิชากำลังมหาศาล สองหมัดทำให้เกิดแรงลม เป็นเงากำปั้น พุ่งตรงไปที่ตำแหน่งอันตรายของร่างกายหลี่โม่
หลี่โม่ส่ายหัว เหมือนกับว่าดูถูกวิชากำลังมหาศาลของท่านโหวอย่างมาก “นายไม่คู่ควรจริงๆ วิชากำลังมหาศาลของหมัดเหล็กเส้นไม่ได้ใช้แบบนี้ ให้นายได้พบเห็นหมัดเหล็กเส้นที่แท้จริงหน่อยละกัน”
มือขวาหลี่โม่กำหมัด เหวี่ยงออกไปใส่เงากำปั้นของท่านโหว
หมัดที่เงียบสงบ ไม่มีเงาหมัดและไม่มีแรงลม ก็เหมือนกับหมัดของคนธรรมดา
ท่านโหวมองดูหมัดของหลี่โม่ ปรากฏรอยยิ้มดูถูกออกมา สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก
“หมัดของนายแบบนี้ ยังกล้าพูดว่าเป็นหมัด แกนี่ก็โม้จนท่านโหวอย่างฉันคนนี้ทนดู….อ๊าก!”
ท่านโหวยังพูดไม่จบ ก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ร่างกายที่แข็งแกร่งกระเด็นลอยออกไปอีกครั้ง
ท่านโหวที่กระเด็นออกไปในอากาศ รู้สึกแน่นอกหายใจไม่ออก ทนต่อความรู้สึกไม่ดีในใจไม่ไหวอีกต่อไป ลำคอรู้สึกจุก แล้วปากก็พ่นเลือดออกมา
พรู่!
ร่างกายของท่านโหวตกลงพื้นอย่างแรง บนหน้า บนเสื้อ เต็มไปด้วยรอยเลือด และรอบปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
“นี่ นี่คือ นี่คือหมัดอะไร ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้” ท่านโหวพูดอย่างพยายาม ไม่ถามให้แน่ใจ ท่านโหวถามอย่างไม่พอใจ
จนตอนนี้ ท่านโหวก็คิดไม่ออกว่าหมัดที่ดูธรรมดานั้นของหลี่โม่ ทลายเงาหมัดของตัวเองได้ยังไง ทั้งๆที่ตัวเองก็ใช้กำลังที่มากมายแล้ว คนที่ควรจะถูกต่อยกระเด็นต้องเป็นหลี่โม่ถึงจะถูก!
ที่ทำให้ท่านโหวไม่เข้าใจก็คือ หลี่โม่ต่อยให้ตัวเองกระอักเลือดได้ยังไง
หลี่โม่เดินไปหาท่านโหวอย่างยิ้มแย้ม “ก็บอกแล้วไงว่าเป็นหมัดเหล็กเส้น ที่ฉันใช้นี่เป็นหมัดเหล็กเส้นที่ของตระกูลโหวเสื้อม่วงโดยตรงเลยนะ”
“เป็นไปไม่ได้! ในหมัดเหล็กเส้นไม่มีกระบวนท่านี้! หมัดนั้นของนายไม่ใช่หมัดเหล็กเส้นแน่นอน”
ท่านโหวไม่เชื่อคำพูดของหลี่โม่เลยสักนิด วิชาของบ้านตัวเองเป็นยังไง ท่านโหวจะไม่รู้ได้ยังไงกัน หมัดเมื่อกี้ของหลี่โม่ จะต้องไม่ใช่กระบวนท่าของหมัดเหล็กเส้นแน่นอน
“มีอะไรเป็นไปไม่ได้ วิชาของบ้านตัวเองนายยังไม่รู้จัก น่าเศร้าจริงๆ กลับไปถามผู้ใหญ่ของนายสิ แล้วนายก็จะรู้ว่านี่ใช่ไม่ใช่วิชาหมัดของบ้านนาย”
หลี่โม่เดินไปตรงหน้าของท่านโหว สายตามองไปยังพวกชายชุดดำที่ตัวสั่น
“พวกนายใส่ชุดดำถือดาบ ท่าทางดูเหมือนนักเลง ทำไมถึงตำสั่นกันหมด ต้องเป็นการเอาดาบเข้ามาฟันฉันไม่ใช่หรอ”
เคร้ง!
เสียงดังสนั่นขึ้น ชายชุดดำคนหนึ่งถูกหลี่โม่ทำให้ตกใจจนดาบในมือตกลงกับพื้น
จากนั้นเสียงเคร้งก็ดังติดต่อกันยาว ด้ามจับของดาบยาวพวกนั้น เหมือนกับว่าเป็นมันเทศที่เผามือ ไม่มีชายชุดดำคนไหนกล้าจับไว้ในมืออีก
หลังจากเสียงดาบยาวตกพื้นดังสนั่นแล้ว พวกชายชุดดำไม่เพียงแต่โยนดาบยาวในมือทิ้ง ก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่ารีบหนี ทุกคนก็ต่างวิ่งกระจายหนีไป
“พวกคนพวกนี้ ขายหน้าตระกูลโหวเสื้อม่วงอย่างหนักจริงๆ” หลี่โม่ส่ายหัวพูด
แต่ทุกคำกลับเหมือนกับเล่มมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของท่านโหว ท่านโหวอยากจะกระอักเลือดออกมาอีกสักรอบ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความอารมณ์เสียในตอนนี้
แต่ว่าท่านโหวพ่นเลือดไม่ออกมาแล้ว ถ้ายังพ่นออกมาอีกก็คงต้องตายจริงๆแล้ว
ท่านโหวค่อยๆหลับตาลง ทำท่าทางเหมือนปล่อยให้ทำได้ตามใจชอบ “มาเถอะ ร่างกายนี้ของฉันมอบให้นาย นายจะจัดการยังไงก็ตามใจ”
“นายก็นักเลงดีนี่ แต่ว่าฉันเอาร่างกายขอนายมาทำอะไร เอาไปขายเป็นเนื้อหมูก็ไม่ได้ เก็บนายไว้นายก็เป็นได้เพียงแค่คนที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น” หลี่โม่พูดอย่างดูถูก
“หะ….นาย…เฮ้อ!” ท่านโหวกล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูด ถูกความน่ากลัวในหมัดของหลี่โม่ทำจนหวาดกลัวแล้ว
หลี่โม่ใช้เท้าถีบท่านโหว “อย่าแกล้งตายแล้ว ตอบคำถามบางอย่างมาก็จะปล่อยนายไปแล้ว”
“จริงหรอ?” ท่านโหวเบิกตาโต มองหลี่โม่ด้วยสายตาที่มีหวัง
ท่านโหกลัวตาย? แน่นอนว่าต้องกลัวตายมากอยู่แล้ว คำพูดของหลี่โม่ในตอนนี้ จากที่ท่านโหวฟังแล้วก็เหมือนเป็นดั่งเสียงฟ้าประทาน เพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดใช้ชีวิตสุขสบายได้ ท่านโหวยินยอมที่จะสูญเสียมากมาย
“จริงไม่จริงอะไรกัน นายยังไม่ทางเลือกงั้นหรอ?” ในสายตาของหลี่โม่เต็มไปด้วยความล้อเลียน
ความคิดในใจของคนแบบท่านโหวอย่างนี้ หลี่โม่เข้าใจดีเป็นอย่างมาก เพียงแค่ให้ความหวังที่จะมีชีวิตรอดกับพวกเขา พวกเขาก็สามารถเสียสละได้มากมาย ส่วนเรื่องการหักหลังเพื่อนอะไรพวกนี้ สำหรับพวกเขาแล้วก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายและมีความสุขมาก
“งั้นถามมาเถอะ เพียงแค่เป็นคำถามที่ฉันรู้ ฉันสามารถบอกนายได้หมด” ท่านโหวพูดไปด้วยและขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากไปด้วย
“ลองบอกมาก่อนว่าใครสั่งให้นายมาละกัน”
“เรื่องนี้ ฉันบอกวว่าราชาใหญ่สั่งให้มา นายจะเชื่อมั้ย?” ท่านโหวมองหลี่โม่อย่างระแวดระวัง
“นายว่าฉันเชื่อไม่เชื่อละ? บางทีนายอาจจะลองพนันดูก็ได้ว่าฉันเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ว่าผลลัพธ์นายรับผิดชอบเอง” หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าชั่วร้าย