ตอนที่ 916 สายเรียกเข้าลึกลับ
วันต่อมา ฟางจั๋วหรานไม่ได้ไปทำงาน เขารออยู่ที่บ้านเพื่อรอรับโทรศัพท์
ตราบใดที่มีเบาะแสที่ยอดเยี่ยม จะได้รับรางวัล 300 หยวน
และหากพบหลินม่ายจากเบาะแสที่ให้มา จะได้รับรางวัล 30,000 หยวน
ใครบางที่เห็นข่าวในหนังสือพิมพ์นี้แล้วจะไม่ต้องการรับโชคลาภหรือ?
นับตั้งแต่หกโมงเช้า โทรศัพท์ในห้องนอนของฟางจั๋วหรานดังขึ้น
มีหลายคนให้เบาะแสเท็จ หรือเบาะแสที่ไม่ถูกต้องเพียงเพราะต้องการเงิน 300 หยวน
จนกระทั่งบ่ายสอง ในที่สุดฟางจั๋วหรานก็ได้รับข้อความที่ค่อนข้างยอดเยี่ยม
ผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาบอกว่าเมื่อวานประมาณบ่ายสอง หล่อนออกไปซื้ออมยิ้มกับลูกชายวัยห้าขวบ
เมื่อเดินผ่านลานบ้านก่อนจะถึงร้านขายของ หล่อนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์กำลังหันหลังให้กับหล่อนและลูกชาย พร้อมกับกำลังผลักดันผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในรถ
ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับที่ฟางจั๋วหรานแจ้งคนหายหรือไม่
หล่อนเพิ่งอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์และปรากฏว่าเรือนสี่ประสานที่ประกาศขายเป็นสถานที่ที่หลินม่ายหายตัวไป หล่อนจึงโทรมาแจ้งเบาะแส
ฟางจั๋วหรานตื่นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมา “รถคันนั้นยี่ห้ออะไร คุณจำได้ไหมครับ?”
ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับมาอย่างสับสน “ยี่ห้ออะไรเหรอ? เอ่อ ฉันจำไม่ได้น่ะค่ะ”
ฟางจั๋วหรานถึงกับเป็นใบ้
คนทั่วไปมีโอกาสสัมผัสกับรถยนต์ไม่มากนัก แล้วพวกเขาจะรู้เรื่องรถยนต์ได้อย่างไร?
“แล้วเห็นทะเบียนรถคันนั้นไหมครับ?”
ผู้หญิงตอบกลับมาว่า “อ้อ ทะเบียนรถจำง่ายมากค่ะ เลข 888 เห็นว่าเป็นเลข 8 หลายตัวเลย ฉันไม่ได้สนใจค่ะ”
เวลานั้นหลินม่ายซื้อรถเบนซ์ และเมื่อต้องติดป้ายทะเบียน เธอใช้เงินเพื่อซื้อหมายเลขทะเบียน เลข 8 เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเอง
ถ้าฟังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพูด รถที่เธอเห็นว่าจะเป็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่าย
ฟางจั๋วหรานถามอีกครั้งว่าเห็นหน้าของผู้หญิงสองคนนั้นไหม
หล่อนตอบกลับมาว่าเห็นเพียงแต่ผู้หญิงคนนั้นใส่กางเกงยีนส์ เพราะหล่อนหันหน้าไปอีกฝั่ง
ส่วนผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไป หล่อนไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
ฟางจั๋วหรานถามอีกครั้ง “แล้วผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไปใส่ชุดอะไรเหรอครับ?”
ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับ “ทำไมคุณสนใจอะไรแบบนั้น! เสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้นทันสมัยมาก
เดรสถักสีเบจคอลเลกชั่นล่าสุดของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว คู่กับโค้ทวูลสีเบจถุงน่องสีดำ”
หลังจากฟังคำอธิบายของหล่อนแล้ว ฟางจั๋วหรานจึงแน่ใจเต็มที่ว่าผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวไปคือหลินม่าย
เมื่อวานเธอแต่งตัวแบบนั้น
แต่เขายังสับสนอยู่เล็กน้อย หลินม่ายเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาสักระยะแล้ว และก็มีความเชี่ยวชาญระดับหนึ่ง ทำไมถึงถูกพาตัวไปไหน?
อีกอย่างผู้หญิงที่ลักพาตัวหลินม่ายทั้งสูงและผอมด้วย
เธอน่าจะจัดการกับผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ยาก
เขาถามอีกฝ่ายอย่างละเอียด และอีกฝ่ายก็ตอบรายละเอียดกลับมาด้วยเช่นกัน
หญิงสาวในชุดแจ็กเก็ตพาหลินม่ายเข้าไปในรถ พูดตามตรงว่าไม่ได้พยุง แต่เป็นการลากมากกว่า
หลินม่ายตัวอ่อนราวกับเส้นก๋วยเตี๋ยว และหมดสติ
หัวใจของฟางจั๋วหรานแทบกระดอนจนจุกหน้าอก หลินม่ายหมดสติไปงั้นเหรอ…
หรือว่าผู้หญิงในชุดโคบาลจะพาตัวหลินม่ายไปฆ่าทิ้งและเตรียมอำพรางศพ?
แม้เขาจะหวาดกลัวมาก แต่เขาก็ยังรักษาคำพูด ก่อนจะจ่ายเงินให้ผู้หญิงคนนั้น 300 หยวน
หลังจากผู้หญิงคนนั้นมารับเงินแล้ว หล่อนก็ถามว่าถ้าเขาพบเจอหลินม่ายผ่านเบาะแสที่หล่อนให้ หล่อนจะได้รับรางวัล 30,000 หยวนหรือไม่?
ฟางจั๋วหรานพยักหน้าด้วยความเหนื่อยล้า “ครับ”
เธอจึงจากไป
ด้วยรายละเอียดที่ผู้หญิงคนนั้นให้เอาไว้ ตำรวจจึงเปิดการสอบสวนแบบปูพรมรอบเรือนสี่ประสานที่ประกาศขาย
จนะกระทั่งได้รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งสวมใส่ชุดแจ็กเก็ตเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ ลานบ้าน
และมีหลายคนเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินไปรอบ ๆ ชาวบ้านหลายคนก็เห็นเหมือนกัน
จากคำอธิบายของชาวบ้าน ตำรวจสเก็ตภาพเหมือนคร่าว ๆ ของผู้หญิงคนนั้นและให้หญิงผู้พบเบาะแสตรวจสอบ
ผู้หญิงมองภาพเหล่านั้นและเห็นว่ามันเหมือนกับคนที่หล่อนเคยพบก่อนหน้านี้
เมื่อฟางจั๋วหรานเห็นภาพสเก็ต เขาถึงกับตกตะลึงเพราะเขาเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน
เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้หญิงคนนี้เดินวนเวียนอยู่รอบ ๆ โรงพยาบาล และมองมาที่เขาตลอดเวลา
ครั้งหนึ่งหล่อนวิ่งเข้าหาเขาแล้วยังถ่มน้ำลายใส่เขาด้วย เรียกขานเขาว่าคนใจร้ายอย่างขุ่นเคือง
ด้วยประสบการณ์ทางการแพทย์หลายปีของฟางจั๋วหราน เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีความผิดปกติทางจิต และไม่คิดสนใจหล่อน
ไม่คิดมาก่อนว่าผู้หญิงวิกลจริตแบบนี้จะลักพาตัวหลินม่ายไป
หลังจากยืนยันว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพาตัวหลินม่ายไป ตำรวจจึงเร่งสืบสวนต่อ
หลายวันแล้วที่หลินม่ายถูกลักพาตัวไป
หากหลินม่ายยังมีชีวิตอยู่ การล่าช้ามีแต่ทำให้หลินม่ายตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น
ฟางจั๋วหรานไม่มีความอยากอาหารหรือดื่มชาใด ๆ
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางดูจะแข็งแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ พวกเขายังยินยอมกินอาหารและนอนหลับได้ในช่วงกลางคืน
ส่วนคุณปู่ฟางเองก็แนะนำให้ฟางจั๋วหรานนอนพักผ่อนบ้าง เพื่อจะได้มีแรงช่วยเหลือหลินม่าย
การที่ไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว หากจะบอกว่าไม่เหนื่อยคงจะเป็นเรื่องโกหก
ฟางจั๋วหรานต้องการที่จะยืนหยัดต่อ แต่คุณปู่ฟางใช้ความอาวุโสบีบบังคับให้เขาไปนอน
ฟางจั๋วหรานจึงต้องไปนอนอย่างเชื่อฟัง
ปู่ก็คือปู่ หลานก็คือหลาน นี่คือความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง
เขาบังคังร่างให้นอนลงบนเตียง ทว่านอนไม่หลับ
ฝนตกด้านนอกค่อนข้างรบกวนเขาไม่น้อย ความคิดของเขาล่องลอยไปก่อนจะเกิดภาพมากมายในหัว
เขาคิดมากจนกระทั่งฝันร้าย
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาอยากเห็นว่าหลินม่ายนอนอยู่ข้างกาย
อยากให้เธอเอาขาพาดเอวของเขาเอาไว้เช่นเคย และหลับฝันหวาน
ขณะฟางจั๋วหรานหลับใหล โทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงดังขึ้นอีกครั้ง
เขารีบรับโทรศัพท์ทันที จากนั้นเสียงหญิงสาวเย็นชาและน่ากลัวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “อยากเจอภรรยาของคุณไหม?”
หัวใจของฟางจั๋วหรานเต้นรัว เขาถามออกไปอย่างเร่งรีบว่า “คุณทำอะไรภรรยาผม?”
ผู้หญิงคนนั้นแค่นหัวเราะเหยียดหยามก่อนจะพูดว่า “ถ้าอยากรู้ว่าฉันทำอะไรกับภรรยาของคุณ ก็มาที่เมืองหม่าถีแล้วกัน”
ก่อนจะกล่าวเสียงเข้มว่า “จำใส่หัวไว้ว่ามาคนเดียว! ถ้าคิดบอกเรื่องนี้กับตำรวจและพาคนอื่นมาด้วย ภรรยาของคุณตายแน่!”
หลังจากนั้นจึงวางสายไป
มีเหตุผลบางอย่างที่ฟางจั๋วหรานรู้สึกว่าเขาควรบอกตำรวจเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
แต่อีกเสียงหนึ่งในหัวก็ดังเตือนเขาว่า ถ้าหากบอกตำรวจแล้วอีกฝ่ายลงมือกับหลินม่ายจะทำอย่างไร?
ด้วยความกังวล เขาจึงไม่สามารถตัดสินใจอย่างถูกต้องได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ฟางจั๋วหรานตัดสินใจที่จะไปยังสถานที่ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกด้วยตัวเอง
แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาเขียนโน๊ตทิ้งไว้ในห้องเพื่อบอกปู่กับย่าว่าเขาจะไปที่ไหน
พอถึงเวลาเช้าอีกวัน ปู่กับย่าเห็นข้อความจะได้โทรแจ้งตำรวจได้
ถ้าเขาติดกับของผู้หญิงคนนั้นและไม่สามารถช่วยเหลือหลินม่าย ก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และพวกเขาจะไม่ชักช้าแน่นอน
เวลานี้เขาต้องจัดการลูกให้ดีก่อนที่จะออกไป และจะให้เขานอนในห้องคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
ทารกน้อยเอาแต่นอนกระสับกระส่ายในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา และจะร้องไห้ทันทีหากตื่นขึ้นแล้วไม่พบใคร แน่นอนว่าอาจเกิดอันตรายขึ้นเมื่อเขานอนคนเดียว
หลังจากฟางจั๋วหรานเขียนบันทึกแล้ว เขาเคาะประตูห้องน้าทังพร้อมกับทารกในอ้อมแขน
เขาบอกกล่าวว่าตนเองไม่สามารถดูแลเด็กน้อยให้ดีได้ คืนนี้จึงอยากฝากให้หล่อนดูแลให้
ก่อนจะบอกว่าเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีนักอยากจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วออกจากประตูไป
น้าทังกอดเด็กน้อยเอาไว้ก่อนจะกล่าวด้วยความเป็นห่วง “ข้างนอกฝนตกหนักมากเลยนะคะ อย่าออกไปเลยค่ะ”
ฟางจั๋วหรานยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมขับรถไป”
แน่นอนว่าน้าทังไม่สามารถห้ามเขาได้ จึงทำได้เพียงอุ้มทารกและเฝ้ามองเขาจากไป
เมืองหม่าถีที่ผู้หญิงลึกลับบอกกล่าวค่อนข้างห่างไกลพอสมควร
สภาพถนนไม่ค่อยดีนัก และยังมีฝนชุกอีกด้วย
ฟางจั๋วหรานขับรถมานานกว่าห้าชั่วโมงก่อนจะมาถึงเนินเขาข้างทางเข้าเมืองหม่าถี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้หญิงคนนั้นบอกกล่าวเอาไว้
เวลานี้ตีห้าแล้ว ฝนก็ตก และทัศนวิสัยก็แย่มากด้วย
ฟางจั๋วหรานมองอะไรแทบไม่เห็นเลย และไม่มีใครโดยรอบอยู่ในการมองเห็นของเขา
แต่การที่เขามองไม่เห็นใครไม่ได้หมายความว่าไม่มีกับดักซ่อนอยู่ เขาเฝ้ามองรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวัง
ทันใดนั้นเกิดลำแสงสองดวงปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
ฟางจั๋วหรานมองดูมันอย่างระมัดระวังและเห็นว่ามันคือไฟท้ายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่าย
หัวใจของเขาพลันเต้นแรงขึ้นมา
ผู้หญิงลึกลับคนนั้นปรากฏตัวสักที!
เขาออกรถทันที และเวลานี้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่ายก็ขยับไปด้านหน้าเช่นกัน
ฟางจั๋วหรานตามติดอย่างกระชั้นชิด
เห็นชัดว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ต้องการให้เขาตามทัน และพยายามเร่งความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ฟางจั๋วหรานเหยียบคันเร่งติดตาม และเวลานี้เขากำลังจะตามทันแล้ว
เขาเปิดไฟหน้าใส่รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงหน้าก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิด เร่งความเร็วตามอย่างน่าหวาดเสียว
เขาคิดจะชนรถของผู้หญิงคนนั้นให้รถมันพัง ให้ร่างของอีกฝ่ายแหลกสลายไปสักครึ่งซีก
เมื่ออีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ อันตรายจะลดลงมาก และมันจะง่ายขึ้นถ้าหากเขาสามารถควบคุมตัวหล่อนได้และให้หล่อนบอกถึงที่อยู่ของหลินม่าย
เสียงดังโครมจากการปะทะดังขึ้น รถกำลังจะชนกับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่ายแล้ว อีกเพียงแค่สิบเมตร แต่ว่ารถจี๊ปของฟางจั๋วหรานสั่นสะเทือนกระทันหัน ก่อนจะพุ่งไปทางซ้ายอย่างไร้การควบคุม
เขาพยายามระมัดระวังอย่างมากแต่ก็ยังติดกับดักของหญิงลึกลับตรงหน้า
หญิงลึกลับใช้ความคุ้นเคยกับสภาพถนนทำให้รถของเขากระแทกกับหลุมขนาดใหญ่
ก่อนที่ฟางจั๋วหรานจะคิดเรื่องนี้ได้ เขาจำเป็นต้องกระชับพวงมาลัยให้มั่นคงแล้วแตะเบรกอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่รถทรงตัวได้ รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ของหลินม่ายก็ขับออกไปไกลแล้ว
ฟางจั๋วหรานขับรถจี๊ปยางแบนไปอย่างไม่สนใจ เขาจ้องมองไฟท้ายของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ข้างหน้าก่อนจะพุ่งไปอย่างไม่ลังเล และชนมันอย่างแรง!
รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ขับหนีไปอย่างกระทันหันแหกโค้งกลับมาในมุมร้อยแปดสิบองศาก่อนจะพุ่งเข้าหารถจี๊ปของฟางจั๋วหราน
รถทั้งสองคันไถลลงไปทางหุบเขาหลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โอย หวาดเสียวมาก พี่หมอจะจับตัวผู้หญิงคนนั้นได้ไหมเนี่ย แล้วม่ายจื่อจะปลอดภัยไหม
ไหหม่า(海馬)