บทที่ 905 เมิ่งจี ‘ครั้งนี้ให้เจ้าพ่อทูนหัวกลุ่มใหญ่กลับไปหาบิดาบุญธรรมของเจ้าอีก!’
ลั่วสุ่ยคิดในใจ มาดหมายว่าหลังจากคุณชายทำชุดให้นางเสร็จแล้ว นางจะสวมมันให้เขาเห็นเพียงผู้เดียว
ขณะเดียวกัน จิตหลักความมืดมิดและเหล่าสาวกก็มาถึงจักรวาลโกลาหลแห่งนี้แล้ว
ภายในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ ทุกอาณาจักรล้วนเต็มไปด้วยสสารระดับสูงหลั่งไหล แม้จิตหลักความมืดมิดจะเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว ก็ยังอดเกิดความตกตะลึงขึ้นในใจไม่ได้
การหลั่งไหลของสสารระดับสูงไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด เหล่าความคิดที่แยกกระจายออกไปต่างรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
โดยเฉพาะอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่ สสารระดับสูงที่หลั่งไหลออกมานั้นมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาณาจักรอื่น ๆ
มีจิตความคิดที่เคยมายังจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ ทั้งยังเคยไปอาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่
เมื่อมันดึงความคิดเหล่านั้นกลับไป ย่อมรับรู้เรื่องราวทั้งหมด
ทว่าภาพเบื้องหน้ายังแตกต่างจากที่มันคิดเอาไว้บ้าง
ยามนี้สสารระดับสูงที่หลั่งไหลภายในอาณาจักรเหนือชั้นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังมีช่องว่างกับหลังฉากอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้กว้างใหญ่อันใด
“ดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไป สสารระดับสูงน่าอัศจรรย์จะยิ่งหลั่งไหลออกมาเรื่อย ๆ…”
มันรำพึงกับตนเอง
“นี่คือการระเบิดออกของเบื้องลึกหน้าม่าน พยายามเสริมความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตหน้าม่านให้สามารถต่อกรกับความมืดมิดได้?”
มันส่งเสียงหัวเราะแล้วเอ่ยต่อ “จะเป็นไปได้อย่างไร ตราบใดที่ต้นกำเนิดความมืดไม่ถูกทำลาย ความมืดมิดก็ไร้ทางสิ้นสูญ ความพยายามดังกล่าวช่างไร้ค่า”
สิ่งมีชีวิตหน้าฉากและหลังฉากแข็งแกร่งขึ้นแล้วอย่างไร?
เมื่อจ้าวแห่งความมืดมิดตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พลังมืดมิดที่แท้จริงจะย่างกรายเข้ามา ไม่มีทางที่จะสามารถหยุดยั้งได้
พลังมืดมิดที่แท้จริงมองข้ามขอบเขตและความแข็งแกร่ง สามารถรุกรานเข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณสิ่งมีชีวิตโดยตรง ทำให้ตกลงสู่ความมืดมิด กล่าวได้ว่าเป็นพลังที่ไม่อาจป้องกันได้
“เอาล่ะ บุตรบุญธรรมของข้า ได้เวลาปรับปรุงความแข็งแกร่งของเจ้าแล้ว กลืนกินเข้าไปเสีย เช่นนั้นจะทำให้เจ้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
มันเอ่ยกับเจ้าหลวง
สสารระดับสูงไหลทะลักออกมา ทำให้พลังของสิ่งมีชีวิตทุกอาณาจักรพัฒนาขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย หากเจ้าหลวงสามารถกลืนกินเลือดเนื้อและพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตจากทุกอาณาจักรได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้เกิดการพัฒนาครั้งใหญ่
“รับทราบ!”
เจ้าหลวงแย้มยิ้ม
หลังจากได้รับร่างมืดมิดที่แท้จริง ภายในใจของเขาก็ไร้ซึ่งความหวั่นเกรงอีกต่อไป
พลังมืดมิดทำให้เปลี่ยนแปลงก้าวกระโดดอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งทำให้เขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอันไร้ที่สิ้นสุดต่อจิตหลักมืดมิด
เขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะพิฆาตพ่อบุญธรรมของเขาลงได้ เพราะพ่อบุญธรรมมีความแข็งแกร่งมากพอ!
หลี่จิ่วเต้าเองก็ไม่อาจทำได้!
หลังจากนั้นเขาก็เคลื่อนไหว เข้าสู่อาณาจักรแห่งหนึ่งในจักรวาลอันเต็มไปด้วยดวงดารา
นี่คืออาณาจักรใหญ่แห่งหนึ่ง มีสิ่งมีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน
ทันทีที่เขาเข้าไปในอาณาจักรแห่งนี้ รอยยิ้มก็พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้า
หลังจากลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้ไป ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน!
“จงสั่นสะท้านเสีย! ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รู้ซึ้งถึงความหวาดกลัว!”
เขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ลมหายใจแผ่ซ่าน ทั้งผยองและโอ้อวดไม่มีการกักเก็บแม้แต่น้อย
ไม่มีสิ่งใดต้องกักเก็บ
ด้วยพลังขั้นขอบเขตบงการในตอนนี้ เขายังมีสิ่งใดให้จำเป็นต้องกักเก็บในอาณาจักรแห่งนี้ด้วยหรือ?
แม้อาณาจักรแห่งนี้จะมีสสารระดับสูงไหลหลั่งออกมามากมาย ทำให้ความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรก้าวกระโดดขึ้น แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นขอบเขตที่สูงสุดก็ยังไม่เกินขอบเขตโกลาหล ส่วนใหญ่แล้วล้วนอยู่ในขอบเขตเซียน
ขอบเขตเซียนนั้นไม่มีค่าอันใดพอให้เอ่ยต่อหน้าเขา ตอนนี้เพียงแค่พ่นลมหายใจเขาก็สามารถสังหารสิ้นได้
“พลังมืดมิด?!”
ยามนั้นเองพลันมีเสียงตะโกนอย่างเย็นชาดังขึ้น เจ้าหลวงรับรู้ได้ในพริบตาว่ามีลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวเพ่งเล็งมาบนร่างของเขา ทำให้หนังศีรษะของเขาชาวาบอย่างรุนแรง!
“ไม่ใช่แล้ว?!”
เจ้าหลวงหวาดผวา แทบจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ
หรือว่าเขาจะไม่เหมาะกับการอวดโอ้กัน?
เหตุใดถึงต้องประสบเรื่องนอกเหนือความคาดหมายในอาณาจักรแห่งนี้ด้วย!?
‘จบแล้ว พ่อบุญธรรมคนใหม่จะต้องจบสิ้นอีกแล้วหรือ?!’
เขาอดคิดขึ้นมาในใจไม่ได้
ช่วยไม่ได้ ลมหายใจที่เพ่งเล็งมาทางเขาน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
เขาไม่สงสัยแม้แต่น้อย หากเจ้าของลมหายใจนี้มีเจตนาจะสังหาร ย่อมสามารถทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้น!
“พลังมืดมิดหลั่งไหลเข้าสู่หน้าฉากแล้วหรือ?”
เจ้าของลมหายใจนั้นปรากฏตัวออกมา เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ ดวงตาเฉียบคมเป็นอย่างยิ่ง ด้านหลังสะพายดาบขนาดใหญ่เอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักดาบผู้หนึ่ง
ใช่แล้ว เขาเป็นนักดาบที่มาจากฉากหลังจริง ๆ
นับตั้งแต่เขาออกจากหลังฉากมาหน้าฉาก ก็รั้งอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้ไปไหน
ในฉากหลังความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจนับเป็นสิ่งใด เขาเพิ่งบรรลุขั้นแรกของขอบเขตอิสระ
เขาตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าความแข็งแกร่งของตนเองนั้นไม่เพียงพอให้เข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่การปรากฏของกระบี่ฉุนจวิน ดังนั้นจึงประพฤติตัวดีอยู่ภายในอาณาจักรแห่งนี้อย่างเรียบง่าย
หากเข้าร่วม เขารู้สึกว่ากระทั่งตนเองยังยากจะปกป้อง หากรั้งอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้อย่างเรียบง่ายจะดีเสียกว่า
เมื่อเจ้าหลวงมาถึงยังอาณาจักรแห่งนี้ แล้วปลดปล่อยลมหายใจออกมาด้วยความผยอง เขาก็สัมผัสได้และถูกดึงดูดในทันที
นี่คือพลังมืดมิดบริสุทธิ์ เขาไม่สามารถปล่อยให้อาละวาดตามอำเภอใจได้ในอาณาจักรแห่งนี้!
ที่สำคัญยิ่งกว่าคือเขาต้องการจะตรวจสอบว่าพลังมืดมิดหลั่งไหลเข้าสู่หน้าฉากแล้วจริงหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าสถานการณ์จะต้องเลวร้ายเป็นอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าสมรภูมิมืดมิดได้พังทลาย ทั้งหลังฉากสูญสิ้น
“ท่านพ่อบุญธรรม ข้าขอโทษท่านด้วย! โชคชะตาไม่อาจเลี่ยง ข้ามีดวงพิฆาตพ่อบุญธรรม ครั้งนี้ท่านเองก็น่าไม่รอดพ้น!”
เจ้าหลวงแหงนหน้าร้องไห้
เขาช่างน่าเวทนาเกินไปแล้ว ดวงชะตาของเขา ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีได้
ยามนั้นจิตหลักมืดมิดก็มาถึงที่นั่น
หลังจะได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเจ้าหลวง มันก็พูดไม่ออกโดยพลัน
ยังคิดว่ามันจะดับสิ้นจริง ๆ อีก
นี่คืออันใดกัน?!
“ตะโกนอันใด! เจ้าไม่มั่นใจในตัวพ่อบุญธรรมของเจ้าเลยหรือ? เพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อยตัวหนึ่ง ไม่นับเป็นสิ่งใดได้สำหรับพ่อบุญธรรมของเจ้า เพียงแค่ยกมือขึ้นก็สามารถสยบได้”
จิตหลักมืดมิดตำหนิ
มันคิดว่าเจ้าหลวงพบเจอศัตรูร้ายกาจ ทว่ากลับกลายเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตขั้นแรกของขอบเขตอิสระ
สำหรับมันแล้ว นี่ไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ เพียงแค่ยกมือก็สามารถกำจัดทิ้ง
“พระอมิตาภะพุทธเจ้า?!”
นักดาบผู้นั้นตื่นตะลึงทันทีเมื่อเห็นจิตหลักมืดมิด รูปลักษณ์ของจิตหลักมืดมิดเหมือนกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่มีผิดเพี้ยน!
เขาจะไม่ตื่นตะลึงได้อย่างไร
พระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นถึงยอดฝีมือสูงสุดของหลังฉาก กลับถูกความมืดกัดกร่อนอย่างนั้นหรือ?
สมรภูมิมืดมิดถูกปิดผนึก สิ่งมีชีวิตหลังฉากไม่รู้มากนักว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นภายในบ้าง
เขาไม่รู้ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเคยติดเชื้อพลังมืดมิด และก็ไม่รู้ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเหนือสามัญเป็นอย่างยิ่ง ต่อต้านขับไล่พลังมืดมิดอย่างแรง สลัดจิตหลักส่วนที่ถูกกัดกร่อนออกไป
“สมรภูมิมืดมิดพินาศแล้ว!”
เขากัดฟันเอ่ยออกมา
กระทั่งยอดฝีมือสูงสุดเช่นพระอมิตาภะพุทธเจ้ายังถูกกัดกร่อน เห็นได้ชัดว่าสมรภูมิมืดมิดพินาศลงแล้ว หลังฉากล่มสลายสิ้น
“ข้าจะสู้กับเจ้า!”
เขาชักดาบออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าไปฟันจิตหลักมืดมิด
สมรภูมิมืดมิดพินาศ หลังฉากล่มสลาย พลังมืดมิดหลั่งไหลสู่หน้าฉาก บนโลกนี้ย่อมไม่มีที่ใดหลบซ่อนได้อีก
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ตาย!
น่าเสียดายที่ช่องว่างระหว่างเขากับจิตหลักมืดมิดมีมากเกินไป
จิตหลักมืดมิดชี้นิ้วออกมา ทันใดนั้นลำแสงสีดำพลันพุ่งเข้าใส่หน้าผากของนักดาบโดยตรง
หลังจากนั้นนักดาบก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด สีหน้าบิดเบี้ยวดุร้าย
ทว่าเพียงไม่นาน เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดก็เงียบหาย สีหน้าของเขาไม่บิดเบี้ยวอีกต่อไป บนร่างมีหมอกสีดำแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
จิตวิญญาณของเขาถูกความมืดมิดกลืนกิน และถูกควบคุมโดยจิตหลักมืดมิด
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหลวงตกตะลึง
“ท่านพ่อบุญธรรมไร้เทียมทาน!”
เจ้าหลวงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
สิ่งที่บิดาบุญธรรมตำหนิเขานับว่าถูกแล้วจริง ๆ
นักดาบที่ทรงพลังน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ กลับถูกบิดาบุญธรรมจัดการได้ภายในพริบตา เขาไม่ควรสงสัยในความแข็งแกร่งของบิดาบุญธรรมจริง ๆ
“หลังจากนี้อย่าได้ตื่นตูมกับเรื่องเล็กน้อย เจ้าไม่อาจพิฆาตข้าได้!”
จิตหลักมืดมิดกล่าวกับเจ้าหลวงด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ไปเถิด ยังมีหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นที่ต้องจัดการอีก”
มันไม่ได้ให้เจ้าหลวงลงมือกับสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้อีก
เพราะมันได้รู้ข้อมูลจำนวนมากจากนักดาบแล้ว
มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยของหลังฉากมายังหน้าฉาก แม้ว่ามันจะทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาแทรกซ้อนมากมาย
ไม่เช่นนั้นหากดึงดูดยอดฝีมือหลังฉากจำนวนมากมาปิดล้อมมัน คงกลายเป็นเรื่องไม่ดี
อาณาจักรที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่ มียอดฝีมือจากหลังฉากจำนวนมาก การทำตัวเรียบง่ายไม่เปิดเผยจะเป็นเรื่องดีกว่า
มันพาเจ้าหลวงและนักดาบผู้นั้นออกไปจากอาณาจักรแห่งนี้ ก่อนจะตั้งมั่นอยู่ในดวงดาวบริเวณใกล้เคียง
“พวกเจ้าไปเสีย ระวังตัวให้ดี พาตัวคนรอบกายหลี่จิ่วเต้ามา ล่ออีกฝ่ายออกมาให้จงได้”
มันสั่งเจ้าหลวงและนักดาบ
อาณาจักรแห่งนั้นคือฐานที่มั่นของหลี่จิ่วเต้า อีกทั้งยังมียอดฝีมือหลังฉากจำนวนมากอยู่ มันไม่ต้องการเข้าไปต่อสู้ในอาณาจักรแห่งนั้น หมายจะล่อให้หลี่จิ่วเต้าออกมา
หากเกิดการต่อสู้ในอาณาจักรแห่งนั้น เป็นการยากที่มันจะไม่ถูกเปิดเผยตัวตน และเมื่อมันถูกเปิดเผยแล้ว เหล่ายอดฝีมือหลังฉากย่อมต้องโจมตีมันอย่างแน่นอน
ตอนนี้มันยังไม่อยู่ในระดับไร้เทียมทาน ไม่เหมาะที่จะต่อสู้ครั้งใหญ่เช่นนั้น
“รับทราบท่านพ่อบุญธรรม!”
เจ้าหลวงรับคำสั่งด้วยความแช่มชื้น
ครั้งนี้เขาไม่มีความสงสัยอันใดกับความแข็งแกร่งของจิตหลักมืดมิดแม้แต่น้อย เพราะมีนักดาบที่ทรงพลังเช่นนี้อยู่ด้วย เขาจึงยิ่งไม่ต้องกังวลสิ่งใด
จากนั้นเขากับนักดาบก็เก็บงำลมหายใจแล้วเข้าไปในอาณาจักรแห่งนั้น
“ผู้ที่จะต้องถูกจับก็คือตาเฒ่าชั่วร้าย เมิ่งจี!”
เจ้าหลวงกัดฟันเอ่ยออกมา
ครั้งสุดท้ายบรรพจารย์เหยียนผู้เป็นบิดาบุญธรรมคนก่อนของเขาตายลงในน้ำมือของเมิ่งจี เขาเกลียดแค้นอีกฝ่ายยิ่งนัก เป้าหมายแรกที่ถูกกำหนดเอาไว้จึงเป็นเมิ่งจี
“ไปกับข้า”
เขาพานักดาบไปยังสถานศึกษาเทียนตี้อันเป็นที่ปักหลักของเมิ่งจี
ในไม่ช้าเขาและนักดาบก็มาถึงสถานศึกษาเทียนตี้ ส่วนตัวเมิ่งจีเองก็อยู่ในสถานศึกษาเทียนตี้เช่นกัน
“เป็นเจ้าอีกแล้ว?!”
หลังจากที่เมิ่งจีเห็นเจ้าหลวง สีหน้าของเขาก็พลันแปรเปลี่ยน ไม่คาดคิดว่าเจ้าหลวงยังจะกล้ามาหาเขา
“เจ้าสังหารบิดาบุญธรรมคนก่อนของข้า การแก้แค้นย่อมไม่อาจปล่อยไปได้!”
เจ้าหลวงจับจ้องไปทางเมิ่งจีแล้วเอ่ยออกมา
“บิดาบุญธรรมคนก่อน?”
สีหน้าของเมิ่งจีแปลกประหลาดระหว่างเอ่ยออกมา “ตอนนี้เจ้ามีบิดาบุญธรรมคนใหม่แล้วหรือ? คนที่อยู่ด้านข้างเจ้าคือบิดาบุญธรรมคนใหม่ของเจ้า?”
เขามองไปทางนักดาบ “อย่าได้ยอมรับเขาเป็นลูกบุญธรรมเลย คนผู้นี้เชี่ยวชาญในการพิฆาตบิดาบุญธรรมอย่างยิ่ง บิดาบุญธรรมจำนวนมากล้วนถูกเขาพิฆาตจนตายสิ้น!”
แววตาของนักดาบเย็นชา ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา จิตวิญญาณของเขาถูกกลืนกินเรียบร้อย ตอนนี้เป็นเพียงแค่ศพที่เดินดินเท่านั้น
“ไร้สาระ!”
เจ้าหลวงกัดฟันเอ่ย “เขาเป็นเพียงสมุนของบิดาบุญธรรมข้า บิดาบุญธรรมคนนี้ของข้าทรงพลังไร้เทียมทาน สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะไม่เกิดขึ้นอีก!”
หลังจากนั้นเขาก็สั่งให้นักดาบปลดปล่อยลมหายใจออกมา
นักดาบเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหลวง ปลดปล่อยลมหายใจของตนเองออกมาทันที
เมิ่งจีตื่นตกใจอย่างยิ่ง นักดาบผู้นี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก เขารู้สึกว่าแม้จะใช้สมบัติที่คุณชายมอบให้ เขาก็ยังไม่อาจจัดการนักดาบลงได้
อย่างไรเสียขอบเขตของเขาก็ยังต่ำเกินไป ความสำเร็จในวิถีภาพและอักษรเองก็ยังไม่ถึงระดับล้ำลึกซึ้งมากมายเพียงนั้น เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะสามารถจัดการนักดาบลงได้
‘บิดาบุญธรรมคนใหม่ของเขาคือผู้ใด? ช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง!’
เขาเอ่ยขึ้นมาในใจอย่างลึกล้ำ
นักดาบเป็นได้เพียงแค่สมุนของคนผู้นั้น ไม่ต้องสงสัยเลย บิดาบุญธรรมคนใหม่ของเจ้าหลวงจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้มาก
“เจ้าก็รู้ได้ถึงความต่างชั้นดี! หากเจ้าเชื่อฟังข้าอย่างว่าง่าย ข้าอาจทำให้เจ้าต้องทุกข์ทนเพียงเล็กน้อย”
เจ้าหลวงเอ่ยเสียงดัง “ฟังคำสั่งของข้า พาคนรอบกายหลี่จิ่วเต้าทั้งหมดมาที่นี่! ระวัง อย่าให้หลี่จิ่วเต้าสังเกตเห็นแม้แต่น้อย!”
เพื่อล่อให้หลี่จิ่วเต้าออกไป เมิ่งจีเพียงคนเดียวอาจไม่เพียงพอ เขาต้องพาคนรอบกายจำนวนมากของหลี่จิ่วเต้าไปด้วย
เช่นนี้แล้วจึงจะสามารถล่อให้อีกฝ่ายออกมาได้
เดิมทีเมิ่งจีกำลังขบคิดวิธีจะจัดการกับเจ้าหลวง ทว่าหลังจากเจ้าหลวงเอ่ยคำเหล่านี้ออกมา ภายในใจของเขาก็พลันยิ้มกริ่ม
เขาไม่อาจต่อกรกับบิดาบุญธรรมคนใหม่ของเจ้าหลวงได้ แต่คนอื่นนั้นสามารถ
“ข้าฟังคำเจ้า จะติดต่อพวกเขาให้มาที่นี่ทันที!”
เขาตอบรับอย่างรวดเร็ว ดูเป็นคนรู้จักปรับตัวตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างยิ่ง
‘บรรพจารย์เหยียนบิดาบุญธรรมคนล่าสุดของเจ้า ก็ถูกเจ้าพา ‘พ่อทูนหัว’ กลับไปหาด้วย อืม ครั้งนี้แม้บิดาบุญธรรมคนใหม่ของเจ้าจะแข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า แต่ก็ยังจะถูกเจ้าพ่อทูนหัวกลุ่มใหญ่กลับไปเยี่ยมเยียนอีกครั้ง!’
เมิ่งจีคิดขึ้นมาในใจ