บทที่ 321 ความรู้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องโฆษณาเกินจริง
วันที่ 15 เมษายน สายลมสงบนิ่ง แสงแดดส่องแสงแวววาว ไร้ซึ่งหมู่เมฆบนท้องฟ้า
ทั้งประเทศจีนและเยอรมนีล้วนอยู่ในซีกโลกตะวันออก ไทม์โซนของทั้งสองประเทศนั้นแตกต่างกันราวๆ เจ็ดถึงแปดชั่วโมง
เวลาแปดโมงเช้าที่กรุงปักกิ่งจะเท่ากับเวลาตีหนึ่งที่เยอรมนี บัดนี้ ห้องประชุมของโรงแรมไห่ถังในปักกิ่งถูกตกแต่งอย่างวิจิตร เตรียมรองรับการประชุมที่จะเกิดขึ้นตามเวลาที่ถูกกำหนดไว้
พนักงานต้อนรับยืนรอต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมที่หน้าประตู ล็อบบี้ชั้นที่หนึ่งก็มีการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับการรายงานไว้โดยเฉพาะ การประชุมดังกล่าวจะกินเวลาทั้งสิ้นสองวัน จึงต้องค้างที่โรงแรมหนึ่งคืน เพราะฉะนั้นผู้มาเข้าร่วมจะต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวและลงชื่อเพื่อรับคีย์การ์ด
มาตรฐานของการประชุมครั้งนี้จัดว่าค่อนข้างสูงทีเดียว ไป๋เยี่ยจึงจองห้องเดี่ยวไว้ให้แขกทุกคนเพื่อยกระดับมาตรฐานของการประชุมให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นก็อาศัยเงินจำนวนมาก
โชคดีที่มีบุคลากรในประเทศมาร่วมการประชุมครั้งนี้ แน่นอนว่าการมาเยือนของเกาเย่ว์หยางก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ถือเป็นเรื่องชวนฮือฮาของเหล่านักวิชาการเลยก็ว่าได้
เกาเย่ว์หยางมีสถานะสูงส่งระดับชาติ เขาเป็นทั้งบุคลากรทางการแพทย์ด้านกระดูกและข้อรุ่นเก่าและยังเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทย์ยูเนียนอีกด้วย
การมาถึงและการสนับสนุนของเขาจึงทำให้การประชุมครั้งนี้ดูสำคัญขึ้นมาในสายตาของคนอื่นๆ
อันที่จริงแล้ว การประชุมครั้งนี้ถือเป็นงานแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการระดับนานาชาติที่มีมาตรฐานสูงมาก
ทว่าเมื่อบรรดานักวิชาการผมบลอนด์ตาฟ้าจากต่างประเทศมาถึง พวกเขากลับมองว่าการประชุมครั้งนี้ช่างธรรมดายิ่งนัก
ก่อนที่การประชุมจะเริ่มต้นขึ้น เกาเย่ว์หยางก็ได้โพสต์เรื่องการประชุมครั้งนี้ลงในโมเมนต์วีแชตของเขา
ในฐานะที่เกาเย่ว์หยางเป็นบุคลากรระดับแนวหน้าของสาขาศัลยกรรมกระดูกในประเทศ แต่ละข้อความที่เขาโพสต์จึงไม่ธรรมดาเลย ซึ่งเขานั้นก็ได้โพสต์ข้อความต่างๆ ลงในโมเมนต์วีแชตเป็นที่เรียบร้อย
[ศักยภาพด้านการศัลยกรรมกระดูกของไป๋เยี่ยคือพรสวรรค์ที่เยี่ยมยอดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา! ส่วนโมลโดก็เป็นผู้กำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับสาขาศัลยกรรมกระดูกในโลกตะวันออก ซึ่งเขาก็คือคนที่กำหนดแนวทางที่ประเทศจีนใช้อยู่ในปัจจุบัน การประชุมครั้งนี้จะต้องอัดแน่นไปด้วยความรู้แน่นอน ผมหวังว่าจะได้พบพวกคุณทุกคนในการประชุมที่ยิ่งใหญ่นี้!]
ด้วยแรงโปรโมตของเกาเย่ว์หยาง ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญในประเทศที่ลังเลใจในคราแรกถูกดึงดูดเข้ามาโดยปริยาย
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วมีการประชุมระดับนานาชาติน้อยครั้งที่ถูกจัดขึ้นที่ประเทศจีน และส่วนใหญ่มักจะถูกจัดขึ้นโดยหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งประเทศจีนยังไม่มีวิทยาการที่ล้ำหน้าพอจะทำให้ทั้งโลกหันมาสนใจ
ถึงแม้ว่าคำกล่าวนี้จะไม่น่าฟังนัก แต่…ความจริงนั้นกลับโหดร้ายยิ่งกว่า
ไป๋เยี่ยจำได้ว่าแนวทางที่ประเทศจีนใช้อยู่ในปัจจุบันยังคงเป็นแนวทางที่โลกสากลเลิกใช้ไปเมื่อยี่สิบปีก่อน
ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็ง วิธีการและแนวทางการรักษามะเร็งที่ประเทศจีนกำลังใช้อยู่ถูกปัดตกไปหมดแล้ว หากไม่ใช่เพราะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความรู้อย่างเข้มข้น มีการประชุมทั้งในและนอกประเทศบ่อยครั้งล่ะก็ ประเทศจีนก็คงจะยิ่งล้าหลังเข้าไปใหญ่
นอกจากนี้ ตัวยาชั้นนำระดับโลกจำนวนมากกลับไม่ได้รับหมายเลขอนุญาตในจีน ทำให้นำมาใช้ไม่ได้ แนวทางปฏิบัติที่ทั้งโลกใช้จึงไม่มีผลไปด้วย ทำให้การแพทย์นั้นล้าหลังในทุกๆ แง่มุม
เพราะฉะนั้นสายตาของคนจำนวนมากจึงมองว่าประเทศจีนเป็นชาติด้อยพัฒนา
บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่คนจำนวนมากไม่อยากมาเข้าร่วมการประชุมที่นี่
เพราะพวกเขาคิดว่าคงได้ประโยชน์จากงานนี้ไม่มากนัก
ท้ายที่สุดจึงไม่มีใครมาร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านกระดูกและข้อในจีนนั้นแตกต่างออกไป พวกเขาต่างตื่นตาตื่นใจกับการมาเยือนของโมลโด
อย่างไรเสีย แนวทางที่พวกเขาใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็ถูกเขียนขึ้นโดยโมลโด การปรากฏตัวของเขาจึงเป็นข่าวน่ายินดีสำหรับทุกคน
หลี่เจี้ยนเหว่ยยิ่งรู้สึกดีใจ เพราะว่าโมลโดเป็นรุ่นพี่ไอดอลของเขา ตอนที่เขาไปเรียนที่ไฮเซนเบิร์กก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของโมลโดมาก่อน หลายปีมานี้โมลโดจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการประชอบอาชีพของเขาด้วย
ตอนนี้โมลโดเดินทางมาประเทศจีนด้วยตนเอง ทั้งยังมาจัดการประชุมและแม้กระทั่งเข้าร่วมสถาบันวิจัยกระดูก นี่ถือเป็นโอกาสดีที่หลี่เจี้ยนเหว่ยจะได้พูดคุยกับรุ่นพี่ของเขา
ทุกคนต่างให้ความสำคัญกับโอกาสการจัดประชุมครั้งนี้ ทุกคนล้วนรู้ดีว่าการประชุมระดับนานาชาติเช่นนี้เกิดขึ้นได้ยากเพียงใด ต่างคนจึงต่างสละตารางงานอันยุ่งเหยิงเพื่อมาที่นี่ด้วยความหวังว่าจะได้รับอะไรหลายๆ อย่าง
บรรยากาศภายในโรงแรมไห่ถังมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ทุกคนต่างคาดหวังกับการประชุมครั้งนี้
ในทำนองเดียวกัน บรรดาสื่อมวลชนเองก็ให้ความสนใจกับการประชุมครั้งนี้ สื่อต่างๆ ในประเทศต่างมาที่นี่เพื่อประชาสัมพันธ์
แม้แต่สื่อบางส่วนจากฮ่องกง ไต้หวันและประเทศอื่นๆ ก็หลั่งไหลมาที่โรงแรมไห่ถังแห่งนี้
จุดประสงค์ของการมาเยือนของพวกเขานั้นเข้าใจได้ง่ายมาก เพราะโมลโดนั่นเอง การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชันกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างโมลโดและมอริส
สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า “ตอนนี้ผู้สื่อข่าวของเราได้ไปประจำการที่โรงแรมไห่ถังตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว…จากรายงานพบว่า การประชุมครั้งนี้มีการจองห้องโรงแรมไว้ทั้งสิ้นสามร้อยห้อง มีผู้เข้าร่วมการประชุมจากประเทศจีนกว่าสองร้อยห้าสิบคน ส่วนผู้เข้าร่วมจากนอกประเทศนั้นมีไม่ถึงห้าสิบคน”
ส่วนสื่อของเยอรมนีรายงานว่า “จนถึงตอนนี้ การประชุมของสาขากระดูกและข้อที่ถูกจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กและมีคุณมอริสเป็นประธานได้รับแบบตอบรับมากกว่าเก้าร้อยฉบับ มีรายชื่อผู้เชี่ยวชาญในประเทศเยอรมนีกว่าหนึ่งร้อยคน และมีนักวิชาการด้านกระดูกและข้ออีกกว่าเจ็ดร้อยคน การประชุมครั้งนี้มีผู้จัดตั้งหลักคือมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์ก และมีผู้สนับสนุนคือบริษัทนอร์กา”
“เราได้สัมภาษณ์คุณโจนส์ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์ก เขาเชื่อว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการศัลยกรรมกระดูกของเยอรมัน นับเป็นการผสมผสานความคิดที่ยอดเยี่ยม การประชุมครั้งนี้จะเป็นการเปิดช่องทางการแลกเปลี่ยนความรู้ตะวันออกและตะวันตกได้อย่างสมบูรณ์แบบ และช่วยทำให้บรรลุแนวคิดทางวิชาการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
สื่ออังกฤษเองก็มีรายงานเช่นกัน “ทำไมโมลโดถึงลาออก ลำพังเขาคนเดียวจะไปได้ไกลแค่ไหนหากไม่มีไฮเซนเบิร์ก พนันได้เลยว่าอีกไม่นานเขาจะต้องกลับมาที่ไฮเซนเบิร์กอย่างแน่นอน”
สื่อสหรัฐอเมริกา “ความร่วมมือระหว่างมอริสและไฮเซนเบิร์กแสดงให้เห็นถึง ท้ายที่สุดแล้วองค์ความรู้ก็ต้องถูกแลกเปลี่ยน หวังว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้จะมีการนำแนวทางปฏิบัติของสาขาศัลยกรรมกระดูกที่แตกต่างกันมาใช้”
สื่อหลายแห่งทั่วโลกเริ่มถกเถียงกันเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ มอริสไม่ใช่คนเปิดเผยนักจึงได้แต่ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ผมไม่ได้มีอคติต่อความรู้ และผมก็ไม่เคยมองโมลโดเป็นศัตรู บางทีเราอาจจะได้ร่วมมือกัน ผมตั้งตารอวันที่เขาจะกลับมาที่ไฮเซนเบิร์ก’
โดยรวมแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่ได้มองว่าการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่องดีนัก ทั้งยังมองว่าการลาออกของโมลโดเป็นเรื่องไร้สาระ
สื่อหลายแห่งได้ทำการเปรียบเทียบผู้เข้าร่วมจากทั้งสองฝ่ายในด้านต่างๆ อย่างตำแหน่งและสถานะ
และในที่สุดก็ได้ข้อสรุป
การประชุมที่จัดขึ้นในประเทศจีนและการประชุมที่จัดขึ้นที่เมืองไฮเซนเบิร์ก ประเทศเยอรมนีไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย
แต่…
ความจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ
การมีผู้เข้าร่วมเยอะแปลว่าประสบความสำเร็จจริงหรือ
ในขณะเดียวกัน ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างไป๋เยี่ยและโมลโดกลับไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ครั้นการประชุมเริ่มต้นขึ้นพวกเขาก็ได้ออกไปส่งสื่อเหล่านั้นกลับด้วยตนเอง
ความรู้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องโฆษณาเกินจริง!