สันติภาพคือปัจจัยสำคัญของการพัฒนา ทว่าความขัดแย้งคือตัวเร่งให้เกิดการพัฒนา
หากมองลึกไปยังประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ก็จะพบว่าแท้จริงแล้วมันคือประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนาอาวุธ
ทั้งยุคหิน ยุคสำริด ยุคเหล็กไปจนถึงยุคเครื่องจักรไอน้ำ…
ทั้งแรงจูงใจ เครื่องมือและทุกสิ่งอย่างล้วนถูกมุษย์นำไปประดิษฐ์เป็นอาวุธอย่างชาญฉลาด
แล้วอาวุธคืออะไรกันล่ะ
ยามเกิดความขัดแย้งขึ้น การหันอาวุธเข้าหากันย่อมเป็นวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด
ในทำนองเดียวกัน ความก้าวหน้าขององค์ความรู้ใดๆ ก็ตามย่อมขึ้นอยู่กับการถูกคัดค้านอย่างต่อเนื่องหากมองโดยใช้หลักปรัชญาแล้ว ความก้าวหน้าและการพัฒนาคืออะไรกันแน่
อันที่จริง มันเป็นเพียงการคัดค้านและยอมรับต่อๆ กันมาเท่านั้นเอง
แก่นแท้ของข้อพิพาททางวิชาการคืออะไร คือแก่นความรู้หรือไม่
แล้วแก่นความรู้นั้นมาจากไหน
ก็มาจากนวัตกรรมไงล่ะ!
เพราะนวัตกรรมนั้นไม่มีจุดสิ้นสุด
ขณะนี้ การประชุมที่ห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กกำลังเริ่มต้นขึ้นผู้เชี่ยวชาญนับพันคนมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสรุปและอภิปรายประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับสถานะการพัฒนาวิทยาการด้านการศัลยกรรมกระดูกในปัจจุบัน
รวมถึงปัญหาที่พบ การสรุปผลและค้นหาประเด็นหลักที่ต้องมีการแก้ไขเพื่อการพัฒนาองค์ความรู่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลก แต่ละคนมีศักยภาพและประสบการณ์มากมาย พวกเขาได้สรุปประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศัลยกรรมกระดูกส่วนใหญ่ตลอดชีวิตของพวกเขา
ในฐานะที่มอริสเป็นหนึ่งในผู้นำด้านศัลยกรรมกระดูกของทั่วทั้งยุโรปและอเมริกา เขาจึงเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญสมศักยภาพ เขายืนบนเวทีด้วยท่าทีสูงส่งสง่างาม
การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนต่างพูดคุยกันได้อย่างอิสระ
แนวคิดหลักคือการบูรณาการ อาจกล่าวได้ว่าแผนการดึงตัวมอริสเข้ามาของโจนส์นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจมากเลยทีเดียว
แม้แต่โจนส์เองก็ไม่ได้คาดหวังว่าวันนี้เขาจะประสบผลสำเร็จเลยด้วยซ้ำ แท้จริงแล้วเขาแค่ต้องการป้องกันไม่ให้สถาบันวิจัยกระดูกและข้อของตนต้องเผชิญความล้มเหลว จึงเชิญมอริสมาที่เยอรมันด้วยความเคียดแค้น
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่านี่จะเป็นก้าวที่ชาญฉลาดจริงๆ
การประชุมวันนี้กลายเป็นการประชุมประจำปีทันที มอริสได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของหลายๆ ฝ่ายภายในแวดวงศัลยกรรมกระดูกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
โดยจะนำความสำเร็จทั้งหลายมาสรุปผลนั่นเอง
การประชุมไม่ได้บรรยายโดยบุคคลเดียว แต่จะคัดเลือกผู้บรรยายจำนวนสิบสองคนเพื่อเน้นย้ำถึงพัฒนาการขององค์ความรู้ด้านศัลยกรรมกระดูกในสาขาต่างๆ
ในวันที่สองของการประชุม หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง โจนส์ก็ได้ขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ “การแพทย์สาขาศัลยกรรมกระดูกถือเป็นสาขาใหญ่ที่ครอบคลุมสาขาเล็กๆ มากมาย ซึ่งพวกเราก็ได้ใช้สาขาวิชานี้ในการแก้ไขปัญหาและเอาชนะความยากลำบากต่างๆ มานับไม่ถ้วน นี่คือความรับผิดชอบของทุกคน เป็นคุณูปการต่อมวลมนุษยชาติ ชีวิตของผู้คนดีขึ้นได้ก็เพราะพวกคุณ”
เมื่อจบการประชุม นิตยสารและบทความจำนวนมากก็เริ่มโปรโมตการประชุมครั้งนี้
สื่อสหรัฐฯ กล่าว “การพัฒนาความรู้ด้านศัลยกรรมกระดูกได้เข้าสู่ยุคใหม่แล้ว เราเชื่อมั่นว่าในยุคแห่งการบูรณาการนี้จะเกิดความรุ่งโรจน์ขึ้นอย่างแน่นอน”
วารสารวิทยาลัยแพทย์ไฮเซนเบิร์กกล่าว “พวกเราจะยืนหยัดไปด้วยกัน พวกเราจะคอยรักษาสุขภาพของคุณเอง ความก้าวหน้าในการบูรณาการระหว่างศาสตร์การศัลยกรรมกระดูกของโลกตะวันออกและตะวันตกคือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
สื่อของประเทศเยอรมนีกล่าว “นี่คือเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เรามองเห็นอนาคตได้จากที่แห่งนี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สถาบันวิจัยกระดูกและข้อเยอรมันควรเปลี่ยนชื่อเป็นสถาบันวิจัยกระดูกและข้อนานาชาติ”
การประชุมครั้งนี้จบลงแล้ว วารสารวิชาการต่างๆ เองก็ได้เริ่มติดต่อกับผู้จัดงานแล้วเช่นกัน โดยหวังว่าจะนำเนื้อหาการประชุมออกมาเผยแพร่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก
เนื้อหาของการประชุมครั้งนี้เป็นเนื้อหาใหม่ทั้งหมด ทั้งยังเป็นความสำเร็จครั้งใหม่และเป็นผลลัพธ์ใหม่
เมื่อไหร่ที่เนื้อหาเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไป มันจะต้องเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากอย่างแน่นอน
ในขณะที่มหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กกำลังเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ร้องรำเฉลิมฉลองให้กับความก้าวหน้าและอนาคตอันสดใส ทางด้านโรงแรมไห่ถังที่กรุงปักกิ่งกลับเต็มไปด้วยความหดหู่
เพราะไม่ว่าใครก็หัวเราะไม่ออก!
ไป๋เยี่ยใช้เวลากว่าสองวันครึ่งในการพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการวินิจฉัยและการรักษาโรคกระดูกและข้อที่อันตรายทั้งสามโรค
ทว่า…
ในช่วงท้ายของการประชุม ไป๋เยี่ยกลับยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขามองไปทางทุกคน ทว่ากลับไม่พูดอะไรออกมาเลย
ทุกคนกำลังจับจ้องไปที่หน้าจอขนาดใหญ่พลันรู้สึกถึงความหนาวเหน็บที่พัดผ่านหัวใจไป
เพราะว่าภาพที่แสดงอยู่บนหน้าจอขนาดนี้ช่างน่าอนาถายิ่งนัก ไหนจะตารางและจำนวนสถิติที่ปรากฏขึ้นด้านข้าง…
ทุกปีมี 1.29 ล้านคนที่เสียชีวิตจาก…
ทุกปีมี 6.79 ล้านคนที่ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ปกติตามกลไกทางสรีรวิทยาหลังจากเข้ารับการผ่าตัด
มี…
ตัวเลขเหล่านี้ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนทีละแถวๆ ทำให้ทุกคนต้องหันมาให้ความสนใจ
วิทยาการศัลยกรรมกระดูกก้าวหน้าพอแล้วหรือ
ถึงแม้จะมีการปรับปรุงมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ทว่าสภาพการณ์ในตอนนี้ก็ยังไม่ดีนัก
ทุกคนรู้สึกหนักใจจนเข้าขั้นหดหู่
ใครจะกล้ามองข้ามสภาพการณ์อันน่าหวาดผวาและสถิติที่ประจักษ์อยู่ตรงหน้าได้
ทั้งหมดนี้คือชีวิตคนทั้งนั้น!
ทุกคนที่นี่ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์ และเป็นบุคลากรชั้นนำในสาขาศัลยกรรมกระดูก อย่างไรก็ตาม…เพราะทักษะการผ่าตัดที่มีอยู่อย่างจำกัดและปัญหาระหว่างการผ่าตัดตั้งแต่เล็กจนใหญ่ ผู้ป่วยหลายคนจึงยังมีอาการบาดเจ็บหลังผ่าตัดอยู่
นี่คือความรับผิดชอบของพวกเรา!
ถูกต้อง เราไม่ใช่ฆาตกร ย่อมไม่ได้จงใจอยู่แล้ว
แต่…
พวกเราก็ต้องพยายามให้มาก
เราต้องรับผิดชอบชีวิต
ทั้งหมดนี้คือความรับผิดชอบที่ตกอยู่กับเรา
ไป๋เยี่ยมองไปรอบๆ โดยไม่พูดอะไร เขาก้มศีรษะลงแล้วโค้งคำนับให้ทุกคนก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก “ขอบคุณทุกท่านครับ ขอจบการประชุมไว้เท่านี้ครับ”
“ขอขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้นะครับ ถึงแม้ว่าตารางงานจะยุ่งก็ตาม ผมหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและมีส่วนช่วยในการทำงานและในการใช้ชีวิตต่อๆ ไป”
“สุดท้ายนี้! โปรดจับมีดในมือของคุณให้มั่น เพราะคุณคือปราการสุดท้ายของชีวิต! ขอบคุณทุกคนมากครับ”
การประชุมสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการประชุมที่ไฮเซนเบิร์ก ประเทศเยอรมนีแล้ว ผลลัพธ์ของการประชุมทั้งสองแห่งดูจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
อีกฝั่งหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะแสนเบิกบานใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งคือความกังวล หดหู่และไม่เต็มใจ
อีกฝั่งหนึ่งกำลังดื่มเหล้าเฉลิมฉลองให้กับวันในอดีต เตรียมต้อนรับวันรุ่งขึ้น
ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่เผชิญหน้ากับความละอายในตนเองแล้ว พวกเขาก็กล้าไตร่ตรองถึงข้อบกพร่องของตนเอง
ใครคือคนถูก
และใครคือคนผิด
ดูเหมือนว่าจะไม่มีเส้นแบ่งที่แน่ชัด
ไม่มีเส้นแบ่งเลย
แต่สำหรับวงการแพทย์แล้ว เราไม่ควรพอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ ความภูมิใจนั้นอาจจะเป็นความประสาทเลินเล่อของเรา แต่สำหรับผู้ป่วยแล้ว นั่นคือชีวิตอันปราศจากปราการคุ้มกัน
เช่นเดียวกับที่ไป๋เยี่ยพูดไว้ เราคือปราการสุดท้ายที่คอยปกป้องชีวิตและสุขภาพของผู้ป่วย เราห้ามประมาทเด็ดขาด!
ดั่งที่ไป๋เยี่ยเคยปฏิญาณตนไว้ในตอนแรก ‘การเรียนแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย’
เพราะฉะนั้น โปรดใช้มีดในมือของคุณด้วยความเมตตา เพราะถ้าคุณไม่ระวัง มันก็อาจจะเป็นเคียวของยมทูตได้