บทที่ 342 ถ่ายทอดสดการผ่าตัด
Ink Stone_Fantasy
คำถามว่า “คุณเป็นใคร” จากปากของไป๋เยี่ย ทำให้มอริสพูดไม่ออกจริงๆ
มอริสกล่าวด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง “ผมมอริส เมื่อกี้ผมก็เพิ่งแนะนำตัวไปนะครับ ตอนนี้ผมเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยกระดูกและข้อที่มหาวิทยาลัยไฮเซนเบิร์กประเทศเยอรมนีและเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมกระดูก…”
ไป๋เยี่ยแค่นหัวเราะ ทำไมเขาจะไม่รู้จักมอริส ในเมื่อผู้ชายคนนี้จ้องแต่จะหาเรื่องเขา ซึ่งนั่นทำให้ไป๋เยี่ยไม่สบายใจเอาเสียเลย
ไป๋เยี่ยพูดขัดโดยไม่รอให้มอริสพูดจบ “ขอโทษครับ แต่ผมไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก”
มอริสแทบหลุดสบถ!
แต่เขาก็รู้ว่าตนทำอะไรไม่ได้!
แล้วจะทำอย่างไรดี
ภายในใจของมอริสกำลังปั่นป่วน เขาเอาแต่คิดถึงวิธีตอบโต้อีกฝ่าย!
ตอนนี้มีหลายคนที่ไปลงชื่อกับนิคสัน ส่วนไป๋เยี่ยก็กำลังนั่งมองจอขนาดใหญ่พลางครุ่นคิดไปด้วย เขาเป็นศัลยแพทย์หลัก ย่อมต้องมีความรับผิดชอบมากที่สุด ไหนจะต้องเป็นคนนำทีมผ่าตัดอีกด้วย
เขาไม่ได้ทำเช่นนั้นเพียงเพราะว่าไม่ชอบมอริส แต่เขากลัวว่าปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้อาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา
นี่คือสาเหตุที่เขาต้องการให้คนอื่นฟังเขา
ไป๋เยี่ยมองดูหน้าจอขนาดใหญ่พลางคิดว่าจะให้การรักษาอย่างเป็นระบบได้อย่างไร ไป๋เยี่ยไม่เพียงแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกเท่านั้น แต่เขายังมีทักษะด้านการแพทย์ฉุกเฉินที่แข็งแกร่งอีกด้วย!
เพราะฉะนั้นไป๋เยี่ยจึงมั่นใจว่าเขาจะช่วยได้ถึงเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์!
หัวสมองของไป๋เยี่ยเปรียบดั่งคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอย่างบ้าคลั่ง เขาพิจารณาถึงทุกรายละเอียด
การกู้ภัยและการปฐมพยาบาลไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจนำไปสู่ความสูญเสียได้!
การกู้ภัยเป็นศิลปะแห่งการแพทย์ที่ละเอียดอ่อนมาก
ไป๋เยี่ยหรี่ตาลงพลางคิดถึงทุกประเด็นที่ตนนึกออก
ไม่นานนัก ไป๋เยี่ยก็หันไปพูดกับโมนิกา “ผมขอไปพักสักครู่ คุณนิคสันเตรียมคนพร้อมแล้วก็ไปเตรียมการผ่าตัดได้เลยนะครับ”
พูดจบ ไป๋เยี่ยก็เอนตัวลงบนเก้าอี้และหรี่ตาลงเล็กน้อย
ทุกคนเห็นดังนั้นก็ไม่ได้เข้าไปรบกวนไป๋เยี่ยแต่อย่างใด พวกเขาต่างลดเสียงลงและเดินออกไปลงชื่อด้านนอก
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยหลับตาลงนั้น ในหัวของเขาก็ปรากฏฉากห้องแล็บจำลองขึ้นมาทันที
ห้องแล็บจำลองดูจะแตกต่างไปจากเมื่อก่อน เพราะตอนนี้มันปรับความเร็วได้แล้ว!
ปรับได้ตั้งแต่ความเร็ว 0.1 เท่าไปจนถึงสิบเท่า!
สิ่งที่ไป๋เยี่ยได้ทำการตรวจสอบเมื่อครู่ได้กลายมาเป็นฉากจำลองการผ่าตัดของครูซเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขามีวิธีและขั้นตอนการรักษาที่คิดไว้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการลงมือทำ
หลังจากที่ไป๋เยี่ยเข้าไปในห้องแล็บจำลอง เขาก็เริ่มดำเนินการในทันที!
[การผ่าตัดครั้งที่หนึ่ง!]
[ล้มเหลว! ครูซเสียชีวิตเนื่องจากเลือดออกมาก…]
[ผ่าตัดครั้งที่สอง!]
[ล้มเหลว! ครูซช็อก สาเหตุ…]
[การผ่าตัดครั้งที่สาม!]
[ล้มเหลว! ครูซกลายเป็นผัก…]
นั่นทำให้ไป๋เยี่ยรู้สึกร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อย!
ทำไมผลถึงเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย
แต่โชคดีที่มันเป็นแค่การจำลอง อย่างน้อยเราก็มีโอกาสเริ่มใหม่
หลังจากพยายามไปทั้งหมดห้าครั้ง ในที่สุดไป๋เยี่ยก็ทำสำเร็จ
ทว่ามันกลับอยู่แค่ในเกณฑ์ผ่านเท่านั้น
สุดท้ายไป๋เยี่ยจึงผสานทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อนลงไป
บางครั้งไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่าการช่วยเหลือนั้นเหมือนกับการเติมเต็มรูรั่ว ย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้ในทุกช่องโหว่
[การผ่าตัดครั้งที่แปด!]
[สมบูรณ์แบบ!]
ไป๋เยี่ยรู้สึกดีใจมาก!
เป็นแบบนี้นี่เอง!
การผ่าตัดขึ้นอยู่กับการบริหารเวลา เวลาผ่านไปราวๆ สองชั่วโมง ทว่าไป๋เยี่ยเพิ่งจะเดินออกมา
แต่ถึงกระนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้ อย่างไรเสียเขาก็เพิ่งค้นพบวิธีการผ่าตัดที่สมบูรณ์แบบ
ไป๋เยี่ยลืมตาขึ้น ผู้คนรอบตัวต่างมาล้อมเขาด้วยความเป็นกังวล ไป๋เยี่ยจึงได้แต่ยิ้มอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษครับ ผมง่วงเกินไปหน่อยน่ะ ไปเตรียมตัวผ่าตัดกันเถอะครับ!”
มอริสเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็น “หวังว่าคุณจะใช้เวลาให้เกิดประสิทธิผลนะครับ”
ไป๋เยี่ยยิ้ม “ขอบคุณที่เตือนครับ ช่วยเฝ้าประตูให้ผมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดทีครับ”
นิคสันแทบจะหลุดหัวเราะ
ไป๋เยี่ยนี่ปากร้ายใช่ย่อย ถึงกับสั่งให้มอริสไปเป็นคนเฝ้าประตูซะอย่างนั้น
สีหน้าของมอริสไม่สู้ดีนัก ตอนนี้เขาไม่อาจระงับไฟโทสะในใจได้อีกต่อไป ทั้งยังหวังให้ไป๋เยี่ยทำไม่สำเร็จด้วย!
เขาอยากให้ครูซตายจริงๆ!
ขอแค่ได้ชี้หน้าโบ้ยความผิดให้ไป๋เยี่ย แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว
บางครั้งความอิจฉาริษยาก็คือบาปอย่างหนึ่ง!
อันที่จริงแล้ว การยอมรับในข้อบกพร่องของตนเองเป็นเรื่องยากขนาดนั้นเชียวหรือ
ก็อาจจะเป็นแบบนั้น
จู่ๆ มอริสก็หันไปพูดกับโมนิกา “คุณโมนิกา ผมแนะนำให้คุณถ่ายทอดสดการผ่าตัดนี้”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับตกตะลึง!
ถ่ายทอดสดระหว่างการผ่าตัด?
มันจำเป็นด้วยเหรอ
โมนิกาถึงกับชะงักไป “หมายความว่าไงคะ”
นิคสันเริ่มไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาเหลือบมองมอริสอย่างมีนัยก่อนจะหันไปทางโมนิกา “ปกติแล้วเราจะทำการถ่ายทอดสดระหว่างการผ่าตัดในเคสทั่วไปครับ ในแง่หนึ่งคือเพื่อเป็นวิทยาทาน อีกแง่หนึ่งคือเป็นหลักฐานทางกฎหมายน่ะครับ”
โมนิกาส่ายหัว “ไม่ต้องหรอกค่ะ”
เธอแค่อยากจะช่วยพี่ชายของเธอเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่นๆ เจือปนแต่อย่างใด
ทันใดนั้นหัวหน้าทีมถ่ายทำของมาร์เวลก็เดินเข้ามา “รบกวนหน่อยครับ…คงจะดีถ้ามีการถ่ายทอดสด เพราะค่ารักษาพยาบาลครั้งนี้แพงมากจริงๆ บริษัทก็คาดหวังไว้เยอะด้วย…อีกอย่างตอนนี้พวกแฟนๆ ก็ยังเป็นห่วงครูซ มันอาจจะเป็นการดีถ้าพวกเขาได้เห็นขั้นตอนการดำเนินการครับ…”
อีกฝ่ายยกเหตุผลมามากมาย พร้อมกับเสนอให้มีการถ่ายทอดสดระหว่างการผ่าตัด!
นั่นทำให้โมนิการู้สึกไม่ดีขึ้นมาในทันใด ทว่า…
แน่นอนว่าการถ่ายทอดสดไม่จำเป็นต้องเข้าไปถ่ายจากในห้องผ่าตัด เพียงแค่บันทึกวิดีโอการผ่าตัดผ่านกล้องในนั้น จากนั้นก็ให้เจ้าหน้าที่นำไปจัดการต่อ
อันที่จริงแล้วมันก็แค่เป็นการเผยแพร่ภาพระหว่างการผ่าตัดให้ผู้คนได้เห็นเยอะขึ้นเท่านั้นเอง
ก็แค่นั้น!
เพราะว่ามีคนสนใจเหตุการณ์นี้เยอะมาก การถ่ายทอดสดจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ส่วนมอริสก็แค่อยากจะให้ร้ายไป๋เยี่ย ถ้าเกิดปัญหาขึ้นระหว่างการผ่าตัดได้ก็ยิ่งดี!
ถ้าไป๋เยี่ยทำผิดพลาดต่อหน้าสาธารณชน ทุกอย่างที่เขาทำมาก็จะสูญหายไปในทันที
ตอนนี้ทุกคนต่างหันมาสนใจไป๋เยี่ย เพราะเขาคือหัวหน้าศัลยแพทย์ในวันนี้
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครคิดว่าไป๋เยี่ยจะยังยิ้มออก “ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าผมมีข้อแม้”
ทีมงานมาเวลผงะไปก่อนจะรีบเอ่ยปากถาม “บอกมาได้เลยครับ”
ไป๋เยี่ยยิ้ม “อย่าลืมแนะนำตัวผมด้วยล่ะ อ้อ ผมมีสถาบันวิจัยอยู่ที่จีนนะ ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับมันด้วย”
ทุกคน “…”
ทันทีที่ไป๋เยี่ยพูดจบ เขาก็ส่งอีเมล์ไปให้อีกฝ่ายและตรงไปที่รถกู้ภัยทันที
ไป๋เยี่ยคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด ในทางกลับกัน มันถือเป็นการประชาสัมพันธ์สถาบันวิจัยของเขาไปในตัวด้วย!
มอริสมองตามแผ่นหลังของไป๋เยี่ย “มาดูกันว่าคุณจะยังอวดดีได้ถึงไหน!”
ถ้ามอริสมีกระจกวิเศษล่ะก็ เขาเชื่อว่ากระจกวิเศษจะต้องมอบคำตอบอันน่าพึงพอใจให้กับเขาแน่นอน “อีกนาน…อีกนานเลยละ!”
การถ่ายทอดสดระหว่างการผ่าตัดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไป๋เยี่ยและคนอื่นๆ เลย เพราะว่ามันถูกถ่ายทอดสดภายในห้องพักแพทย์
ทีมงานมาร์เวลรับหน้าที่ในการตั้งค่าแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว