บทที่ 347 ตะปูสุดล้ำยุค
[ติ๊ง! ได้รับตะปูตอกกระดูกชนิดดูดซึมได้]
[ลักษณะผลิตภัณฑ์: ความทนทานต่อแรงดัดและงอแรกเริ่มของวัสดุคือ 375 Mpa ความทนทานต่อแรงตอกคือ 320 Mpa มีระยะเวลาการย่อยสลาย 12-18 สัปดาห์ ร่างกายจะดูดซับวัสดุดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 3 ปี เมื่อเทียบกับวัสดุแบบดั้งเดิมแล้วมีความเร็วในการย่อยสลายสอดคล้องกับความเร็วในการฟื้นตัวของกระดูก มีคุณสมบัตินำไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการรักษาโรคกระดูก]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณได้รับตะปูตอกกระดูกชนิดดูดซึมได้ แจ้งเตือน: นี่คือตะปูตอกกระดูกชนิดดูดซึมได้ที่ผลิตโดยบริษัทบียูไอเอส ซึ่งเป็นตะปูตอกกระดูกรุ่นที่สี่ ผลิตขึ้นจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลดีต่อการรักษาหลายประการ]
[แจ้งเตือน วัสดุดังกล่าวเป็นวัสดุโพลีเมอร์ โดยมีกรดโพลี-เคแอล-แลคติคเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งย่อยสลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำในร่างกายมนุษย์ได้ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เมื่อเทียบกับตะปูตอกกระดูกแบบดั้งเดิม ตะปูรุ่นนี้อาศัยความแข็งแรงของโลหะไทเทเนียมละคุณสมบัติที่ดูดซับได้ของกรดโพลี-เคแอล-แลคติค…นับว่าเป็นข้อดีที่เห็นได้ชัด]
[หากต้องการศึกษาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้: วัสดุศาสตร์ เลเวล 6, ทักษะศัลยกรรมกระดูก เลเวล 6, ชีวเวชศาสตร์ เลเวล 5]
ทันทีที่ไป๋เยี่ยเห็นตะปูเล่มนั้น เขาก็เข้าใจมันได้ในทันที!
ระบบของเราน่ะไม่เหมือนใคร ระบบของเราบริการด้วยความเมตตาจริงๆ!
ปกติแล้วสิ่งที่ระบบให้มาก็ไม่ใช่ของกิ๊กก๊อกอยู่แล้ว
วัสดุหลักของตะปูตอกกระดูกชนิดดูดซึมได้คือวัสดุพีแอลเอ ซึ่งเป็นวัสดุแบบใหม่ที่แผนกศัลยกรรมกระดูกใช้ในการตอกและตรึง กล่าวได้ว่ามันเป็นวัสดุที่ล้ำยุคที่สุดของวงการศัลยกรมกระดูกแล้ว
ดังที่เราทุกคนทราบกันดี โดยทั่วไปแล้ววัสดุตรึงกระดูกหักแบบดั้งเดิมจะทำจากสแตนเลส ไทเทเนียม และโลหะผสม อย่างไรก็ตามการตอกวัสดุเหล่านี้ลงในกระดูกเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดการกัดกร่อน ภูมิแพ้และโรคกระดูกพรุนเนื่องจากแรงกดบริเวณกระดูก เพราะฉะนั้นหลังจากที่มีการผ่าตัดกระดูกแล้วจะต้องมีการผ่าอีกครั้งเพื่อนำมันออกไป
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีการนำวัสดุตรึงกระดูกหักที่ดูดซับได้มาใช้ในทางการแพทย์มากขึ้น ซึ่งผลที่ออกมาก็น่าพอใจ
เมื่อเทียบกับการใช้วัสดุที่เป็นโลหะแล้ว ข้อดีที่น่าสนใจก็คือ ผู้ป่วยที่ได้ใช้เครื่องมือที่ทำจากวัสดุโพลีเมอร์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อนำวัสดุออกหลังจากที่หายดีแล้ว
แผ่นตรึงกระดูกและตะปูตอกกระดูกที่มีวัสดุหลักเป็นกรดโพลีแลกติกที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จะไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือการปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมจากเนื้อเยื่อโดยรอบ ซึ่งวัสดุที่ย่อยสลายได้ก็มีกรดไกลโคลิกและกรดแลคติค ซึ่งจะสลายตัวเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำและถูกขับออกจากร่างกายในที่สุด
ไม่มีสารตกค้าง ไม่สร้างความระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ นอกจากนี้กรดโพลีแลคติกยังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ด้วยการปรับน้ำหนักโมเลกุลและใช้วิธีการขึ้นรูปที่แตกต่างจากทั่วไป จึงปรับและควบคุมคุณสมบัติทางกลและอัตราการย่อยสลายของกรดโพลิแลกติกเพื่อตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ในแต่ละเคส
นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ไป๋เยี่ยประหลาดใจมากที่สุดก็คือคุณสมบัติหลายประการของวัสดุใหม่นี้ เช่น ความทนทานต่อการดัดและงอของวัสดุและความทนทานต่อแรงตอกเป็นต้น
เพราะว่าหน้าที่หลักของตะปูตอกกระดูกและแผ่นตรึงกระดูกคือทำหน้าที่เป็นตัวยึดกระดูกที่แตกหัก จึงต้องมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงต่างๆ ได้
แม้ว่าวัสดุพีแอลเอชนิดนี้จะถูกดูดซับได้ แต่มันก็ไม่แข็งแรงพอ ซึ่งนี่ก็เป็นข้อเสียที่สำคัญของมัน
ในอดีต วัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมาติถูกจำกัดการใช้งานเพราะคุณสมบัติเชิงกลที่อ่อนแอต่อการตรึงโครงสร้างต่างๆ
ในการใช้งานทางปฏิบัติ วัสดุที่ย่อยสลายได้จะต้องมีคุณสมบัติทางกายภาพ เช่น ความแข็งและความคงทนที่มากพอ รวมถึงคุณสมบัติในการย่อยสลายในร่างกายมนุษย์ไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ นักวิจัยจากต่างประเทศด้คิดค้นอุปกรณ์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติโดยอาศัยคุณสมบัติของโพลีเมอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดไว้ ผ่านการคิดค้นและวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ถึงกระนั้น ความทนทานต่อการดัดงอและแรงตอกกลับน้อยนิด ทว่าตะปูที่อยู่ในมือของไป๋เยี่ยกลับมีความทนทานมากกว่าถึงสองเท่า!
ซึ่งความทนทานที่มากถึงสองเท่านี้เทียบเคียงได้กับวัสดุโลหะผสมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันได้
สำหรับความเร็วของการย่อยสลายนั้น ในความเป็นจริงแล้วยิ่งย่อยสลายเร็วก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป ระยะเวลาในการย่อยสลายอยู่ที่สิบสองถึงสิบแปดสัปดาห์ และมีระยะเวลาการดูดซึมนานถึงสามปี ซึ่งสอดคล้องกับระยะการฟื้นตัวของกระดูก
เมื่อกระดูกที่แตกร้าวผสานกันแล้ว วัสดุก็จะเริ่มถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ความเร็วในการสลายนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการรักษา แต่ยังช่วยป้องกันการกดทับในระยะหลังของการรักษา ซึ่งถือเป็นผลดีต่อการซ่อมแซมกระดูกในภายหลัง
มันไม่เพียงแต่จะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกเท่านั้น แต่ยังสลายตัวและถูกขับออกจากร่างกายหลังการรักษาเสร็จสิ้นลงได้อีกด้วย จึงเป็นการป้องกันอาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้หากมีการปลูกถ่ายสิ่งแปลกปลอมไว้ภายในร่างกายเป็นเวลานาน
วัตถุดิบที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ตรึงกระดูกที่ดูดซึมได้ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นโพลีเมอร์ ซึ่งถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะได้รับการรับรองจากเอฟดีเอของสหรัฐอเมริกา
ถึงแม้มันจะฟังดูน่าขายหน้าเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าอุปกรณ์ตรึงกระดูกส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ในประเทศจีนนั้นล้วนเป็นของที่นำเข้ามาทั้งหมด!
ใช่แล้ว ทั้งหมด!
เพราะว่าการพัฒนาเทคโนโลยีการสังเคราะห์โพลีเมอร์ในประเทศจีนยังล้าหลังอยู่มาก จึงยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนเทคโนโลยีที่ใช้ในการเตรียมสารที่มีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการผลิตวัสดุจากโพลีเมอร์
แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าโพลีเมอร์จะเป็นสารที่สมบูรณ์แบบ อาจกล่าวได้เพียงว่ามันมีการปรับปรุงมากกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนๆ
ข้อเสียของอุปกรณ์ตรึงกระดูกในปัจจุบันที่ผลิตขึ้นจากวัสดุโพลีเมอร์ที่ถูกค้นพบ ได้แก่
1. ไม่มีคุณสมบัติในการยึดกระดูกที่มากพอ ทำให้การซ่อมแซมตัวเองของกระดูกเป็นไปอย่างล่าช้าและเป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซมตัวเองของกระดูกชิ้นใหญ่
2. คุณสมบัติเชิงกลของวัสดุไม่เพียงพอต่อการนำมาใช้เป็นวัสดุตรึงกระดูก
3. อัตราการย่อยสลายโดยธรรมชาติแรกเริ่มเร็วเกินกว่าที่จะรับประกันได้ว่ามันจะตอบสนองต่อแรงกดต่างๆ ระหว่างที่ร่างกายกำลังสร้างเนื้อเยื่อ ซึ่งช่วงระยะกลางของการย่อยสลายก็ช้าเกินไป ทำให้มีสารตกค้างหลงเหลืออยู่ในระหว่างที่เนื้อเยื่อกำลังซ่อมแซมตัวเอง ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ
เพราะฉะนั้นตะปูที่ไป๋เยี่ยได้รับมาจึงเป็นอุปกรณ์ตรึงกระดูกรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าแม้ว่าวัสดุโพลีเมอร์จะเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้าเพียงใด แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ไป๋เยี่ยนึกขึ้นได้ถึงบทความที่เคยอ่าน มีผู้เชี่ยวชาญชั้นนำหลายคนในญี่ปุ่นค้นพบว่าวัสดุโพลีเมอร์เป็นสารก่อมะเร็งอย่างหนึ่ง ซึ่งอัตราการเกิดมะเร็งนั้นสูงถึงสี่สิบสี่เปอร์เซ็นต์ นักวิชาการบางคนถึงกับออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบการทดลอง เพราะฉะนั้นปัญหานี้จึงต้องได้รับการสังเกตในระยะยาว
ทว่ามันก็แสดงให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์ในนวัตกรรมด้วยเช่นกัน!
ดังนั้น เมื่อไป๋เยี่ยได้เห็นตะปูตรงหน้า หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นรัวขึ้นโดยไม่มีเหตุผล
มันเป็นมากกว่าตะปู มันไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่มันคือตัวบ่งบอกถึงยุคสมัยใหม่!
ไป๋เยี่ยคิดว่าถ้าเขาพัฒนาตะปูตอกกระดูกที่ดูดซึมขึ้นได้ มันจะตัองถูกนำไปใช้เป็นอุปกรณ์ตรึงกระดูกอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ถ้าวัสดุดังกล่าวใช้งานดีจริง มันก็นำไปใช้ได้ในศาสตร์อื่นๆ ได้อีกมากมายหลายแขนงด้วย
ถ้าทำสำเร็จ มันจะต้องกลายเป็นผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตแน่ๆ!
ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็ตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
สุดท้ายแล้วพวกเราก็คิดค้นและผลิตวัสดุชั้นนำระดับโลกที่เกี่ยวกับการศัลยกรรมกระดูกได้แล้ว
ไป๋เยี่ยมั่นใจว่าเขาจะเปิดศักราชใหม่ได้อย่างแน่นอน
ไป๋เยี่ยเก็บตะปูกระดูกอย่างระมัดระวังและคิดเกี่ยวกับมัน
พูดตามตรง ยิ่งเลเวลทักษะของไป๋เยี่ยสูงขึ้นเท่าใด เขาก็ยิ่งพบปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็เริ่มไม่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น
เขาคิดว่าถ้าเขายังต้องการพัฒนาทักษะของตนเอง วัสดุ อุปกรณ์และยาต่างๆ จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ลองคิดดูสิ มันเป็นปัญหาที่เข้าใจได้ง่ายมากจริงๆ
ตัวอย่างเช่น อะไรคือความแตกต่างระหว่างศัลยแพทย์กระดูกและข้อเมื่อสามสิบปีที่แล้วกับศัลยแพทย์กระดูกและข้อที่มีความสามารถระดับเดียวกันในปัจจุบัน
มีความแตกต่างมากมาย เพราะว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและแนวคิดต่างๆ มีการพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลา
ในอดีต ประเทศจีนมีเครื่องซีทีแสกนและเครื่องเอ็มอาร์ไอเพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น แต่ปัจจุบันเครื่องมือเสริมเหล่านี้ก็ได้ช่วยให้แพทย์ค้นพบและรักษาโรคที่ครั้งหนึ่งเคยยากและซับซ้อนได้มากขึ้น
นี่คือความก้าวหน้า!
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการแพทย์แผนจีนหรือการแพทย์แผนปัจจุบัน ก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นศาสตร์แห่งการรักษาโรคและช่วยชีวิต
เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการรับใช้มวลมนุษยชาติ
ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็หลุบยิ้มลงกับหน้าจอโปร่งแสงตรงหน้า
ถ้าไม่มีระบบ เราอาจจะเป็นแค่คนธรรมดาก็ได้!
เมื่อไป๋เยี่ยกลับไปที่จีน สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือจัดสรรบุคลากรในสถาบันของเขา
ไม่สิ!
ตอนนี้เขาต้องเริ่มวิจัยได้แล้ว บางทีพรุ่งนี้เขาอาจจะได้เปิดรับสมัครบุคลากรที่ลอสแอนเจลิสก็ได้!
ไป๋เยี่ยคิดแล้วก็มองว่าเรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
อย่างไรเสีย เขาก็เพิ่งจะรักษาซุปเปอร์ฮีโร่ของชาวลอสแองเจลิสไป อย่างที่เหล่าไป๋เคยบอกไว้ว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว
นอกจากนี้ ลอสแองเจลิสยังเป็นสถานที่ที่ดีมากอีกด้วย!
สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียเป็นมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของเอกชนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีชื่อเสียงมายาวนานในแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก
สาขาวิชาที่โดดเด่นคือสาขาฟิสิกส์ เคมี และดาราศาสตร์ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ระดับนานาชาติอีกด้วย
ถึงแม้ว่าที่นี่จะเล็กมาก และมีนักศึกษาเพียงสองพันคนเท่านั้น ทว่าในหน้าประวัติศาสตร์กลับกล่าวไว้ว่าที่นี่ได้ผลิตผู้ชนะรางวัลโนเบลออกมามากถึงสามสิบหกคนแล้ว!
เป็นจำนวนที่ชวนผวามากจริงๆ!
นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถาบันที่มีผู้ชนะรางวัลโนเบลมากที่สุดในโลกด้วย
เพราะฉะนั้น ไป๋เยี่ยคงจะไม่ให้อภัยตนเองแน่ถ้าเขาต้องกลับจีนไปมือเปล่า
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่าตนเองจำเป็นต้องไปคุยกับวินน์ถึงเรื่องนี้ในวันรุ่งขึ้น
บางทีพรุ่งนี้เราอาจจะช้อนยอดคนจากที่นี่กลับไปได้บ้าง ตอนนี้รู้สึกกระหายคนเก่งๆ ชะมัดเลย
ไป๋เยี่ยไม่ได้ตั้งใจจะทำสถาบันวิจัยของเขาเป็นแค่โรงพยาบาลธรรมดา แต่เขาต้องการให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่แพทย์กระดูกและข้อจากทั่วโลกให้ความน่าเชื่อถือ
นี่ไม่ใช่แค่การศึกษาวิธีการรักษาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการศึกษาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในสาขาศัลยกรรมกระดูกด้วย!
นี่แหละอำนาจที่แท้จริง!
ที่นี่จะต้องเป็นสถาบันชั้นนำของโลกทั้งในแง่ของวิชาการ มาตรฐานทางการแพทย์ ยารักษาโรค อุปกรณ์ทางการแพทย์ และศักยภาพของแพทย์!
ในฐานะที่เป็นถึงสมาชิกวีไอพีตลอดชีพ ไป๋เยี่ยคิดว่าเขาควรจะมีความกล้ามากกว่านี้