บทที่ 352 ข่าวดีต่อเนื่อง
หลังจากที่ไป๋เยี่ยได้รู้เรื่องประสบการณ์ที่ผ่านมาของโมนิกาแล้ว เขาก็เปิดใช้งานดวงตารอบรู้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ตนพลาดบุคลากรชั้นยอดจากอเมริกาไป
เพียงแต่ว่า…
ไป๋เยี่ยเองก็รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ เพราะว่าบนหัวของแต่ละคนจะมีข้อความปรากฏขึ้นจนดูแปลกๆ ไปบ้าง
มันเหมือนกับว่า…นี่คือเกม ทุกคนคือเอ็นพีซี[1]ซึ่งคุณตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ ของอีกฝ่ายได้
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อยไป๋เยี่ยก็เฟ้นหาเพชรแท้จากสถานที่อันวุ่นวายนี้ได้
ศูนย์นิทรรศการมีขนาดไม่เล็กเลย ด้านในมีบูธจัดแสดงนับร้อย แต่มีไม่กี่บูธที่ดึงดูดความสนใจของไป๋เยี่ยไว้ได้ ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่มีคนเก่งๆ แต่คนเหล่านั้นไม่ใช่คนทีมีประโยชน์ต่อไป๋เยี่ย
ท้ายที่สุด ไป๋เยี่ยก็ไม่ใช่เถ้าแก่รายใหญ่ เขายังต้องการบุคลากรจากทุกแขนง
ทว่าไป๋เยี่ยเองก็คิดว่าเขาเป็นนักล่าหัวอันดับต้นๆ ของโลกได้ด้วยดวงตารอบรู้ของเขา
แค่มองปราดเดียวเท่านั้น…ก็รู้สึกฟินแล้ว
อืม!
แต่ถึงกระนั้น ไป๋เยี่ยก็ไม่ได้อยากเป็นนักล่าหัวแบบที่ใครเขาว่ากัน ทว่าในขณะเดียวกัน เขาก็บังเกิดความคิดอันหาญกล้าขึ้นมาในทันใด!
ก็อย่างเช่นต่อไปถ้าคุณมีเงิน คุณก็ซื้อทีมในเอ็นบีเอและมีทีมบาสเกตบอลเป็นของตนเอง แล้วก็ใช้ดวงตารอบรู้ในการสร้างทีมที่ดีที่สุดขึ้นมา แค่คิดก็รู้สึกสุดยอดแล้ว~
ทว่าเมื่อไป๋เยี่ยมองไปทางโมนิกาอีกครั้งภายในใจก็ได้แต่คิด ยังไงเธอก็ต้องอยู่กับเรา ส่วนเรื่องอื่น…ค่อยว่ากันทีหลัง!
ระหว่างที่ไป๋เยี่ยกำลังหันกลับไป เขาก็เห็นร่างคุ้นตาร่างหนึ่ง
ก่อนที่ไป๋เยี่ยจะเดินตรงไป ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น
[ติ๊ง! ค้นพบบุคลากรพิเศษสุดหายาก]
ไป๋เยี่ยถึงกับชะงักไป พูดยังไม่ทันขาดคำ วันนี้เราโชคดีจริงๆ!
ไป๋เยี่ยเงยหน้าขึ้นและพบกับชายคนหนึ่งในเสื้อสเวตเตอร์สีแดง กางเกงขายาวสีดำและแว่นตากรอบดำที่กำลังถือโลหะผสมไว้
ชายคนนั้นมีหน้าตาตามแบบฉบับชาวเอเชียทั่วไป ที่สำคัญคือเขาหน้าตาคล้ายกับไป๋เยี่ยมาก!
เขาดันแว่นตากรอบดำขึ้นบนสันจมูก ดวงตาเรียวเล็กค่อยๆ เหลือบมองไปทางหญิงสาวด้านหลัง โดยเมินไป๋เยี่ยไป
เมื่อโมนิกามองกลับไปทางชายคนนั้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เพราะว่า…สายตานั้นมันดูคุกคามเสียจริงๆ
ไป๋เยี่ยถอนหายใจ ให้ตายเถอะ!
เขาเหมือนเราเกินไปแล้ว!
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน ไป๋เยี่ยก็คงมั่นใจว่าคนคนนี้จะเป็นคู่หูของเขาอย่างแน่นอน
แต่…เมื่อไป๋เยี่ยเห็นชายคนนั้นกำลังถือก้อนโลหะผสมอยู่ด้วยท่าทีมีภูมิฐานและดูไม่ใช่คนทั่วไป เขาก็เกิดลังเลขึ้นมาในทันใด
ไป๋เยี่ยจึงแหงนมองแถบข้อมูล
[???
ทักษะ: เคมี เลเวล 4
วัสดุศาสตร์ เลเวล 5
พรสวรรค์: พรสวรรค์ด้านวัสดุศาสตร์ 7 ดาว]
ไป๋เยี่ยถึงกับกลืนน้ำลาย พรสวรรค์ด้านวัสดุศาสตร์เจ็ดดาว นี่แหละของแท้!
ตะปูที่เรากำลังทำวิจัยอยู่ต้องใช้ทักษะวัสดุศาสตร์เลเวลหก แต่คนคนนี้มีพรสวรรค์เลเวลเจ็ด จะต้องเก็บเขาไว้แล้ว
ขณะที่ไป๋เยี่ยมองไปทางชายคนนั้น อีกฝ่ายก็หันมาสบตากับไป๋เยี่ยพอดี
ยิ่งมองแล้วก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ!
ชายคนนั้นเป็นฝ่ายขานก่อน “พี่เขย!”
ไป๋เยี่ยรู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาว่า ‘พี่เขย‘ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ทว่ากลับพูดจาติดตลกออกไป “นายคือใคร!”
ดวงตาเล็กๆ ของอีกฝ่ายหรี่ลง “ผม…ผมน้องเขยพี่ไง!”
ไป๋เยี่ยหัวเราะพร้อมกับเอ่ยอย่างประชดประชัน “ออกไปนะ! ใครเป็นพี่เขยนายกัน!”
ชายคนนั้นได้ฟังไป๋เยี่ยพูดก็ยิ่งดีใจ “ให้ตายเถอะ ใช่จริงด้วย!”
ไป๋เยี่ยไม่คิดว่าจะได้เจอชายคนนี้ที่ลอสแอนเจลิส!
ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญคือชายคนนี้กลายเป็นบุคลากรพิเศษได้อย่างไร อีกทั้งทักษะวัสดุศาสตร์ของเขายังสูงถึงเลเวลห้าอีกด้วย นับเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อพอสมควร
สำหรับไป๋เยี่ยแล้ว ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
ในตอนนี้ นอกจากใบหน้าที่ยังคงเหมือนเดิมนั้น ก็อาจกล่าวได้ว่าเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แว่นตากรอบดำคู่นั้นที่คอยบดบังสายตาแปลกๆ ของเขาไว้
แน่นอน เขาไม่รู้ว่าสายตาของเขานั้นมันดูคุกคามมากแค่ไหน ยิ่งเป็นตอนที่สายตาของเขาลอดผ่านแว่นตาไป
ครั้งแรกที่โมนิกาเห็นหน้าชายคนนี้ก็พอจะบ่งบอกได้ว่าสายตาคุกคามนั้นเป็นอย่างไร
ชายคนนั้นหยิบก้อนโลหะผสมขึ้นมาแล้วหันไปพูดกับไป๋เยี่ย “ไปกันเถอะพี่เขย เราไปหาที่คุยกันดีกว่า”
ไป๋เยี่ยรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เจอ ‘หนานเฟยซี’ อีกทั้งชายคนนี้ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์ที่มีพรสวรรค์ระดับเจ็ดดาวด้วย เขาจึงต้องจับตามองไว้ให้ดี
ทั้งสามคนมาที่ร้านกาแฟใกล้ๆ เมื่อนั่งลงกันเรียบร้อยแล้ว ไป๋เยี่ยก็เป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน “เหล่าหนาน ไหงถึงมาที่นี่ล่ะ แล้วพี่สาวคุณเป็นไงบ้าง”
หนานเฟยซียิ้ม “หลังจากที่ลุงไป๋พาพวกพี่ย้ายไปที่อื่น พ่อผมก็รวบรวมเหมืองถ่านหินขนาดเล็กหลายๆ ที่มาตั้งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมพลังงาน แล้วพ่อก็ได้วิจัยและพัฒนาวิธีการแปลงถ่านหินให้กลายเป็นน้ำมัน ทั้งลงทุนด้วยเงินของทั้งครอบครัวแล้วก็กู้ธนาคารมาด้วย แต่ผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พ่อเลยขายทั้งกิจการไป พ่อคิดมาตลอดว่าความล้มเหลวครั้งนั้นเกิดขึ้นจากการขาดทุน ก็เลยส่งผมมาเรียนที่อเมริกาเนี่ยแหละ…”
ไป๋เยี่ยได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ตอนที่เขาอยู่ที่จิ้นซี ครอบครัวของหนานเฟยซีก็เป็นเถ้าแก่ถ่านหินเหมือนกับครอบครัวของไป๋เยี่ย ซึ่งทั้งสองครอบครัวก็สนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างลุงหนานและเถ้าแก่ไป๋นั้นดีมาก
แม้แต่เด็กๆ บ้านไป๋และบ้านหนานเองก็เช่นกัน
หนานเฟยซีมีพี่สาวที่อายุมากกว่าเขาหนึ่งปี ส่วนไป๋เยี่ยมีน้องสาวหนึ่งคน ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันแต่ทั้งสองคนก็มักจะจับคู่พี่สาวน้องสาวเพื่อเป็นการพิสูจน์มิตรภาพระหว่างพวกเขาเสมอ
หนานเฟยซีตัดสินใจให้พี่สาวของเขา ‘หนานเยวี่ยนหลี‘ แต่งงานกับไป๋เยี่ย ส่วนไป๋เยี่ยก็ให้น้องสาวของเขาไป๋หลิงแต่งงานกับหนานเฟยซี
ทว่าต่อมาไป๋เยี่ยกลับพบว่าผู้ชายคนนี้นับวันยิ่งทะลึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นทำให้เขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เขาสงสัยมากว่าทำไมคนที่เกิดมาจากแม่คนเดียวกันอย่างพี่เสี่ยวหนานถึงโตมาเป็นคนสวย ในขณะที่เจ้าหมอนี่ดูอัปลักษณ์ขนาดนี้
“ลุงหนานส่งนายมาที่นี่เหรอ แล้วพี่เสี่ยวหนานล่ะ” ไป๋เยี่ยถาม
หนานเฟยซีถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้พลางเอ่ย “พ่อบอกว่าพี่ต้องอยู่ที่นั่นกับพ่อ ส่วนลูกชายน่ะให้ส่งไปเจอความทรหด ไม่รู้เขาไปได้แนวคิดนี้มาจากไหน”
ไป๋เยี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ทำไมคำพูดมันฟังดูคุ้นๆ แฮะ
นี่มันความคิดของเหล่าไป๋ไม่ใช่เหรอ
ไป๋เยี่ยมองหนานเฟยซีอย่างระมัดระวัง “แล้วตอนนี้นายกำลังทำอะไรอยู่”
หนานเฟยซีถอนหายใจ “เป็นหมาให้สาขาวัสดุของแคลเทค[2]”
แต่นั่นก็ทำให้หนานเฟยซีหลุดหัวเราะออกมา “พี่เขย ตอนนี้ผมเป็นด็อกเตอร์นะ พี่ว่าไง ยกหลิงเอ๋อร์ให้ผมได้หรือยัง”
ไป๋เยี่ยแค่นหัวเราะ “เหอะๆ”
ทันใดนั้นหนานเฟยซีก็หันกลับมาทางโมนิกาและตระหนักบางอย่างได้ “ผมว่าแล้วว่าทำไมถึงคุ้นหน้าคุณจัง พี่โมนิกานี่เอง!”
โมนิกาเห็นชายตรงหน้าส่งเสียงดังก็มองไปรอบๆ ด้วยความประหม่าก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงงุ่มง่าม “ไง!”
เพราะเธอไม่เข้าใจภาษาจีนที่ทั้งสองคนใช้สื่อสารกันเมื่อครู่
เมื่อหนานเฟยซีเห็นว่าไป๋เยี่ยมากับโมนิกาก็ขมวดคิ้วลง “พี่เขย! นี่พี่คิดจะทิ้งพี่สาวผมเหรอ พี่นี่เห็นดีแค่ตอนแรก พอนานเข้าก็ทิ้งไปซะงั้น คอยดูเถอะ ผมจะฟ้องพ่อแน่!”
ไป๋เยี่ยกลอกตาไปมาก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ลอสแอนเจลิสให้หนานเฟยซีฟัง
หนานเฟยซีได้ฟังแล้วก็เบิกตากว้าง “ไป๋เยี่ยที่เป็นคนช่วยครูซไว้ก็คือพี่งั้นเหรอ ผมขอโทษ! พี่เขยพี่เก่งเกินไปแล้ว!”
“แต่ก็สมเป็นพี่น้องร่วมสาบานของผม สุดยอดจริงๆ! ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ในสถาบันมีข่าวลือว่าผู้วิเศษจากประเทศจีนที่ชื่อว่าไป๋เยี่ยเป็นคนรักษาครูซจนหายดี พี่เก่งเกินไปแล้ว พี่สาวผมต้องแต่งงานกับพี่แน่นอน!”
ทั้งสองคนได้มาเจอกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายกันมานาน จึงดีใจและตื่นเต้นกันเป็นธรรมดา มิตรภาพอันลึกซึ้งของพวกเขานั้นยาวนานมาตั้งแต่ตอนที่แลกพี่สาวน้องสาวให้กันแล้ว
ไป๋เยี่ยพูดต่อ “พรุ่งนี้พ่อแม่กับหลิงเอ๋อร์จะไปนิวยอร์ก ไว้เจอกันนะ”
แววตาของหนานเฟยซีเป็นประกาย “พี่ย้ายที่อยู่มาตั้งหลายปี ผมไม่ได้เจอพี่เลย ไว้พรุ่งนี้ผมจะไปเยี่ยมนะ จะไปดูด้วยว่าตอนนี้หลิงเอ๋อร์สวยขึ้นแค่ไหนแล้ว!”
อันที่จริงทั้งสองคนก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้แต่อย่างใด พี่น้องทั้งสองคู่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจึงแน่นแฟ้นมาก
หลังจากหวนนึกถึงวันเก่าๆ แล้ว หนานเฟยซีก็หันไปพูดกับโมนิกา “พี่โมนิกา ผมเป็นนักศึกษาในสังกัดของด็อกเตอร์เจนครับ”
โมนิกาได้ฟังการแนะนำตัวของหนานเฟยซีก็เบิกตากว้าง เพราะว่าทั้งอาจารย์ของเธอและหนานเฟยซีล้วนเป็นผู้ชนะรางวัลโนเบลเพียงไม่กี่คนในสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เธอมองหนานเฟยซีอย่างระแวดระวังพลางถอนหายใจออกมา คนเราไม่ควรมองใครแค่ภายนอกจริงๆ
ไป๋เยี่ยเองก็มองไปที่หนานเฟยซีก่อนจะเอ่ยถาม “ไหนๆ ตอนนี้นายก็จบป.เอกแล้ว มีแผนจะทำอะไรต่อไปบ้าง”
หนานเฟยซียิ้มแล้วลูบก้อนโลหะผสมในมือ “นี่คือผลงานจบของผม มันเป็นวัสดุโลหะผสมชนิดใหม่ ตอนแรกผมอยากจะใช้มันในการหาบริษัทเทคโนโลยีเนี่ยแหละ”
ไป๋เยี่ยลองชั่งน้ำหนักของก้อนโลหะด้วยมือตนเองพร้อมกับใช้ดวงตารอบรู้พิจารณามัน
[ตรวจสอบไอเทมสำเร็จ: วัสดุโลหะผสมชนิดพิเศษ เลเวลเทคโนโลยี: 5 ดาว]
ไป๋เยี่ยลอบยิ้ม “นายทำมันเองเหรอ แค่มีหินก้อนเดียวก็จบป.เอกได้แล้วเหรอ”
หนานเฟยซีเงยหน้าขึ้นก่อนจะหลับตาลง “พี่ไม่เข้าใจ นี่คือวัสดุโลหะผสมชนิดใหม่ มันมีเอกลักษณ์ที่พิเศษมากเลยนะ ผมเรียกมันว่าหน่วยความจำโลหะ หรืออีกชื่อหนึ่งคือโลหะผสมทีไอเอ็นไอ มันจะจดจำรูปร่างและความยืดหยุ่นของส่วนประกอบที่ซับซ้อนและนำไปใช้ในงานด้านวิศวกรรมชีวภาพได้ อย่างเช่น ใช้เป็นกระดูกสันหลังเทียม ข้อต่อเทียมหรือว่าใช้ทำหมันเทียมก็ได้ แล้วคุณสมบัติข้อนี้ยังช่วยดึงกลไกการทำงานต่างๆ ออกมาแล้วสร้างเป็นระบบขนาดย่อซึ่งมีสรรพคุณยอดเยี่ยมสำหรับเทรนด์ตอนนี้ได้เลย ทั้งใช้ในหุ่นยนต์หรือแขนกลที่เล็กระดับมิลลิเมตรก็ได้ทั้งนั้น!”
หนานเฟยซีตั้งใจแนะนำผลงานของเขามาก
เขาพูดทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ โมนิกาจึงเข้าใจไปด้วย เธอฟังแล้วก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ เพราะว่าการวิจัยและพัฒนาหน่วยความจำโลหะยังคงดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แต่นักศึกษาเพียงคนเดียวกลับค้นคว้าสิ่งนี้ออกมาได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นนักศึกษาของด็อกเตอร์เจน มันจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ไป๋เยี่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่รู้สึกตะลึงภายในใจ เทคโนโลยีระดับห้าดาวนั้นเป็นที่น่าประทับใจพอสมควร ที่สำคัญคือหนานเฟยซีเพิ่งจะเรียนจบปริญญาเอก อนาคตของเขายังไปได้อีกไกลนัก
[1] เอ็นพีซี (NPC; Non-Player Character) คือตัวละครประกอบภายในเกมที่ผู้เล่นไม่สามารถควบคุมได้เพราะมีการป้อนชุดข้อมูลไว้แล้ว
[2] แคลเทคคือชื่อย่อของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย