ตอนที่ 403 ขุนเขาสูงตระหง่าน
‘กวีนิพนธ์เทศกาลไหว้พระจันทร์ เมื่อทำนองวารีปรากฏ กวีนิพนธ์อื่นล้วนไม่สำคัญ!’
นี่เป็นคำประเมินที่คนรุ่นหลังมีต่อทำนองวารีบทนี้ของซูซื่อ และซูเซียนก็เป็นอีกหนึ่งฉายานามที่หลายคนเรียกซูซื่อ
ทำนองวารีในที่นี้เป็นเพียงชื่อของกวีนิพนธ์เท่านั้น
อันที่จริงจีนโบราณมีกวีฝีมือดีหลายคนเคยเขียนกวีนิพนธ์ภายใต้หัวข้อทำนองวารี ทว่าบทนี้ของซูตงพัวมีชื่อเสียงมากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นบทที่ได้รับคำชื่นชมสูงสุดจากประชาชนทั่วไปและบัณฑิตทั้งหลาย ระดับความรุ่งโรจน์เหนือกว่าผลงานทั้งหมดภายใต้ชื่อกวีนิพนธ์ชุดเดียวกัน!
แต่บลูสตาร์ดันไม่มีผลงานชิ้นนี้
เพราะฉะนั้นเมื่อคนบนบลูสตาร์ได้ฟังเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ เห็นบทกวีโบราณซึ่งประหนึ่งคลี่ออกมาจากภาพเขียน ในใจก็ย่อมตกตะลึง ต่อให้พวกเขาไม่มีความรู้ลึกซึ้งด้านวรรณกรรมอย่างหนีหงอู่ ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความโดดเด่นของกวีนิพนธ์บทนี้!
‘อห เนื้อเพลงปังโคตร!’
‘นี่มันเนื้อเพลงเทพเทวดาจากสวรรค์ชั้นไหนฟระเนี่ย!’
‘แม่ฉันถามว่าทำไมฉันต้องคุกเข่าฟังเพลงพวกนี้!’
‘แค่ฟังประโยคแรก จันทร์แจ่มเมื่อไหร่มี อืม ตรงไปตรงมาดี ฟังประโยคสอง ชูจอกชี้ถามฟ้าคราม อ้อ น่าสนใจแฮะ ฟังต่อไป สุดล่วงรู้บนวิมาน ยามนี้คือปีใด ฉันนี่อ้าปากค้างหุบไม่ลง’
‘ฟังถึงแค่นี้ก็อ้าปากค้างแล้วเหรอ? งั้นคุณฟังไปถึงท่อนหลังกรามไม่หลุดเลยเหรอครับ’
‘ผมรู้นะว่าเซี่ยนอวี๋เขียนเนื้อเพลงโหด แต่นึกไม่ถึงว่าจะโหดถึงระดับนี้!’
‘ฉันไม่กล้าเรียกเขาว่าเจ้าแก่เซี่ยนอวี๋แล้วเนี่ย…นี่มันเจ้าแก่ธรรมดาซะที่ไหนล่ะ เรียกว่าบรรพบุรุษเลยดีกว่า!’
‘แม่เจ้าโว้ย บรรพบุรุษก็ยังเป็นบรรพบุรุษวันยังค่ำ!’
‘ปู่ผมเพิ่งเข้ามาถามว่าฟังเพลงอะไร ผมเลยพรินต์เนื้อเพลงให้ซะเลย…’
‘ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเนื้อเพลงนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกกลอนโบราณที่เราได้อ่านกันทุกวันนี้เลย’
‘คอมเมนต์บน ไม่ใช่คุณแค่คนเดียวที่คิดแบบนั้น!’
‘ครูวิชาวรรณกรรมของพวกเราเมนชั่นทุกคนในกลุ่ม ให้พวกเราท่อง! เนื้อ! เพลง! ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์!’
‘เซี่ยนอวี๋เป็นพ่อเพลงไหมไม่รู้ แต่เป็นพ่อเนื้อเพลงแน่นอน!’
‘…’
พื้นที่แสดงความคิดเห็นบนเว็บไซต์เล่นเพลงหลักใกล้ระเบิดอยู่รอมร่อ!
หลังจากนั้นแฮชแท็ก #ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ก็พุ่งทะยานขึ้นเป็นหัวข้อร้อนแรงอันดับที่หนึ่งบนปู้ลั่ว ภายในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง!
หลังจากนั้น
แฮชแท็กซึ่งเริ่มต้นด้วยคำว่า #ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ก็ไต่อันดับขึ้นบนบล็อกในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน!
บนการจัดอันดับหัวข้อร้อนแรงบนปู้ลั่วและบล็อกถูกเพลงนี้ครอบงำเป็นที่เรียบร้อย!
ขณะเดียวกัน ด้วยความน่าทึ่งของเนื้อเพลง เพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ก็แผ่ขยายไปทั่วทั้งโมเมนต์ของบรรดาเยาวชนผู้มีใจรักในวรรณกรรม
‘เนื้อเพลงที่โหดที่สุดในวงการดนตรีได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!’
‘ถ้าบลูสตาร์มีคำว่าพ่อเนื้อเพลง เซี่ยนอวี๋ก็คงจะเป็นคนนั้น’
‘พ่อเพลงอวี๋ ดึกดื่นป่านนี้ ท่านไม่คิดจะให้นักเขียนเนื้อเพลงได้นอนกันบ้างหรือ?’
‘เซี่ยนอวี๋ เทพตลอดกาล!’
‘มหาสงครามเทพเซียนอะไรล่ะ ดูเซี่ยนอวี๋แค่เขียนเนื้อเพลงก็สร้างโลกได้เลยมากกว่ามั้ง!’
‘…’
ไม่เพียงผู้คนทั่วไปที่เป็นเช่นนี้ ในแวดวงนักเขียนเพลงก็ไม่ได้ตกใจกับการถือกำเนิดขึ้นของเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์น้อยไปกว่ากันเลย ปฏิกิริยาของพวกเขาถึงขั้นตื่นตะลึงกว่าหนีหงอู่เสียอีก!
‘นี่มันไม่ใช่เนื้อเพลงแล้ว นี่มันศิลปะชัดๆ!’
นักเขียนเนื้อเพลงชื่อดังซึ่งเคยอภิปรายประเด็นการเขียนเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋อย่างทู่เอ้อร์ ก็โพสต์แสดงความคิดเห็นในทันที
ความตกตะลึงของเขาเกินกว่าจะบรรยายได้
‘เมื่อได้ฟังเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ปฏิกิริยาแรกของผมก็คือเนื้อเพลงเช่นนี้ จำเป็นต้องมีทำนองจริงหรือ? จนกระทั่งผมได้ฟังเป็นครั้งที่สอง ถึงได้มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเพลงนี้ไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดผ่านทำนองด้วยซ้ำ ต่อให้มีเพียงบทกวีเปล่าๆ ก็จัดอยู่ในระดับงานศิลปะ นี่เป็นครั้งแรกที่ประเมินเนื้อเพลงให้อยู่สูงถึงระดับงานศิลปะ และคงจะเป็นเพียงครั้งเดียว’
ไม่เพียงทู่เอ้อร์
นักเขียนเนื้อเพลงซึ่งมีฝีมือระดับใกล้เคียงกันอีกไม่น้อยในวงการ แม้แต่นักเขียนเนื้อเพลงซึ่งอยู่ระดับเดียวกับหนีหงอู่ก็ตื่นตกใจเช่นกัน ไม่มีใครสามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเผชิญกับเนื้อเพลงเช่นนี้
[เต้าเหิงเซิง]
‘เปรียบเทียบเรื่องอื่นผมไม่กล้าเปรียบเทียบ ถึงยังไงก็ไม่ใช่ศาสตร์ที่ผมถนัด แต่ถ้าเปรียบเทียบเรื่องเนื้อเพลง เพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์นั้นล้างบาง รวมไปถึงเนื้อเพลงครั้งนี้ของหนีหงอู่ และผลงานที่เพิ่งปล่อยไปและผลงานทั้งหมดของตัวผมเอง หวังว่าทุกคนคงเลิกเอาแต่พูดว่าเซี่ยนอวี๋เป็นนักประพันธ์เพลง เพราะขณะเดียวกันเขาก็เป็นนักเขียนเนื้อเพลงมือฉมังอีกด้วย’
นักเขียนเนื้อเพลง [สุยเหอ] โพสต์บนบัญชีผู้ใช้ของตน ‘เนื้อเพลงของหนีหงอู่ในครั้งนี้แตะถึงจุดสูงสุดของความสามารถเธอแล้ว เดิมทีฉันก็ชื่นชอบมาก แต่เมื่อเห็นเนื้อเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ฉันถึงได้เข้าใจว่าความคิดของตัวเองมันน่าขันขนาดไหน ถ้าฉันเขียนเนื้อเพลงแบบนี้ออกมาได้สักครั้ง ชั่วชีวิตนี้คงไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว’
นักเขียนเนื้อเพลง [เติ่งกั๋ว] แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา ‘ให้สุยเหอเขียนเนื้อเพลงแบบนี้ สุยเหอชั่วชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้เสียใจ ถ้าผมเขียนเนื้อเพลงแบบนี้ออกมา ให้ผมตายตอนนี้ก็ยังได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เซี่ยนอวี๋จะกลายเป็นขุนเขาสูงตระหง่านของวงการการเขียนเนื้อเพลง’
นักเขียนเนื้อเพลง [ฮ่วนอี้] ‘วงการดนตรีสมัยนิยมแต่ไหนแต่ไรมาไม่แบ่งแยกเนื้อเพลงกับทำนอง แต่รูปแบบซึ่งเป็นที่ยอมรับคือทำนองนำเนื้อเพลง ทว่าผลงานของเซี่ยนอวี๋ในครั้งนี้คือผลงานที่เนื้อเพลงนำทำนองซึ่งหาได้ยากยิ่ง ต่อให้ทุกคนลืมทำนอง ก็จะไม่ลืมเนื้อเพลง ใครไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ รออีกสิบปีแล้วค่อยมาดูกัน’
‘…’
พรึ่บๆๆ!
หลั่งไหลกันมาเรื่อยๆ
นักเขียนเนื้อเพลงที่พอจะมีความรู้ล้วนตกตะลึง!
แม้แต่พวกเขายังแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ ถึงขนาดที่ใช้วิธีลดตนเองลงต่ำเพื่อชื่นชมเซี่ยนอวี๋ เท่านี้ยังไม่พอที่จะอธิบายความเยี่ยมยอดของเพลงนี้อีกหรือ?
งานนี้พลอยให้ชาวเน็ตช็อกยิ่งกว่าเดิมซะอีก!
‘อมก ฉันคิดว่าตัวเองประเมินเนื้อเพลงเพลงนี้สูงแล้วนะ นึกไม่ถึงว่าบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเขียนเนื้อเพลงจะอวยยิ่งกว่าฉันอีก เซี่ยนอวี๋กลายเป็นขุนเขาสูงตระหง่านในวงการการเขียนเนื้อเพลงไปแล้ว?’
‘ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคำประเมินเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋ในตอนนี้ดีกว่าคำประเมินทำนองเพลงของเขาอีกนะ’
‘ถ้าเป็นเนื้อเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ฉันคิดว่าคำวิจารณ์ของนักเขียนเนื้อเพลงเหล่านี้ถูกต้องทุกประการ’
‘บอกได้แค่ว่า เซี่ยนอวี๋โปรดรับการคารวะจากผมด้วยเถอะค้าบ’
‘ต่อให้บ้านของเซี่ยนอวี๋เป็นวิลล่า ก็จุคนที่มาคารวะไม่ได้มากถึงขนาดนั้นหรอก’
‘…’
และยามอรุณเบิกฟ้า เข้าสู่วันที่สอง
ในกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวรรณกรรมระดับสูงกลุ่มหนึ่ง มีคนส่งเนื้อเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์เข้ามา
โปรดทำความเข้าใจว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มขนาดกระจิริดที่ใช้สนทนากันเล่นๆ เพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับชีวิต
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวรรณกรรมอย่างแท้จริง สมาชิกทุกคนในกลุ่มโดยพื้นฐานแล้วเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงวรรณกรรม นอกจากนั้นยังมีบุคลากรชั้นครูซึ่งเป็นผู้เขียนและถกเถียงเกี่ยวกับวรรณกรรมร่วมสมัย
ปรากฏว่าขณะนี้ในกลุ่มดังกล่าว กำลังตื่นตกใจกับเนื้อเพลงขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์
‘ขออนุญาตสอบถาม…นี่เป็นผลงานของปรมาจารย์ท่านไหนหรือคะ’
อาจารย์ชื่อดังจากสาขาวรรณกรรมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งส่งข้อความเข้ามา
หลังจากนั้นไม่นาน ยักษ์ใหญ่คนอื่นๆ ในวงการวรรณกรรมอีกมากมายก็ค่อยๆ ปรากฏตัวในกลุ่ม…