หลี่โม่เองก็เข้าใจความหมายของหัวหน้าจาง เขาพูดตามมารยาทไม่กี่คำ จากนั้นก็บอกลากับหัวหน้าจาง หัวหน้าจางพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลี่ครับ ผมขอตัวก่อนละ ค่อยนัดเจอกันวันอื่นครับ”
“โอเค” หลี่โม่พยักหน้า เขาไม่ได้อยู่รอที่นั้นนานนัก ตอนนี้ดึกมากแล้ว เขาต้องรีบกลับไป เมื่อเขากลับไป เขาค่อยๆจับผนังย่องเข้าไป เพราะกลัวว่าจะรบกวนกู้หยุนหลันและเฉินเสี่ยวถง
“พี่หลี่โม่ นายหลบๆซ่อนๆทำอะไร” จู่ๆเสียงของเฉินเสี่ยวถงก็ดังขึ้นจากด้านหลังของหลี่โม่ มุมตามีร่องรอยการยิ้มอยู่
หลี่โม่เคาะหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจนักและพูดว่า “ทำไมเธอยังไม่นอน”
“ฉันเพิ่งออกมาจากห้องน้ำนี่ไง” เฉินเสี่ยวถงลบลิ้นใส่อย่างซุกซน
หลี่โม่ไม่ว่างที่จะเล่นกับเฉินเสี่ยวถง เขาหันหลังเข้าเดินเข้าไปในห้องของกู้หยุนหลัน เมื่อเห็นร่างกายที่สวยงามของกู้หยุนหลันแล้ว เขาก็รู้สึกสบายตามาก
เขานอนลงที่เตียง กอดกู้หยุนหลันจากด้านหลัง กู้หยุนหันพึมพำคำหนึ่ง จากนั้นก็นอนต่อ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง
หม่าติงมาที่ห้องของลี่จุนด้วยความอึดอัดอย่างมาก เมื่อลี่จุนเห็นหม่าติง ก็ทำแค่เหลือบมองทีหนึ่ง สีหน้าเย็นชาอย่างมาก “น้องชายของฉันตายได้ยังไง”
“น้องชายของนายไม่ได้ตาย เพียงแค่ถูกคนจับตัวเข้าไปแล้วเท่านั้น” หม่าติงยิ้มแห้ง เขารู้สึกว่าลี่จุนและลี่เสียงเฟยสองพี่น้องนี้ต่างก็นิสัยเหมือนกัน รับมือไม่ง่ายเลย
“หึ ขังจนตาย นี่มันต่างจากตายตรงไหนกัน?” ลี่จุนมองหม่าติงอย่างโมโห และถามกลับ
หม่าติงพูดอย่างไม่พอใจว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันละ มีปัญญานายก็ไปหาคนที่จับน้องชายนายไปสิ”
“เขาอยู่ที่ไหน”
ลี่จุนตบโต๊ะทีหนึ่ง โต๊ะส่งเสียงดังเพล้งออกมา จากนั้นก็แตกละเอียด หม่าติงอึ้งไป เขากลืนน้ำลายทีหนึ่ง พูดกลับไปกลับมาว่า “ฉันสามารถพานายไปได้”
“พาฉันไปเดี๋ยวนี้” ลี่จุนพูดเสียงเย็นชา เขาอดใจรอที่จะแก้แค้นให้น้องชายไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เขาเดินออกมาจากความเสียใจได้แล้ว ในตัวเต็มไปด้วยความอาฆาต
เมื่อหม่าติงรู้สึกถึงความอาฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย ก็ตัวสั่นขึ้นมา ความอาฆาตของอีกฝ่าย ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก น่ากลัวมาก ป้องกันได้ยากจริงๆ
“เอาอย่างนี้ พวกเราแยกย้ายกันจัดการ นายไปลอบฆ่ามัน ฉันไปจับตัวกู้หยุนหลัน” หม่าติงพูดเสียงเบา
“ตามใจนาย ฉันแค่อยากจะแก้แค้น” ลี่จุนโบกมืออย่างรำคาญ ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ
หม่าติงไม่พอใจ เขาเองก็ไม่ไปยุ่งกับอีกฝ่าย ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะสำเร็จมั้ย อย่างน้อยจับตัวกู้หยุนหลันได้ ก็ยังมีโอกาสในการต่อรอง
ในตอนนี้เอง หลี่โม่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น เขาหลบตัวอย่างรู้ทัน ขณะเดียวกันก็อุดหูของกู้หยุนหลันไว้ ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายตกใจตื่นจากการนอนหลับ
เพราะเสียงแบบนี้ดังขึ้นในความฝัน สามารถทิ้งความทรงจำที่หนักหนาไว้ได้ กู้หยุนหลันค่อยๆตื่นขึ้น เธอนวดขมับแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“มีคนยิงปืนมา เธอหาที่หลบก่อน” หลี่โม่พูด เขาไม่ได้ล้อเล่นกับกู้หยุนหลัน ในเวลานี้ เขาจะต้องใจเย็น
กู้หยุนหลันเชื่อจริงๆ จึงได้รีบร้อนใส่เสื้อผ้า หลี่โม่วิเคราะห์จากเสียงปืน ก็หาตำแหน่งที่ศัตรูหลบซ่อนเจอ
ลี่จุนที่หลบซ่อนตัวยิงปืนสบถด่าว่า “ให้ตายเถอะ ล้มเหลวตั้งแต่ครั้งแรกเลย”
เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย แต่ใครจะไปรู้ว่ากลับได้ยิงแค่อากาศ นี่ทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมาก เขาทนไม่ได้จึงเริ่มด่าออกมา ผลลัพธ์นี้ไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้เลย
เขาเปิดศูนย์เล็งอีกครั้ง แต่กลับหาตัวหลี่โม่ไม่เจอ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หรือว่าอีกฝ่ายซ่อนตัวแล้ว? ในตอนที่เขาเตรียมจะโยนปืนทิ้ง เขาก็เห็นเงาดำอย่างหนึ่งกำลังตรงมาทางเขา ความเร็วนั้นเหมือนกับว่าเป็นเสือชีตาร์ ทำเอาคนจับตัวไม่ได้
เมื่อจ้องไปหลายวินาทีแล้ว ลี่จุนถึงได้พบว่านี่คือคนคนหนึ่ง เขาถึงกับตกใจไปหมด เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนวิ่งได้เร็วมากขนาดนี้ เร็วจนแทบจะทะลุสถิติโลกแล้ว
เขากัดฟันแน่น เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนสามารถหลบกระสุนได้ แต่ว่าในวันนี้ หลี่โม่กลับทำได้ อีกฝ่ายไม่เพียงแต่สามารถหลบกระสุนเป็นสิบนัดได้ แล้วยังค่อยๆพุ่งเข้ามาหาเขาอีกด้วย
ลี่จุนสีหน้าตกใจ ในตอนนี้เขาไม่นั่งรอเฉยๆ รีบทิ้งปืน แล้วหยิบเอามีดพกเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เขายิ้มชั่วร้ายออกมาและพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าน้องชายของฉันถูกนายจับไป ใช่มั้ย?”
“นั่นเป็นเพราะน้องชายของนายหาเรื่องตายเอง มาหาเรื่องใส่ตัวแล้วถูกจับก็ปกติ ทำเรื่องเลวอยู่ตลอดก็ยากที่จะไม่โดนจับ” หลี่โม่พูดนิ่งๆ
“ถุย น้องชายฉันถูกจับ ก็ไม่มีทางถูกไอ้ไก่อ่อนอย่างแกจับหรอก” ลี่จุนรีบตะคอกพูดแทรกออกไป ถ้าหากว่าน้องชายถูกยอดฝีมือจับไป เขายังทำใจยอมรับได้
เขาดูภายนอกของหลี่โม่แล้วไม่ใช่ยอดฝีมือ เขาจึงตัดสินว่าหลี่โม่นั้นเป็นไอ้ไก่อ่อน ดังนั้นจึงไม่สนใจใส่ใจหลี่โม่
หลี่โม่หาวออกมา “ในเมื่อนายอยากสู้กับฉันมากขนาดนี้ งั้นก็เข้ามาเลย ฉันเล่นด้วยเสมอ”
เมื่อฟังถึงนี่แล้ว อย่าได้พูดถึงเลยว่าลี่จุนนั้นโมโหมากแค่ไหน เขาเหวี่ยงมีดพก แล้วทำการโจมตีหลี่โม่ไม่หยุด เผชิญหน้ากับการโจมตีของลี่จุน หลี่โม่ทำเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ
“การโจมตีนี้ของนาย สำหรับฉันแล้ว ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด” หลี่โม่เบะปากพูด
การป้องกันทางจิตวิทยาของลี่จุนนั้นอ่อนไหว ไม่ชอบที่คนอื่นดูถูกเขามากที่สุด การโจมตีก็เริ่มร้อนรนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีจุดบกพร่องมากมายเต็มไปหมด
หลี่โม่ต้องการผลลัพธ์แบบนี้แหละ เขาเตะเข่าออกไปใส่ท้องน้อยของลี่จุน ลี่จุนเจ็บปวดจนสีหน้าเปลี่ยน และคุกเข่าลงกับพื้น เกือบจะสลบไปแล้ว
หลี่โม่ใช้โอกาสนี้ต่อยเข้าไปหนึ่งหมัด ลี่จุนกระเด็นออกไปกว่าสิบเมตร เขารีบลุกขึ้น แล้วล้มลุกคลุกคลานถอยหนีไปด้านหลัง ในตอนที่หลี่จุนเห็นหลี่โม่ ก็เหมือนดั่งกับว่าเห็นปีศาจ
“นายอย่าเข้ามานะ” ลี่จุนตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
หลี่โม่รู้สึกขำ เมื่อกี้อีกฝ่ายยังแข็งกร้าวไม่กลัวฟ้าดินอยู่เลย แต่ใครจะไปรู้ว่าในตอนนี้อีกฝ่ายจะใจฝ่อขนาดนี้
ลี่จุนถูกหลี่โม่ตีจนกลัวแล้ว การต่อสู้เมื่อกี้ เขาก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่ บวกกับที่เขาได้รับบาดเจ็บหนักอีกด้วย หลี่โม่พูดนิ่งๆว่า “นายเองก็เข้าไปด้านในกับน้องชายนายละกัน”
“รอเดี๋ยว ปล่อยฉันไป แล้วฉันจะบอกข้อมูลกับนายอย่างหนึ่ง” ทันใดนั้นลี่จุนยกมือขึ้น พูดอย่างร้อนรน เขารู้ว่าตอนนี้มีเพียงแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้
“ข้อมูลอะไร?” หลี่โม่ถาม เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะหาโอกาสลอบกัด เขาเห็นท่าทางความหวาดกลัวของอีกฝ่ายแล้ว เหมือนว่าจะไม่ได้โกหก
“นายติดกับล่อเสือออกจากถ้ำแล้ว คนที่ชื่อหม่าติง เขาเริ่มทำการจับตัวแฟนสาวของนายแล้ว” ลี่จุนรีบพูด
หลี่โม่คิ้วขมวดเล็กน้อย เขารีบโทรออกหาเบอร์หนึ่ง พบว่ากู้หยุนหลันไม่รับสาย เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลอกเขา