แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 936 มาเยือนถึงหน้าประตู

ตอนที่ 936 มาเยือนถึงหน้าประตู

ตอนที่​ 936 มาเยือน​ถึงหน้า​ประตู​

โย​มิ อา​ซากุ​สะโกรธจัด​ดวงตา​แทบจะ​ถลน​ออกจาก​เบ้า​ ขณะ​กำลังจะ​เอ่ยปาก​ดุด่า​แขก​ผู้​ไม่ได้​รับเชิญ​ สายตา​ก็​เห็น​ว่า​เป็น​พ่อ​อวี่​กับ​แม่อวี่​

ผู้คน​ทั้ง​ชาย​หญิง​ที่​กำลัง​สนุกสนาน​อยู่​ใน​บ้าน​ถึงกับ​ตกตะลึง​กับ​ภาพ​พ่อ​อวี่​ตบหน้า​ลูกสาว​

ทุกคน​ค่อย ๆ​ เดิน​เข้าหา​ประตู​ ก่อน​จะเบียดเสียด​กรอบประตู​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ทีละ​คน​

ขณะที่​เซียว​เจี๋ย​กำลังจะ​ออก​ไป​ หล่อน​เพียง​หัน​ศีรษะ​กลับมา​ยก​ยิ้ม​เล็กน้อย​ให้​กับ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ

พ่อ​อวี่​ได้ยิน​เสียงดนตรี​ดัง​ไป​จนถึง​ด้านนอก​ แต่​เขา​ไม่คิด​มาก่อน​ว่า​ภายในบ้าน​หลัง​นี้​จะเต็มไปด้วย​คนหนุ่มสาว​

เพราะ​สุดท้าย​แล้ว​ลูกสาว​ของ​เขา​มักจะ​เปิด​เสียงเพลง​ดังลั่น​แบบนี้​เสมอมา​

หาก​เขา​รู้​ว่า​ภายใน​ห้อง​นี้​เต็มไปด้วย​แขกเหรื่อ​ เขา​จะไม่ตบหน้า​ลูกสาว​เช่นนี้​แน่นอน​ อย่าง​น้อย​ก็​เพื่อ​รักษาหน้า​ของหล่อน​ไว้​สักหน่อย​

หลังจาก​รอ​ให้​ทุกคน​เดิน​ออก​ไป​หมด​ พ่อ​อวี่​ก็​ผลัก​ให้​โย​มิ อา​ซากุ​สะเข้ามา​ใน​บ้าน​

แม่อวี่​เอง​ก็​ติด​ตามมา​ด้วย​เช่นกัน​ หล่อน​ปิดประตู​แน่นหนา​ก่อน​จะเดินตาม​เข้ามา​ด้านใน​

พวกเขา​ล้วน​เป็น​คน​มีชื่อเสียง​และ​ฐานะ​ หน้าตา​ล้วน​เป็น​สิ่งสำคัญ​ และ​ไม่ต้องการ​ให้​คนภายนอก​ทราบ​ถึงความ​ฉาวโฉ่​ภายในบ้าน​

โย​มิ อา​ซากุ​สะตะโกน​ทันที​ “พ่อ​! พ่อ​บ้า​ไป​แล้ว​เหรอ​ ถึงได้​ตบหน้า​ฉัน​เมื่อ​เจอกัน​น่ะ​!”

ใน​ความทรงจำ​ของหล่อน​ ไม่ว่า​จะเป็น​ตน​หรือ​พี่ชาย​ ต่อให้​พวกเขา​ทำผิด​แค่​ไหน​ พ่อแม่​ก็​จะพูดคุย​และ​สั่งสอน​ทั้งสอง​อย่าง​ดี​ พวกเขา​ไม่เคย​ลงมือ​แม้สักครั้ง​

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​หล่อน​ถูก​ตบ​

โย​มิ อา​ซากุ​สะไม่เพียง​โกรธ​มาก​ที่​ถูก​ตบหน้า​ครั้งแรก​ แต่​ยัง​โกรธ​มาก​เพราะ​ถูก​ตบ​ต่อหน้า​เพื่อนฝูง​มากมาย​ หล่อน​รู้สึก​อับอายขายหน้า​จน​แทบ​แทรกแผ่นดิน​หนี​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ลูกสาว​กล้า​ตอบโต้​ พ่อ​อวี่​ก็​ตบหน้า​อีกครั้ง​ อีกครั้ง​ และ​อีกครั้ง​

แม่อวี่​ที่​เคย​ปกป้อง​ลูกสาว​มาตลอด​กลับ​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​โดย​ไม่เคลื่อนไหว​ใด​ ๆ

หล่อน​ไม่ได้​เกลี้ยกล่อม​ให้​สามีหยุด​ และ​ยัง​ไม่ได้​ปกป้อง​โย​มิ อา​ซากุ​สะด้วย​

พ่อ​อวี่​ตะโกน​ตอบ​ “ฉัน​ก็​อยาก​เป็นบ้า​เหมือนกัน​ ถ้าเป็นบ้า​ได้​ก็ดี​ จะได้​คว้า​มีด​ปาด​คอ​แก​ให้​มัน​จบ​ ๆ ไป​ซะ!”

โย​มิ อา​ซากุ​สะเห็น​พ่อ​อวี่​พูด​ออกมา​อย่างนั้น​ก็​สัมผัส​ได้​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​

หล่อน​ตอบ​ตะกุกตะกัก​ “มัน​… เกิด​อะไร​ขึ้น​คะ​?”

พ่อ​อวี่​โกรธจัด​จน​หายใจ​หอบ​หนัก​ เขา​นั่งลง​บน​โซฟาก่อน​จะหันไป​พูด​กับ​แม่อวี่​ว่า​ “คุณ​บอก​มัน​ซิ!”

เวลานี้​แม่อวี่​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​โศกเศร้า​ “ลูก​เอ๋ย​… ใคร​สั่งสอน​ให้​ทำตัว​แบบนี้​? ทำไม​ถึงกล้า​พาดพิง​คุณปู่​ฟางแบบ​เสีย​ๆ หาย​ๆ? คิด​ทำลาย​ตระกูล​อวี่​ของ​พวกเรา​งั้น​เหรอ​?”

แม่อวี่​นึกถึง​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อเช้านี้​ ขณะที่​หล่อน​กับ​สามีกำลัง​ทำงาน​อยู่​ภายใน​หน่วยงาน​ ผู้บังคับบัญชา​ก็ได้​ส่งคน​มาเรียกตัว​ไป​เพื่อ​ต่อว่า​รุนแรง​ ใน​ใจของหล่อน​เต็มไปด้วย​ความ​อับอาย​

มีคน​มาเตือน​ว่า​ถ้าพวกเขา​ไม่สั่งสอน​บุตรสาว​ที่มา​ใส่ร้าย​ผู้อาวุโส​ฟางใน​ที่สาธารณะ​ เบื้องบน​จะดำเนินการ​ขั้น​เด็ดขาด​ด้วย​ตนเอง​

ทั้ง​สามีภรรยา​คู่​นี้​หวาดกลัว​จน​ลนลาน​ พวกเขา​รีบ​สอบถาม​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​

และ​เมื่อ​พวกเขา​รู้​ว่า​เป็น​ลูกสาว​ของ​ตน​ที่​กล่าว​วาจา​โผงผาง​ พวกเขา​ถึงสอบถาม​ทุกคน​ถึงที่อยู่​ของ​ลูกสาว​ในเวลานี้​

หลังจาก​ทราบ​ตำแหน่ง​แน่ชัด​ ทั้งสอง​รีบ​ตรงดิ่ง​มาที่นี่​ทันที​

โย​มิ อา​ซากุ​สะเคยชิน​กับ​การ​มีคน​ยกยอ​จน​ลืม​เหตุการณ์​ที่​สนามบิน​ไป​หมดสิ้น​ หล่อน​ยิ่ง​กล่าว​ปฏิเสธ​อย่าง​แข็งขัน​ “ฉัน​ไม่เคย​ทำ​อย่างนั้น​! มีคน​ใส่ร้าย​ฉัน​แน่​!”

พ่อ​อวี่​ยิ่ง​โกรธ​จน​เจ็บ​หน้าอก​ ยิ่ง​โต้ตอบ​ไม่ลดละ​ “ทั้งคน​ทำความสะอาด​ เจ้าหน้าที่​รักษา​ความปลอดภัย​ที่​สนามบิน​หลาย​คน​เป็น​พยาน​ได้​ แต่​ลูก​กลับ​บอ​กว่า​ถูก​ใส่ร้าย​งั้น​เหรอ​? คน​พวก​นั้น​ไม่รู้จัก​ลูก​มาก่อน​ แล้ว​ทำไม​เขา​จะต้อง​ใส่ร้าย​ลูก​ด้วย​ล่ะ​? หลู​เจีย​ซิ่งเอง​ก็​เป็น​ลูกน้อง​ลูก​ไม่ใช่เหรอ​? หรือ​ลูก​จะบอ​กว่า​เขา​ใส่ร้าย​ลูก​ด้วย​?”

โย​มิ อา​ซากุ​สะนึกคิด​พร้อม​พึมพำ​

หล่อน​ไม่คิด​ว่า​เรื่องราว​จะใหญ่โต​ถึงขนาด​นี้​มาก่อน​

เวลานี้​พ่อ​อวี่​และ​แม่อวี่​ต่อว่า​หล่อน​รุนแรง​ และ​บอ​กว่า​ในอนาคต​ห้าม​กระทำ​เรื่อง​โง่เขลา​เช่นนี้​อีก​

โย​มิ อา​ซากุ​สะแสร้ง​พยักหน้า​รับ​อย่าง​เชื่อฟัง​

นอกเหนือจาก​การ​ที่จะ​เข้ามา​ดุด่า​ลูกสาว​คน​นี้​แล้ว​ พ่อ​อวี่​และ​แม่อวี่​ก็​ไม่มีอะไร​จะพูดคุย​กับ​หล่อน​อีกต่อไป​

สุดท้าย​เขา​ก็​จากไป​พร้อม​ถอนหายใจ​ยาว​อย่าง​หนักใจ​ เวลานี้​ใบหน้า​ของ​ทั้งสอง​เคร่งเครียด​ราวกับ​แก่​ขึ้น​กว่า​สิบ​ปี​

โย​มิ อา​ซากุ​สะลง​ไป​ส่งพ่อ​อวี่​และ​แม่อวี่​ พลาง​นั่ง​อยู่​ที่​บ้าน​พร้อม​นึก​พึมพำ​ว่า​ใคร​กัน​เป็น​คน​ฟ้อง​เรื่อง​ของหล่อน​

พวก​แทะ​เมล็ด​แตง​*ที่​ไม่รู้เรื่องราว​ที่​แท้จริง​

* พวก​สอดรู้สอดเห็น​ สนใจ​เรื่อง​ของ​คนอื่น​ แอบ​เกาะติด​สถานการณ์​หรือ​ติด​ตามเรื่อง​ชาวบ้าน​อยู่​ตลอด​ด้วย​ความอยากรู้​

คน​ระดับ​รากหญ้า​ธรรมดา​คง​ไม่มีใคร​สนใจ​ วันนั้น​ใบหน้า​ของ​นายกเทศมนตรี​ก็​ยัง​ไม่ปรากฏ​ ไม่ต้อง​กล่าวถึง​บุคคล​ที่สูง​กว่า​นั้น​เลย​

เหลือ​เพียง​นัง​สารเลว​หลิน​ม่าย​คน​นั้น​

เพราะ​หล่อน​น่าจะเป็น​คน​บอกกล่าว​กับ​คุณปู่​ฟางเกี่ยวกับ​เรื่อง​เหล่านี้​ และ​ยุยง​ให้​คุณปู่​ฟางเคลื่อนไหว​ เช่นนี้​พ่อแม่​ของหล่อน​จึงได้รับ​คำตำหนิ​จาก​เบื้องบน​

แม้ฟางจั๋วเยวี่ย​บอ​กว่า​เขา​จะจัดการ​เรื่อง​นี้​ให้​ แต่​โย​มิ อา​ซากุ​สะกลับ​ไม่คิด​อย่างนั้น​

สุดท้าย​แล้ว​ปู่ย่าตายาย​ของ​พวกเขา​ล้วนแต่​เป็น​สหาย​เก่า​ต่อกัน​

คืน​นั้น​โย​มิ อา​ซากุ​สะไม่ทำ​อะไร​ต่อ​ จนกระทั่ง​บ่าย​วัน​ต่อมา​ หล่อน​ได้​เตรียม​ของขวัญ​มากมาย​และ​คิด​ไป​ที่​บ้าน​ของ​หลิน​ม่าย​

น้า​ถูปิดประตู​และ​เห็น​ว่า​เป็น​ผู้หญิง​ที่​ตน​ไม่รู้จัก​

หญิงสาว​แต่งหน้า​แต่งตัว​สวยงาม​ ทว่า​สีหน้า​กลับ​ดุร้าย​และ​ไม่เป็นมิตร​

โดยเฉพาะ​ลิปสติก​ที่​ทา​เกิน​ขอบ​ปาก​จน​หนาเตอะ​ราวกับ​ปากหมู​นั่น​ ยิ่ง​มอง​ยิ่ง​ทำให้​อึดอัด​

แม้จะไม่ประทับใจ​ต่อ​รูปลักษณ์​ของ​หญิงสาว​ตรงหน้า​ แต่​ก็​ยัง​กล่าว​คำ​ให้​อีก​ฝ่าย​รอคอย​อย่าง​สุภาพ​

หล่อน​เดิน​เข้ามา​ถามปู่​ฟางย่า​ฟางว่า​ต้องการ​พบ​หรือไม่​ แน่นอน​ว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่ต้องการ​พบ​เจอ​ จึงบอก​กล่าวว่า​ไม่อนุญาต​

เมื่อ​เห็น​ว่า​พี่​เลี้ยงเด็ก​ตัว​น้อย​กล้าหาญ​ที่จะ​หยุด​ตน​เอาไว้​ โย​มิ อา​ซากุ​สะผลัก​น้า​ถูอย่าง​แรง​ และ​เดิน​เข้าสู่​ภายในบ้าน​อย่าง​ไร้​มารยาท​

อา​หวง​เห็น​อย่างนั้น​แล้ว​วิ่ง​เข้ามา​พร้อมกับ​เห่า​เสียงดัง​ใส่โย​มิ อา​ซากุ​สะทันที​

ประการ​แรก​คือ​บอกกล่าว​ผู้​เป็น​นาย​ว่า​มีคน​บุกรุก​ และ​ประการ​ที่สอง​คือ​สร้าง​ความตกใจ​ให้​กับ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ

แม้โย​มิ อา​ซากุ​สะไม่กลัว​น้า​ถู แต่​เธอ​ก็​ยัง​หวาดกลัว​อา​หวง​ซึ่งเป็น​สุนัข​ตัว​ใหญ่​

เวลานี้​หล่อน​หยุด​ยืน​ที่​เดิม​พร้อมกับ​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ “คุณปู่​ฟาง คุณย่า​ฟาง ฉัน​มาที่นี่​เพื่อ​พบ​พวก​ท่าน​ค่ะ​”

แน่นอน​ว่า​คุณปู่​ฟางกับ​คุณย่า​ฟางรับรู้​ได้​จาก​เสียง​เห่า​ของ​อา​หวง​แล้ว​

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ตะโกน​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะ คู่สามีภรรยา​สูงวัย​เดิน​ออกมา​พร้อมกับ​หลิน​ม่าย​ที่​กลับ​มาถึงบ้าน​หลังจาก​เลิกเรียน​ช่วง​บ่าย​

คุณปู่​ฟาง คุณย่า​ฟาง และ​คนอื่น​ ๆ ไม่ได้​พบ​เจอ​กับ​โย​มิ อา​ซากุ​สะนาน​แล้ว​

ครั้งสุดท้าย​ที่​ได้​พบ​กับ​โย​มิ อา​ซากุ​สะคือ​ช่วง​สิบสอง​หรือ​สิบ​สามปี​ และ​เวลานี้​หล่อน​อายุ​ยี่สิบ​ปี​แล้ว​

การเปลี่ยนแปลง​นับ​สิบ​ปี​ที่ผ่านมา​ ทำให้​คุณปู่​ฟางและ​คุณย่า​ฟางไม่สามารถ​จดจำ​โย​มิ อา​ซากุ​สะได้​ในทันที​

คุณย่า​ฟางกล่าวถาม​ “เธอ​เป็น​ลูกสาว​บ้าน​ไหน​เหรอ​จ๊ะ?”

เวลานี้​โย​มิ อา​ซากุ​สะเดิน​เข้าไป​พร้อมกับ​ผลัก​หลิน​ม่าย​ออก​ด้วย​ร่างกาย​ที่​ใหญ่โต​กว่า​ ก่อน​จะยื่น​ของขวัญ​ที่​หล่อน​เตรียม​ไว้​ให้​กับ​อีก​ฝ่าย​

ก่อน​จะคว้า​แขน​ของ​คุณย่า​ฟางอย่าง​สนิทสนม​แล้ว​กล่าว​น้ำเสียง​อ่อนหวาน​ว่า​ “คุณ​ยา​ฟาง ฉัน​ชื่อ​โย​มิ อา​ซากุ​สะจาก​ครอบครัว​คุณปู่​อวี่​ค่ะ​ ฉัน​สวย​กว่า​ตอน​เด็ก​ ๆ ไหม​คะ​?”

เวลานี้​คุณปู่​ฟางจดจำ​หล่อน​ได้​ทันที​ เขา​ขมวดคิ้ว​ก่อน​จะถามว่า​ “ปู่​อวี่​ตั้งชื่อ​เธอ​ว่า​อวี่กั๋วหง​ไม่ใช่เหรอ​ ทำไม​ถึงเรียก​ตัวเอง​ด้วย​ชื่อ​นี้​ล่ะ​? มัน​น่าเกลียด​มาก​ รีบ​เปลี่ยน​เร็ว​เข้า​!”

คุณปู่​ฟางอายุ​มาก​แล้ว​ และ​เมื่อ​ได้ยิน​คำ​ว่า​อา​ซากุ​สะ เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่เหมาะสม​ ทำให้​ใบหน้า​ของ​เขา​บิดเบี้ยว​เล็กน้อย​

สีหน้า​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะแข็งทื่อ​ทันที​

เวลา​นั้น​เอง​ น้า​ถูวิ่ง​เข้ามา​หาคุณย่า​ฟางก่อน​จะพูดว่า​ “ฉัน​บอก​ให้​สหาย​ตัว​น้อย​รอ​ที่​ประตู​ แต่​หล่อน​ผลัก​ฉัน​และ​เดิน​เข้ามา​เอง​ค่ะ​”

โย​มิ อา​ซากุ​สะรีบ​ฟ้อง​ “คุณปู่​ฟางคะ​ ครอบครัว​ของ​คุณ​จ้างพี่เลี้ยง​มาจาก​ที่ไหน​เหรอ​คะ​? ทำไม​ถึงกล้า​ให้​ฉัน​ยืน​รอ​ข้างนอก​แบบ​นั้น​!”

คุณย่า​ฟางดึง​มือ​อีก​ฝ่าย​ที่​กำลัง​เกาะ​แขน​ของ​ตน​พร้อม​จะพูด​อย่าง​เย็นชา​ “นี่​คือ​กฎ​ของ​พวกเรา​ ใครก็ตาม​ที่มา​พบ​จะต้อง​ได้รับอนุญาต​ก่อน​ ถ้าพวกเรา​อยาก​พบ​ก็​จะได้​รับเชิญ​ แต่​ถ้าพวกเรา​ไม่ต้องการ​ก็​จะไม่ได้​รับเชิญ​เข้ามา​ ครั้งนี้​เธอ​บุกรุก​เข้ามา​โดยที่​พวกเรา​ยัง​ไม่อนุญาต​ เรา​จะไม่เอา​ความ​อะไร​ แต่​ถ้ามีครั้ง​ต่อไป​ พวกเรา​จะไม่สุภาพ​เช่นนี้​แน่นอน​!”

โย​มิ อา​ซากุ​สะกล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เบื่อหน่าย​ “ฉัน​เป็น​หลานสาว​ของ​คุณปู่​อวี่​ที่​เป็น​สหาย​เก่า​ของ​คุณปู่​ฟาง เป็น​หลานสาว​คนเดียว​ด้วย​นะคะ​”

คุณปู่​ฟางจ้อง​หล่อน​อย่าง​หงุดหงิด​ “ไม่ว่า​เธอ​จะเป็น​ใครก็ตาม​มัน​ไม่สำคัญ​ ถึงคุณปู่​ของ​เธอ​จะล่วงลับ​ไป​แล้ว​ แต่​เธอ​ก็​ต้อง​ปฏิบัติตาม​กฎ​ของ​ครอบครัว​ฉัน​!”

หาก​เป็น​คุณปู่​อวี่​ที่มา​เยือน​โดย​ไม่ได้​บอก​ล่วงหน้า​ แน่นอน​ว่า​เขา​สามารถ​เข้ามา​ได้​ทันที​

เพราะ​ความสัมพันธ์​ของ​คุณปู่​ฟางและ​คุณปู่​อวี่​ค่อนข้าง​ดีมาก​ในเวลานั้น​

แต่​หลังจาก​คุณปู่​อวี่​จากไป​ พวกเขา​ได้​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เจียง​เฉิง ก่อนที่​ทั้งสอง​ครอบครัว​จะขาดการติดต่อ​

คุณปู่​ฟางพูด​อย่างนั้น​ก็​เพียง​ต้องการ​ลด​ทิฐิ​ใน​ตัว​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะเท่านั้น​

ทั้ง​กลุ่ม​เข้ามา​ใน​บ้าน​และ​นั่งลง​บน​โซฟา

น้า​ถูเห็น​โย​มิ อา​ซากุ​สะแต่ง​ตัวดี​ หล่อน​จึงชงกาแฟ​มาเสิร์ฟ​

คุณย่า​ฟางถามโย​มิ อา​ซากุ​สะด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ “แล้ว​วันนี้​มาหา​พวกเรา​ถึงประตู​ มีอะไร​หรือเปล่า​?”

โย​มิ อา​ซากุ​สะเติบโต​ใน​สภาพแวดล้อม​ที่​ดี​ นับตั้งแต่​หล่อน​ยัง​เด็ก​ ก็​มีเพียง​คน​คอย​สนับสนุน​และ​ดูแล​หล่อน​เสมอ​ แต่​ไม่เคย​คิด​จะใส่ใจผู้อื่น​แต่อย่างใด​

ดังนั้น​หล่อน​จึงกลายเป็น​คน​โผงผาง​ไร้​กาลเทศะ​

แต่​หล่อน​กลับ​คิด​ว่า​ตนเอง​ฉลาด​และ​มาก​ด้วย​เล่ห์เหลี่ยม​

อีก​ทั้ง​เวลานี้​หล่อน​กำลัง​เล่นกล​กับ​บุคคล​ตรงหน้า​

หล่อน​ชำเลือง​มอง​หลิน​ม่าย​อย่าง​ตั้งใจ​ก่อน​จะพูดว่า​ “ฉัน​… ฉัน​ไม่กล้า​พูด​…”

ทันทีที่​โย​มิ อา​ซากุ​สะเข้ามา​ใน​ลานบ้าน​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​ถึงเจตนาร้าย​ของ​อีก​ฝ่าย​ทันที​

มัน​ไม่มีเรื่อง​อื่น​ใด​นอก​เสีย​จาก​หล่อน​ใส่ร้าย​คุณปู่​ฟางที่​สนามบิน​ และ​มัน​ทำให้​หลิน​ม่าย​ไม่พอใจ​

หลิน​ม่าย​เป็น​คน​ที่​เพิกเฉย​ได้​หาก​บุคคลภายนอก​รังแก​ตน​ เธอ​สามารถ​อดทน​ได้​

แต่​เธอ​ไม่ต้องการ​ให้​ใคร​มารังแก​ครอบครัว​ของ​ตน​เด้​ด​ขาด​ เพราะ​แค้น​นี้​เธอ​จะเก็บรักษา​ไว้​ตลอดชีวิต​

ยิ่งไปกว่านั้น​ เมื่อ​โย​มิ อา​ซากุ​สะยัง​ทำตัว​เป็น​แม่ดอกบัว​ขาว​ต่อหน้า​ เธอ​ยิ่ง​ไม่สามารถ​อดทน​ได้​

เธอ​ไม่ถูกชะตา​กับ​แม่ดอกบัว​ขาว​คน​นี้​เลย​

หลิน​ม่าย​กล่าว​ลอย ๆ​ ขึ้น​มา “ไม่กล้า​พูด​งั้น​เหรอ​? มาที่นี่​เพื่อ​จะแก้ต่าง​ให้​ตัวเอง​ไม่ใช่หรือไง​? อย่า​บอก​นะ​ว่า​เธอ​จะมาที่นี่​เพื่อ​จะมาหา​ปู่ย่า​ของ​ฉัน​? ทั้ง​เธอ​และ​ครอบครัว​ของ​คุณ​ไม่ได้​ส่งคำ​อวยพร​ปีใหม่​ให้​กับ​ปู่ย่า​ของ​ฉัน​ด้วยซ้ำ​ แต่​ตอนนี้​กลับ​คิด​มาเยี่ยม​งั้น​เหรอ​?”

โย​มิ อา​ซากุ​สะมีใบหน้า​แดงก่ำ​ แต่​หล่อน​เป็น​คน​ที่​เปลี่ยน​เรื่อง​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​เช่นกัน​ “ถ้าเธอ​บังคับ​ให้​ฉัน​พูด​ ฉัน​ก็​จะพูด​”

คุณย่า​ฟางกลับ​สงสัย​เมื่อ​ได้ยิน​อย่างนั้น​ “ทำไม​ม่าย​จื่อ​ถึงต้อง​บังคับ​เธอ​ด้วย​ล่ะ​? หล่อน​เอา​เตารีด​นาบ​หน้า​เธอ​ เอา​ตอก​ไม้ไผ่​ตอก​เล็บ​เธอ​ หรือ​เอา​น้ำพริก​ราด​เธอ​หรือ​อย่างไร​?”

โย​มิ อา​ซากุ​สะถูก​คุณย่า​ฟางพูด​ใส่อย่างนั้น​ ใบหน้า​ของหล่อน​กลายเป็น​สีม่วง​ทันที​

คุณย่า​ฟางยังคง​ไม่ยอม​ปล่อย​หล่อน​ไป​ “ทำไม​จิตใจ​ของ​เธอ​ถึงคับแคบ​นัก​ นี่​ก็​ผ่าน​มาหลาย​ปี​แล้ว​ ยัง​จะพูด​เรื่อง​น่ารำคาญ​แบบนี้​อีก​เหรอ​!”

โย​มิ อา​ซากุ​สะโกรธ​มาก​ แต่​ก๋​ไม่สามารถ​ดุด่า​คุณย่า​ฟางและ​คุณปู่​ฟางได้​ เพราะ​อีก​ฝ่าย​แก่​ชรา​แล้ว​ยัง​เป็น​อาวุโส​ เวลานี้​มีเพียง​รอยยิ้ม​อย่าง​สำนึกผิด​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​

หลิน​ม่าย​พูด​ออก​ไป​อย่าง​เย็นชา​ “อยาก​จะพูด​อะไร​ก็​รีบ​พูด​เร็ว​เข้า​ หลังจาก​สามีของ​ฉัน​กลับมา​แล้ว​ อาหารเย็น​จะเสิร์ฟ​ขึ้นโต๊ะ​ และ​คุณ​ควรจะ​ออก​ไป​เสีย​ เรา​จะไม่คุย​กัน​เรื่อง​นี้​อีก​”

ความหมาย​ก็​คือ​จะไม่เชิญหล่อน​ร่วม​รับประทาน​มื้อ​เย็น​

ใบหน้า​ของ​โย​มิ อา​ซากุ​สะถึงกับ​ชาโดย​สมบูรณ์​

………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

มาแบบ​ไม่มีมารยาท​เลย​ คิด​ว่า​สูงส่งมาจาก​ไห​นคะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

Status: Ongoing

หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท