ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 1071 เคราะห์กรรมของผู้สร้างมรรคา

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1071 เคราะห์กรรมของผู้สร้างมรรคา

หานเจวี๋ยมองเห็นว่าในหมู่มารร้ายมากมายไร้สิ้นสุดที่ติดตามอยู่ด้านหลังของยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลมีเงาร่างที่คุ้นเคยรวมอยู่ด้วย

ดวงจิตประหลาด!

เจ้าตัวประหลาดที่มีต้นกำเนิดมาจากสิ่งอัปมงคลเติบโตขึ้นตามวันเวลา แต่ก่อนก็เคยต่อสู้กับหานฮวงไปยกหนึ่งด้วย ตอนนี้มาปะปนอยู่ในหมู่มารร้าย ดูเหมือนจะแทรกซึมได้ไม่เลวเสียด้วย

ได้โอกาสสอดส่องยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลผ่านดวงจิตประหลาดพอดี

วิญญาณของหานเจวี๋ยและดวงจิตประหลาดผสานเป็นหนึ่งเดียวกันมานานแล้ว ยิ่งเขาแข็งแกร่งเท่าไร ดวงจิตประหลาดก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น แต่กลับกันที่ดวงจิตประหลาดไม่มีวันเหนือไปกว่าเขาได้ นี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้เขากล้าเลี้ยงดวงจิตประหลาดแบบปล่อย มีเขาอยู่ดวงจิตประหลาดไม่มีทางก่อเรื่องได้

หานเจวี๋ยเข้าฝันดวงจิตประหลาดทันที

แดนความฝันคืออารามเต๋า

เมื่อดวงจิตประหลาดเห็นหานเจวี๋ยก็ผงะไปเล็กน้อย รีบเดินเข้าใกล้แล้วก้มหัวค้อมตัว ปราศจากท่าทางดุดันเช่นในยามปกติ

หานเจวี๋ยถาม “เหตุใดเจ้าถึงไปอยู่กับเหล่ามารร้ายได้”

เดิมทีดวงจิตประหลาดเป็นตัวตนที่ไม่มีสิ่งใดมองเห็นได้เช่นเดียวกับวิญญาณ ไม่อาจสอดส่องได้ทว่ามีพลังในการโจมตี ตอนนี้ดวงจิตประหลาดปรากฏร่างได้แล้ว ทว่ากลับทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

ไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

“ข้าอยากกินพวกมัน ข้ารู้ว่าพลังของพวกมันแข็งแกร่งมาก” ดวงจิตประหลาดหัวเราะฮี่ๆ

หานเจวี๋ยเอ่ยเตือน “ระวังหน่อย ตัวตนที่อยู่เบื้องหลังพวกมันไม่ธรรมดาเลย”

ดวงจิตประหลาดเดินเข้ามานวดไหล่ให้หานเจวี๋ย ยิ้มแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าประจบเอาใจ “เช่นนั้นหากเกิดเรื่องขึ้น นายท่านต้องคุ้มครองข้าด้วยนะขอรับ”

“ข้าคุ้มครองไม่ไหว”

“เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร อย่างมากก็แค่ตายเท่านั้น ถึงอย่างไรท่านก็คืนชีพให้ข้าได้ อีกอย่างหากว่าข้าทำสำเร็จก็นับว่าสร้างคุณูปการต่อฟ้าบุพกาลเช่นกัน”

ดวงจิตประหลาดเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ให้ความรู้สึกเจ้าเล่ห์แสนกลนัก

ไม่ได้น่ารักน่าเอ็นดูเหมือนสมัยที่พูดไม่ได้แล้ว เจ้าสิ่งนี้ไปดูดซับอะไรมากันแน่ไฉนจึงลื่นเป็นปลาไหลเช่นนี้

ดวงจิตประหลาดฉอเลาะหานเจวี๋ยต่อไป ประจบเอาใจอย่างบ้าคลั่ง นับตั้งแต่เขาจากมานี่เป็นครั้งแรกที่หานเจวี๋ยมาเข้าฝันเขา สถานการณ์นี้ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่ง

ผ่านไปนานพักใหญ่

หลังจากดวงจิตประหลาดคุยฟุ้งไร้สาระเป็นกระบุงจบ หานเจวี๋ยเอ่ยกำชับอีกเล็กน้อยก็สิ้นสุดแดนความฝันลง

‘แม้แต่สิ่งที่แปรสภาพมาจากจิตมารของเจ้านวฟ้าบุพกาลก็ยังกล้ากลืนกิน เจ้าสิ่งนี้ช่างขวัญกล้ามากจริงๆ คุณสมบัติก็ยอดเยี่ยม’

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็เปี่ยมความสนใจในสิ่งอัปมงคลขึ้นมา

สรุปแล้วสิ่งอัปมงคลที่เวียนว่ายอยู่ในฟ้าบุพกาลวิวัฒนาการได้ด้วยเงื่อนไขใดกันแน่ แล้วดวงจิตประหลาดที่กลืนกินสิ่งอัปมงคลเป็นอาหารเล่าก่อกำเนิดขึ้นได้อย่างไร

เป็นถึงผู้สร้างมรรคาแล้ว แต่หานเจวี๋ยก็ยังไม่อาจเข้าใจอย่างสมบูรณ์ได้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติของฟ้าบุพกาล

ถึงกระนั้นแล้ว อันที่จริงสิ่งอัปมงคลและมารร้ายที่ออกอาละวาดในฟ้าบุพกาลล้วนมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน เพียงแต่สิ่งอัปมงคลต้องอาศัยวิวัฒนาการขึ้นจากวิญญาณสิ่งมีชีวิต แต่มารร้ายถือกำเนิดขึ้นโดยตรง

หานเจวี๋ยสอดส่องดินแดนเวิ้งว้างอีกครั้ง

โลกมหามรรคเลือนพิสุทธิ์ของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เข้าใกล้ฟ้าบุพกาลมาทุกทีแล้ว ผู้สร้างมรรคารายนี้เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งมาก โลกมหามรรคของเขาก็เช่นกัน การมาถึงของเขาต้องเปลี่ยนแปลงรูปการณ์ของฟ้าบุพกาลได้แน่นอน

หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูจดหมาย

เป้าหมายที่เขาให้ความสนใจคือซูฉี

[ซูฉีศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญพ้นนิวรณ์] x1920098

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายโชคร้าย ทำให้สำนักเต๋าแห่งหนึ่งล่มสลาย]

[หานฮวงบุตรชายของท่านเผชิญกับการเข้าฝันจากหวงจุนเทียนสหายของท่าน วิญญาณได้รับความเสียหาย]

[เจ้านวฟ้าบุพกาลศัตรูคู่อาฆาตของท่านขจัดจิตมาร สร้างร่างแยกขึ้น ดวงชะตาลดฮวบ]

[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายโชคร้าย ทำให้มหามรรคสามพันวิถีได้รับความเสียหาย]

[หวงจุนเทียนสหายของท่านถูกริบอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค วิญญาณได้รับความเสียหาย]

….

[เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากตัวตนเหนือชั้น]

[ดวงจิตประหลาดสหายของท่านกลืนกินมารร้ายฟ้าบุพกาล ตบะเพิ่มพูน]

….

โชคร้ายของซูฉียังคงทรงพลังเช่นเดียวกับในอดีต ช่วงหลายล้านปีที่ผ่านมาตบะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บรรลุยอดมหามรรคแล้วสามารถสั่นคลอนมหามรรคสามพันวิถีได้ก็มิใช่เรื่องที่เข้าใจได้ยากเลย

กลับเป็นเจ้านวฟ้าบุพกาลที่ไม่น่าเชื่อว่าจะนำจิตมารมาสร้างร่างแยก นี่ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง

ยังเกิดเหตุการณ์ผู้สร้างมรรคาต่อสู้กันขึ้นมาด้วย

ไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นผู้ใดที่รังแกเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลได้

หลังจากหานเจวี๋ยอ่านจดหมายเสร็จก็สรุปผลดูเล็กน้อย ถึงแม้จะเกิดมรสุมขึ้นอย่างต่อเนื่องสถานการณ์เปลี่ยนแปลงผันผวนแต่ก็ไม่กระทบถึงการฝึกบำเพ็ญของเขา

ขณะที่เขากำลังจะหลับตาเริ่มฝึกบำเพ็ญ จู่ๆ ก็รับรู้ถึงอะไรบางอย่างได้ เขาเลือนหายไปจากอาณาเขตเต๋าทันที

เขามายังห้วงมิติลึกลับที่เหล่าผู้สร้างมรรคาจะมาพบกัน

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล มหาเทวาพ้นนิวรณ์และมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญล้วนอยู่พร้อมหน้า

หรือว่าตัวตนลึกลับที่โจมตีเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลจะเป็นจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์

“เกิดเรื่องเลวร้ายครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว เขาถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งจนเกิดจิตมารขึ้นจริงๆ เขาตัดแยกจิตมารออกมาแล้ว ตอนนี้จิตมารอยู่ระหว่างการฟูมฟัก นี่จะกลายเป็นหายนะ”

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยเสียงเครียด

มหาเทวาพ้นนิวรณ์ถามด้วยความแปลกใจ “แล้วเขาล่ะ เหตุใดไม่ยับยั้งไว้”

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยว่า “เหตุการณ์ครานี้ผลาญพลังเขาไปมหาศาลนัก เขาเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว ส่วนจิตมารก็อยู่ระหว่างฟูมฟัก เขาสั่งการข้ามาว่าในระหว่างที่เขานิทราอยู่ หากว่าจิตมารตื่นขึ้นมาพวกเราจะต้องสกัดเอาไว้”

มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเอ่ยเสียงขรึม “เช่นนั้นจิตมารมีพลังระดับใด”

“สามารถทำให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทราได้ เกรงว่า…ดังนั้นพวกเราจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันแล้ว”

หานเจวี๋ยไม่ได้ปริปากเลย รับฟังอย่างสงบ

‘ข้าสามารถสังหารจิตมารของเจ้านวฟ้าบุพกาลในเสี้ยววินาทีได้หรือไม่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าร้อยล้านล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

อายุขัยครึ่งหนึ่งของเจ้านวฟ้าบุพกาล!

ดำเนินการต่อ!

[ไม่ได้]

หานเจวี๋ยพลันรู้สึกหนักใจ

‘เช่นนั้นจิตมารของเจ้านวฟ้าบุพกาลสามารถสังหารข้าได้หรือไม่’

[ไม่ได้]

เช่นนั้นก็ดี

หานเจวี๋ยโล่งใจอีกครั้ง

ด้วยค่าตัวระดับนี้ ต่อให้ผู้สร้างมรรคาเหล่านี้ร่วมมือกันก็มิใช่คู่ต่อสู้ของจิตมารเจ้านวฟ้าบุพกาลเลย

“ข้ารู้สึกว่าผิดปกติ” จู่ๆ มหาเทวาพ้นนิวรณ์ก็เอ่ยขึ้นมา

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลและมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเงียบไป

หานเจวี๋ยก็รู้สึกว่าผิดปกติเช่นกัน

เจ้านวฟ้าบุพกาลแข็งแกร่งระดับใดแล้ว ไหนเลยจะมีสภาพเช่นนี้ได้เพราะจิตมารจิตหนึ่ง

หรือว่า…

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยเสียงแผ่ว “เขาช่างมีคุณธรรมนัก มอบกฎเกณฑ์ที่ตนสร้างสมบูรณ์แล้วให้พวกเรา ทว่ากลับทำให้ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีเพียงวิธีนี้ที่จะแก้ไขปัญหาให้เขาได้”

หานเจวี๋ยเข้าใจความหมายของเขา ถึงแม้เจ้านวฟ้าบุพกาลจะไร้พ่าย ทว่าชอบคุยด้วยเหตุผล ไม่เคยพาลระรานชนรุ่นหลัง นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนรุ่นหลังอย่างพวกเขาผงาดขึ้นมาได้ มองจากมุมนี้เห็นได้ว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลมีจิตเมตตาและมีหลักการ

ยามนี้เจ้านวฟ้าบุพกาลถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการคุกคาม เขารู้สึกไม่ปลอดภัยต้องการกำจัดภัยให้สิ้นซาก แต่กลับไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

หากเปลี่ยนให้คนอื่นไปยืนในจุดเดียวกับเขา เช่นนั้นก็คงยินยอมสังหารผิดแต่ไม่มีทางยอมปล่อยให้รอดไปได้อย่างแน่นอน

แต่เจ้านวฟ้าบุพกาลมิได้คิดเช่นนี้ ถึงได้สร้างร่างแยกขึ้นแล้วให้ไปจัดการแทน

“ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ทำได้เพียงเตรียมการรับมือ นี่อาจจะเป็นเคราะห์กรรมของพวกเราก็ได้ ต้องแจ้งเรื่องนี้ต่อจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ด้วย พวกเราจำเป็นต้องผนึกกำลังกัน!” มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเอ่ยเสียงเย็น

ในเมื่อหนีไม่พ้นแล้วไยต้องคาดเดาไปอีก พวกเขาจำเป็นต้องเผชิญหน้า

“เช่นนั้นจิตมารอยู่ที่ใด”

จู่ๆ หานเจวี๋ยก็ถามขึ้นมา

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยว่า “ก็คือยอดมารร้ายฟ้าบุพกาลที่อาละวาดอยู่ในฟ้าบุพกาล ยอดมารร้ายเป็นเพียงเปลือกห่อหุ้ม จิตมารที่แท้จริงฟูมฟักอยู่ภายใน”

“หากว่าสังหารเขาทิ้งไปเสียจะเป็นอย่างไร”

“จิตมารแตกสลาย พลังของเขาจะเข้าโจมตีฟ้าบุพกาล ทำลายล้างทุกสิ่ง เทียบเท่ากับพวกเราได้รับการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของร่างจริง”

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยด้วยน้ำเสียงจนปัญญา

………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท