บทที่ 1084 คุกสวรรค์ปฐมยุคครั้งที่หนึ่ง
แรงดูดดึงจากบ่อลาวาไร้สิ้นสุดแรงกล้ายิ่ง ผู้สร้างมรรคาธรรมดาอาจจะต้านไม่ไหว แต่สำหรับหานเจวี๋ยแล้วไม่ต่างจากของเด็กเล่นเลย เขาสงบนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สายตาจ้องมองจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ถูกทำลายแล้วก่อร่างขึ้นใหม่วนซ้ำไปซ้ำมา
“เจ้ามีความสามารถเท่านี้หรือ”
หานเจวี๋ยถามขึ้นมา พอสิ้นเสียงเขา โลกแปลกประหลาดใบนี้ก็พังทลายลงดั่งบุปผาในคันฉ่องจันทราในวารี ความมืดมิดไร้สิ้นสุดพังทลายไป
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง สำแดงพลังเวทต่อไป ลากหานเจวี๋ยเข้าสู่แม่น้ำดวงชะตา
แม่น้ำดวงชะตาทอดยาวเข้ายึดครองทั่วทั้งห้วงอวกาศมืดมิด หานเจวี๋ยสกัดต้านการโจมตีของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์พลางมองแม่น้ำดวงชะตาไปด้วย
เขามองเห็นวัฏจักรเวียนว่ายของเหล่าบุตรธิดาและเหล่าศิษย์ มองเห็นศัตรูที่สิ้นชีพไปเหล่านั้นยังคงดิ้นรนอยู่ในโลกโลกีย์ เขาถึงขั้นมองเห็นเหล่าสหายที่ในอนาคตจะกลับกลายเป็นศัตรู สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ตามไล่ล่ามายังแม่น้ำดวงชะตา ลูกศรพลังเวทนับไม่ถ้วนพุ่งแหวกผิวน้ำโจมตีใส่หานเจวี๋ย ตามความยาวศรมีเส้นแบ่งกาลเวลาอยู่ ดวงชะตาล้นฟ้าในแต่ละช่วงกาลเวลาควบรวมอยู่ในลูกศรแต่ละดอกทำให้ลูกศรทั้งหมดระเบิดพลังทรงอานุภาพน่าหวาดหวั่น
ม่านตาหานเจวี๋ยหดตัววูบ ตราปฐมยุคประทับนภาพลันปรากฏขึ้น สกัดกั้นลูกศรทั้งหมดไว้
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เพิ่งจะก่อร่างขึ้นใหม่ ปฐมยุคไร้สิ้นสูญยังไม่ทันเข้าโจมตี เขาก็ถูกแรงดูดดึงทรงพลังลากตัวไป แม้แต่วิญญาณก็แนบติดอยู่กับตราปฐมยุคประทับนภาด้วย พลังไร้รูปลักษณ์ผนึกร่างเขาไว้ทำให้ขยับเขยื้อนไม่ได้
“เป็นไปได้อย่างไร!”
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ตกใจ เขาคิดจะสลายกายเนื้อก่อร่างขึ้นใหม่อีกครั้ง ทว่าไม่สามารถทำได้ วิญญาณและพลังเวทของเขาล้วนถูกพันธนาการไว้ทั้งหมด
เขามองหานเจวี๋ยอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
หานเจวี๋ยเหยียบย่ำไปตามแม่น้ำดวงชะตาที่ทอดยาวตระหง่านไหลหลากไร้สิ้นสุด เงาร่างนั้นทำให้จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ค่อนข้างเหม่อลอยไป
ระหว่างที่เหม่อลอยอยู่ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์นึกถึงเหตุการณ์ที่ไปท้าสู้เจ้านวฟ้าบุพกาลในอดีตครานั้น
ตอนนั้นก็เป็นเช่นเดียวกับตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะก่อร่างขึ้นใหม่สักกี่ครั้ง เขาก็ไม่สามารถทำร้ายเจ้านวฟ้าบุพกาลได้ สุดท้ายก็ถูกเจ้านวฟ้าบุพกาลสะกด
แต่นั่นคือช่วงก่อนที่เขาจะทะลวงขั้นได้ ตอนนี้เขาก้าวข้ามผู้สร้างมรรคาไปแล้ว ก้าวหน้าไปมหาศาล เขาถึงขั้นที่นึกไปว่าต่อให้เผชิญหน้ากับเจ้านวฟ้าบุพกาลอีกครั้งก็คงสามารถสยบพิชิตได้ ทว่าความจริงเหมือนท่อนไม้ที่ทุบแสกหน้าเขา
ความแข็งแกร่งของหานเจวี๋ยทำให้ในใจเขาเกิดความรู้สึกไร้กำลัง
นับตั้งแต่เริ่มสู้จนถึงตอนนี้ สำหรับคนธรรมดาผ่านไปเพียงหลายสิบลมหายใจเท่านั้น แต่เขาผ่านความตายมาหลายร้อยล้านล้านครั้งแล้ว หากมิใช่เพราะผู้สร้างมรรคาไม่มีทางดับสูญ เขาก็ไม่มีทางสู้หานเจวี๋ยได้เลย
นี่น่ะหรือพลังของผู้สร้างมรรคาอันดับสอง
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์กัดฟัน พยายามดิ้นรนอย่างสุดกำลัง
หานเจวี๋ยมีสีหน้าเรียบเฉย แสงเทพที่แผ่ออกมาจากยอดสมบัติทั่วร่างบดบังสีหน้าเขาไว้ แม้แต่จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ก็ไม่สามารถสอดส่องมองสีหน้าของเขาได้
“เพียงประลองใช่หรือไม่”
เสียงของหานเจวี๋ยแว่วลอยมาแผ่วเบา ทว่าแฝงเจตนาสังหารเหลือล้นไว้
เขาต้องการบีบให้จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ยอมก้มหัว
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว “ทำไมเล่า เจ้าคิดจะสังหารข้าหรือ เจ้ามีความสามารถเพียงพอหรือ”
หานเจวี๋ยชูมือขวาขึ้น คมดาบแสงทัณฑ์เทพวิถีที่แปดปรากฏขึ้นมา
คมดาบแสงทัณฑ์เทพเจ็ดวิถีก่อนหน้านี้เป็นตัวแทนของเจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดในโลกปฐมยุค แต่ตอนนี้โลกปฐมยุคให้กำเนิดกฎเกณฑ์สูงสุดสายที่แปดแล้ว ปฐมยุคไร้สิ้นสูญของเขาจึงมีพลังใหม่ถือกำเนิดขึ้น
พลังกลืนกิน!
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “สังหารเจ้าไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ แต่ข้าสามารถกลืนกินโลกมหามรรคของเจ้าได้ กลืนกินกฎเกณฑ์สูงสุดของเจ้าได้ ทำให้เจ้ากลายเป็นทาสรับใช้ของข้าไปตลอดกาล”
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ฟังแล้วก็ตระหนกขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
เจ้านวฟ้าบุพกาลก็ทำเช่นนี้กับสามผู้สร้างมรรคาเช่นกัน เหตุผลที่เขารอดพ้นเคราะห์นี้ไปได้เพียงเพราะตอนนั้นเขาอ้อนวอนต่อเจ้านวฟ้าบุพกาล
เหมือนมดปลวกที่อ้อนวอนขอชีวิตจากเทพผู้ยิ่งใหญ่
นั่นคือความอัปยศที่ถูกกลบฝังไว้ในก้นบึ้งจิตใจของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ แม้แต่สามผู้สร้างมรรคาที่เหลือก็ไม่ทราบเรื่อง
ในฐานะผู้สร้างมรรคานั่นคือความอัปยศอย่างยิ่ง
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์นึกถึงเหตุการณ์ฝังใจในครานั้น เพลิงโทสะเข้าสุมจิตใจ
ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีทางให้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง!
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ที่โกรธเกรี้ยวถึงขีดสุดแผ่ไอพลังน่าหวาดกลัวออกมาจากทั่วร่าง ปราณขาวดำนั้นแปลงสภาพเป็นไอพิฆาตสีแดงฉาน ร่างกายสีขาวดำของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโลหิตเช่นกัน
ดูเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา
หานเจวี๋ยรู้สึกเบื่อหน่าย คร้านจะยืดเยื้อแล้วเช่นกัน
คมดาบแสงทัณฑ์เทพแปดวิถีฟันเข้าใส่ร่างของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ที่ถูกตรึงไว้เหนือตราปฐมยุคประทับนภา
ครืน!
จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ถูกฟันสลายไปในชั่วพริบตา ร่างสิ้นสังขารมลาย คมดาบแสงทัณฑ์เทพแปดวิถีหยุดนิ่งไปไม่เคลื่อนไหวต่อ กลับแผ่ลำแสงสีรุ้งออกมา วิญญาณจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์รวมตัวอยู่ระหว่างคมดาบแสงทัณฑ์เทพ จากนั้นก็แบ่งออกเป็นส่วนๆ กลืนกินเข้าไปจนสิ้น
….
ณ ดินแดนเวิ้งว้าง เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล มหาเทวาพ้นนิวรณ์และมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญมองหานเจวี๋ยที่เดินออกมา อารมณ์ของแต่ละคนซับซ้อนนัก
หานเจวี๋ยทำตัวเหมือนกำลังเดินเล่นสบายๆ แต่ทุกย่างก้าวกลับรวดเร็วนัก เดินไม่กี่ก้าวก็มาปรากฏตรงหน้าพวกเขาที่อยู่ห่างไกลกันยิ่ง
“จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ล่ะ” เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลถาม
หานเจวี๋ยตอบว่า “สหายเลือนพิสุทธิ์เพียงประลองกับข้าเท่านั้น ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้จึงจากไปแล้ว”
ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้หรือ
สามผู้สร้างมรรคาแทบจะเสียกริยาแล้ว พวกเขาเห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าหานเจวี๋ยข่มจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ได้ การต่อสู้ระหว่างสองผู้สร้างมรรคาดูเหมือนศึกระหว่างสิ่งมีชีวิตสามัญกับอริยะ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ใช้ทุกวิถีทางแล้วก็ยังทำอันตรายหานเจวี๋ยไม่ได้
ความห่างชั้นระดับนั้น…
แค่พวกเขาลองนึกถึงว่าอยู่ในมุมเดียวกับจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ก็รู้สึกสิ้นหวังแล้ว
หานเจวี๋ยพยักหน้าให้สามผู้สร้างมรรคาเล็กน้อย จากนั้นก็เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา “สรุปแล้วก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ตายไปแล้วหรือ”
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยขัดว่า “เป็นไปไม่ได้ ผู้สร้างมรรคาเป็นอมตะ มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือเขาหนีไปแล้ว ไม่กล้าพัวพันต่อ”
มหาเทวาพ้นนิวรณ์พยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขาอยู่รอดมาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะพึ่งพาโชควาสนาความเป็นอมตะมิวางวายของผู้สร้างมรรคา
…
ภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
เก้าเทวดาราและซั่นเอ้อร์ถูกไล่ออกจากอารามเต๋าไป พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอันใด นึกว่าหานเจวี๋ยจะทำความเข้าใจพลังวิเศษ จึงเริ่มประลองกันในแบบจำลองการทดสอบ
หานเจวี๋ยนั่งบนแท่นบัวดำ เริ่มใช้คุกสวรรค์ปฐมยุคเงียบๆ
คมดาบแสงทัณฑ์เทพสายหนึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้าเขา และภายในคมดาบแสงทัณฑ์เทพก็มีเจตจำนงของจอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์อยู่
กฎเกณฑ์สูงสุดแห่งการกลืนกินร้ายกายถึงเพียงนี้ ไม่แปลกเลยที่เจ้านวฟ้าบุพกาลจะสามารถสยบเหล่าผู้สร้างมรรคาได้ กฎเกณฑ์สูงสุดสายนี้น่าจะไม่ใช่แค่การกลืนกินทั่วไป แต่มีพลังคล้ายคลึงกับมหามรรคกลืนกินหานเจวี๋ยจึงขนานนามให้เช่นนี้
หลังจากบรรลุผู้สร้างมรรคาระยะปลาย โลกมหามรรคก็ให้กำเนิดกฎเกณฑ์สูงสุดนี้ขึ้นตามธรรมชาติ ร้ายกาจจริงๆ
หลังจากถูกพลังกลืนกินขั้นสูงสุดผูกมัดไว้ ถึงแม้ผู้สร้างมรรคาจะไม่ตาย แต่เจตจำนงไม่อาจหลบหนีพ้น ถึงขั้นที่ขาดการเชื่อมต่อกับเจตจำนงและร่างแยกอื่นๆ ของเขาด้วย
เช่นนี้นับว่าเปิดโอกาสให้หานเจวี๋ยได้ใช้คุกสวรรค์ปฐมยุค
‘ผู้สร้างมรรคาระยะกลางจะถูกคุกสวรรค์ปฐมยุคสยบทาสได้หรือไม่’
หานเจวี๋ยถามในใจ
[ทำได้ แต่ต้องใช้เวลายาวนานยิ่ง]
หานเจวี๋ยตาลุกวาว โชคดีที่ก่อนหน้านี้ยกระดับคุกสวรรค์อนธการ หาไม่แล้วอาจจะไม่มีผลต่อผู้สร้างมรรคาก็เป็นได้
ส่วนเรื่องใช้เวลานานนั้น หานเจวี๋ยไม่ใส่ใจเลย
สิ่งที่เขาไม่ขาดแคลนที่สุดก็คือเวลา!
[เจ้านวฟ้าบุพกาลต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
แจ้งเตือนแถวหนึ่งพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ย
………………………………………………………………