บทที่ 47 แค่มองเขาครั้งเดียว ก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม
ก็เป็นในตอนนี้ คนที่แต่งตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟเดินเข้า โค้งตัวลงเล็กน้อยไปทางประธานลี่และสวี่รั่วฉิง น้ำเสียงมีมารยาทเอ่ยบอกทั้งสองคน “ประธานลี่ สามีภรรยาฮิลล์เชิญคุณแอนเข้าไปพูดคุย”
ได้ยินประโยคนี้ อารมณ์บนใบหน้าของสวี่รั่วยีก็หลากหลายมากยิ่งขึ้น
เดิมทีใบหน้าเล็กๆ ยังเรียกได้ว่าอ่อนโยนเข้าใจผู้อื่น ในเวลานี้เพราะว่าหึงหวงจึงเปลี่ยนเป็นยิ่งดุร้าย
เธอขบกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างรุนแรง แล้วยังพยายามต่อสู้ดิ้นรนอีกเล็กน้อย ใช้โอกาสตอนที่ความสนใจของสวี่รั่วฉิงอยู่ที่พนักงานเสิร์ฟ ดึงมือตนเองออกมา ตอนที่คิดจะตบเธอสักฝ่ามือภายใต้จิตสำนึก พลันถูกผู้ชายที่อยู่ด้านข้างคว้าจับข้อมือไว้อย่างแรง
“สวี่รั่วยี อย่าได้ขายหน้าอีก” น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งแฝงความตักเตือนอันเย็นเยียบ
ดวงตาดำมืดลึกล้ำ กวาดมองสวี่รั่วยีอย่างคมกริบ
หญิงสาวตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว
น่ากลัวมาก
เธอไม่เคยเห็นสายตาเช่นนี้ของลี่ถิงเซิ่งมาก่อนเลย
แรงของชายหนุ่มห่างไกลจากแรงของสวี่รั่วฉิงอยู่มาก เขาไม่ได้ใช้แรงที่มากมายอะไร สวี่รั่วฉิงกลับไม่อาจสลัดหลุดพ้นได้อีก
เสียงวุ่นวายโดยรอบหายไปในทันที
ทุกคนต่างถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว กลัวหน้าตาดุร้ายของชายหนุ่มในเวลานี้จะส่งผลมาถึงพวกเขา
แม้แต่สวี่รั่วฉิงก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจจากบนร่างของลี่ถิงเซิ่งในเวลานี้
หางตาเหลือบมองสวี่รั่วยีครั้งหนึ่ง ในเวลานี้บนหน้าผากของหญิงสาวผุดเหงื่อเย็นออกมาเพราะความเจ็บปวด
สวี่รั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย “ประธานลี่ ฉันเข้าไปก่อนแล้ว เรื่องของคุณและคุณสวี่ ในงานสาธารณะระวังสักหน่อย ไม่เช่นนั้นถึงตอนนั้นยังคงเป็นฉันและผู้ช่วยหลี่ไปประชาสัมพันธ์”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเย็น
เมื่อครู่ตอนที่เธอและสวี่รั่วยีตาต่อตาฟันต่อฟันสร้างปัญหาให้กับเขา ทำไมถึงไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ตอนนี้กลับขี้ขลาดแล้ว?
ลี่ถิงเซิ่งไม่ได้ตอบ รอจนสวี่รั่วฉิงจากไปแล้ว เขาก็คลายแรงบีบที่มือของสวี่รั่วยีลง “หลี่อาน ส่งคุณสวี่กลับไป”
ริมฝีปากของสวี่รั่วยีขยับ “ถิงเซิ่ง นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ฉันไม่ใช่….”
สวี่รั่วยีพูดได้ครึ่งเดียว ก็ถูกสายตาดุร้ายของลี่ถิงเซิ่งสยบไว้
“ถ้าเธออยากให้พรุ่งนี้พาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งหมดเป็นหน้าเธอล่ะก็ เช่นนั้นก็อาละวาดต่อไป” ในดวงตาดำมืดของลี่ถิงเซิ่งมองไม่ออกว่าเป็นอารมณ์ความรู้สึกใด
สวี่รั่วยีพลันถูกชายหนุ่มพูดถูกจุดอ่อนเข้าทันใด
เธออาละวาดต่อไปอีก พรุ่งนี้เกรงว่าพาดหัวข่าวของสื่อล้วนต้องเป็นชื่อของตนเองแน่
“หลี่อาน ส่งคนกลับไป”
ลี่ถิงเซิ่งทิ้งคำพูดนี้ไว้ แล้วก็ไม่ได้มองสวี่รั่วยีอีก
ผู้คนโดยรอบเห็นทุกอย่างกับตา ก้นบึ้งในหัวใจอดสงสัยไม่ได้ งานหมั้นของลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วยีนั้นยังมีอยู่จริงหรือ?
ท่าทีเมื่อสักครู่ ดูเหมือนว่าไม่เหมือนกับที่สื่อเผยแพร่เรื่องทั้งคู่จะหมั้นหมายกันเลยนี่นา…
……
สามีภรรยาฮิลล์เห็นสวี่รั่วฉิง ดีใจอย่างมาก
พวกเขาชื่นชมศิลปินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมาโดยตลอด และพอดีที่สวี่รั่วฉิงเป็นสาวตะวันออกที่พวกเขาชื่นชอบ
คุณนายฮิลล์วันนี้ก็ใช้สร้อยคอแห่งความทรงจำที่สวี่รั่วฉิงทำขึ้นด้วยตนเอง
เธอดึงมือของสวี่รั่วฉิงเบาๆ ยิ้มเอ่ย “คุณสวี่ พรุ่งนี้ฉันกับสามีก็จะกลับประเทศแล้ว ดังนั้นจึงตั้งใจจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำงานหนึ่ง อยากจะให้แวดวงแฟชั่นของเมืองหลินชวนได้รู้จักเธอ ได้ไหม? ”
สวี่รั่วฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง
ถึงแม้ความคิดของตนเองจะโบยบินไปบนท้องฟ้าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงส่วนตัวที่สามีภรรยาฮิลล์จัดขึ้นมานั้นก็เพื่อตนเอง
ชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกหดหู่ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
คุณนายฮิลล์และสามีสบตากัน คิดว่าสวี่รั่วฉิงรู้สึกเขินอายเพราะความขี้อายของชาวตะวันออก ยิ้มกว้างอย่างสบายๆ เอ่ยว่า “ถ้าเกิดคุณสวี่ไม่ต้องการ พวกเราก็จะไม่บังคับ”
สวี่รั่วฉิงเอ่ยยิ้มๆ “คุณนายฮิลล์ ฉันยังอายุน้อย ได้เป็นนักปรุงน้ำหอมอย่างเป็นทางการก็เป็นเพียงเรื่องในสองปีนี้ ประสบการณ์ก็ยังเทียบไม่ได้กับผู้ที่มีชื่อเสียง”
“ศิลปินที่ดี ไม่ต้องการเวลาในการตกตะกอน” คุณนายฮิลล์ยิ้มเอ่ย “โดยปกติแล้วตอนที่พวกเขายังอายุน้อยก็เปล่งประกายแสงออกมา และเธอก็เป็นเช่นนั้น ถ้าเธอไม่ยินดี ก็ไม่เป็นอะไร ในอนาคตพวกเราจะแนะนำเธอให้กับเพื่อนของเราให้มากหน่อย หวังว่าในอนาคตจะสามารถเห็นเธอในเวทีระดับโลกที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้”
คุณฮิลล์พยักหน้า “พวกเราอยู่ในโลกแฟชั่นมาหลายปีขนาดนี้ หนทางนั้นยังมี ถ้าวันไหนเธอคิดถึงเวทีที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ซิลวี่จะเปิดประตูใหญ่ให้เธอเสมอ”
สวี่รั่วฉิงซาบซึ้งอยากมาก
“คุณฮิลล์ คุณนายฮิลล์ วันนี้ฉันมาร่วมงามเป็นเพื่อนเจ้านายของฉันเอง ด้วยความรีบร้อนจึงไม่ได้เตรียมของขวัญ ถ้าเป็นไปได้ ภายในหนึ่งเดือนฉันจะปรุงน้ำหอมแบบใหม่ให้กับคุณ เป็นของขวัญสำหรับการพบหน้ากัน”
สามีภรรยาฮิลล์สบตากัน ยิ้มอย่างสบายใจ
มีประสบการณ์จากบทเรียนครั้งก่อน สวี่รั่วฉิงวันนี้ไม่แตะเหล้าสักหยด
ตอนที่เธอกลับไปที่ข้างกายลี่ถิงเซิ่งอีกครั้ง พบว่าสวี่รั่วยีได้จากไปแล้ว ส่วนเงาของหลี่อานก็ไม่เห็น ก็เดาต้นเหตุได้พอประมาณ
“สามีภรรยาฮิลล์เรียกเธอไปคุยอะไร? ” ลี่ถิงเซิ่งถือแก้วเหล้าไว้ ด้วยความรู้สึกเกียจคร้าน
“ชิงตัวคุณไปทำงาน? ” สวี่รั่วฉิงตอบอย่างหยอกล้อ เธอโบกมือ ปฏิเสธเหล้าที่พนักงานเสิร์ฟยื่นมาให้ “ฉันไม่ดื่มเหล้า”
ลี่ถิงเซิ่งเลิกคิ้ว “ชิงตัวฉัน? ”
สวี่รั่วฉิงเอ่ย “ใช่สิ ฉันเป็นลูกน้องของคุณ สามีภรรยาฮิลล์อยากจะชิงตัวฉัน คุณว่านี่ใช่กำลังชิงคุณไปไหม? ”
ลี่ถิงเซิ่งหลุบตาลง จิบเหล้าในแก้วคำหนึ่ง เล่นแก้วมืออย่างเหนื่อยหน่าย””
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เขาสายตามองภาพที่ปรากฏอยู่ไม่ไกล มีความสนใจขึ้นแล้ว
ตอนที่สายตากลับมาอยู่ที่ร่างของสวี่รั่วฉิง ริมฝีปากเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย
สวี่รั่วฉิงกะพริบตา ไม่เข้าใจความเจตนาของลี่ถิงเซิ่ง
จนถึงตอนที่เธอเรียกรถไม่ได้อยู่ด้านนอกโรงแรม ส่วนหลี่อานบังเอิญต้องขับรถไปส่งสวี่รั่วยีที่บ้านพัก ลี่ถิงเซิ่งก็เปิดประตูรถ เอาเธอยัดเข้าไปหลังที่นั่งข้างคนขับ เธอถึงได้เข้าใจเจตนาของชายหนุ่ม
วันนี้เธอไม่ได้ดื่มเหล้าสักนิด สมองชัดเจนอย่างมาก
แต่ในเวลานี้กลับเหมือนว่าดื่มเหล้าเข้าไปเช่นนั้น ความรู้สึกไม่ค่อยชัดเจน
สวี่รั่วฉิงกลืนน้ำลายเบาๆ ดวงตาของเธอตรงกับใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เซนติเมตร กลั้นหายใจ
เมื่อครู่เธอเพียงแค่อยากจะคาดเข็มขัดนิรภัย ยังไม่มีสติกลับมา ชายหนุ่มบนที่นั่งคนขับก็ยืดตัวมาแล้ว ช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัยในเวลาเดียวกัน เลื่อนสายตาขึ้นมา
จำต้องยอมรับ ลี่ถิงเซิ่งหน้าตาดีมาก
ราวกับเหล้าดีที่เก็บมานานหลายปี เพียงแค่มองครั้งเดียว ก็เคลิบเคลิ้มได้
แสงไฟสีเหลืองในรถส่องสว่างคลุมเครือ
สวี่รั่วฉิงกลืนน้ำลายอีกครั้ง ตอนที่เธอถึงขั้นรู้สึกว่าหัวใจของตนเองแทบจะเต้นออกมาจากลำคออยู่แล้ว
ชายหนุ่มที่อยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เซนติเมตรก็เปิดปากขึ้น
“แอนนา เธออยู่ที่ลี่ซื่อกรุ๊ป คิดอยากจะได้รับอะไร? ”
น้ำเสียงทุ้มลึก ราวกับเชลโลที่ไพเราะ
ลมหายใจที่ค่อนข้างร้อน ปัดผ่านแก้มเธอแผ่วเบา
สวี่รั่วฉิงเอนไปด้านหลังคิดจะหลบ แต่ว่าด้านหลังก็คือเบาะนั่ง
เธอทำได้เพียงบังคับตัวเอง อย่าได้สัมผัสโดนผิวของชายหนุ่ม
“เปลี่ยนคำที่พูด เธออยู่ข้างกายฉันต้องการได้รับอะไร”
ใต้แสงไฟที่คลุมเครือ ดวงตาที่เฉียบคมของลี่ถิงเซิ่ง จับจ้องอยู่บนร่างของสวี่รั่วฉิงอย่างแน่นหนา ทำให้เธอไม่มีทางหนีได้
เป็นเช่นนี้ต่อไป เธอจะต้องเผยความจริงเพราะกลิ่นอายและการบีบคั้นของชายหนุ่มอย่างแน่นอน
สวี่รั่วฉิงคิดอยู่ แล้วกัดฟันทำ ยื่นมือออกไปค่อยๆ โอบอยู่บนคอของลี่ถิงเซิ่ง แล้วจูบลงไป