บทที่34 ทำลายข้าวของของแอนนา
สวี่รั่วยีก้าวเท้าเดินเข้ามาในบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปอย่างสง่างาม
ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาในห้องโถงเป็นจำนวนมาก
นับตั้งแต่ที่สวี่รั่วยีก้าวเท้าเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบลงอย่างน่าประหลาดใจ
พวกเขาต้องจับจ้องไปที่สวี่รั่วยีด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น เพราะพวกเขาต่างรู้ว่าสวี่รั่วยีเป็นคู่หมั้นของลี่ถิงเซิ่งมาหกปีแล้ว และมีสื่อจำนวนไม่น้อยที่ประโคมข่าวว่าสวี่รั่วยีและลี่ถิงเซิ่งจะแต่งงานในอีกไม่ช้า อีกทั้งเธอก็ยังเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตระสวี่ ซึ่งเป็นตระกูลดังในเมืองหลินชวน แน่นอนว่าพนักงานในลี่ซื่อกรุ๊ปไม่มีใครกล้าที่จะล่วงเกินเธอ
สวี่รั่วยีเดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ด้วยรองเท้าส้นสูงสีชมพูอย่างสง่าผ่าเผย ริมฝีปากสีแดงเผยออก
“ฉันต้องการพบถิงเซิ่ง”
แน่นอนว่าพนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทราบเป็นอย่างดีว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้คือคู่หมั้นของประธานบริษัทของตน จึงรีบคำนับด้วยความเคารพ
“คุณสวี่ กรุณารอสักครู่”
ไม่ไม่สามารถที่จะทำการใดที่เป็นการล่วงเกินสวี่รั่วยีได้ เพราะหากวันใดวันหนึ่งสวี่รั่วยีกลายเป็นประธานกรรมการของบริษัทขึ้นมา และหากต้องการที่จะไล่เธอออก มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย？
เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์กดเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่ง
หลังจากที่หลี่อานได้ฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว “คุณรอสักครู่”
ทำไมวันนี้คุณสวี่ถึงได้มาที่บริษัทได้？
หรือว่าได้ยินข่าวผู้ช่วยแอนนาสามารถทำให้การเจรจาความร่วมมือระหว่างลี่ซื่อกรุ๊ปกับซิลวี่กรุ๊ปได้สำเร็จ เลยรู้สึกไม่พอใจอยากจะมาก่อกวน？
หลี่อานไม่มีเวลามากที่จะคิด จึงรีบมายังห้องทำงานของประธานกรรมการ เพื่อบอกสถานการณ์ให้ลี่ถิงเซิ่งทราบ
สีหน้าของลี่ถิงเซิ่งราบเรียบ เขาทำเพียงขมวดคิ้ว ริมฝีปากเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ให้เธอขึ้นมาเถอะ”
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าวันนี้สวี่รั่วยีคิดจะทำอะไรกันแน่
อีกสิบนาทีต่อมา สวี่รั่วยีเดินออกจากลิฟต์อย่างผู้ชนะ
การที่ลี่ถิงเซิ่งยอมให้ตนเข้าพบ นั้นหมายความว่าในใจของเขาก็ยังคงมีตนอยู่
สวี่รั่วยีเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เดี๋ยวอีกสักพักเธอจะไม่โวยวายอย่างเด็ดขาด เธอจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สุภาพเรียบร้อยต่อหน้าลี่ถิงเซิ่ง
สวี่รั่วยีเดินเข้ามายังด้านหน้าห้องทำงานของลี่ถิงเซิ่ง แล้วเคาะประตูเบาๆสามครั้ง หลังจากที่ได้ยินคำว่า “เข้ามา”ใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้น
เธอผลักประตูเข้าไป เบื้องหน้าของเธอก็คือโต๊ะทำงานของสวี่รั่วฉิง
สวี่รั่วยีที่เมื่อสักครู่นี้อารมณ์ดี ไฟแห่งความโกรธก็ปะทุขึ้นมา
“แอนนาล่ะ？”
ลี่ถิงเซิ่งเงยหน้าขึ้น พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า：“สวี่รั่วยี นี่คือจุดประสงค์ที่คุณมาในวันนี้ใช่ไหม？”
พอสวี่รั่วยีโกรธ ก็ไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมาก
เธอเดินเข้าไปข้างๆโต๊ะทำงานของสวี่รั่วฉิง
มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่จะใช้เครื่องสำอางจำนวน แป้งพับ ลิปสติกอะไรพวกนี้
ห้องทำงานของลี่ถิงเซิ่งมีของพวกนี้อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน？ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรอก หลายปีมานี้ขนาดตัวเธอเองหากลืมลิปสติกไว้ที่โต๊ะทำงานของเขา เขาก็จะต้องสั่งให้คนเอาไปทิ้งอย่างแน่นอน แล้วแอนนาเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะได้ร่วมทำงานในห้องเดียวกับลี่ถิงเซิ่ง！
สวี่รั่วยียกมือขึ้นมาแล้วสะบัดมือ
ของบนโต๊ะของสวี่รั่วฉิงก็ร่วงหล่นลงมาระเนระนาด รวมทั้งขวดน้ำหอมและแก้วน้ำหล่นแตกจนกลายเป็นเศษแก้ว
หลี่อานกำลังจะมาส่งรายงานพอดี ซึ่งเขามาพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายการเงิน
เมื่อทั้งสองเห็นว่าสวี่รั่วยีกำลังแสดงอารมณ์อย่างบ้าคลั่งกับลี่ถิงเซิ่ง
นี่คือคุณสวี่รั่วยีเหรอ？
หลี่อานและผู้จัดการฝ่ายการเงินจ้องมองตากันไม่กะพริบ คางแทบจะหลุดลงที่พื้น
ในใจของพวกเขาสวี่รั่วยีเป็นผู้หญิงที่เป็นกุลสตรีควรที่จะเป็นแบบอย่างให้กับสตรีในเมืองหลินชวน ไม่รู้ว่าเกิดอาการบ้าคลั่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่？
สวี่รั่วยีสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ที่หรูหรา เท้าของเธอเต็มไปด้วยสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะทำงานของสวี่รั่วฉิง สวี่รั่วฉิงทำลายภาพเขียนแบบของแอนนาลงอย่างรวดเร็วและง่ายดาย และโยนทิ้งลงพื้น
“แอนนามีสิทธิ์อะไรถึงได้ทำงานห้องเดียวกับถิงเซิ่ง？บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปออกจะใหญ่โต จัดหาห้องของเธอส่วนตัวของเธอไม่ได้เลยเหรอ？แล้วฉันจะวางใจให้ผู้หญิงแบบนั้นทำงานอยู่ห้องเดียวกับคู่หมั้นของตัวเองได้ยังไง！”
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบตามองสวี่รั่วยีด้วยสายตาที่เย็นชา จากที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยปากขึ้น
“สิ่งที่คุณต้องการพูดมีแค่นี้ใช่ไหม？”
“ฉันยังพูดไม่จบ！”ใบหน้าของสวี่รั่วยีแดงก่ำ สิ่งที่เธออัดอั้นอยู่ในใจก็ปะทุออกมา “คุณจ่ายเงินให้กับแอนนาเท่าไหร่？แม้ว่าเธอจะกลายเป็นนักผสมกลิ่นน้ำหอมอันดับหนึ่งของโลก แต่เธออายุน้อยขนาดนี้จะได้รับการยอมรับจากสองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์ได้อย่างไร？
อย่าว่าแต่แอนนาเลย แม้แต่……นักผสมกลิ่นน้ำหอมที่มีชื่อเสียงระดับโลกในตอนนี้ ก็ไม่รับรองว่าจะได้รับการยอมรับจากสองสามีภรรยาสามีภรรยาฮิลล์หรือไม่！ถิงเซิ่งทำไมคุณถึงยอมเสียเงินให้กับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้ ……”
สวี่รั่วยียิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจ นัยน์ตาแดงก่ำ น้ำตาค่อยๆไหลออกมา
เธอควรที่จะสงสัยแต่แรกแล้วว่าแอนนาคนนี้เป็นผู้หญิงที่สำส่อน！
รูปร่างหน้าตาแบบนี้ ทั้งยังแต่งหน้าอย่างประณีตมาทำงานในทุกๆวัน！
ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าเธอต้องการที่จะหลอกล่อลี่ถิงเซิ่ง！
แล้วยังจะมาสมัครเป็นผู้ช่วยอีก ช่างน่าขำ ดูจากโปรไฟล์ของแอนนาหากเธอต้องการที่จะเป็นนักผสมกลิ่นน้ำหอมของลี่ซื่อกรุ๊ปนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยไม่ใช่เหรอ？แล้วทำไมจะต้องมาสมัครเป็นผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายลี่ถิงเซิ่งด้วย！
หลี่อานและผู้จัดการฝ่ายการเงินไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ทั้งสองประสานสายตากัน พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ครอบครัวของประธานลี่ทะเลาะกัน？
“สวี่รั่วยี หากคุณต้องการที่จะมาก่อกวนที่นี่ ตอนนี้คุณรีบไสหัวออกไปเลยนะ”หลังจากที่ลี่ถิงเซิ่งลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว ก็โยนไว้ข้างๆ หลังจากที่วางปากาลง ก็เงยหน้าขึ้นพลางยิ้มอย่างเหน็บแนม น้ำเสียงเย็นชา ทำให้บรรยากาศโดยรอบแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว
“แอนนาเป็นพนักงานของลี่ซื่อกรุ๊ป คนที่ตัดสินใจรับเธอเข้ามาก็คือผม คนที่สั่งให้เธอเข้ามานั่งทำงานในห้องนี้ก็คือผม สวี่รั่วยีตอนนี้คุณกำลังกล่าวโทษผมอยู่ใช่ไหม？”
น้ำเสียงที่เย็นชาทำให้สวี่รั่วยีได้สติ
“เปล่านะคะ ฉันไม่ได้ ……ถิงเซิ่ง คุณฟังฉันอธิบายก่อนนะคะ……”
“เมื่อสักครู่ที่คุณทำลายข้าวของของคนอื่นไม่กลัว”ลี่ถิงเซิ่งยิ้มอย่างเย็นชา“หากการอบรมสั่งสอนของตระกูลสวี่เป็นเช่นนี้แล้วล่ะก็ คงทำให้คนผิดหวังไม่น้อย”
สวี่รั่วยีเช็ดน้ำตาด้วยความหวาดกลัว：“ฉันสามารถชดใช้ให้ได้”
“ชดใช้？สวี่รั่วยี นี่คือวิธีการขอโทษของคุณเหรอ”ลี่ถิงเซิ่งไม่อยากที่จะเหลือบมองสวี่รั่วยีอีกแม้แต่ครู่เดียว“หลี่อาน รายงานงานในส่วนของคุณมา”
หลี่อานเหลือบมองสวี่รั่วยีครู่หนึ่ง ยิ้มแล้วเดินกัดฟันไปด้านหน้าของลี่ถิงเซิ่ง จากนั้นก็เริ่มรายงานงานในส่วนของตน
ทันใดนั้นก็ไม่มีใครสนใจสวี่รั่วยี
เฉกเช่นเดียวกับต้นหญ้าข้างถนน ที่ไม่มีใครสนใจ
ผู้จัดการฝ่ายการเงินส่ายหัว เพราะหญิงสาวตระกูลสวี่ท่านนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิดไว้ และไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น
สวี่รั่วยีรู้สึกอึดอัดใจ พลางกัดฟันและริมฝีปากของตนเองด้วยความโกรธ
เธอรออยู่นาน แต่ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่เหลือบหันมามองเธอเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่สวี่รั่วยีเดินจากไป หลี่อานก็ถามขึ้นเสียงเบาว่า：“ประธานลี่ ข้าวของของผู้ช่วยแอนนาล่ะ ……”
แม้ว่าสถานะของแอนนาจะเป็นเพียงผู้ช่วย แต่ว่าราคาของที่เธอใช้ก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเธอไม่ได้ขาดแคลนเงิน
สวี่รั่วยีทำลายข้าวของของเธอจนเสียหาย หากผู้ช่วยแอนนากลับมาเห็นก็ไม่รู้ว่าจะโกรธขนาดไหน
อีกอย่างอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนั้นของผู้ช่วยแอนนา ไม่มีกล้าที่จะหาเรื่องเธอ！
หากผู้ช่วยแอนนาทราบว่า ข้าวของของเธอถูกสวี่รั่วยีทำลายจนเสียหาย ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากที่จะคาดเดาเลยจริงๆ！
