บทที่ 48 ซักถามความลับของเธอ
ระหว่างริมฝีปากและฟันของชายหนุ่ม ยังคงเหลือกลิ่นหอมของไวน์แดงอยู่
สมองของสวี่รั่วฉิงร้อนรุ่มหุนหัน จึงจูบลงไป หลังจากรอจนเธอได้ลิ้มรสชาติบนริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งแล้ว สมองพลันระเบิด ในใจคิดว่าจบเห่แล้ว ตนเองมีวิธีอธิบายเป็นร้อยวิธี ทำไมถึงได้เลือกวิธีที่โง่ที่สุดไปได้
เป็นดั่งเช่นที่ลี่ถิงเซิ่งพูด เธอไม่เคยจูบใครมาก่อน ทักษะการจูบอ่อนด้อย
ประสบการณ์จูบที่มีทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับลี่ถิงเซิ่ง อำนาจการชี้นำทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในมือของเขา
ให้เธอเริ่มก่อนจริงๆ เธอมีเพียงแค่พลังเท่านั้น แต่ว่าทั้งหมดล้วนไม่มีประสบการณ์
ในสมองหวนคิดถึงการฉายซ้ำในหนังรัก แต่ว่าจะทำอย่างไรล้วนไม่อาจปิดบังความเป็นเด็ก
ในดวงตามืดมิดของลี่ถิงเซิ่งปรากฏความแปลกใจสายหนึ่ง ไม่นานความแปลกใจก็หายไปไม่เหลือ ในขณะเดียวกันที่เขาปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองออก มือค่อยๆ กักไว้ แล้วปลดเข็มขัดนิรภัยบนตัวของสวี่รั่วฉิง พลิกตัวครั้งหนึ่ง กลับมาถึงที่นั่งคนขับ ในอ้อมอกกำลังโอบกอดหญิงสาวที่คร่อมอยู่บนตักตนเองไว้
ลิปสติกบนริมฝีปากของสวี่รั่วฉิงถูกทำให้เลอะไปครึ่งหนึ่งนานแล้ว ในการจูบเมื่อครู่นี้
ลิปสติกพวกนั้นตอนนี้คลุมเครืออยู่บนริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่ง
สมองของสวี่รั่วฉิงขาวโพลนเล็กน้อย
ท่าทางของเธอในตอนนี้ เผยให้เห็นผิวส่วนใหญ่บริเวณต้นขา
การออกแบบของชุดออกงานทำให้ผิวขาวเหล่านั้นไม่มีที่ให้หลบซ่อน
มือหนึ่งของลี่ถิงเซิ่งโอบกอดเอวของสวี่รั่วฉิง อีกมือที่ว่างอยู่เช็ดริมฝีปากของตนเอง
มีสีแดงอย่างที่คิด เขาจ้องมองสีแดงบนมือตนเองอย่างลึกซึ้ง
“นี่คือคำตอบที่เธอให้ฉัน? ” เสียงในลำคอทุ้มต่ำแหบพร่า เขาเลื่อนสายตาขึ้นมองใบหน้าที่อึดอัดใจถึงขั้นแดงก่ำของหญิงสาว
ในดวงตาของสวี่รั่วฉิงปรากฏแววสับสนขึ้นมาสายหนึ่ง ในไม่ช้าเธอก็มีสติกลับมาว่าชายหนุ่มกำลังถามถึงสาเหตุที่เธอรั้งอยู่ข้างกายของเขา
“ประธานลี่ ฉันรั้งอยู่ข้างกายคุณนั้นเป็นเพราะ….”
คำพูดยังไม่ทันพูดจบ มือที่โอบกอดอยู่บนเอวก็ใช้แรงเล็กน้อย คำพูดถูกปิดกั้นไว้ที่ริมฝีปากอีกครั้ง
กลิ่นไวน์ค่อยๆ ส่งผ่านมาถึงในปาก ออกซิเจนในปอดก็หายไปอย่างรวดเร็ว
จูบของชายหนุ่มไม่รีบไม่ช้า ราวกับว่ากำลังรอให้เธอคุ้นเคยเช่นนั้น จงใจชะลอจังหวะลงเช่นนั้น
หลังจากจูบเสร็จ สมองของสวี่รั่วฉิงมึนงงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่ใหญ่ถึงได้มีสติกลับมา
จูบครั้งนี้ ยาวนานยิ่งกว่าครั้งแรกมาก พอไม่ระวังก็ทำให้เธอหลงลืมเจตนาเดิมของตนเอง
ลิปสติกบนริมฝีปาก ถูกลี่ถิงเซิ่งกินเข้าไปพอประมาณแล้วในระหว่างการจูบ ในเวลานี้เผยสีเดิมออกมา
สีชมพูอ่อนๆ เพราะว่าจูบ เปลี่ยนจนเป็นสีแดงระเรื่อออกมา
หัวใจของสวี่รั่วฉิงเต้นอย่างรัวเร็ว ยากที่จะสงบลงได้
ตอนที่เธอคิดว่าลี่ถิงเซิ่งจะรุกถามคำถามตนเองอีก เสียงทุ้มแหบพร่าของชายหนุ่มก็ดังขึ้นในรถ
“เธอยังอยากจะนั่งอีกนานแค่ไหน? ”
สวี่รั่วฉิง “….”
กลับมาถึงที่นั่งข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัยดีแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งวางมือลงบนพวงมาลัย น้ำเสียงราบเรียบ “เป้าหมายที่เธอมาที่ลี่ซื่อกรุ๊ป ฉันสามารถไม่ซักถาม ขอเพียงเธอสามารถปรุงน้ำหอมที่ยอดขายเปิดตัวในตลาดดีเยี่ยมได้”
เสียงสงบนิ่งราวกับว่าเมื่อครู่คนที่จูบอยู่กับเธอไม่ใช่เขาเช่นนั้น
สวี่รั่วฉิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอบ”อืม”อย่างไม่สนใจไปคำหนึ่ง
“เรื่องของสวี่รั่วยี ต่อไปเธอไม่ต้องยื่นมือเข้ามา ฉันเคยพูดแล้วว่าขอเพียงฉันอยู่ด้วย ไม่มีทางให้สวี่รั่วยีทำร้ายเธอต่อหน้าฉัน ถ้าเธอเป็นคนฉลาด ก็ควรหลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับเธอ”
ความหมายแฝงนอกเหนือคำพูดคือ เรื่องที่สวี่รั่วฉิงทำวันนี้ โง่เขลา
ทำให้สวี่รั่วฉิงเม้มริมฝีปาก หลังจากนั้นครู่ใหญ่เธอหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง
“ประธานลี่ ค่ำวันนี้ในงานเลี้ยงฉันสร้างปัญหาให้คุณ ขอโทษด้วย”
สวี่รั่วยีแสร้งเป็นนางฟ้าคว้าเอาความเห็นใจจากผู้อื่น เธอก็ทำได้นะ
แต่ว่าเธอสร้างปัญหาให้กับลี่ถิงเซิ่งจริงๆ
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเบาๆ เสียงหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรอีก
อิงตามนิสัยของสวี่รั่วยี ไม่มีทางที่จะยอมเลิกราโดยง่ายเช่นนี้แน่
หลังจากสวี่รั่วฉิงลงรถ เขาก็เอนตัวในรถสักครู่หนึ่ง จุดบุหรี่หนึ่งมวน คีบไว้ระหว่างนิ้ว
“ประธานลี่ คุณสวี่ถึงบ้านแล้ว” หลี่อานโทรศัพท์รายงาน “ผมเห็นว่าสีหน้าของคุณสวี่ไม่ค่อยดี คุณว่าจะต้องปลอบโยนสักหน่อยไหม ถ้าเกิดอาละวาดไปถึงคุณนายลี่ทางด้านนั้น….”
ลี่ถิงเซิ่งคีบบุหรี่เงียบๆ หลังจากนั้นครู่ใหญ่ ควันสีขาวลอยออกมาจากริมฝีปากบาง
“หนังสือพิมพ์วันพรุ่งนี้ฉันไม่อยากเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนค่ำวันนี้”
“รับทราบ”
ข้อมือของลี่ถิงเซิ่งสั่นเล็กน้อย เถ้าบุหรี่ร่วงหล่น
“หาคน” ชายหนุ่มเปิดปากอีกครั้ง “สวี่รั่วยีรู้กำหนดการของคืนนี้มาจากที่ไหน สืบหาให้ชัดเจน”
หลี่อานมึนงงเล็กน้อย ประสบการณ์ทำงานหลายปีทำให้เขารีบดึงสติกลับมาจากคำพูดบอกใบ้ของลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ คุณสงสัยว่าในบริษัทมีคนเอากำหนดการของคุณไปเปิดเผยแก่คุณสวี่? ไม่น่าใช่สิ กำหนดการของคุณนอกจากผ่านมือของผม ก็ผ่านเพียงมือของผู้ช่วยแอนเท่านั้น….ผู้ช่วยแอนดูไปแล้วความสัมพันธ์กับคุณสวี่ไม่ค่อยจะดี เธอคงจะไม่เปิดเผย….”
หลี่อานวิเคราะห์ได้ครึ่งหนึ่ง ตกใจจนหน้าถอดสี
“ประธานลี่ ผมไม่ได้เอากำหนดการของคุณไปเปิดเผยแก่คุณสวี่นะ! ”
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเยาะ
หลี่อานถึงได้มีสติกลับมา ประธานลี่ไม่ได้สงสัยเขาสักนิด
“ประธานลี่ เรื่องในคืนนี้ของผู้ช่วยแอน….เกรงว่าต่อไปคุณสวี่จะมุ่งเป้าไปยังเธอ”
ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าผู้ช่วยแอนเป็นลูกโคแรกเกิดไม่กลัวเสือ หรือว่าความกล้าเทียมฟ้าไม่ว่าใครก็กล้ายั่วยุ
สวี่รั่วยีถึงแม้ว่าอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายจะมีท่าทางโอนโยนใจกว้างมาโดยตลอด แต่ว่าเธอที่เกิดมาในตระกูลร่ำรวย แน่นอนว่าไม่มีทางเรียบง่ายเหมือนที่เห็นภายนอกแน่นอน
“กังวลใจมากหรือ? ” ลี่ถิงเซิ่งน้ำเสียงเยียบเย็น
หลี่อานเงียบลง ส่ายหัวรัวเร็ว “ผมไม่ได้มีความคิดที่ไม่สมควรกับผู้ช่วยแอน! ทั้งหมดล้วนเป็นความกังวลระหว่างเพื่อนร่วมงานธรรมดาเท่านั้น ประธานลี่อย่าได้เข้าใจผิดเด็ดขาด”
ท่าทีที่ประธานลี่มีต่อผู้ช่วยแอนมีความหมายลึกซึ้ง เขาไม่มีความกล้าที่จะแย่งชิงผู้หญิงกับประธานลี่
ยิ่งไปกว่านั้นนิสัยของผู้ช่วยแอน คนธรรมดาก็ควบคุมไม่อยู่มั้ง….
“ตัวเธอเองก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์” ลี่ถิงเซิ่งนึกถึงเมื่อครู่ที่หญิงสาวถูกเขาบังคับถาม สายตาที่ตื่นตระหนกแวบผ่านเข้ามาและหายไป ถัดมาก็เริ่มจูบเขา
มุมปากของชายหนุ่มมีรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง
เขายิ่งอยากรู้ความลับบนตัวของเธอแล้วสิ
……
สวี่รั่วฉิงกลับมาถึงบ้านพัก เปิดไฟ
ไฟในห้องของสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานนั้นดับไปแล้ว น่าจะนอนกันแล้ว
หญิงสาวแววตาอ่อนลง เธอถอดรองเท้าส้นสูง เดินไปถึงห้องอาบน้ำ
สีบนริมฝีปากถูกกินจนไม่มีสีอะไรแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่กลัวว่ากลืนลิปสติกเข้าไปจะมีพิษมากมาย
ในใจสวี่รั่วฉิงระบายออกมารอบหนึ่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็กลับเข้าไปในห้อง
เธอเปิดแล็ปท็อป เตรียมที่จะทำงาน ในสมองก็ปรากฏเหตุการณ์บนรถวันนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
สวี่รั่วฉิงเงียบงันไปสักพัก ปิดแล็ปท็อปลง
เธอปิดตาพิงอยู่บนโซฟาสักพัก
ภาพที่ตนเองและชายหนุ่มกอดจูบกันก็เข้ามาในสมองอีกครั้ง
สลัดก็สลัดไม่ออก!
สวี่รั่วฉิงโมโหจนลืมตาขึ้น ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความแถวหนึ่งไปให้ซูจิ่วเอ๋อร์
“จิ่วเอ๋อร์ เธอช่วยฉันหาผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อป้าหวังได้ไหม? ฉันจ้างนักสืบคนหนึ่งที่เมืองหลินชวน เขาช่วยฉันสืบหาจนถึงสถานที่สุดท้ายที่ป้าหวังหายตัวไปอยู่ที่คฤหาสน์เซียวซาน ตอนนี้ฉันสงสัยว่าการหายตัวไปของป้าหวังมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลสวี่ ไม่ว่าเธอจะอยู่บนโลกนี้หรือไม่ ฉันควรจะตามหาเบาะแสของเธอให้เจอ ตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดู”