ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 1157 โอกาสวาสนาในรูปแบบระบบ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1157 โอกาสวาสนาในรูปแบบระบบ

เมื่อได้พบหลงเฮ่าและหานเหลียง หานหลิงพยักหน้าให้นิดๆ เอ่ยถาม “พวกเจ้าจะไปยังโลกปฐมยุคเช่นนั้นหรือ”

โลกปฐมยุคอยู่ในมุมอับของยุคสมัยไร้สิ้นสุด แต่ให้เป็นยอดมหามรรคหากใช้เส้นทางตรงก็ค่อนข้างห่างไกลเกินไปอยู่ดี ใช้เส้นทางยมโลกกลับใกล้กว่า

“ถูกต้อง เจ้าเพิ่งกลับมาจากโลกปฐมยุคหรือ”

“อืม พวกเจ้าไปเถอะ”

หานหลิงพยักหน้านิดๆ จากนั้นก็เดินผ่านพวกหลงเฮ่าทั้งสองไป

หานเหลียงหันมองตาม ฉงนอยู่ในใจ ป้าสี่เป็นอะไรไป

เหตุใดถึงรู้สึกว่าจิตใจของนางไม่อยู่กับตัวเลย

หลงเฮ่าก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ถามมาก เรื่องส่วนตัวของคนอื่นไม่สะดวกจะซักถาม

ในเวลาเดียวกันนี้

หานหลิงเองก็รู้สึกสงสัยอยู่เช่นกัน

“ประหลาด…ข้าไปที่โลกปฐมยุคด้วยเหตุใดกัน…ไฉนจึงรู้สึกไม่ปกติเลย…”

จิตใจหานหลิงกระสับกระส่าย รู้สึกอยู่ตลอดว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแล้ว แต่พอนึกดูอย่างละเอียดกลับคิดไม่ออกเลย ราวกับฝันไปตื่นหนึ่ง เสียเวลาไปแล้ว

ยิ่งคิดนางก็ยิ่งไม่สบายใจ

ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน!

….

สิบล้านปีต่อมา หานเจวี๋ยอายุครบเจ็ดร้อยล้านปี รางวัลระบบในครั้งนี้ไม่ต่างไปจากครั้งก่อนเลย ดังนั้นเขายังคงเลือกตัวเลือกที่สองอยู่

เขาลืมตาขึ้นมา เรียกหานหลิงที่คอยอยู่นอกอารามเต๋ามานานแล้วให้เข้ามา

หานหลิงเข้าสู่อารามเต๋า ทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม จากนั้นก็เล่าเหตุผลที่ตนมา

ที่แท้นางกำลังสงสัยว่าหลงลืมสิ่งใดไป

อันที่จริงมีตัวตนมากมายที่รู้สึกได้เช่นเดียวกับนาง แต่คนอื่นๆ ไม่มีหนทางคลายข้อสงสัยของตนได้ พอผ่านไปนานเข้าก็ลืมไปเอง

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้ารู้สึกว่าหลงลืมบางสิ่งไป แต่ด้วยตบะของเจ้าผู้ใดเล่าจะสร้างผลกระทบต่อเจ้าได้”

หานหลิงขมวดคิ้ว เอ่ยตอบไปตามสัญชาตญาณ “ผู้สร้างมรรคาหรือเจ้าคะ แต่เหตุใดผู้สร้างมรรคาต้องมาแทรกแซงเรื่องที่ข้าไปยังโลกปฐม…”

เอ่ยยังไม่ทันจบ สีหน้านางก็แข็งค้างไป มองไปทางผู้เป็นบิดาด้วยความตกใจ

หานเจวี๋ยยิ้มน้อยๆ แต่กลับทำให้นางรู้สึกกดดันอย่างไร้ที่สิ้นสุด นางตกใจก้มหน้าลง

ในเวลานี้ ความเป็นไปได้สูงสุดผุดขึ้นมาในหัวนางแล้ว

หรือตนจะล่วงเกินท่านพ่อเข้าแล้ว

นางรู้จักตัวเองดี หากไม่ได้มีความปรารถนาอันลึกล้ำก็ไม่มีทางไปยังสถานที่ซึ่งอยู่ไกลโพ้นออกไป

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “โลกมหามรรคของเจ้าดำเนินไปอย่างไรบ้าง”

หานหลิงดึงสติกลับมา เอ่ยตอบว่า “ยังไม่สามารถก่อกฎเกณฑ์สูงสุดขึ้นมาได้เจ้าค่ะ ไม่ต่างจากโลกขนาดใหญ่ทั่วไปเลย นอกจากขยายตัวขึ้นแล้วก็ไม่ปรากฏทีท่าว่าจะแข็งแกร่งขึ้นเลยจริงๆ”

น้ำเสียงของนางค่อนข้างขมขื่น

ข่าวที่หานฮวงก่อกฎเกณฑ์สูงสุดได้สำเร็จส่งผลกระทบต่อนางอย่างลึกล้ำ

ถึงแม้นางจะสนิทสนมกับหานฮวงดี แต่ในใจกลับไม่เคยรู้สึกว่าตนด้อยไปกว่าพี่รองเลย

มิใช่เพียงนางเท่านั้น ในใจบุตรธิดาคนอื่นๆ ของหานเจวี๋ยก็คิดเช่นนี้ อย่างมากก็เพียงรู้สึกว่าโชควาสนาของตนสู้พี่น้องคนอื่นไม่ได้เท่านั้น มีเพียงหานอวิ๋นจิ่นที่รับรู้ถึงความสามัญของตนดี

หานเจวี๋ยเริ่มเทศนาธรรม ใช้เสียงของตนชักนำหานหลิงเข้าสู่สภาวะอันน่าอัศจรรย์

ทันใดนั้น ราวกับหานหลิงได้เห็นโลกหลากสีสันอันพร่างพราวใบหนึ่ง เส้นแสงนับไม่ถ้วนล้อมพันอยู่รอบตัวนาง

ในความมืดมิด นางรับรู้ได้ถึงพลังมหัศจรรย์ยิ่งนักประการหนึ่ง ความทรงจำนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้าสู่หัวนาง เกิดเสียงดังตูม นางสะดุ้งตื่นขึ้นมา

พอลืมตาขึ้น สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาของนางคือใบหน้าหานเจวี๋ย

“เมื่อครู่นั้นคือ…”

หานหลิงเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง น้ำเสียงประหม่าทั้งยังเจือความคาดหวังด้วย

หานเจวี๋ยขยิบตาให้นาง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่คือความลับระหว่างพวกเราพ่อลูก ห้ามพูดออกไป เข้าใจหรือไม่”

เมื่อครู่หานเจวี๋ยชักนำให้นางรับรู้ถึงกฎเกณฑ์พื้นฐาน มีส่วนช่วยต่อโลกมหามรรคที่นางสร้างขึ้นอย่างยิ่ง หลังจากสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคาแล้วนางยังสามารถก้าวหน้าต่อไปได้อีกขั้น อย่างน้อยผู้สร้างมรรคารายอื่นก็ไม่เคยได้สัมผัสถึงกฎเกณฑ์พื้นฐานเลย แต่หากว่าหานหลิงต้องการสำเร็จเป็นเทพผู้สร้าง ตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้

ด้วยคุณสมบัติแล้วเป็นไปไม่ได้!

ทั่วทั้งยุคสมัยไร้สิ้นสุด นอกจากหานเจวี๋ยแล้ว ตอนนี้ยังไม่ปรากฏผู้มีคุณสมบัติพิสูจน์เทพผู้สร้างขึ้น

เทพมารอนธการก็ทำไม่ได้!

เทพมารอนธการในยุคแรกเริ่มล้มเหลวในการพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาด้วยซ้ำ!

ตู๋กูอู๋ก็ไม่ต่างไปจากเทพมารอนธการมากนัก โลกปฐมยุคในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถให้กำเนิดคุณสมบัติที่เทียบชั้นกับผู้สร้างมรรคาได้

หานหลิงตื่นเต้นนัก รีบคารวะขอบคุณหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างมีนัยลุ่มลึกว่า “ช่วงชิงมหาโชคของผู้อื่นมาเป็นของตน ดูเหมือนเป็นห่วงโซ่แข็งแกร่งกลืนกินอ่อนแอ เป็นกฎเกณฑ์ดั้งเดิม แต่หากหลงเดินในเส้นทางนี้มากเข้าไม่ช้าก็เร็วจะเลอะเลือนไป อีกทั้งวิธีการเช่นนี้มีแต่จะทำให้ศัตรูของเจ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าได้เมินเฉยไม่ไยดีเลย เจ้านวฟ้าบุพกาลก็เคยแข็งแกร่งไร้พ่าย แต่ก็ยังคงดับสูญลงไม่ใช่หรือ”

หานหลิงเงียบไป

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เจ้ากลับไปเถอะ”

หานหลิงสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง ลุกขึ้นยืน ค้อมกายคำนับ

นางเอ่ยอย่างจริงจังว่า “ท่านพ่อ ท่านกล่าวถูกแล้วเจ้าค่ะ แม้แต่พี่น้องก็ยังกลับตัวจากความเลอะเลือนได้ แล้วข้าจะก้าวเดินผิดทางไปได้อย่างไร ข้าจะปลดปล่อยคนเหล่านั้นที่ถูกข้าจับมาหล่อหลอมเป็นทหารจักรพรรดิ ไปขอขมาต่อพวกเขา”

“หากเจ้าทำได้ดี อาจจะได้รับภาระหน้าที่มากขึ้นกว่าเดิม มิใช่เพียงจักรพรรดิแห่งวังจักรพรรดิมหาโชคเท่านั้น”

หานเจวี๋ยหัวเราะเบาๆ กล่าวออกไป หานหลิงพยักหน้ารับ ถึงแม้จะรู้สึกสงสัยว่าเป็นภาระหน้าที่ใด แต่นางรู้ดีว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

หานหลิงจึงจากไปเช่นนี้

หานเจวี๋ยยิ้มออกมา ส่วนหานหลิงจะตื่นรู้ได้จริงหรือไม่ รอดูไปก็พอ

เวลาจะพิสูจน์ทุกสิ่ง

ขอเพียงหานหลิงได้พบเส้นทางที่แท้จริง นางถึงจะรู้ว่าเดินผิดทางไปหรือไม่ หลังจากนางพุ่งชนดึงดันกับตู๋กูอู๋มานานหลายปีแต่ตบะกลับไม่เพิ่มขึ้นเลย คาดว่านางคงจะทราบแล้วว่าเส้นทางนี้ผิดพลาดไป

มองจากปัจจุบันนี้ หานฮวงและหานหลิงล้วนเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว ส่วนหานทั่วและหานชิงเอ๋อร์ก็ไม่ได้ทำให้หานเจวี๋ยกังวลมากนัก ส่วนหานอวิ๋นจิ่น บุตรชายคนเล็กทำให้เขาวางใจได้เสมอมา

หานเจวี๋ยทอดสายตาสอดส่องดูอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคของตน เวลาผ่านมานานขนาดนี้ สมควรจะมีคนค้นพบได้แล้ว

อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคของหานเจวี๋ยเคลื่อนตัวไปยังโลกสามัญใบหนึ่ง

นี่คือความตั้งใจของเขา เขาอยากมอบโอกาสให้สิ่งมีชีวิตสามัญสักครั้ง ไม่ใช่มอบโชคให้แก่ผู้ทรงพลังที่เลิศล้ำอยู่แล้ว

เขาเองก็เริ่มต้นมาจากสิ่งมีชีวิตสามัญ เขาหวังว่าจะสามารถส่งต่อมรดกนี้ไปได้

‘ตกอยู่ในสถานที่แห่งนั้นแล้วรอให้ผู้มีวาสนามาพบแล้วกัน’

หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ เขายกยิ้มมุมปาก เผยสีหน้าคาดหวังตั้งตารอ

เขาเปลี่ยนอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรคให้อยู่ในรูปแบบของระบบ นับเป็นการใช้ประสบการณ์จากความทรงจำของตน

ระบบนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์ เขาจึงไม่กังวลว่าอีกฝ่ายจะทรยศต่อตนได้

….

หนึ่งร้อยปีผ่านไป

หานเจวี๋ยผิดหวังเสียแล้ว

เจ้าของคนแรกของอำนาจระบบจองหองเกินไป ดังนั้นจึงถูกผู้ทรงพลังที่ผ่านทางมาสังหาร ระบบถูกตัดขาด

อำนาจระบบหายสาบสูญไปในสังสารวัฏ ร่วงหล่นสู่โลกสามัญอีกแห่งหนึ่ง

เจ้าของรายที่สองเป็นสตรีนางหนึ่ง แต่ไม่ได้มีความจองหองเหมือนเจ้าของคนก่อน แต่นางถูกคนหลอกลวงด้วยความรัก หลงเดินทางผิดไป กลายเป็นนางมารที่ก่อหายนะ

เวลาผ่านไปหลายพันปี นางพลาดท่าถูกลวงด้วยคำรักอีกครั้ง อำนาจระบบหายสาบสูญไปอีกครั้ง

มองจากสถานการณ์แล้ว หากคิดจะให้อาศัยอำนาจระบบฝ่าฟันโดดเด่นขึ้นมาคงต้องรอไปอีกนานยิ่ง

หานเจวี๋ยตั้งค่าเอาไว้ อำนาจระบบจะเผยพลังออกไปทีละนิดๆ เท่านั้น หากมอบพลังอันแกร่งกล้าให้เจ้าของมันตรงๆ จะทำให้ลุ่มหลงเลอะเลือนไปได้ง่ายยิ่ง

หากแข็งแกร่งเกินไปจะดึงดูดความละโมบของผู้ทรงพลังรายอื่นๆ

หานเจวี๋ยหลับตาลง ฝึกบำเพ็ญต่อ

อีกด้านหนึ่ง

ณ เขาเทพปู้โจวแห่งมรรคาสวรรค์

หานอวี้และหานอวิ๋นจิ่นรวมตัวกันอยู่ในตำหนัก

หานอวิ๋นจิ่นเอ่ยด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม “ข้าไม่สมควรเล่าชีวประวัติของท่านพ่อให้ไอ้เด็กแสบคนนั้นฟังเลย ตอนนี้งามหน้าแล้ว พอเจ้าเด็กคนนี้โดดเด่นขึ้นมาก็กล้าเพ้อฝันอยากกลายเป็นอริยะสวรรค์เกรียงไกรคนที่สอง ไม่รู้จักดูเสียบ้างว่าตนมีคุณสมบัติเช่นไร เทียบกับหานเหลียงพี่ชายของเขาแล้ว เขายังไม่คู่ควรพอไปถือรองเท้าให้ด้วยซ้ำ”

เมื่อเผชิญหน้ากับสหายสนิทที่มีลำดับอาวุโสห่างชั้นกันไกลลิบคนนี้หานอวี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหนอเจ้า อย่าเพิ่งตัดสินอนาคตเขาส่งเดชเลย เช่นนี้มีแต่จะทำให้เขาระแวงยิ่งขึ้น”

………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท