บทที่ 59 ไฝแดงเล็กๆ หลังคอ
เห็นท่าทางอย่างนี้ของประธานลี่แล้ว เขาไม่พอใจกับผู้จัดการแอนใช่ไหม?
รองผู้จัดการก็กระมิดกระเมี้ยน ไม่กล้าพูดมาก “ประธานลี่ ไม่อย่างนั้นให้ฉันไปเรียกผู้จัดการแอน… …?”
รองผู้จัดการคิดว่าหลังจากที่เฉินเสี่ยวหรานจากไป ในฐานะที่ตัวเองเป็นนักเรียนของเฉินเสี่ยวหราน ความจริงเธอควรเป็นผู้จัดการ
ใครจะไปคิดว่าคนที่กระโดดร่มมาจะเป็นแอนนา เป็นแผนทั้งหมดของเธอแน่แท้!
หากประธานลี่ไม่พอใจผู้จัดการแอน ใช้โอกาสนี้ ไม่เพียงกำจัดแอนนา แต่ยังฝากความประทับใจไว้ต่อหน้าประธานลี่ด้วย!
ลี่ถิงเซิ่งใช้สายตาเย็นชาชำเลืองมองผู้หญิงที่ดูเอาอกเอาใจเกินสมควรตรงด้านหน้า คิ้วบางขมวดเล็กน้อย
“แอนนาอยู่ห้องทำงานไหน?”
“อยู่ในห้องทำงานที่ติดกับห้องปฏิบัติการโมเลกุลค่ะ” รองผู้จัดการตอบอย่างสุภาพ
ลี่ถิงเซิ่งพยักหน้าเล็กน้อย และเดินไปตามทิศทางที่รองผู้จัดการชี้
ในขณะที่พนักงานทุกคนในแผนกน้ำหอมอดสงสัยไม่ได้ว่า ลี่ถิงเซิ่งไม่พอใจแอนนาที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งหรือไม่
“เราควรไปดูไหม?” มีคนเสนอ
“อยู่ให้ห่างจากประธานลี่เถอะ หากโดนเขาพบเข้า จะพาให้พวกเราโดนไล่ออกไปด้วย”
ลี่ถิงเซิ่งเหลือบมองพวกเขาเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆหมุนลูกบิดประตู และผลักเข้าไป เพียงวินาทีเดียวประตูก็ปิดลง ไม่เหลือโอกาสให้พวกสอดรู้ได้เห็น
คนขี้เม้าท์ที่อยากดูพลันเงียบลง
ภายในห้อง สวี่รั่วฉิงดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงเปิดปิดประตู
เธอจ้องมองหลอดทดลองในมือตัวเองอย่างตั้งใจ ทางซ้ายมือจะมีเครื่องหอมที่จัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ
เพื่ออำนวยความสะดวกในการปรุงกลิ่นหอม ผมดำเงาม้วนขึ้นเก็บ เผยให้เห็นคอเรียวสวย ไม่ต้องปรุงแต่ง
ลี่ถิงเซิ่งสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พิงประตูอย่างเกียจคร้านและรอให้หญิงสาวที่กำลังทำงานหันมาพบตัวเอง
ใครจะไปคิดว่าผ่านไปสิบนาทีแล้ว หญิงสาวยังไม่รับรู้ถึงการมาของเขา
ลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย กระแอมไอเบาๆ
สวี่รั่วฉิงกระพริบตา มีคนมา?
เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนมองไปรอบๆ สุดท้ายสายตาค่อยทอดลงที่ร่างของลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ มาตอนไหนหรือคะ?” สวี่รั่วฉิงถาม เธอไม่ทันสังเกตเลย
หลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเบา ๆ
เขามาที่นี่เป็นเวลากว่าสิบนาที แต่หญิงสาวไม่ได้ทันสังเกตเลย
สวี่รั่วฉิงวางหลอดทดลองลง เธอมักจะจดจ่ออยู่กับการปรุงกลิ่น แม้กระทั่งลืมกินและนอน
เพียงแค่มีคนเข้ามา เธอยากที่จะสังเกตจริงๆ
“ประธานลี่ คุณมาที่แผนกน้ำหอมทำไมคะ? ฉันจำได้ว่าคุณมาไม่บ่อย ” สวี่รั่วฉิงเดินไปข้างชายหนุ่ม เพราะปรุงกลิ่นหอมอยู่ตลอดเวลา กลิ่นหอมบนร่างกายเลยดึงดูดผู้คน
ลี่ถิงเซิ่งซึ่งปกติมักจะอ่อนไหวต่อกลิ่นหอมแต่ตอนนี้กลับไม่มีความรู้สึกสะอิดสะเอียน ดวงตาที่ล้ำลึกหยุดอยู่ตรงที่ไฝสีแดงเล็กๆ บนคอเรียวของสวี่รั่วฉิง
บางมาก ไม่เข้ม
แต่บนคอของผู้หญิงที่อยู่ในความทรงจำของเขาเมื่อหกปีก่อนก็มีไฝบางๆบนคอ
ลี่ถิงเซิ่งถอนสายตาออก ริมฝีปากบางเปิดออก “ระดับการจัดการลูกน้องของผู้ช่วยแอนเป็นอย่างไรบ้าง?”
น้ำเสียงของชายหนุ่มดูเรียบง่าย แต่มีความเย็นชาเล็กน้อย เพื่อที่จะดูเรื่องตลกของเธอ
สวี่รั่วฉิงไม่ได้มีโทสะ เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ คนข้างนอกรอที่จะได้เห็นเรื่องตลกของฉัน เมื่อกี้ตอนที่ประธานลี่อยู่ข้างนอก เกรงว่าพวกเขาคงเริ่มคิดแล้วว่าคุณจะไล่ฉันออกอย่างไร”
สวี่รั่วฉิงบิดเอวอย่างเกียจคร้าน เธอถอดเสื้อคลุมสีขาวออก เผยให้เห็นหุ่นเพรียวบางภายใต้เสื้อโค้ทตัวหลวม
วันทำงานปกติ สวี่รั่วฉิงจะสวมสูท
ภายใต้ชุดสูทเป็นเสื้อเชิ้ตรัดรูป
เพื่อความสะดวกในการปรุงกลิ่น เธอมักจะถอดสูทและสวมเสื้อคลุมสีขาว
ในเวลานี้ หลังจากถอดชุดคลุมหลวมๆ ออก ร่างกายที่แทบไม่ได้เปิดเผยในวันธรรมดาก็ถูกเปิดเผย
สวี่รั่วฉิงไม่ได้ปกปิด เดินไปข้างๆอย่างใจกว้าง รินชาให้ตัวเอง ราวกับเป็นนายจ้างด้วยซ้ำไป ยกแก้วขึ้นไปทางลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ ดื่มสักแก้วไหมคะ?”
เธอขยิบตาให้ชายหนุ่ม
หลังจากได้รับคำตอบรับของลี่ถิงเซิ่ง เธอรินชาให้ชายหนุ่ม ก่อนจะส่งไป
สวี่รั่วฉิงก้มศีรษะลงจิบ “ประธานลี่ เมื่อกี้คุณไม่ใช่จะกังวลว่าฉันจะลงโทษคนพวกนั้นข้างนอกไม่ได้? แต่กังวลว่าจะมีคนอย่างเฉินเสี่ยวหรานใส่ร้ายฉัน?”
เสียงของสวี่รั่วฉิงนุ่มนวลโดย จงใจหยอกล้อชายหนุ่ม
เสียงไพเราะราวระฆังดังกังวานมาเข้าหูของลี่ถิงเซิ่ง
“ประธานลี่ฉันแปลกใจจริงๆที่คุณห่วงใยฉันมากขนาดนี้” สวี่รั่วฉิงวางถ้วยน้ำชาลง ดวงตาโปร่งแสงมองเบาๆ เปล่งประกายแพร่ขยาย
ลี่ถิงเซิ่งคุ้นเคยกับผู้หญิงที่สวยปานนางฟ้ามานานแล้ว เขาก้มลงไปจิบชาของสวี่รั่วฉิงในอ้อมอก
คิ้วขมวดแน่นขึ้นมาทันที
ชาอะไรเนี่ย รสแย่มาก!
สวี่รั่วฉิงหัวเราะ “ฮี่ๆ” ขึ้นมาทันใด
เมื่อเห็นลี่ถิงเซิ่งขมวดคิ้ว ก็เดาได้ทันทีว่ารสชามันแย่
“มันไม่ใช่ชาที่ดีอะไร ชาขู่ติงธรรมดา ไว้ระงับไข้” สวี่รั่วฉิงอธิบาย
ใบหน้าหล่อเหลาของลี่ถิงเซิ่งเริ่มมืดมนเล็กน้อย
ถ้วยเซรามิกถูกวางไว้ข้างเขา ดวงตาที่ลึกล้ำจับจ้องไปที่หญิงสาวข้างๆ
ขอเพียงแต่เขาต้องการ ดึงเบาๆ ก็สามารถบังคับจับคางของเธอ จูบอย่างรุนแรงลงบนปากที่เปล่งวาจาเย่อหยิ่ง
“คิดได้ดี” ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเย็น “ผมจะไปห่วงอะไรคุณ? จัดการลูกน้องของตัวเองไม่ดีเฉินเสี่ยวหรานคนที่สองปรากฏออกมา ก็ไม่มีคนช่วยคุณได้”
สวี่รั่วฉิงกลอกตาของเธอและพูดว่า “เถอะน่าประธานลี่ ตอนนี้คุณยังต้องการให้ฉันนอนเป็นเพื่อนช่วงพักกลางวันนะ ไม่มีฉัน นอนกลางวันจะมีปัญหาไหม?”
ในช่วงเวลาที่สวี่รั่วฉิงได้อยู่ข้างกายลี่ถิงเซิ่ง ในที่สุดเธอก็สรุปได้ว่าลี่ถิงเซิ่ง มีอาการนอนไม่หลับ
สาเหตุของการนอนไม่หลับยังไม่ชัดเจน
แต่เมื่อตอนเธออยู่ข้างลี่ถิงเซิ่ง อารมณ์ของช่วงพักกลางวันของเขาผ่อนคลายลงมาก
มันแปลกจริงๆ สวี่รั่วฉิงมองไปที่ลี่ถิงเซิ่ง พลางคิดเงียบๆ
ชายหนุ่มตรงหน้าสามารถพัฒนาและขยับขยายลี่ซื่อกรุ๊ปจากยุครุ่งเรืองจนกลายเป็นกรุ๊ปที่ไม่มีใครเทียบได้ในหลินชวน เพียงแค่หกปี นอกจากพรสวรรค์ของเขาแล้ว เขายังมีความโหดเหี้ยมและกลยุทธ์อีกด้วย
เธอรู้ดีว่าลี่ถิงเซิ่งไม่ได้มาที่แผนกน้ำหอม เพราะตัวเอง
ริมฝีปากสีแดงของสวี่รั่วฉิงเผยรอยยิ้มสดใส
ไม่มีใครไม่ชอบผู้หญิงสวย แม้แต่ลี่ถิงเซิ่งก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ประธานลี่ มาที่แผนกน้ำหอม จริงๆแล้วเพื่อช่วยฉันสร้างความน่าเชื่อถือใช่ไหม” สวี่รั่วฉิงยิ้ม เผชิญหน้ากับดวงตาที่ลึกล้ำของชายหนุ่มอย่างกล้าหาญ
“ไม่ใช่ทั้งหมด หลังจากเฉินเสี่ยวหรานออกไป จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโดดร่มเข้ามาในแผนกน้ำหอม มันยากที่จะโน้มน้าวผู้คน คุณเข้ามาคนเดียว พวกเขาก็จินตนาการไปเอง ให้ผมเป็นคนรักของคุณ คราวหลังจะให้หน้าผมสักหน่อย อย่างน้องก็ไม่ใช่การตบเข้าที่หน้าผม ”
ริมฝีปากบางของลี่ถิงเซิ่งเม้มแน่น
ผู้หญิงตรงหน้า จูบนั่นบริสุทธิ์จนน่ากลัว เหมือนกระดาษขาวหนึ่งแผ่น
แม้จะแลกเปลี่ยนลมหายใจก็ไม่ได้
เว้นแต่กระทั่งทักษะการจูบของเธอก็สามารถแสดงได้
แต่ความฉลาดของเธอ หกปีมาแล้ว เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้ว่าจะเป็นสวี่รั่วยีที่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาด้วยมือของคุณนายสวี่ เมื่อเทียบกับผู้หญิงตรงหน้า เกรงว่าจะเป็นเพียงจุดจบที่ถูกวางแผนเอาไว้แล้ว
ลี่ถิงเซิ่งเลิกคิ้วเล็กน้อย เขายิ่งสนใจแอนนามากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งเป็นผู้หญิงที่ดูท้าทาย เขายิ่งชอบ
ยิ่งต้องการฉีกภายนอกที่เธอปลอมแปลงขึ้นมาออก ให้เธอเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาต่อหน้าเขา