ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – บทที่ 1187 สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1187 สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

มหาจักรพรรดิเฉินนี่ตกอยู่ในความหวาดกลัว ร่างสิ้นจิตมลาย เหลือเพียงเสี้ยวเจตจำนงที่เข้าสู่สังสารวัฏแห่งโลกปฐมยุค ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นในจุดนี้เลย มีเพียงหานเจวี๋ยที่ทราบ

เวลาผ่านไปนับสมัยไม่ถ้วน เหล่าผู้ทรงพลังถึงเพิ่งสังเกตเห็นความผิดปกติ นั่นก็คือมหาจักรพรรดิเฉินนี่ผู้โอหังหายตัวไปหลังจากพ่ายแพ้ต่อหานฮวง!

หานเจวี๋ยไม่ได้ปิดด่านในทันที แต่ไปเยี่ยมเหล่าคู่บำเพ็ญของตนก่อน จากนั้นก็เดินเล่นอยู่ในอาณาเขตเต๋า

อาณาเขตเต๋าทั้งสามแห่งเชื่อมต่อกัน กลายเป็นโลกกว้างไพศาลแห่งหนึ่ง ผ่านการสั่งสมตามกาลเวลามาสองหมื่นล้านปี ภายในอาณาเขตเต๋ามีศิษย์ที่มานะบำเพ็ญอยู่มากมาย กระจายตัวอยู่ทั่วทุกแห่ง ทว่าอยู่กันอย่างสงบนัก

หานเจวี๋ยเดินเล่นอยู่ภายในอาณาเขตเต๋าราวกับออกท่องเขาลำเนาไพร ไม่ได้อวดอ้างวางท่าเป็นพิเศษ

ศิษย์บางส่วนที่เดินสวนผ่านเขาไปล้วนมองเขาไม่ออก ถึงอย่างไรศิษย์ที่สามารถอยู่ในสำนักซ่อนเร้นได้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นระดับผู้ทรงพลังแล้วทั้งสิ้นจะไม่เคยพบกันหรือมองตื้นลึกหนาบางไม่ออกก็เป็นเรื่องปกติยิ่ง

ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าเทพผู้สร้างที่อยู่ในจุดสูงสุดจะมาเดินลอยชายอยู่ในอาณาเขตเต๋าอย่างเปิดเผย

หานเจวี๋ยอารมณ์ดี เดินไปพลางสำรวจดูตบะของศิษย์ในสำนักซ่อนเร้นไปพลาง

ศิษย์ภายในอาณาเขตเต๋าส่วนใหญ่ล้วนเป็นอริยะเบิกฟ้า แทบจะไม่เห็นผู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าอริยะลงไปเลย แต่มีอริยะมหามรรคน้อยยิ่ง ถึงอย่างไรอริยะมหามรรคก็เป็นขีดจำกัดที่สรรพสิ่งส่วนมากจะบรรลุถึงได้

เดินวนไปรอบหนึ่ง หานเจวี๋ยถึงได้เดินเอ้อระเหยกลับมายังอารามเต๋าของตน

การตื่นครั้งนี้ของเขามีเพียงคนส่วนน้อยที่ทราบเรื่อง สำหรับยุคสมัยไร้สิ้นสุดเทพผู้สร้างยังคงเป็นตำนานเล่าขานอันเลื่อนลอย

เมื่อหานเจวี๋ยหลับตาลง กระแสกาลเวลาก็เริ่มหมุนไปอย่างรวดเร็ว ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ ไม่ย้อนหวน

….

ณ ดินแดนเวิ้งว้าง ภายในห้วงอวกาศขาวโพลนปรากฏอัสนีสีม่วงและสีแดงขึ้นมานับไม่ถ้วน แลบแปลบปลาบสลับกันในห้วงอวกาศ ก่อนค่อยๆ ก่อตัวเป็นคุกอัสนีไร้ขอบเขต

ในจุดที่มีสายฟ้ารวมตัวกันหนาแน่นที่สุด สายฟ้านับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นเป็นไข่สายฟ้าใหญ่มโหฬารใบหนึ่ง เส้นแสงนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาจากทิศทางต่างๆ ทำให้ไข่สายฟ้าใบนี้ส่องสว่างพร่างพราว เจิดจ้าแยงตา

วันเวลาผันผ่านไป

ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเพียงใด ไข่สายฟ้าขยายใหญ่ขึ้นจนใหญ่โตยิ่งกว่าโลกมหามรรคมากนัก

เงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เป็นเจ้านวฟ้าบุพกาล

ยามที่สายฟ้ากำลังจะสัมผัสโดนร่างเขา ก็พลันอ้อมผ่านไป ทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย

“กลิ่นอายนี้…”

เจ้านวฟ้าบุพกาลพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นสะท้านเล็กน้อย

ในเวลานี้เอง เงาร่างมากมายทยอยปรากฏตัวขึ้นข้างกายเขา ได้แก่มหาเทวาพ้นนิวรณ์ มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล หานฮวง หวงจุนเทียน สื่อหยวนหงเหมิง บรรพชนเต๋า ลี่เหยา หานหลิง ผานกู่ บรรพชนเทพปฐมกาล เทวีตราวินัย ตู๋กูอู๋ เทพมารชีวิต

ล้วนเป็นผู้สร้างมรรคาทั้งสิ้น!

“นั่นคือสิ่งใด” เทวีตราวินัยขมวดคิ้วเอ่ยถาม

เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ “สิ่งนี้ทำให้ข้านึกถึงสมัยที่ผานกู่ถือกำเนิดขึ้นมาในกาลก่อน”

สายตาของเหล่าผู้สร้างมรรคาล้วนมองไปที่ผานกู่ ผานกู่เรือนร่างกำยำ กายเนื้ออันสมบูรณ์แบบนั้นราวกับเป็นตัวแทนแห่งพลัง เขาปล่อยผมยาวสยายดูสุขุมกว่าในอดีต

ผานกู่ไม่ได้เอ่ยตอบ

เจ้านวฟ้าบุพกาลก็เอ่ยขึ้นว่า “ไม่เลว เหมือนผานกู่จริงๆ อีกทั้งเหมือนตัวข้าด้วยเช่นกัน นี่แปลว่ายุคอนาคตที่แท้จริงกำลังจะมาถึงแล้ว สิ่งที่อยู่ด้านในจะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ทุกอย่าง ถึงขั้นที่เปลี่ยนแปลงพื้นฐานดินแดนเวิ้งว้างไปด้วย แต่ก็นับว่าเป็นหายนะใหญ่สำหรับทุกตัวตนในยุคสมัยไร้สิ้นสุดรวมถึงพวกเราด้วยเช่นกัน

“นี่คือชะตาลิขิตของดินแดนเวิ้งว้าง อาจจะเป็นกระบวนการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านนานไประยะหนึ่ง”

วาจาของเขาทำให้เหล่าผู้สร้างมรรคาไม่สบายใจขึ้นมา

จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์เอ่ยเสียงขรึม “เช่นนั้นพวกเราคงไม่อาจนั่งรอความตายได้ ทำลายเขาเสียเถอะ!”

เหล่าผู้สร้างมรรคาหลายคนล้วนเห็นด้วย แต่ก็มีผู้สร้างมรรคาบางส่วนที่ต้องการรอสังเกตการณ์

เทพมารชีวิตเอ่ยว่า “อยากทำลายเขาไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เจตจำนงของข้าไม่อาจทำความเข้าใจเขาได้ ถึงขั้นที่ได้รับผลสะท้อนกลับด้วย”

สื่อหยวนหงเหมิงพลันซัดฝ่ามือออกไปในทันใด สายฟ้านับไม่ถ้วนถูกสะเทือนกระจายตัวออกไป ปราณม่วงอนธการกลายเป็นลำแสงน่าพรั่นพรึงพุ่งเข้ากระทบไข่สายฟ้า ทว่าเกิดเรื่องที่ทำให้เหล่าผู้สร้างมรรคาปรากฏสีหน้าตกตะลึง ไข่สายฟ้าดูดซับพลังเวทของสื่อหยวนหงเหมิงเข้าไปทันที

ผู้สร้างมรรคาคนอื่นๆ พากันลงมือ แต่พวกเขาพบว่าไม่ว่าจะลงมืออย่างไรก็ไม่สามารถทำลายไข่สายฟ้าใบนี้ได้เลย ถึงขั้นที่ถูกดูดซับพลังเวทไปด้วย

ด้วยการโจมตีของพวกเขาทำให้กลิ่นอายของไข่สายฟ้ายกระดับขึ้นอีกมหาศาล

เหล่าผู้สร้างมรรคาเงียบงัน ในใจพวกเขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

เช่นนี้จะทำอย่างไรดี

“คงต้องไปหาเทพผู้สร้างเท่านั้น” บรรพชนเต๋าเอ่ยขึ้นมา

เหล่าผู้สร้างมรรคามองไปที่ลี่เหยา ในที่นี้มีเพียงลี่เหยาที่ใกล้ชิดกับเทพผู้สร้างที่สุด

ลี่เหยากล่าวว่า “ตอนนี้เขาอยู่ระหว่างปิดด่านยาวนานหมื่นล้านปี คาดว่าคงต้องรอไปอีกหลายร้อยล้านปี หากว่าไข่สายฟ้าใบนี้กลายเป็นภัยคุกคามเขาได้จริงๆ ไม่มีทางที่เขาจะไม่สังเกตเห็น ถึงอย่างไรแม้แต่พวกเราก็ยังค้นพบ นับประสาอะไรกับเทพผู้สร้างเล่า”

บรรพชนเต๋าคิดว่ามีเหตุผลจึงพยักหน้ารับนิดๆ

มหาเทวาพ้นนิวรณ์เอ่ยว่า “ข้าจะผนึกห้วงมิตินี้เอาไว้ พวกเรามาเฝ้ารอเทพผู้สร้างออกจากปิดด่านอย่างสงบเถอะ”

เหล่าผู้สร้างมรรคาพยักหน้ารับ จากนั้นต่างแยกย้ายกันไป

เจ้านวฟ้าบุพกาลกลับไปยังใต้พฤกษาใหญ่เทียมโลกา นั่งขัดสมาธิลงเบื้องหน้ากระดานหมาก ตกอยู่ในภวังค์ความคิด

เงาร่างหนึ่งร่อนลงมาจากฟ้า มาหยุดอยู่ข้างกายเขา เป็นเจตจำนงของเจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาล

เจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาลเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น”

เจ้านวฟ้าบุพกาลกล่าวว่า “มีพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ปรากฏขึ้น ก่อนหน้านี้มหาจักรพรรดิเฉินนี่ก็ทำให้ยุคสมัยไร้สิ้นสุดวุ่นวายไปหมด หลังจากเขาหายตัวไปอย่างลึกลับก็ปรากฏวิกฤตที่อันตรายยิ่งกว่าขึ้นมา ข้าสงสัยว่าสิ่งที่อยู่ในไข่ใบนี้จะเป็นชายผมขาวที่เคยปรากฏตัวในฝันข้าก่อนหน้านี้”

เจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาลเอ่ยไปว่า “แจ้งเรื่องนี้ให้เทพผู้สร้างไปตรวจสอบเถอะ”

“ข้าถ่ายทอดเสียงไปยังอาณาเขตเต๋าแห่งเทพผู้สร้างแล้ว เทพผู้สร้างไม่ได้ตอบกลับมา อาจจะตระหนักรู้อยู่กระมัง”

“จุ๊ๆ ตัวเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนั้นแต่ยังคงจมจ่อมอยู่ในสภาวะฝึกบำเพ็ญอีก”

“สามารถยืนหยัดเพียรบำเพ็ญอย่างแน่วแน่ได้ แปลว่าคุณสมบัติของเขาเหนือล้ำกว่าที่พวกเราจินตนาการไว้ มีเพียงการก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่องเท่านั้นจึงจะทำให้ยืนหยัดต่อไปได้”

เจ้านวฟ้าบุพกาลเอ่ยเสียงเรียบ เจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาลพยักหน้ารับ

ใต้พฤกษาตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง

เจ้าเอกทัศฟ้าบุพกาลไม่รบกวนเขาอีก หันหลังมุดหายเข้าไปในกลุ่มใบไม้ เข้าสู่โลกมหามรรคที่ลอยอยู่ด้านบน

….

ภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม

หานเจวี๋ยที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว เขาก็อายุครบสามหมื่นล้านปีแล้ว

เขาปิดด่านครบหมื่นล้านปีอีกครั้ง แต่เขาไม่ได้รู้สึกว่าระยะเวลายาวนานเลย ถึงขั้นที่รู้สึกว่าสั้นกว่าช่วงเวลาในตอนที่ออกไปท่องเที่ยวในโลกแห่งหนึ่งด้วยซ้ำ

ในช่วงหมื่นล้านปีมานี้ ความเข้าใจในกฎเกณฑ์พื้นฐานของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถึงขั้นที่เจตจำนงของเขาแทรกซึมเข้าสู่ชั้นลึกที่สุดของดินแดนเวิ้งว้างได้

ห้วงมิติชั้นลึกที่สุดในดินแดนเวิ้งว้างซุกซ่อนกำแพงกีดขวางอันลึกลับไว้ ล่องหนไร้สีสัน ทว่ามีตัวตนอยู่จริง แม้แต่พลังของเทพผู้สร้างก็ยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้

เขาเริ่มสนใจในการถือกำเนิดของดินแดนเวิ้งว้างขึ้นมา

ดินแดนเวิ้งว้างมีตัวตนอยู่มาแต่ดั้งเดิมแล้ว หรือว่าวิวัฒนาการผันแปรมาจากสิ่งใด

อาจจะเป็นสุญตากระมัง เดิมทีก็เป็นรากฐานของทุกสิ่งอยู่แล้ว

หานเจวี๋ยบิดตัวเล็กน้อย ไม่คิดมากอีก

เขาทอดสายตาไปยังส่วนลึกของดินแดนเวิ้งว้าง ไข่สายฟ้าใบนั้นมีขนาดมโหฬารอย่างยิ่ง

สายตาของเขาแตกต่างไปจากผู้สร้างมรรคา สามารถมองทะลุเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในไข่สายฟ้าได้

เป็นตัวอ่อนใหญ่ยักษ์ร่างหนึ่ง คล้ายคนเหมือนปีศาจ มีกฎเกณฑ์พื้นฐานล้อมพันอยู่รอบกาย

คุณสมบัติของตัวอ่อนนี้เลิศล้ำอย่างยิ่ง เหนือชั้นกว่าเทพมารอนธการ แต่ยังสู้เทพมารปฐมยุคไม่ได้ นอกจากหานเจวี๋ยแล้ว เกรงว่าคงเป็นเขาที่มีคุณสมบัติเลิศล้ำที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ แต่ตบะยังคงอ่อนด้อยอยู่มาก

เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ดินแดนเวิ้งว้างให้กำเนิดคุณสมบัติที่เลิศล้ำยิ่งขึ้นเรื่อยๆ!

แต่น่าเสียดาย เมื่อเทียบกับหานเจวี๋ยแล้ว ไข่ใบนี้ยังคงอ่อนแอเกินไป

………………………………………………………………

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

Status: Ongoing
ชาติก่อนอายุสั้น ไม่ทันได้ใช้ชีวิต ชาตินี้จึงขอพากเพียรบำเพ็ญเซียน ลาภยศสตรีมีหรือจะสู้การเป็นอมตะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท