บทที่ 77 น้ำเสียงของเขาสาก ๆ คันยิก ๆ อยู่ในใจเธอ
พอคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ยินคำพูดของลี่ถิงเซิ่งแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง
เมื่อไหร่หลานชายของเธอจะเข้าใจอะไรซะบ้างนะ?
ถ้าหากว่าไม่ชอบยัยเด็กสวี่รั่วยีนั่น ความสุขของทั้งชีวิตก็ต้องมอบไว้ที่ตัวเธอแล้วนะ!
คนของตระกูลลี่ หรือว่าจะไม่มีสิทธิ์เลือกคนที่ตัวเองอยากจะแต่งงานด้วยเลยเหรอ?
ขอแค่ลี่ถิงเซิ่งมีผู้หญิงที่เขาอยากจะแต่งงานด้วยให้ได้เท่านั้น คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็กล้าไม่สนใจความคิดเห็นของใครและจะทำให้คนทั้งหมดหุบปากลงด้วย
“ผมไม่มีอารมณ์สนใจผู้หญิง”คำพูดประโยคนี้ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่เองก็ไม่รู้ว่าฟังมากี่รอบแล้ว
พอคิดมาถึงตรงนี้ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็หน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมา
“ย่าเองก็อยากจะแนะนำเธอเข้าไปในลี่ซื่อกรุ๊ปนะ แต่น่าเสียดาย เด็กสาวเขาได้มีบริษัทอื่นว่าจ้างไปแล้ว! แกไม่มีโอกาสแล้ว!”
ริมฝีปากของลี่ถิงเซิ่งกระตุกขึ้นเล็กน้อย
ที่คุณย่าพูดนี่มันเป็นคำพูดอะไร เขาไม่มีโอกาสแล้วงั้นเหรอ?
อย่างกับว่านักปรุงน้ำหอมคนนั้น เขาจำเป็นจะต้องได้มาให้ได้ยังไงอย่างงั้น
เห็นได้ชัดว่าลี่ถิงเซิ่งไม่ได้เอาคำพูดของคุณนายใหญ่ตระกูลลี่มาใส่ใจเลยสักนิด
ถ้าหากว่าคุณย่าได้ลองดมน้ำหอมของแอนนาแล้วละก็ คาดว่าก็คงจะเป็นเหมือนอย่างกับตัวเอง ที่โดนทำให้ยอมแพ้อย่างแท้จริง ลี่ถิงเซิ่งหรี่ตาลง แล้วกำโทรศัพท์ไว้เบา ๆ แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ อีกครั้ง “คุณย่าให้ความสำคัญต่อเธอขนาดนี้ หรือไม่ลองบอกชื่อเธอมาให้ผมรู้ดีไหมครับ? ถ้าวันไหนที่เธอมาสมัครงานแล้ว ผมก็จะช่วยคุณย่ารั้งเธอเอาไว้ให้”
“ย่าเองก็ไม่ได้ถามชื่อเธอ เพราะเวลากระชั้นชิด แล้วย่าก็ไปที่บ้านแม่แกมาด้วยรอบหนึ่ง ตอนที่กลับมานั้น เด็กสาวเขาก็ได้จากไปแล้ว……”
ลี่ถิงเซิ่ง “……”
เขารู้สึกว่าหมดแรงอย่างลึกซึ้งแล้ว
ผู้ชายที่สามารถเรียกลมสั่งฝนได้ และไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ในโลกธุรกิจ กลับไม่เคยมีความรู้หมดเรี่ยวแรงที่เยอะขนาดนี้มาก่อน
ถ้าจะพูดให้ชัดแล้วละก็ นอกจากสวี่รั่วฉิงแล้ว คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ก็คือผู้หญิงคนที่สองที่เขาพบว่าไม่มีทางทำให้เขารู้สึกโกรธได้เลย
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่เป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด
แต่สวี่รั่วฉิงถึงแม้ว่าจะทำให้เขาโกรธบ้าง แต่ว่าเก็บไว้ข้างกายตัวเองก็รู้สึกมีความหมายดี
ลี่ถิงเซิ่งพยายามเก็บซ่อนใบหน้าอย่างอ่อนแรง เอามือก่ายหน้าผากแล้วพูด “ได้ แล้วผมจะหาเวลาให้คนลองไปตรวจสอบดูสักหน่อย”
พอคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ยิน ก็ดีใจขึ้นมาเลย น้ำเสียงก็ฟังดูดีใจขึ้นมาไม่น้อย “เธอปรุงน้ำหอมที่รักษาอาการนอนไม่หลับให้ย่า ย่าแค่ลองฉีดไปเล็กน้อย ระหว่างทางที่กลับมาก็นอนหลับไปหนึ่งตื่นแล้ว ถ้าหากว่าสามารถตามหาเจอละก็ ให้เธอช่วยแกปรุงด้วยสักขวด ไม่แน่อาจจะแก้ไขอาการนอนไม่หลับของแกให้ดีขึ้นได้ก็ได้”
“เหรอครับ?” น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งเรียบเฉย
สามารถช่วยอาการนอนไม่หลับของคุณย่าได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าคงจะไม่มีใครสามารถปรุงน้ำหอมที่เหมาะสมกับเขาได้เท่ากับที่ผู้หญิงอย่างแอนนาปรุงอีกแล้ว
ลี่ถิงเซิ่งลืมตาขึ้นมา แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมา แล้วก้มลงหน้าจิบวิสกี้ที่เย็นชื่นใจคำหนึ่ง
แล้วดับกระหายลำคอที่แห้งผากเล็กน้อย
“นั่นคงไม่ต้องแล้ว ผมพอใจกับนักปรุงน้ำหอมที่ตัวเองใช้อยู่ตอนนี้มากแล้วครับ”
“ใช่แอนนาหรือเปล่า?” คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ถามขึ้น
ลี่ถิงเซิ่งตอบ“อืม”ไปเบา ๆ คำหนึ่ง “น้ำหอมที่เธอปรุงออกมาสามารถผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับของผมได้ครับ”
พอคุณนายใหญ่ตระกูลลี่ได้ฟัง ในใจก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ที่เธอเห็นด้วยกับเรื่องแต่งงานของสวี่รั่วยีและลี่ถิงเซิ่งนั้น ก็เป็นเพราะว่าน้ำหอมของสวี่รั่วยีมีผลดีมากในผ่อนคลายอาการนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่ง
ใครจะมารับประกันได้ว่าแอนนาจะไม่ใช่สวี่รั่วยีคนที่สองล่ะ?
ถึงแม้ว่าจากคำพูดของคุณนายลี่แล้วคุณนายใหญ่ตระกูลลี่จะแสดงท่าทีว่ารอดูไปก่อน แต่ว่าถ้าแอนนาเป็นสวี่รั่วยีคนที่สอง เธอก็จะต้องช่วยหลานของตัวเองดู ๆ ไว้หน่อย
แต่ฟังจากน้ำเสียงของลี่ถิ่งเซิ่งแล้ว เหมือนกับว่าชื่นชมในตัวแอนนาเป็นอย่างมาก
คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ข้ามหัวข้อสนทนานี้ไปอย่างเรียบง่าย “หาเวลาว่าง ๆ มาให้ย่าเจอกับแอนนาคนนี้หน่อยซิ พอดีเลยย่าก็อยากจะให้เธอช่วยย่าปรุงน้ำหอมสักขวดหนึ่ง”
ลี่ถิงเซิ่งยิ้มเล็กน้อย “ในส่วนนี้คุณย่าวางใจได้ ผมได้ให้เธอช่วยคุณย่าปรุงน้ำหอมไว้แล้ว”
พอคุณนายใหญ่ตระกูลลี่เห็นว่าเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่อยากจะเร่งอะไรมาก จึงได้แต่พูดคุยเรื่องอื่นกับลี่ถิงเซิ่งไปสักพัก แล้วค่อยวางสายไป
ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ แล้วยกแก้วขึ้นดื่มวิสกี้ที่อยู่ในแก้วจนหมดไปแล้ว ถึงได้ค่อยพิงกลับไปที่โซฟาอีกครั้ง แล้วก็เอานิ้วมือเคาะแป้นพิมพ์ขึ้นมาเบา ๆ
ผ่านไปสิบกว่านาที เขาถึงเพิ่งนึกอะไรออก แล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วส่งข้อความเสียงข้อความหนึ่งไปให้สวี่รั่วฉิงอย่างพบเห็นได้น้อย
สวี่รั่วฉิงเพิ่งถึงบ้าน
เธอเพิ่งจะเตะรองเท้าส้นสูงออกไป แล้วมาถึงห้องครัว แล้วกำลังเตรียมจะใช้ไมโครเวฟอุ่นพิซซ่าซะหน่อย
มือถือก็สั่นขึ้นมาทีหนึ่ง สวี่รั่วฉิงเองก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วก็ลวดเราโทรศัพท์วางลงไปบนโต๊ะ ยืนเท้าเปล่าอุ่นพิซซ่าเสร็จ แล้วก็คั้นน้ำแอปเปิลได้แก้วหนึ่ง
ครุ่นคิดเล็กน้อย วันนี้กลับมาดึก ไม่มีเวลาให้ได้เปิดใจพูดคุยกับลูกทั้งสองเลย ก็เลยคั้นน้ำผลไม้เพิ่มอีกสองแก้ว แล้วยกไปส่งให้ในห้อง
“แม่ไปกินข้าวก่อนนะ ถ้าง่วงแล้วก็เข้านอนก่อนได้เลย”
สวี่รั่วฉิงลูบแก้มเล็ก ๆ ของลูกสาวตัวเองเล็กน้อย จากนั้นก็ประทับรอยจูบไว้อันหนึ่ง
“คุณแม่ครับ ผมก็จะเอา” น้ำเสียงของสวี่อี้ฝานพูดขึ้นราวกับเครื่องจักรกล
หลังจากที่ทำตามความพอใจของเด็กทั้งสองคนแล้ว สวี่รั่วฉิงก็กลับมาถึงห้องครัว แล้วก็กินอาหารเย็นไปอย่างลวก ๆ พออาบน้ำเสร็จ ทำตามขั้นตอนการบำรุงผิวเหมือนอย่างปกติเสร็จแล้ว ก็กลับมาถึงห้องของตัวเอง แล้วพิงลงบนหัวเตียง และเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมา
วันนี้ที่ทำการแลกเปลี่ยนเครื่องหอมกับหญิงชราท่านนั้นมา เพราะว่าคุณภาพที่ดีมาก จึงทำให้สวี่รั่วฉิงจำเป็นจะต้องคิดวิเคราะห์แผนการปรุงน้ำหอมขึ้นใหม่
เธอลบข้อมูลวัตถุดิบในไฟล์คอมพิวเตอร์ไปเยอะมาก แล้วก็เพิ่มวัตถุดิบใหม่เข้ามาบางส่วน เพื่อเอามาเสริมให้ไขชะมดและม่อเย่าเด่นขึ้น
ผมยังไม่ทันได้แห้ง เพราะว่าสวี่รั่วฉิงไม่มีเวลามาเปล่า
พอหยดน้ำหยดลงบนแป้นพิมพ์
สวี่รั่วฉิงถึงนึกออกว่าผมยังไม่แห้ง
เธอมักจะนอนหลับไปทั้งที่ผมไม่แห้ง จึงทำให้วันที่สองมักจะปวดหัว
สวี่รั่วฉิงรีบเอาโน๊ตบุ๊ควางไว้อีกข้างหนึ่ง แล้วหาไดร์เป่าผมออกมา แล้วเป่าผมไปด้วยและเปิดโทรศัพท์ขึ้นมา
จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ เธอถึงเพิ่งจะเห็นข้อความWeChatที่ลี่ถิงเซิ่งส่งมาข้อความนั้น
และยังเป็นข้อความเสียงด้วย? นี่มันหาได้ยากจริง ๆ
จะต้องรู้ไว้นะ จะให้ลี่ถิงเซิ่งพูดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คนคนนี้คำพูดทุกคำของเขาราวกับทองคำ ถ้าสามารถพิมพ์ตัวหนังสือได้จะไม่มีทางส่งข้อความเสียงแน่
สวี่รั่วฉิงวางไดร์เป่าผมลง แล้วกดเปิดข้อความเสียง
น้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งแหบแห้งเล็กน้อย
“วันนี้คุณไปไหนมาบ้าง?”
สวี่รั่วฉิงโดนน้ำเสียงของลี่ถิงเซิ่งทำให้รู้สึกว่าแปลก ๆ
เธอเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยของเขา ปกติแล้วก็รับผิดชอบแค่ตัดตารางงานเท่านั้น
ผู้ช่วยส่วนตัวและเลขานั้นเป็นงานของหลี่อานต่างหาก แล้วลี่ถิงเซิ่งมาถามแบบนี้ ทำอย่างกับเหมือนว่าเธอจะมีความสัมพันธ์คลุมเครืออะไรกับเขา
นิ้วมือของสวี่รั่วฉิงเคาะอยู่บนหน้าจอเบา ๆ “ไปตลาดเครื่องหอมมารอบหนึ่ง เครื่องหอมในคลังของบริษัทขาดเครื่องหอมบางอย่าง”
หลังจากที่ตอบเสร็จแล้ว สวี่รั่วฉิงเองก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาใส่ใจอีก แล้ววางโทรศัพท์ไว้อีกข้างหนึ่ง และเริ่มต้นเปล่าผมขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ว่าพอผ่านไปหนึ่งนาทีกว่าแล้ว โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง
สวี่รั่วฉิงคิดอยู่ในใจ ลี่ถิงเซิ่งนี่ก็ว่างมากจริง ๆ เลยนะ ออกไปดูงานยังมีเวลามาส่งข้อความWeChatให้เธออีก
แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ส่งข้อความWeChatมาแล้ว กลับเป็นโทรศัพท์โดยตรงเลย
จึงทำให้สวี่รั่วฉิงตกใจจนทำไดร์เป่าผมตกลงไปบนพื้นเลย
“ประธานลี่ คุณมาตามตรวจงานเหรอ?” สวี่รั่วฉิงรีบรับโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็ก้มตัวลงไปเก็บไดร์เป่าผมขึ้นมาวางไว้บนเตียง
ตามนิสัยของลี่ถิงเซิ่งแล้ว จะต้องไม่สนใจคำถามนี้ของเธออย่างแน่นอน
แต่ใครจะไปคิด ลี่ถิงเซิ่งกลับตอบเสียงขรึมต่ำมาว่า “อืม”
น้ำเสียงของเขาสาก ๆ เล็กน้อย ราวกับขนนกบางเบาที่มาแหย่ให้ใจของสวี่รั่วฉิงคันยิก ๆ
หัวสมองของสวี่รั่วฉิงว่างเปล่าไปหมด
ถึงแม้ว่าเมื่อหกปีก่อนเธอกับลี่ถิงเซิ่งจะเคยมีความสัมพันธ์ทางกายมาก่อนแล้ว แต่ว่าหกปีที่ไม่ได้อยู่ที่เมืองหลินชวนนี้ นอกจากเธอจะเอาแต่ดูแลสวี่อี้ฝานและสวี่อี้หานแล้ว ก็ทุ่มเทใจให้กับการปรุงน้ำหอมหมดเลย
การสัมผัสกับผู้ชายนั้นแทบจะไม่มีเลย
หัวใจของสวี่รั่วฉิงเต้นขึ้นเบา ๆ ในห้องนั้นเงียบสงบมาก เธอสามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง