บทที่ 73 ในตลาดเครื่องหอมบังเอิญเจอเข้ากับหญิงชรา
พอสวี่รั่วฉิงอ่านเนื้อหาในกระดาษโน้ตเสร็จ ในใจก็พอมีความคิดบ้างแล้ว
การปรุงน้ำหอมสิ่งที่กลัวที่สุดก็คือกลัวทำผิดความชอบของลูกค้า แต่พอมีกระดาษโน้ตแผ่นนี้ที่ลี่ถิงเซิ่งทิ้งไว้ให้เธอแล้ว สำหรับความชอบของหญิงชราท่านนี้สวี่รั่วฉิงก็พอจะมีความเข้าใจอยู่ในใจบ้างแล้ว
หลังจากที่ครุ่นคิดไปครู่หนึ่งแล้ว ในหัวสมองก็มีแผนการสำหรับน้ำหอมขึ้นมาเป็นกอง
“หัวหน้าแอน” พนักงานที่รับผิดชอบดูแลรักษาเครื่องหอมเห็นสวี่รั่วฉิง ก็โค้งคำนับให้อย่างมีมารยาททีหนึ่ง
สวี่รั่วฉิงใช้ความสามารถทำให้คนในแผนกน้ำหอมทั้งหมดต่างก็นับถือเธอจากใจจริง
สวี่รั่วฉิงพยักหน้าให้พนักงานเล็กน้อย “เปลือกส้ม ไขชะมดเช็ด หรูเซียง ม่อเย่า ซ่อนกลิ่น และกว่างฮัวเซียงยังมีอีกไหม?”
หลังจากที่พนักงานลองตรวจดูแล้ว ก็มีสีหน้าลำบากใจ “หัวหน้าแอน ไขชะมดแล้วก็ม่อเย่าหมดแล้ว ก่อนหน้านั้นนักปรุงน้ำหอมคนอื่นนักปรุงน้ำหอมคนอื่น ๆ ได้เอาม่อเย่าและไขชะมดที่เก็บไว้จำนวนสุดท้ายไปหมดแล้ว ตอนนี้เครื่องหอมชุดใหม่ยังไม่ส่งมาเลย……”
หลังจากที่สวี่รั่วฉิงครุ่นคิดไปไม่กี่นาทีแล้ว ก็ถามขึ้นว่า “ตลาดขายเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินชวนอยู่ที่ไหนเหรอ?”
หลังจากที่มาถึงเมืองหลินชวนแล้ว เครื่องหอมที่เธอเก็บรักษาไว้ต่างก็พึ่งสั่งซื้อมาจากเมืองนอกแล้วก็ขนส่งเข้ามา และยังไม่เคยได้เดินตลาดเครื่องหอมในท้องถิ่นที่นี่เลย
พนักงานมีความประหลาดเล็กน้อย
หรือว่าตั้งแต่ที่หัวหน้าแอนมาถึงที่หลิงชวนแล้ว ยังไม่เคยไปเดินตลาดเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลินชวนเลยเหรอ?
พนักงานได้จดที่อยู่ของตลาดเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลินชวนไว้บนกระดาษ แล้วยื่นให้กับสวี่รั่วฉิง “หัวหน้าแอน ตลาดเครื่องหอมค่อนข้างไกลหน่อย เกือบจะถึงชานเมืองแล้ว ถ้าหากว่าคุณต้องการด่วนแล้วละก็ ฉันจะลองติดต่อพนักงานขายดู ลองดูซิว่าจะสามารถส่งมาได้หรือเปล่า”
สวี่รั่วฉิ่งส่ายหัวเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เปิดปากพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันจะลองไปดูเอง ต้องลำบากคุณแล้ว ไปทำงานอย่างสบายใจเถอะ”
เครื่องหอมที่ผ่านมือนักปรุงน้ำหอมเองกับมือถึงจะทำให้คนอุ่นใจที่สุด
แล้วก็พอดีกับที่ลี่ถิงเซิ่งไปดูงานที่อื่น เธอเองก็ไม่มีงานอะไรมาก
ในเมื่อผู้ว่าจ้างปรุงน้ำหอมคือลี่ถิงเซิ่ง เธอไปเลือกกับมือที่ตลาดเครื่องหอมถึงจะเหมาะมากกว่า แล้วก็ไม่ถือว่าละเมิดสัญญาหรอกนะ?
ปกติแล้วสวี่รั่วฉิงมีความกระตือรือร้นสูงอยู่แล้ว
ถ้าตัดสินใจแล้วเมื่อไหร่ ก็จะรีบไปทำทันที
เธอส่งข้อความให้ลี่ถิงเซิ่งข้อความหนึ่ง หลังจากที่รายงานที่ที่ตัวเองจะไปแล้ว ก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ตลาดเครื่องหอมเลย
ตลาดเครื่องหอมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลินชวนห่างใจกลางธุรกิจการเงินเยอะมาก สวี่รั่วฉิงขับรถอยู่บนทางด่วนไปสี่ชั่วโมง ในที่สุดถึงได้มาถึงเป้าหมายได้
หลังจากที่จอดรถแล้ว สวี่รั่วฉิงก็หยิบกระเป๋าหนังสีดำขึ้นมา แล้วก็เดินเข้าไปในตึกสูงสิบชั้นของตลาดเครื่องหอม
คนน้อยจังเลย……สวี่รั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ตอนที่เธออยู่ต่างประเทศนั้น ก็ได้ไปเดินตลาดเครื่องหอมอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่มีตลาดเครื่องหอมที่ไหนที่เหมือนที่นี่ ที่คนน้อยได้จนน่ากลัว
สวี่รั่วฉิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แล้วก็เริ่มดูไปทีละร้านทีละร้าน
“คุณผู้หญิง นี่คือวิกตอเรียไวโอเล็ตที่ดีที่สุดครับ” น้ำเสียงของพ่อค้าคนหนึ่ง ลอยเข้ามาในหูของสวี่รั่วฉิง
แล้วสวี่รั่วฉิงก็หันไปมองทางนั้นอย่างอัตโนมัติ
หญิงชราคนหนึ่งที่แต่งตัวได้อย่างสง่างามมาก บนดั้งจมูกมีแว่นกรอบทองอันหนึ่งวางอยู่ กำลังวิเคราะห์เครื่องหอมบนชั้นสินค้าอยู่
ที่ข้างกายของเธอมีชายวัยสี่สิบกว่าคนหนึ่งยืนอยู่ ใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัว รอรับใช้อยู่ข้าง ๆ อย่างนอบน้อม
“นี่คือวิกตอเรียไวโอเล็ตที่ดีที่สุดเหรอ?” หญิงชราวางเครื่องหอมที่อยู่ในมือลง แล้วมองไปที่คนขายที่อยู่อีกข้างหนึ่งอย่างเป็นมิตร
คนขายพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็ยิ้มขึ้นมา “แน่นอนอยู่แล้ว ทั้งเมืองหลินชวนไม่มีใครมีวิกตอเรียไวโอเล็ตที่ดีกว่าของเราที่นี่แล้ว คุณผู้หญิงก็เป็นคนรักเครื่องหอมใช่ไหม? ตอนนี้น้ำมันไวโอเล็ตสกัดต่างก็พึ่งการสังเคราะห์มาจากทางเคมีเท่านั้น คนที่มาเลือกเครื่องหอมเองจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้สูงมากแน่ ๆ”
หญิงชราที่เป็นมิตรยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้เอ่ยเสียงพูดอะไร
สวี่รั่วฉิงค่อย ๆ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ครุ่นคิดไปหนึ่งนาที แล้วสวี่รั่วฉิงก็พูดขัดการสนทนาระหว่างหญิงชราคนนั้นและคนขายขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษนะคะ ต้องรบกวนทั้งสองท่านสักครู่นะคะ” ในน้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงแฝงได้ด้วยความอ่อนหวานอย่างหนึ่งที่หญิงสาวชาวเจียงหนานมีเฉพาะเท่านั้น หลังจากที่เธอคลี่รอยยิ้มที่อ่อนหวานชวนคนมองให้หญิงชราทีหนึ่งแล้ว ก็เม้มปากขึ้นทีหนึ่ง แล้วก็หันสายตาไปอีกทาง มองไปที่คนขาย
“นี่ไม่ใช่วิกตอเรียไวโอเล็ตแต่คือปามาไวโอเล็ต คุณผู้ชาย คุณไม่ควรจะเอาปามาไวโอเล็ตมาหลอกขายให้คนแก่ท่านนี้นะ”
มือเรียวของสวี่รั่วฉิงหยิบปามาไวโอเล็ตบนชั้นวางสิ้นขึ้นมา หลังจากที่แยกแยะอย่างละเอียดแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจในวิจารณญาณของตัวเอง
วิกตอเรียไวโอเล็ต ปามาไวโอเล็ต
ปามาไวโอเล็ตนั้นปลูกง่าย เพราะฉะนั้นก็มีคนเอาปามาไวโอเล็ตมาใช้แทนวิกตอเรียไวโอเล็ตได้
คนขายที่โดนสวี่รั่วฉิงจับได้ว่าหลอกลวงคนนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่านี่ไม่ใช่วิกตอเรียไวโอเล็ต?” คนขายยังพูดเถียงคนเป็นเอ็น
เขาทำธุรกิจในตลาดเครื่องหอมมาเป็นเวลาสิบกว่าปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีคนดูออกว่าเขาใช้ของปลอมมาขายแทนของจริง
ในดวงตาที่สว่างไสวของสวี่รั่วฉิงเต็มไปด้วยเรียบเฉย
เธอพูดกับหญิงชราที่อยู่อีกข้างหนึ่งขึ้นอย่างไม่รีบร้อนว่า “คุณย่า วิกตอเรียไวโอเล็ตกับปามาไวโอเล็ตนั้นแยกแยะง่ายมาก กลีบดอกของพวกมันมีรูปทรงที่แตกต่างกันเล็กน้อย คุณดูนะคะ มุมโค้งของกลีบดอกปามาไวโอเล็ตไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นใช่ไหมคะ? มุมโค้งของวิกตอเรียไวโอเล็ตไม่เพียงใหญ่กว่าปามาไวโอเล็ตเท่านั้น กลิ่นหอมก็ยังห่างไกลกันมากค่ะ”
สวี่รั่วฉิงพูดไปแล้ว ก็ล้วงขวดแก้วเล็ก ๆ ขวดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง
“นี่คืออะไร?” หญิงชราถามขึ้นเสียงเบา
สวี่รั่วฉิงยิ้มแล้วพูดขึ้น “นี่คือน้ำมันหอมที่หนูสกัดมาจากวิกตอเรียไวโอเล็ตเองกับมือ เพราะว่าน้ำมันหอมของไวโอเล็ตค่อนข้างได้ใช้บ่อย เพราะฉะนั้นหนูก็เลยมักจะพกติดตัวอยู่ตลอดค่ะ”
สวี่รั่วฉิงพูดจบ แล้วก็เปิดฝาขวดออกเบา ๆ แล้วก็ยื่นให้กับหญิงชราที่อยู่ข้างกาย “คุณสามารถลองดมดูได้ กลิ่นจะหอมกระจายมากกว่าปามาไวโอเล็ตอยู่เล็กน้อย”
หญิงชรารับขวดแก้วมา แล้วก้มหน้าลงลองดมดูเบา ๆ ทีหนึ่ง
แล้วก็หอมฉุนกว่าและห่างไกลกับกลิ่นเครื่องหอมเมื่อกี้เยอะมากเลยจริง ๆ ด้วย
แล้วหญิงชราก็ยิ้มขึ้นมา และเอาขวดแก้วคืนให้กับสวี่รั่วฉิง “ขอบใจหนูมาก แม่สาวน้อย ถ้าไม่มีหนูนี่ ฉันก็คงจะซื้อได้ของปลอมแล้ว”
หญิงชราพูดเสร็จแล้ว ก็มองไปที่ผู้ชายที่อยู่ข้างตัวเองทีหนึ่ง
และอย่างรวดเร็วผู้ชายก็ไปถึงที่ข้างกายคนขาย แล้วก็ก้มไปกระซิบอะไรที่ข้างหูเขาไปไม่กี่ประโยค
แล้วสีหน้าของคนขายก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้มากกว่าตอนที่โดนสวี่รั่วฉิงเปิดโปงเมื่อกี้ซะอีก
เป็นไปได้ยังไง? แววตาที่คนขายมองมาที่หญิงชราตรงหน้ามีความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน
ตอนแรกเขานึกว่าหญิงชราท่านนี้เป็นแค่คนรวยธรรมดาทั่วไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณนายใหญ่ตระกูลลี่แห่งลี่ซื่อกรุ๊ปบุคคลที่มีหน้ามีตาอย่างแท้จริงของเมืองหลินชวน
มุมปากของคนขายสั่นระริก และสีหน้าขาวซีด
มุมปากของเขาสั่นอยู่ กำลังจะเอ่ยขอให้คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ให้อภัย แต่กลับได้ยินน้ำเสียงที่เย็นเฉียบของเลขาคนนั้นที่อยู่ข้าง ๆ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่พูดขึ้นว่า “อย่าพูดออกมา ถ้าหากเปิดเผยฐานะของคุณผู้หญิงออกไป อย่าว่าแต่เมืองหลินชวนเลย ถึงจะเป็นทั่วโลก คุณก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าจะได้กลับไปขายเครื่องหอมอีก”
คนขายสีหน้าขาวซีดแล้วก้มหัวลง
ถ้าหากว่าเป็นตระกูลลี่จริงๆ คำพูดที่ผู้ชายคนนั้นพูดมาเมื่อกี้ ไม่มีคำไหนปลอมแน่ ๆ
พวกเขาจะต้องพูดได้ก็ทำได้จริง ๆ แน่
เลขาเตือนคนขายเสร็จแล้ว ก็กลับมาอยู่ข้างกายหญิงชราและสวี่รั่วฉิง
หัวคิ้วของสวี่รั่วฉิงขมวดขึ้นเล็กน้อย และไม่รู้ว่าตกลงหญิงชราที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร ทำไมผู้ชายที่ติดตามอยู่ข้างกายของเธอไปพูดคำพูดไม่กี่คำกับคนขายแล้ว สีหน้าของคนขายคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นขาวซีดไปเลย
ตกลงหญิงชราท่านนี้คือใครกันนะ