หยดน้ำที่มีอุณหภูมิร่างกายของลี่ถิงเซิ่ง หยดลงบนใบหน้าของสวี่รั่วฉิงหยดแล้วหยดเล่า
เธอเงยหน้าขึ้น มองชายหนุ่มที่มีความโกรธอยู่ในแววตา ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ทำไมดูเหมือนเธอเป็นคนที่มาเล่นกับความรู้สึกคนอื่น นอนกับเขาแล้วก็จะทิ้ง?
ดวงตาที่สดใสของสวี่รั่วฉิงกะพริบ “ประธานลี่ คุณต้องการให้ฉันรับผิดชอบหรอ?”
ไม่เกี่ยวหรือเปล่า……
เมื่อคืนเขาเป็นคนเริ่มแท้ๆ ทำไมรู้สึกเหมือนเธอเอาเปรียบโดยนอนกับเขาล่ะ?
ทั้งสองแข็งทื่อ บรรยากาศตึงเครียด
กริ่งหน้าประตูดังขึ้นอย่างผิดเวลา
สวี่รั่วฉิงชี้ไปที่ประตูแล้วพูด “ประธานลี่ คงจะเป็นอาหารเช้า”
ดวงตาสีดำของลี่ถิงเซิ่งมองอย่างดุดันไปที่สวี่รั่วฉิงที่ไม่รู้สึกรู้สา
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็กลับมาที่ห้องนอนอีกครั้ง ในน้ำเสียงมีความไม่พอใจ “ออกมากินข้าว”
สวี่รั่วฉิง“อื้ม”
อาหารมื้อเช้ากินอย่างไร้เสียง
ในตอนที่ลี่ถิงเซิ่งกินข้าว ไม่พูดไม่คุย ทำให้สวี่รั่วฉิงไม่กล้าเอ่ยปากแม้มีเรื่องจะพูด
อาหารเช้าที่ตึกซ่ายเซิ่งเตรียมไว้ให้ลี่ถิงเซิ่งนั้นได้เรียกใช้พ่อครัวฝีมือดี สวี่รั่วฉิงชิมไปหนึ่งคำ ดวงตาก็เป็นประกาย
กระทั่งเชฟชื่อดังจากยุโรปยังเชิญมาได้ น่านับถือจริงๆ
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ สวี่รั่วฉิงก็หยิบกระดาษทิชชู เช็ดมุมปาก พูดหารือกับลี่ถิงเซิ่ง “ประธานลี่ วันนี้ฉันลาหยุดได้ไหม?”
ลี่ถิงเซิ่งหยิบแก้วขึ้นมา จิบกาแฟหนึ่งอึก จากนั้นก็วางไว้ด้านข้าง
“ได้”
หญิงสาวที่ได้รับคำอนุญาต เตรียมที่จะลุกขึ้น ก็ได้ยินเสียงนิงๆของชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามเธอพูดขึ้น “หักค่าจ้างสามวัน”
สวี่รั่วฉิง“……”
หลังจากหายใจเข้าลึกสามครั้งแล้ว สวี่รั่วฉิงก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อย คิ้วเรียวยาวเลิกขึ้น “ได้ ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่ฉันนอนกับประธานลี่เมื่อคืนนี้”
“จริงด้วย ยังมีอีกเรื่องนึงลืมบอกประธานลี่” สวี่รั่วฉิงนึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้ง มองไปที่ชายหนุ่มที่สีหน้าจมดิ่ง กลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็จิกผิวหนังพูด “พวกเราแยกกันไปรับรถ เลี่ยงไม่ให้ถูกสื่อถ่ายรูปได้ เมื่อกี้หลี่อานแจ้งมาว่า ชั้นล่างมีนักข่าวไม่น้อยกำลังซุ่มมอง”
ลี่ถิงเซิ่งโค้งริมฝีปากขึ้นอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ตอนนี้กลัวแล้ว?”
สวี่รั่วฉิงยิ้มเล็กน้อย “บนโลกใบนี้ เรื่องที่ทำให้ฉันกลัวได้มีไม่มาก ผู้สื่อข่าวฉันเจอมาเยอะแล้ว มีอะไรน่ากลัว?”
ขณะที่สวี่รั่วฉิงพูด ก็ลุกขึ้นกลับไปที่ห้อง ในตอนที่เธอออกมาอีกครั้ง ก็อยู่ในชุดสูทที่มีความสามารถทั้งตัว สวมแว่นตากันแดด
สีแดงบนริมฝีปาก ทำให้หัวใจคนคันยิบยิบ
เธอเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้
ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อคืนเดินตามรอยเธอ ลี่ถิงเซิ่งวางแก้วกาแฟลง ลุกขึ้นหยิบสูทที่วางอยู่ด้านข้าง สวมลงบนตัว เนคไทสีเข้มถูกผูกอย่างรวดเร็วด้วยนิ้วมือเรียวยาวของเขา
“ในเมื่อไม่กลัว งั้นก็ลงไปด้วยกัน”
……
หน้าประตูตึกซ่ายเซิ่น เต็มไปด้วยนักข่าวจากทุกช่องทาง
พวกเขากระทั่งตรวจสอบอย่างชัดเจนว่ารถของลี่ถิงเซิ่งและสวี่รั่วฉิงเมื่อวานยังอยู่ในโรงรถ
นี่แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ยังไม่ได้ออกจากซ่ายเซิ่น
สวี่รั่วฉิงมองกล้องและไมโครโฟนที่มืดมัวอย่างเป็นเรื่องปกติ เอ่ยปากพูดด้วยเสียงเย็นชา “นักข่าวสื่อมวลชนมีอะไรอยากจะถามไหม? ฉันจะตอบคำถามพวกคุณเพียงแค่สามข้อ”
“แล้วประธานลี่ตอบคำถามของพวกเราไม่ได้หรอ?”
บนใบหน้าของสวี่รั่วฉิงยังคงไม่มีอารมณ์ใดๆ เธอมองนักข่าวที่เอ่ยถามไปเมื่อกี้ ยิ้มอย่างเย็นเยือก
เธอพูด “งั้นพวกคุณจะลองถามคำถามประธานลี่ก็ได้ ถ้าพวกคุณสามารถได้รับคำตอบที่พวกคุณต้องการจากประธานลี่ ก็ถือว่าพวกคุณชนะ”
เหล่านักข่าวนิ่งเงียบ
ในฐานะนักข่าว ใครบ้างไม่รู้ว่าตราบใดที่ลี่ถิงเซิ่งไม่อยากตอบคำถาม ต่อให้พระเจ้ามาถาม เขาก็ไม่ตอบอยู่ดี
สวี่รั่วฉิงพูดขึ้นอีก “ฉันแนะนำให้พวกคุณเลือกข้อเสนอของฉัน จากทางฉัน พวกคุณจะได้รับคำตอบสามข้อ แต่ทางด้านประธานลี่ พวกคุณรู้ดีกว่าฉัน”
สวี่รั่วฉิงพูดจบ สายตาก็มองไปที่นักข่าวที่อยู่ล่างบันได
เธอใช้สายตามองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายตน ใบหน้าอันหล่อเหลา เย็นชาราวกับหน้ากาก
แม้แต่สวี่รั่วฉิงที่ยืนอยู่ข้างเขายังรู้สึกหนาวสั่น
เมื่อเทียบกับลี่ถิงเซิ่งแล้ว ความเย็นชาที่เธอแสร้งแสดงออกมานั้น มันช่างเปราะบางมาก
“งั้นเชิญคุณแอนบอกพวกเราที เมื่อคืนคุณกับประธานลี่ทำอะไรอยู่ในห้องพักรับรอง?”
คำถามแรก ก็ดุเดือดมากแล้ว
นักข่าวทุกคนกลั้นหายใจ
ชายหญิงอยู่ในห้องสองต่อสอง จะทำอะไรได้?
คำตอบปรากฏออกมาแล้ว
แต่พวกเขาต้องการให้คนที่ทำเรื่องนี้ตอบคำถามนี้กับปากตัวเอง
มีเพียงการตอบจากปาก ถึงจะเป็นข้อพิสูจน์ที่เป็นจริงที่สุด
สวี่รั่วฉิงพูดนิ่งๆ “ในห้องพักผ่อนก็ต้องพักผ่อนเป็นธรรมดา คำถามต่อไป”
นักข่าวนิ่งเงียบทันที
คำถามนี้เท่ากับไม่ได้ตอบเลยนะ?
พักผ่อนมีความหมายได้หลายแบบ แต่ใครจะไปรู้ว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาพักผ่อนกันยังไง?
“งั้นคุณแอน! เมื่อคืนนี้พวกคุณพักผ่อนกันแบบไหน?” นักข่าวถามขึ้นอีก
ดวงตาของสวี่รั่วฉิงหรี่ลง มองนักข่าวที่โลภเหล่านั้น
ริมฝีปากสีแดงโค้งขึ้นเล็กน้อย เปิดปิดเบาๆ พ่นคำตอบที่ทำให้ทุกคนในที่นั้นกระอักเลือด
“พักผ่อนตามปกติ”
ลี่ถิงเซิ่งได้ยินคำตอบของหญิงสาว ดวงตาสีเข้มก็หยุดลงบนตัวเธอหนึ่งวินาทีโดยไม่ส่งเสียง
ไหวพริบดี พูดเก่งกว่าประชาสัมพันธ์บริษัทหลายคน
“แล้วทำไมต้องพักผ่อนที่ซ่ายเซิ่งล่ะ? ควรจะกลับบ้านตัวเองไม่ใช่หรอ? หรือว่าเป็นเพราะบางอย่างพาไป อย่างเช่นเมื่อมีอารมณ์…..”
“ฉันตอบเพียงแค่สามคำถาม” ในน้ำเสียงของสวี่รั่วฉิงไม่มีความล้อเล่นอยู่ เสียงผู้หญิงที่เย็นชาชัดเจน ทำให้คนไม่น้อยรู้สึกว่าอากาศเย็นขึ้นแล้ว
เธอมองไปที่นักข่าวคนนั้น พูดด้วยความเสียดาย “ตึกซ่ายเซิ่งเป็นของลี่ซื่อกรุ๊ป ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของบริษัท ประธานลี่อยากจะอยู่ที่ไหน ผู้สื่อข่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะแทรกแซง”
หลังตอบคำถามจบ สวี่รั่วฉิงก็มองไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคาร “คำถามสามข้อได้ตอบไปเสร็จสิ้นแล้ว ให้นักข่าวไปเถอะ ถ้ายังถ่วงเวลาอยู่ จะถูกส่งไปที่ศาลเพราะบุกรุกความเป็นส่วนตัวมากเกินไป”
เสียงกร่นด่าของนักข่าวดังแซ่ซ้องขึ้นมา
“นี่ถือว่าตอบคำถามซะที่ไหนล่ะ? ไม่ได้ตอบอะไรเลยนี่นา!”
“แต่นายดูแอนนานั่นสิ มีผ้าพันคอพันอยู่รอบคอ 80%ว่าเมื่อคืนนี้…..”
“นายมีหลักฐานไหม? ไม่ได้ยินที่เธอพูดหรอ ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป จะถูกส่งขึ้นศาลทันที!”
“ถ้าเป็นคนของประธานลี่จริง งั้นพวกเราก็ไปทำให้ขุ่นเคืองไม่ได้”
“แค่ส่งรูปเธอสองสามรูปเฉยๆก็พอ รูปของเธอเมื่อคืนนี้ได้รับการตอบรับไม่เลว หนุ่มหล่อสาวสวยทุกคนต่างก็ชอบ แค่ส่งรูปสองสามใบก็พอแล้ว!”
สวี่รั่วฉิงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงพูดคุยเหล่านั้น หันหน้าไปหาชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆแล้วพูด “ประธานลี่ งั้นฉันไปเอารถที่โรงรถก่อนนะ”
แม้ว่านักข่าวจะอยากติดตามสวี่รั่วฉิงแต่ก็ไร้ซึ่งหนทาง
เมื่อรถสปอร์ตสีแดงปรากกขึ้นท่ามกลางสายตาของนักข่าว นักข่าวและช่างภาพหลายคนก็หยิบอุปกรณ์ออกมาเริ่มถ่ายรูปอย่างเร่งรีบ
รถสปอร์ตสีแดงจับคู่กับสาวงามเย็นชา?
อย่าว่าแต่หลินชวน ทั่วประเทศก็ไม่เคยเห็นแบบนี้!